• • ยังชิน มาแล้วจ้า !!! • •

[ตุ๋ย 22]

ดีครับพี่ศุภชัย

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ yc เมื่อ 13 พฤษภาคม 2552, 08:11:09
	ไปพบบทความวิจารณ์ นิทานการเงิน ครับ จึงขอนำมาลงไว้ครับ นับ 1 ด้วย "นิทานการเงิน" คอลัมน์ เรื่องเล่าเริงรื่นทั้งหมื่นแสน โดย ครรลอง โลกาภิรมย์ ทุกครั้งที่ชีวิตเคลื่อนสู่ภาวะสับสน ยามตื่นถอนหายใจ เพราะคิดทางออกที่ราบรื่นไม่ได้ ยามหลับมีฝันร้ายทำการปรับสภาพจิต ทุก ครั้งที่เป็นอย่างนั้น ทางออกมีทางเดียวคือ ย้อนรำลึกถึงวันเริ่มต้น ย้อนคิดให้ได้ว่าในเรื่องราวที่วุ่นวายมีจุดเริ่มที่ตรงไหน หา 1 ให้เจอ แล้วค่อยๆ นึกว่า 2 มา 3 ไป 4 สู่ 5 6 7 8 9 กระทั่งชุลมุน ชุลเก เรื่องราวดำเนินไปอย่างไร เราใส่ความคิด ความอยากอะไรเข้าไปบ้าง และถึงนาทีที่ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร ที่เหลืออยู่ในเรื่องราวปะปะอยู่ด้วยความคิดแบบไหนของเรา ความสำเร็จในใจเป็นแบบไหน ตรงไปตรงมา หรือซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้ ถ้า ลองหาทางออกแบบนี้ อาจจะพบว่าที่สับสน ไม่ใช่เพราะใครอื่น แต่เป็นเพราะตัวเอง ในเรื่องเดียวมีความอยากเข้าไปปะปนหลายอย่าง บางอย่างกับบางอย่างสวนทางกันชัดเจน ได้อย่างต้องเสียอย่าง แต่กลับอยากให้ได้ทุกอย่าง ทั้งที่ทุกอย่างเป็นปรารถนาของตัวเองทั้งนั้น ที่ สับสนไม่ใช่อะไรอื่น แค่ยอมรับความจริงไม่ได้ว่า ได้อย่างต้องเสียอย่าง ไม่มีทางได้ทั้งหมด เพราะบางอย่างมา อีกบางอย่างก็ต้องหายไป เมื่อค่อยเริ่มคิด และเห็นความจริง การยอมรับว่าต้องสูญเสียบางอย่าง จะทำให้ความสับสนอย่างน้อยลดลง จิตใจกลับสู่ความเป็นปกติ แต่ หากคิดแค่มาไกลแล้ว ถอยกลับไปนับหนึ่งใหม่ไม่ได้ ลงทุนไปมากแล้ว ต้องได้ทุกอย่าง โรคซึมเศร้าเพราะความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว อาจจะคุกคาม ป่วยเรื้อรังเมื่อไร จะกลายเป็นอยู่ยากในโลกนี้ โลกที่แวดล้อมด้วยความอยากของตัวเอง มีหนังสือเล่มหนึ่ง สำนักพิมพ์มติชนเพิ่งวางแผงหมาดๆ "นิทานการเงิน" โลก ที่สับสนเพราะผู้คนแข่งกันหาเงิน เพราะความคิดผนึกแน่นกับความเชื่อว่า การมีเงินมากเท่าไร คือความสำเร็จของการเกิดมาเป็นชีวิตมากเท่านั้น มหาเศรษฐีคือผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชนะโลก ชนะชีวิต เป็นต้นแบบของผู้ฝ่าฟันอุปสรรคขึ้นสู่บัลลังก์ของความสำเร็จ ขณะที่ผู้ยากไร้ ถูกหมิ่นหยามว่าเป็นผู้ล้มเหลว ไม่สมควรที่ใครจะเอาเยี่ยงอย่าง การแข่ง แย่งกันหาเงินมาสะสม ก่อความสับสน วุ่นวาย ก่อความชั่วร้ายสารพัดให้เกิดขึ้นกับสังคมมนุษย์ "นิทานการเงิน" ซึ่งเป็นสมมุติเรื่องราวของสังคมสัตว์ ซึ่งคิดเงินขึ้นมาใช้เพื่อเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยน จะนำผู้อ่านไปสู่การนับหนึ่งใหม่ ในคุณค่าของเงิน ไป รู้จักความหมายที่แท้ของเงิน และค่อยๆ เติมให้คิดถึงคุณค่าที่แปลกปลอม กระทั่งผู้ที่ใช้กลายเป็นทาสของเงิน ความสัมพันธ์อันดีในสังคมที่เคยมีมา ถูกทำลายป่นปี้ เพราะไปหลงกับคุณค่าของเงิน เห็นความจริงของคน เห็นความปรารถนาที่ส่วนบาง บางอย่างกับอีกบางอย่าง ได้อย่าง ไม่ยอมเสียอย่างที่ก่อให้เกิดทุกข์ บาง ทีท่ามกลางสิ่งที่ใครต่อใครเรียกว่า "วิกฤตเศรษฐกิจ" อาจจะไม่มีผลสะเทือนอะไรกับจิตใจ เมื่อแค่คิดได้ว่า ชีวิตอยู่โดยไม่เกี่ยวกับคุณค่าแปลกปลอมของเงินสักเท่าไร

อ่าน "นิทานการเงิน" ของพี่ยังชินจบแล้ว เลยมาขอวิจารณ์ต่อค่ะ....

นิทานเรื่องนี้ อ่านสนุก เข้าใจง่าย แต่เขียนยาก
คนเขียนต้องรู้รอบแตกฉาน คิดเยอะ และคิดลึกซึ้ง

ขอชื่นชมพี่ยังชิน ในความสามารถที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
พาคนอ่านที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเงินอย่างแจง "นับหนึ่ง" จากที่มาของเงินในอดีต...อย่างที่คุณครรลองวิจารณ์ไว้
มาจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ "เงินเป็นนาย" ได้
ด้วยรูปแบบนิทานผู้ใหญ่ สนุกสนานเรียบง่าย แต่แฝงปรัชญาลึกซึ้ง

ขอบคุณที่เขียนหนังสือดีๆ มีคุณภาพให้พวกเราอ่าน
แฟนคลับรออ่านเล่มต่อไปอยู่นะคะ อย่าหยุดเขียน

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ toomy เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 18:33:03
	และแล้ว... วันงานโบว์ลิ่งการกุศล ก้อมาถึง นิทานการเงิน ของ ท่านวายซี  "ยังชิน แก้วชัยเจริญกิจ" ได้มาอวดโฉม ร่วมสมทบทุนการกุศลในครั้งนี้... ขอให้ส่งผล พิมพ์ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 .... นะนะ น้องแจง แว่บ.. มาีที่งานแป๊บนึง ต้องกลับไปประจำบู้ท Money EXpo ได้เจอกะ "พี่ตุ่มมี่" และ "ท่านวายซี" ได้นิทานการเงินกลับไป 2 เล่ม เล่มหนึ่งสำหรับ "จิ้งจก24"

ขอบพระคุณพี่ตุ่ม ที่กรุณาถ่ายรูปให้ค่ะ
เห็นลูกสาวสามใบเถาของพี่ตุ่มแล้วอึ้งงงงง !!!
โตเป็นสาวกันหมดแล้ว คุณแม่ยังสวยเช้งงงง !!!

[phraisohn]

บอกตามตรงครับว่า เพิ่งเคยได้ยินและได้เห็นชื่อหนังสือ
นิทานการเงินก็วันไปโยนโบลิ่งนี่แหล่ะคับ
จะต้องอ่านให้ได้เลยครับ

[suriya2513]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 16 พฤษภาคม 2552, 11:04:05
	อ่าน "นิทานการเงิน" ของพี่ยังชินจบแล้ว เลยมาขอวิจารณ์ต่อค่ะ.... นิทานเรื่องนี้ อ่านสนุก เข้าใจง่าย แต่เขียนยาก คนเขียนต้องรู้รอบแตกฉาน คิดเยอะ และคิดลึกซึ้ง ขอชื่นชมพี่ยังชิน ในความสามารถที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พาคนอ่านที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเงินอย่างแจง "นับหนึ่ง" จากที่มาของเงินในอดีต...อย่างที่คุณครรลองวิจารณ์ไว้ มาจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ "เงินเป็นนาย" ได้ ด้วยรูปแบบนิทานผู้ใหญ่ สนุกสนานเรียบง่าย แต่แฝงปรัชญาลึกซึ้ง ขอบคุณที่เขียนหนังสือดีๆ มีคุณภาพให้พวกเราอ่าน แฟนคลับรออ่านเล่มต่อไปอยู่นะคะ อย่าหยุดเขียน

ถ่อมตัวอีกแล้วครับ
คนไม่มีพื้นฐานทางการเงินจะเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้ธนาคารได้ไง

stn2513

[ตุ๋ย 22]

ช่างถ่อมตัวเสียจริงๆ  พี่ป๋องเนี่ย

[yc]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 16 พฤษภาคม 2552, 11:04:05
	อ่าน "นิทานการเงิน" ของพี่ยังชินจบแล้ว เลยมาขอวิจารณ์ต่อค่ะ.... นิทานเรื่องนี้ อ่านสนุก เข้าใจง่าย แต่เขียนยาก คนเขียนต้องรู้รอบแตกฉาน คิดเยอะ และคิดลึกซึ้ง ขอชื่นชมพี่ยังชิน ในความสามารถที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พาคนอ่านที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเงินอย่างแจง "นับหนึ่ง" จากที่มาของเงินในอดีต...อย่างที่คุณครรลองวิจารณ์ไว้ มาจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ "เงินเป็นนาย" ได้ ด้วยรูปแบบนิทานผู้ใหญ่ สนุกสนานเรียบง่าย แต่แฝงปรัชญาลึกซึ้ง ขอบคุณที่เขียนหนังสือดีๆ มีคุณภาพให้พวกเราอ่าน แฟนคลับรออ่านเล่มต่อไปอยู่นะคะ อย่าหยุดเขียน

ขอบคุณจากใจผู้เขียนครับ ดีใจมากสำหรับคำว่า ยาก ,คิดลึกซึ้ง,ปรัชญาลึกซึ้ง

ทุกคำวิจารณ์ ไม่ว่าด้านใดนับเป็นผลดีต่อผู้เขียนทั้งสิ้น
เพราะทุกการวิจารณ์..มีเสน่ห์และพลังในตัวเอง

ิขอบใจน้องแจง และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับพี่น้องที่จะช่วยวิจารณ์งานเขียนนี้ในที่ต่างๆ

[toomy]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 16 พฤษภาคม 2552, 11:04:05
	อ่าน "นิทานการเงิน" ของพี่ยังชินจบแล้ว เลยมาขอวิจารณ์ต่อค่ะ.... นิทานเรื่องนี้ อ่านสนุก เข้าใจง่าย แต่เขียนยาก คนเขียนต้องรู้รอบแตกฉาน คิดเยอะ และคิดลึกซึ้ง ขอชื่นชมพี่ยังชิน ในความสามารถที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พาคนอ่านที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเงินอย่างแจง "นับหนึ่ง" จากที่มาของเงินในอดีต...อย่างที่คุณครรลองวิจารณ์ไว้ มาจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ "เงินเป็นนาย" ได้ ด้วยรูปแบบนิทานผู้ใหญ่ สนุกสนานเรียบง่าย แต่แฝงปรัชญาลึกซึ้ง ขอบคุณที่เขียนหนังสือดีๆ มีคุณภาพให้พวกเราอ่าน แฟนคลับรออ่านเล่มต่อไปอยู่นะคะ อย่าหยุดเขียน

ท่านวายซี อ่านจบ(หลายวัน)... แล้ว 

เช่นเดียว กะน้องแจง เลย จ้า !! 

นิทานชุดนี้สอนให้รู้ว่า เงินเป็นสิ่งสมมติ
เมื่อสิ่งสมมติมาพบกับสิ่งสมมติแล้ววุ่นวายเดือดร้อน
ถึงเวลาหนึ่งย่อมถูกแก้ด้วยสิ่งสมมติ

อยากบอกท่าน วายซี ว่า ... เราช้อบ ชอบ สิ่งสมมุติ นั่นนะ .. เหอ เหอ

[super]

ตุ่มมี่ ชอบเหมือนเราเลย

แต่มันอยู่กับพวกเราแป๊ปเดียว  อ้าวหายไปอีกแล้ว

ใช่ไหมครับ ท่านยังชิน (เขาเรียกเงินหมุน รึป่ะ)

[ตุ๋ย 22]

หวัดดีพี่ศุภชัย  ไม่เห็นกันหลายวัน

[super]

ครูตุ๋ย หวัดดีครับ
โรงเรียนเปิดเลยเวลาว่างน้อยลง
ท่าน ยังชินเข้ามาคุยกันหน่อยยย

[yc]

ผมก็รอฟัง มิสเตอร์ซูเปอร์คุยอยู่
...แต่ไม่ค่อยได้ยินนะขอรับ

 

		อ้างถึง
	toomy Hero Membe ท่านวายซี อ่านจบ(หลายวัน)... แล้ว เช่นเดียว กะน้องแจง เลย จ้า !! นิทานชุดนี้สอนให้รู้ว่า เงินเป็นสิ่งสมมติ เมื่อสิ่งสมมติมาพบกับสิ่งสมมติแล้ววุ่นวายเดือดร้อน ถึงเวลาหนึ่งย่อมถูกแก้ด้วยสิ่งสมมติ อยากบอกท่าน วายซี ว่า ... เราช้อบ ชอบ สิ่งสมมุติ นั่นนะ .. เหอ เหอ

นั่นแหละ อานุภาพของสิ่งสมมติละ 

แต่ TM วิพากษ์น้อยไปนะ หนังสือตั้งร้อยกว่่าหน้า วิจารณ์มาแค่้้ห้าบรรทัด
แม้บรรทัดสุดท้าย จะโดนใจใครทุกคน
แต่ผมก็อยากฟัง อยากฟัง อยากฟัง...อีก

[super]

อ้าว มาแล้วท่านยังชิน
ดีใจๆๆๆ

[ตุ๋ย 22]

		อ้างถึง			ข้อความของ super เมื่อ 25 พฤษภาคม 2552, 08:17:05
	ครูตุ๋ย หวัดดีครับ โรงเรียนเปิดเลยเวลาว่างน้อยลง ท่าน ยังชินเข้ามาคุยกันหน่อยยย

ผมสอนคอมพิวเตอร์มีเวลาเหมือนเดิมให้งานเด็กแล้วมาโพสต์
แต่หญ้าโรงเรียนรกมาก  เลยต้องทำหน้าที่ภารโรงตัดหญ้า 

[super]

เก่งครับครูตุ๋ย ทําได้สารพัดเลย
ท่านยังชิน ว่างจากนับเงินนับทองแล้วเข้าเวบบ่อยๆนะครับ

[ตุ๋ย 22]

พี่ครับ  ครูประถมต้องเป็นเกือบทุกอย่าง  ตอนนี้เป็นภารโรงไล่ตัดหญ้าทั่วโรงเรียน ดำปี๋เลย

[yc]

ขอปรบมือดังๆให้ครูตุ๋ย...

จะว่าไป...หากมองภาพรวมของชาวซีมะโด่ง จะพบเสน่ห์ที่แฝงอยู่ในสายเลือด
นั่นคือ ความง่ายๆแต่ได้สาระ

จะว่าไป...ธรรมชาติในสายเลือดเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยปราศจากเหตุผล
หากเป็นเพราะ สิ่งแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติในวัยเยาว์ ได้หล่อและหลอมรวมเป็นตัวตนของชาวซีมะโด่ง
การได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อแม่  มีปู่ย่าตายายอันชิดใกล้...
อันเป็นพื้นฐานรากเหง้าของสัตว์สังคม...ที่ถูกเรียกว่า...คน

ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกพัฒนาโดยขาดมุมคิดจากรากฐานสังคมไทย
ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม โดยผู้มีอำนาจทางการเมือง
ที่เป็นเพียงผู้มีอำนาจแต่ไม่ใช่ผู้นำ ( ดังที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้แยกแยะให้เห็นความแตกต่างระหว่าง
ผู้มีอำนาจ และ ผู้นำ ไว้แล้ว)
ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกทุนนิยมโลกขยับให้เป็นไปตามแรงเขย่า..แน่นอน..เราไม่ควรต้านต่อ
ทุนนิยม (ขอย้ำว่า ไม่ควรต้าน..เพราะการต่อต้านทุนนิยม จะนำมาซึ่งการสูญเสีย...)...แต่เราต้องรู้ทันทุนนิยม
และใช้ทุนนิยม หล่อเลี้ยงการดำรงชีพ

ขอปรบมือดังๆให้ ครูตุ๋ยอีกครั้ง

[super]

ยังชินมาแล้วว มาพร้อมกับสิ่งดีๆเสมอ

พูดถึงโรงเรียนแล้ว ห้องนํ้าของเด็กๆ  ผมเคยแนะนําโรงเรียนแถวบ้านใช้ปูนคลอรีนผสมนํ้า ราดห้องนํ้า ช่วยได้มาก
๑ ช้อนชา ต่อ นํ้า๒๐ ลิตร(ประมาณ ถังนํ้าซักผ้า)
ปูนคลอรีนครึ่งกก. ๔๐ บาท มีขายตามร้านเกษตรภัณฑ์ ปุ๋ย นะครับ

[ตุ๋ย 22]

		อ้างถึง			ข้อความของ yc เมื่อ 29 พฤษภาคม 2552, 09:40:34
	ขอปรบมือดังๆให้ครูตุ๋ย... จะว่าไป...หากมองภาพรวมของชาวซีมะโด่ง จะพบเสน่ห์ที่แฝงอยู่ในสายเลือด นั่นคือ ความง่ายๆแต่ได้สาระ จะว่าไป...ธรรมชาติในสายเลือดเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยปราศจากเหตุผล หากเป็นเพราะ สิ่งแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติในวัยเยาว์ ได้หล่อและหลอมรวมเป็นตัวตนของชาวซีมะโด่ง การได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อแม่  มีปู่ย่าตายายอันชิดใกล้... อันเป็นพื้นฐานรากเหง้าของสัตว์สังคม...ที่ถูกเรียกว่า...คน ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกพัฒนาโดยขาดมุมคิดจากรากฐานสังคมไทย ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม โดยผู้มีอำนาจทางการเมือง ที่เป็นเพียงผู้มีอำนาจแต่ไม่ใช่ผู้นำ ( ดังที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้แยกแยะให้เห็นความแตกต่างระหว่าง ผู้มีอำนาจ และ ผู้นำ ไว้แล้ว) ในวันนี้..พัฒนาการสังคมไทย..ถูกทุนนิยมโลกขยับให้เป็นไปตามแรงเขย่า..แน่นอน..เราไม่ควรต้านต่อ ทุนนิยม (ขอย้ำว่า ไม่ควรต้าน..เพราะการต่อต้านทุนนิยม จะนำมาซึ่งการสูญเสีย...)...แต่เราต้องรู้ทันทุนนิยม และใช้ทุนนิยม หล่อเลี้ยงการดำรงชีพ ขอปรบมือดังๆให้ ครูตุ๋ยอีกครั้ง

ขอบคุณครับพี่ยังชิน

[ตุ๋ย 22]

		อ้างถึง			ข้อความของ super เมื่อ 29 พฤษภาคม 2552, 13:22:55
	ยังชินมาแล้วว มาพร้อมกับสิ่งดีๆเสมอ พูดถึงโรงเรียนแล้ว ห้องนํ้าของเด็กๆ  ผมเคยแนะนําโรงเรียนแถวบ้านใช้ปูนคลอรีนผสมนํ้า ราดห้องนํ้า ช่วยได้มาก ๑ ช้อนชา ต่อ นํ้า๒๐ ลิตร(ประมาณ ถังนํ้าซักผ้า) ปูนคลอรีนครึ่งกก. ๔๐ บาท มีขายตามร้านเกษตรภัณฑ์ ปุ๋ย นะครับ

ที่โรงเรียนเด็กเค้าดูแลห้องน้ำได้ดีมาก  ไม่มีกลิ่นเลย

[อ้อย31]

เด็กๆ โรงเรียนพี่ตุ๋ยเค้ามีความรับผิดชอบดีจังเลยนะคะ  ที่โรงเรียนอ้อยใช้วิธีเก็บเงินจากผู้ปกครอง
มาจ้างคนทำความสะอาดห้องน้ำ  เพราะภารโรงทั้ง 3 คนทำไม่ไหว  เด็กทั้งโรงเรียนรวมกันมีสองพันกว่าคน 
หากให้เด็กมารับผิดชอบ  มีหวังผู้ปกครองเป็นต้องพากันโวยวายแน่นอน
ขนาดแค่ครูบอกให้เด็กช่วยกันเก็บขยะ  ผู้ปกครองมาเห็นพอดีแกต่อว่าครูเสียยกใหญ่ใหญ่เลยว่า
ให้ลูกมาเรียนหนังสือไม่ได้ให้มาเก็บขยะ  ครูชี้แจงเหตุผลใดๆแกก็ไม่ฟัง  ครูเลยพากันเซ็งเลยค่ะ
อย่าได้เจอะได้เจอกับผู้ปกครองแบบนี้บ่อยๆเลย...สาธุ

[ตุ๋ย 22]

ของผมโรงเรียนบ้านนอก  เด็กยังว่านอนสอนง่าย  ผู้ปกครองก็มีการวิจารณ์บ้างเป็นเรื่องปกติ

[yc]

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อยเค็ม เมื่อ 30 พฤษภาคม 2552, 21:48:45
	เด็กๆ โรงเรียนพี่ตุ๋ยเค้ามีความรับผิดชอบดีจังเลยนะคะ  ที่โรงเรียนอ้อยใช้วิธีเก็บเงินจากผู้ปกครอง มาจ้างคนทำความสะอาดห้องน้ำ  เพราะภารโรงทั้ง 3 คนทำไม่ไหว  เด็กทั้งโรงเรียนรวมกันมีสองพันกว่าคน  หากให้เด็กมารับผิดชอบ  มีหวังผู้ปกครองเป็นต้องพากันโวยวายแน่นอน ขนาดแค่ครูบอกให้เด็กช่วยกันเก็บขยะ  ผู้ปกครองมาเห็นพอดีแกต่อว่าครูเสียยกใหญ่ใหญ่เลยว่า ให้ลูกมาเรียนหนังสือไม่ได้ให้มาเก็บขยะ  ครูชี้แจงเหตุผลใดๆแกก็ไม่ฟัง  ครูเลยพากันเซ็งเลยค่ะ อย่าได้เจอะได้เจอกับผู้ปกครองแบบนี้บ่อยๆเลย...สาธุ

น้องอ้อยเค็มครับ ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจวิธีคิดในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่สมัยนี้เช่นกัน
การให้เด็กรู้จักทำงาน เป็นการเรียนที่ใหญ่ไม่แพ้ความรู้จากตำรา
ได้ฝึกทั้งกาย ใจ และความรู้
ปัญหาพื้นฐาน อันเป็นมูลเหตุของวิธีคิดดังกล่่าว เกิดเำพราะสิ่งใดกัน???[/size]

[ti2521]

     

          .....หวัดดีครับ พียังชิน  .....

[อ้อย31]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 31 พฤษภาคม 2552, 19:25:57
	ของผมโรงเรียนบ้านนอก  เด็กยังว่านอนสอนง่าย  ผู้ปกครองก็มีการวิจารณ์บ้างเป็นเรื่องปกติ

พี่ตุ๋ย พี่ยังชินคะ...อ้อยก็เคยอยู่โรงเรียนบ้านนอกเมื่อตอนบรรจุใหม่ๆเหมือนกันค่ะ 
เด็กๆ ว่านอนสอนง่ายกว่าเด็กในเมืองจริงๆ  เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่
มักจะยกลูกให้เป็นสิทธิ์ของครูในการอบรมบ่มนิสัยอย่างเต็มที่จริงๆ
ผิดกับเด็กในเมืองที่ผู้ปกครองบางส่วนมักจะเข้ามาก้าวก่ายจนมากเกินไป
ไม่ปล่อยให้เด็กได้ฝึกทักษะชีวิต/ความรับผิดชอบเรื่องการทำงานอย่างที่ควรจะเป็น
เด็กก็เลยไม่เคยชินกับสิ่งเหล่านี้ค่ะ