06 ตุลาคม 2567, 04:40:53
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 107 108 [109] 110 111 ... 204   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ♣♣♣♣ ► เ ก๊า สาระ พัช ไ ม้◄♣♣♣♣...  (อ่าน 1665851 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 25 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2700 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2552, 14:01:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:59:28
อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:54:02
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:51:18
อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:48:17
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช บ่ฮู้บ่หัน
สวัสดีครับ ดร.เอ๋  สบายดีนะครับ

สบายดีค่ะ ทำงานเพลิน วันๆหนึ่งหมดเร็วมากค่ะ
ดร.เอ๋ ใช้เวลาคุ้มค่าจริงๆครับ  สนุกกับงานนะครับ เด๋วจะแวะไปส่งดอกไม้ถึงบ้าน

แวะมาเลยค่ะเก๊า
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2701 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 09:17:14 »

สวัสดีครับแม่เลี้ยง  เพื่อนๆทุกคน  วันนี้มี อ้อยดำ มาฝากครับ  ไม่ได้หมายถึงเพื่อน 24 ที่ชื่ออ้อยนะครับเป็นต้นอ้อยจริงๆ





 อ้อยดำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Saccharum sinense Roxb
วงศ์ Gramineae
ชื่อท้องถิ่น   อ้อยขม
อ้อยดำเป็นพืชล้มลุกมีลักษณะเหมือนอ้อยแดงหรืออ้อยน้ำผึ้งที่นำไปทำอ้อยควั่น ขายกันตามงานวัด  แต่ขนาดลำต้นเล็กกว่า  น้ำอ้อยไม่มีรสหวาน  ลำต้นสีดำปนแดง เส้นกลางใบเป็นสีแดง
สรรพคุณ  แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะขัด   แก้ไข้ ไอ หวัด มีเสมหะติดคอ แก้ร้อนใน ปากเปื่อย  แก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องผูก  แก้เมาค้าง แก้มึนงง  อาการแฮงค์ พะอืดพะอม  นอกจากนี้จากคำบอกเล่าเขานิยมปลูกเพื่อให้ไก่ชนกินจะได้แข็งแรงตีเก่ง  ส่วนผมปลูกเพราะต้นและใบสวยดีครับ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2702 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 10:03:21 »

สวัสดีค่ะเก๊าและพัช บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #2703 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 10:19:18 »

เก๊ากับพัชสบายดีนะคะ
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2704 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 19:14:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 14 ตุลาคม 2552, 10:19:18
เก๊ากับพัชสบายดีนะคะ

ผมสบายดีครับ  ต๋อย  ขอบคุณที่แวะมาทักทาย
มีดอกอัญชัญพันธุ์ดั้งเดิมสีขาวดอกไม่ซ้อนมาฝาก  แม่เลี้ยง เพื่อนๆด้วยครับ  ปลูกไว้เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไว้ ชักจะหายากแล้ว


      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #2705 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 23:41:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 14 ตุลาคม 2552, 09:17:14
สวัสดีครับแม่เลี้ยง  เพื่อนๆทุกคน  วันนี้มี อ้อยดำ มาฝากครับ  ไม่ได้หมายถึงเพื่อน 24 ที่ชื่ออ้อยนะครับเป็นต้นอ้อยจริงๆ





 อ้อยดำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Saccharum sinense Roxb
วงศ์ Gramineae
ชื่อท้องถิ่น   อ้อยขม
อ้อยดำเป็นพืชล้มลุกมีลักษณะเหมือนอ้อยแดงหรืออ้อยน้ำผึ้งที่นำไปทำอ้อยควั่น ขายกันตามงานวัด  แต่ขนาดลำต้นเล็กกว่า  น้ำอ้อยไม่มีรสหวาน  ลำต้นสีดำปนแดง เส้นกลางใบเป็นสีแดง
สรรพคุณ  แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะขัด   แก้ไข้ ไอ หวัด มีเสมหะติดคอ แก้ร้อนใน ปากเปื่อย  แก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องผูก  แก้เมาค้าง แก้มึนงง  อาการแฮงค์ พะอืดพะอม  นอกจากนี้จากคำบอกเล่าเขานิยมปลูกเพื่อให้ไก่ชนกินจะได้แข็งแรงตีเก่ง  ส่วนผมปลูกเพราะต้นและใบสวยดีครับ

สวัสดีค่ะท่านเก๊า อ้อยดำมีจริงๆด้วยหรือคะนี่
      บันทึกการเข้า
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957

« ตอบ #2706 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 04:35:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 05 ตุลาคม 2552, 13:20:57
อ้างถึง
ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 05 ตุลาคม 2552, 10:17:43
สวัสดีลุงเก๊า น้องยน และแขกทุกท่าน ดีจังมาบ้านนี้ได้ความรู้เรื่องต้นไม้แยะ  ต้งชงโค กับต้นกาหลง ลุงณะว่ามันคล้ายๆ กัน มีวิธีสังเกตความแตกต่างไหมครับ
ชงโคใบหนาและใหญ่กว่า ดอกสีม่วงเส้นลายกลีบดอกสีขาวเห็นชัด มีกลีบดอก 5 กลีบ ลักษณะรียาว  เกสรยื่นยาวแบบชบา  ส่วนกาหลงใบบางและเล็กกว่าดอกสีขาวไม่ใหญ่นักมีกลีบดอกเท่าๆกัน 5 กลีบ ลักษณะห้าแฉก เกสรสั้นๆ

                         ดอกกาหลง

                       
                         ดอกชงโคฮอลแลนด์




ขอบคุณนะลุงเก๊า..
      บันทึกการเข้า

จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์  แปล
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957

« ตอบ #2707 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 07:52:55 »

 
อ้างถึง   

ลุงณะ  มาพร้อมคำถามที่อธิบายสั้น ๆ ได้ยากจังค่ะ 
และพัชเองก็ยังสงสัย  ว่าลุงณะสงสัยอะไร  ขอแคบเข้ามาอีกหน่อยได้ไหม

ส่วนที่ว่าเป็นมนต์ที่สวดให้คนเจ็บหนักฟังนั้น  มีที่มาสมัยพุทธกาลค่ะ  ขอโทษที่จำไม่ได้ว่าพระเถระองค์นั้นใช่ท่าน
พระมหากัสสัปะหรือเปล่า  แต่ก่อนอื่นขอชี้แจงว่าประโยชน์เบื้องต้นในสมัยโน้นก็คือเป็นการสาธยายธรรมมะ ที่สมัยก่อน
ยังต้องอาศัยการจำค่ะ  พูดง่าย ๆ เป็นการทวนความรู้   และการสวดก็ช่วยให้จิตสงบเป็นสมาธิ   พระเถระใ่นเหตุการณ์นี้
ท่านชอบบทโพชฌงค์  ดังนั้นเมื่อท่านอาพาธและพระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยม  ก็ให้มีการสาธยายมนต์บทนี้พระเถระผู้อาพาธ
ได้ฟังและก็เกิดปิติสุขเบิกบานแม้อาพาธค่ะ   คิดว่านี่เองที่เป็นที่มาของการนำมาสวดให้คนป่วยฟัง
สำหรับพัชคิดว่าต้องใจเราศรัทธาด้วยจึงจะได้ผลค่ะ (ซึ่งบทไหนก็คงได้เหมือนกัน)   

อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดความสืบเนื่องมาถึงปัจจุบันในทำนองเดียวกันคือ  การสวดมนต์เพื่อสะเดาะห์เคราะห์หรือปัดเป่าฯลฯ
ในสมัยพุทธกาลอีกเช่นกันที่มีเด็กคนหนึ่งจะต้องถูกอมนุษย์(พอดีจำไม่ได้ว่าเป็นรูปนามชนิดไหนเลยขอเรียกอย่างนี้ก็แล้วกัน)
ซึ่งอมนุษย์นี้ได้รับพรจากเทพชั้นสูงให้จับเด็กคนนี้กินได้  พระพุทธองค์ไม่สามารถช่วยเหลือตรง ๆ ได้ก็จึงให้พระอริยสงฆ์จำนวนมาก(จำจำนวนไม่ได้อีกเช่นกัน) มาสวดมนต์(บทที่เขาใช้สวดสะเดาะห์เคราะห์ขจัดปัดเป่าฯลฯ กัน)  ดังนั้นเมื่อ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกทั้งหลายสาธายายมนต์  เทพเทวดาชั้นสูงก็มาอยู่ด้วย   อมนุษย์ผู้ต่ำต้อยตนนั้นก็
ไม่สามารถเข้ามาได้จนเลยเวลาที่สามารถจับกินตามที่ได้รับพรมา   เล่าตามที่จำได้นะคะ  เนืิ้อหาเป๊ะ ๆ ลองพยายามสืบค้นดูอีกทีค่ะ

ส่วนโพชฌงค์  ขอคำถามแคบลงอีกนิดค่ะ ลุงณะ

 

- ขอบคุณสำหรับเรื่องราวพุทธประวัติเพิ่มเติม จากแม่เลี้ยงพัช 
-  และขออภัยที่ถามไว้แล้ว ไม่ได้เข้ามาตอบเร็ว ..แต่มาอ่านเร็ว

- คือสงสัยว่า องค์ประกอบของโพชฌงค์ นั้นแต่ละเรื่องเป็นอะไรบ้าง  และโพชฌงค์เนี่ย คนธรรมดาอย่างเราๆ พยายามปฏิบัติได้หรือไม่ เพราะเป็นธรรมะเพื่อการตรัสรู้  ถ้าไม่ใช่จะได้ไม่ไปอาจเอื้อมปฏิบัติ (แต่เราๆ ศีลห้าครบ ก็น่าจะทำยาก  และ..เป็นคนดีในสังคมได้แล้ว)

บางหลักธรรมะเช่นทศพิศราชธรรม หรือธรรมของพระเจ้าแผ่นดิน คนธรรมดาที่เป็นผู้ว่า นายอำเภอ หัวหน้างานก็สามารถรับมาปฏิบัติได้ เป็นต้น

อ้อ. ที่ บ.อมรินทร์ ยังมีสวนหิน 8 ก้อนอีกมุม นัยว่าสื่อถึงมรรค 8 ยังไม่มีเวลาไปค้น  อมรินทร์น๊าอมรินทร์... ช่างหาเรื่องให้ปวดหัวให้ลุงณะ และแม่เลี้ยงพัช เสียจริง...
      บันทึกการเข้า

จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์  แปล
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2708 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 08:50:22 »

สวัสดีเก๊าและพัชค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2709 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 11:35:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 08:50:22
สวัสดีเก๊าและพัชค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
สวัสดีค่ะ เอ๋   ปลายปีนี้มารับอากาศหนาวที่เชียงรายมั้ย  พัชพาเที่ยวเองค่ะ

      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #2710 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 11:53:53 »

สวัสดีครับป้าพัช พี่เก๊า และพี่ๆคนอื่นๆคับ
วันนี้อากาศครึ้มๆ แต่ก็ดีคับไม่ร้อนมากมาย

ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือที่ได้รับจากการบริจาคอยู่เล่มหนึ่งครับ
ชื่อว่า  "ธรรมะเอกเขนก" เขียนโดย คุณ ขวัญ เพียงหทัย

ไม่ทราบว่ามีใครเคยได้อ่านหรือยัง?

หนังสือเ่ล่มนี้ดีมากๆเลยครับ ตรงที่เป็นการเล่าเรื่อง
ในสมัยพุทธกาลในรูปแบบของนิทาน ใช้ภาษาอ่านง่าย
เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเล่านิทานให้ลูกก่อนนอน (วุ้ววว)

ผมก็ชอบอ่านก่อนนอนครับ เพราะเรื่องราวของแต่ละท่าน
ในหนังสือเล่มนี้ล้วนแต่น่าสนใจ

วันก่อนอ่านเรื่อง พระโลสกะ แล้วรู้สึกว่ากรรมเก่านี่มันแรงจริงๆ

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ จะมาขออนุญาตเชิญชวนป้าพัชและพี่ๆคนอื่นๆ
มาเล่าเรื่องสมัยพุทธกาลกันครับ แหะๆ
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2711 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 12:06:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 07:52:55
 
อ้างถึง   


- ขอบคุณสำหรับเรื่องราวพุทธประวัติเพิ่มเติม จากแม่เลี้ยงพัช 
-  และขออภัยที่ถามไว้แล้ว ไม่ได้เข้ามาตอบเร็ว ..แต่มาอ่านเร็ว

- คือสงสัยว่า องค์ประกอบของโพชฌงค์ นั้นแต่ละเรื่องเป็นอะไรบ้าง  และโพชฌงค์เนี่ย คนธรรมดาอย่างเราๆ พยายามปฏิบัติได้หรือไม่ เพราะเป็นธรรมะเพื่อการตรัสรู้  ถ้าไม่ใช่จะได้ไม่ไปอาจเอื้อมปฏิบัติ (แต่เราๆ ศีลห้าครบ ก็น่าจะทำยาก  และ..เป็นคนดีในสังคมได้แล้ว)

บางหลักธรรมะเช่นทศพิศราชธรรม หรือธรรมของพระเจ้าแผ่นดิน คนธรรมดาที่เป็นผู้ว่า นายอำเภอ หัวหน้างานก็สามารถรับมาปฏิบัติได้ เป็นต้น

อ้อ. ที่ บ.อมรินทร์ ยังมีสวนหิน 8 ก้อนอีกมุม นัยว่าสื่อถึงมรรค 8 ยังไม่มีเวลาไปค้น  อมรินทร์น๊าอมรินทร์... ช่างหาเรื่องให้ปวดหัวให้ลุงณะ และแม่เลี้ยงพัช เสียจริง...

ลุงณะคะ  พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ก็เป็นคนธรรมดาในวรรณะกษัตริย์ค่ะ
ดังนั้น  พระพุทธเจ้าจึงเป็นองค์ยืนยันถึงศักยภาพของมนุษย์ว่าฝึกได้ค่ะ   ตรัสรู้ธรรมตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เช่นกัน

อันที่จริง  พัชว่า  พระพุทธเ้จ้าท่านปฏิวัติสังคมสมัยโน้นอยู่ไม่น้อย   ที่อินเดียมีวรรณะแบบติดตัวมาตั้งแต่เกิด
พระพุทธเจ้าท่านว่า  ไม่จริง  มนุษย์ต้องเป็นไปตามกรรม  แตกต่างกันเพราะผลการกระทำ  ไม่ใช่เพราะเกิดในตระกูลพราหณ์
แล้วบริสุทธิ์เช่นพรหม  ด้ังนั้น  สมัยพุทธกาลสาวกของพระองค์จึงมีจากทุกวรรณะ  ศีลจึงมีถึง 227 ข้อ ต้องบัญญัติกันแม้
กระทั่งเวลาไปไหนต้องนั่งอย่างไร  ต้องระวังจีวรอย่างไร  นำอาหารใส่ปากอย่างไร  ไม่งั้นต่างวรรณะต่างครอบครัวจะมีกริยาที่
บางคนอาจดูไม่งามทำให้ดูไม่เหมาะสม ไม่น่าเคารพเลื่อมใส  

โพชฌงค์แต่ละเรื่องนั้นเป็นอะไรบ้าง.....  ลุงณะจำได้ไหมคะที่ว่า    ทำความดี  ละเว้นความชั่ว  ทำจิตใจให้ผ่องใส
ตรงผ่องใสนี่แหละค่ะ  พัชเรียนรู้ว่าคือสภาวะที่จิตใจเราไม่มีอะไรมาบีบคั้นให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ในใจได้(เช่น หงุดหงิด
เศร้า  โกรธ  อิจฉา  พอใจ  เซ็ง  น้อยเนื้อต่ำใจ   รุ้สึกว่าเราต่ำต้อย  ลำพองใจ ฯลฯ   ฯลฯ  ฯลฯ  ต้องใส่ หลาย ๆ อัน)  ขั้นสุดจึงเป็นนิพพาน  คือสภาวะต่าง ๆ ที่ว่ามามันไม่เหลือ   แต่ยังรับรู้  (เมื่อเริ่มเบาบางถึงจุดเปลี่ยนก็เป็นจุดที่ผ่านการตรัสรู้หรือ
ได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว)

การจะทำความดี  ละเว้นความชั่ว  และทำจิตใจให้ผ่องใส(จนกลายเป็นปกติธรรมดา)  ก็ต้องอาศัยธรรมเหล่านั้นค่ะ  ไม่ว่า
จะเป็นโพชฌงค์  มรรค  เรียกไปเรียกมา ก็เป็นเรื่องเดียวกันค่ะ

การรักษาศีลห้าเป็นเรื่องยาก.....สมัยพัชขับรถเป็นใหม่ ๆ  คอยสงสัยว่าด้านซ้ายมันเหลือที่ว่างอีกเยอะไหมจึงจะตกถนน
เข้าโค้งก็ต้องช้า ๆ ขับรถช้า จนลูก ๆ คอยเชียร์ให้แม่ขับเร็วอีกหน่อย  พอชำนาญ  ระยะแคบแค่ไหนก็มุดได้

ขอตอบไว้เพียงเท่านี้นะคะ ลุงณะ  แต่ขอเชียร์ลุงณะว่า  ขอให้มั่นใจในพระปัญญาของพระพุทธองค์  คำสอนของท่าน
เป็นอกาิลิโกเพราะเป็นความจริงสุดท้ายความจริงเดียว  จะเรียกว่าอย่างไร  จะพศ. ไหน  ก็จะยังจริงอยู่
และพระองค์ก็พิสูจน์ด้วยตัวพระองค์เอง  ว่ามนุษย์มีศักยภาพในการตรัสรู้ค่ะ


 sorry sorry sorry




      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2712 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 13:56:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 11:35:29
อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 08:50:22
สวัสดีเก๊าและพัชค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
สวัสดีค่ะ เอ๋   ปลายปีนี้มารับอากาศหนาวที่เชียงรายมั้ย  พัชพาเที่ยวเองค่ะ



ขอบคุณมากค่ะพัช
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2713 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 20:04:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 11:53:53
สวัสดีครับป้าพัช พี่เก๊า และพี่ๆคนอื่นๆคับ
วันนี้อากาศครึ้มๆ แต่ก็ดีคับไม่ร้อนมากมาย

ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือที่ได้รับจากการบริจาคอยู่เล่มหนึ่งครับ
ชื่อว่า  "ธรรมะเอกเขนก" เขียนโดย คุณ ขวัญ เพียงหทัย

ไม่ทราบว่ามีใครเคยได้อ่านหรือยัง?

หนังสือเ่ล่มนี้ดีมากๆเลยครับ ตรงที่เป็นการเล่าเรื่อง
ในสมัยพุทธกาลในรูปแบบของนิทาน ใช้ภาษาอ่านง่าย
เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเล่านิทานให้ลูกก่อนนอน (วุ้ววว)

ผมก็ชอบอ่านก่อนนอนครับ เพราะเรื่องราวของแต่ละท่าน
ในหนังสือเล่มนี้ล้วนแต่น่าสนใจ

วันก่อนอ่านเรื่อง พระโลสกะ แล้วรู้สึกว่ากรรมเก่านี่มันแรงจริงๆ

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ จะมาขออนุญาตเชิญชวนป้าพัชและพี่ๆคนอื่นๆ
มาเล่าเรื่องสมัยพุทธกาลกันครับ แหะๆ

ดีค่ะ  หลานสนเริ่มเล่าเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2714 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 20:05:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 14 ตุลาคม 2552, 10:19:18
เก๊ากับพัชสบายดีนะคะ
หวัดดีค่ะ ต๋อย
พัชสบายดีค่ะ  ขอบคุณค่า
ต๋อยและครอบครัวเป็นอย่างไรบ้างคะ

      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2715 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 20:26:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:40:23
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 08 ตุลาคม 2552, 21:04:44
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 08 ตุลาคม 2552, 09:25:10
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 07 ตุลาคม 2552, 16:26:12
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 01 ตุลาคม 2552, 21:27:24
ขอบคุณ ลุงณะที่นำ ธรรม มาฝาก  รอแม่เลี้ยงอธิบายธรรมเพิ่มเติมอยู่เหมือนกัน

สวัสดีและขออภัยค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคน  ปล่อยให้รอนานจัง

ขอย้อนกลับไปดูคำถามของลุงณะอีกทีนะคะ


เย้!!!!แม่เลี้ยงกลับมาบ้านแล้ว.....ขอบคุณแม่เลี้ยงที่อธิบาย ธรรมโพชฌงค์ 7 เพิ่มเติมให้เพื่อนๆ   ต้อนรับแม่เลี้ยงด้วยกล้วยไม้ หนึ่ง ช่อ ครับ


ขอบคุณสำหรับดอกกล้วยไม้ค่ะ  อาจารย์เก๊า 
กล้วยไม้ที่สวนเหรอคะ

อาจารย์เก๊าเลี้ยงรองเท้านารีบ้างหรือเปล่าคะ



เป็นกล้วยไม้ที่สวนครับ  แต่เป็นของลูกน้อง เขาชอบเลี้ยงกล้วยไม้  ผมเลยได้อาศัยเก็บภาพมาฝากแม่เลี้ยงและเพื่อนๆ รองเท้านารีที่สวนไม่มีครับ



อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:49:13
วัดหนองป่าพงคงเป็นวัดใหญ่นะครับถึงมีวัดสาขาหลายแห่ง   ถ้ามีโอกาสไปเชียงรายจะไปกราบนมัสการครับ  เมื่อวันอาทิตย์ผมและครอบครัวได้ไปออกร้านงานทอดกฐิน สำนักปฏิบัติธรรม แสงธรรมส่องชีวิต ซึ่งมีพระอาจารย์ สมชาติ เป็นเจ้าสำนัก  คนมากจริงๆครับ แจกสละลอยแก้วราว สองพันถ้วยยังไม่เพียงพอกับคนที่มาทอดกฐินเลย
วัดหนองป่าพง ( หลวงปู่ชา) มีสาขามากค่ะ  จำไม่ได้แต่น่าจะเกิน 50  มีทั้งในต่างประเทศด้วยค่ะ  เคยอ่านหนังสือที่ระลึกในงานฌาปนกิจหลวงปู่ชา  หลวงปู่น่ารักค่ะ  สบาย ๆ  ขำ ๆ แต่เป็นธรรมมะ

พระลูกศิษย์ฝรั่งของท่านองค์หนึ่ง(จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว)  เล่าไว้ว่า  วันหนึ่งได้ขุ่นเคืองใจให้กับพระด้วยกันอีกรูปหนึ่ง
ในจิตใจก็มีแต่ความขุ่นเคือง  ตอนเช้าไปบิณฑบาต ก็ยังขุ่น  แต่พอหลวงปู่มาทักว่า   กู้ดมอร์นิ่ง  ใจเบิกบาน  ใจฟู เลย
กลับถึงวัด ฉันอาหารเสร็จ  ทำธุระช่วงเช้าเสร็จ  หลวงปู่ก็เรียกให้ไปรับใช้บิีบนวด(พระลูกศิษย์มีมาก โอกาสเช่นนี้จะหายาก)  ก็ยิ่งดีใจ  ใจฟูใหญ่เลย  อยู่บนกุฏิกำลังบีบนวด  ก็มีอันต้องล้มคะมำตามแรงถีบของหลวงปู่   ใจแฟบทันที
หลวงปู่ท่านสำทับทันที    จิตใจไม่หนักแน่น (ท่านรู้ใจลูกศิษย์ตั้งแต่ที่มีความขุ่นเคือง จึงจงใจเรียกมาสอนธรรมนั่นเอง)


สาธุ แจกสละลอยแก้วมากขนาดนั้น  ใครช่วยคว้านเม็ดคะ  น่าะจะเป็นหมื่นเม็ดอยู่
อนุโมทนาด้วยกับบุญที่ทำค่ะ  รวมถึงทุกคนที่ช่วยกันทำสละลอยแ้ก้วค่ะ 


วันอาทิตย์เดียวกัน  พัชก็ไปทอดกฐินที่วัดอุดมวารีค่ะ  มีคนสัก 5-600 คนมีทั้งจากตปท.(ชาวตปท.) และตจว.
 มีพระจากวัดสาขามาร่วมอีก 9 วันรวมพระราว 60 รูป  พัชรับหน้าที่เรื่องสถานที่ค่ะ  เต้นท็  เก้าอี้   ดอกไม้  และส่งคนงานไปช่วยในครัว

ตกลงว่าอาทิตย์ที่ 18 ต้องอยู่ทอดกฐินที่อ.เมือง เชียงรายค่ะ 
      บันทึกการเข้า
idick
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 653

« ตอบ #2716 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 21:03:49 »

เข้ามารับธรรมะ และขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #2717 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 21:08:49 »

สวัสดีจ้ะดิ๊กและพัช เจอกันวันคืนสู่เหย้านะ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #2718 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 22:57:24 »

วันนี้ขออนุญาตมาเล่าเรื่อง "พระโลสกะ" นะครับ

พระโลสกะเป็นพระที่อาภัพมากๆ ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตร
ตอนเด็กๆยากจนมากมาย ไม่มีข้าวกินหรอกครับ ต้องเทียวหา
ดูว่าบ้านไหนน่า เค้าจะล้างหม้อ  ก็ไปเก็บข้าวที่ติดหม้อนั่นแหล่ะคับมากิน


แต่พอบวชมาแล้วนี่ เวลาไปบิณฑบาตก็ไม่มีใครใส่บาตรให้ ไม่ใช่เพราะว่า
เค้ารังเกียจนะครับ แต่ทุกครั้งที่ยื่นบาตให้คนจะเห็นว่าบาตเต็มแล้วททุกครั้ง
ทั้งๆที่บาตนั้นว่างเปล่า

ส่วนพระสารีบุตร หากท่านไปบิณฑบาต คนจะใส่บาตรมากเลย แต่ถ้าวันใดที่
พระโลสกะไปด้วย วันนั้นก็จะไม่มีคนใส่บาตรเหมือนกัน ซึ่งพระสารีบุตรเองก็ทราบดี

พี่ๆสงสัยไหมครับว่า ทำไม๊ทำไม พระโสลกะถึงได้อาภัพขนาดนี้???....

ผมจะขอพาพี่ๆย้อนกลับไปอีกสมัยพุทธกาลครับ คือสมัยที่พระพุทธเจ้าองค์ก่อน
ชื่อว่าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตอนนั้นพระโลสกะไปเกิดเป็น "เจ้าอาวาส"
ก็มีคนฐานะดีคนหนึ่ง (เค้าเรียกว่า กฎุมพี)  คอยดูแลปรนอุปฐากท่านอยู่

อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีพระอรหันต์องค์หนึ่งเดินผ่านมา กฎุมพีเห็นแล้วก็เลื่อมใส
็ก็เลขพาไปฝากไว้ที่วัด แล้วตอนเย็นก็มาสนทนาด้วย เจ้าอาวาสก็ไม่รู้ว่าท่านเป็น
พระอรหันต์ แต่เห็นกฎุมพีดูแลดี ก็เกิดความรัษยา ต้องหาทางกำจัดออกไป
เพราะถ้าอยู่ไปนานๆ เห็นทีเจ้าอาวาสคงแย่

----- ติดตามต่อ ภาคสองนะคับ แหะๆ  --
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #2719 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 02:13:06 »


      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2720 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 12:27:04 »

สวัสดีค่ะเก๊าและพัช บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2721 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 18:07:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 20:26:37
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:40:23
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 08 ตุลาคม 2552, 21:04:44
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 08 ตุลาคม 2552, 09:25:10
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 07 ตุลาคม 2552, 16:26:12
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 01 ตุลาคม 2552, 21:27:24
ขอบคุณ ลุงณะที่นำ ธรรม มาฝาก  รอแม่เลี้ยงอธิบายธรรมเพิ่มเติมอยู่เหมือนกัน

สวัสดีและขออภัยค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคน  ปล่อยให้รอนานจัง

ขอย้อนกลับไปดูคำถามของลุงณะอีกทีนะคะ


เย้!!!!แม่เลี้ยงกลับมาบ้านแล้ว.....ขอบคุณแม่เลี้ยงที่อธิบาย ธรรมโพชฌงค์ 7 เพิ่มเติมให้เพื่อนๆ   ต้อนรับแม่เลี้ยงด้วยกล้วยไม้ หนึ่ง ช่อ ครับ


ขอบคุณสำหรับดอกกล้วยไม้ค่ะ  อาจารย์เก๊า 
กล้วยไม้ที่สวนเหรอคะ

อาจารย์เก๊าเลี้ยงรองเท้านารีบ้างหรือเปล่าคะ



เป็นกล้วยไม้ที่สวนครับ  แต่เป็นของลูกน้อง เขาชอบเลี้ยงกล้วยไม้  ผมเลยได้อาศัยเก็บภาพมาฝากแม่เลี้ยงและเพื่อนๆ รองเท้านารีที่สวนไม่มีครับ



อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 13 ตุลาคม 2552, 13:49:13
วัดหนองป่าพงคงเป็นวัดใหญ่นะครับถึงมีวัดสาขาหลายแห่ง   ถ้ามีโอกาสไปเชียงรายจะไปกราบนมัสการครับ  เมื่อวันอาทิตย์ผมและครอบครัวได้ไปออกร้านงานทอดกฐิน สำนักปฏิบัติธรรม แสงธรรมส่องชีวิต ซึ่งมีพระอาจารย์ สมชาติ เป็นเจ้าสำนัก  คนมากจริงๆครับ แจกสละลอยแก้วราว สองพันถ้วยยังไม่เพียงพอกับคนที่มาทอดกฐินเลย
วัดหนองป่าพง ( หลวงปู่ชา) มีสาขามากค่ะ  จำไม่ได้แต่น่าจะเกิน 50  มีทั้งในต่างประเทศด้วยค่ะ  เคยอ่านหนังสือที่ระลึกในงานฌาปนกิจหลวงปู่ชา  หลวงปู่น่ารักค่ะ  สบาย ๆ  ขำ ๆ แต่เป็นธรรมมะ

พระลูกศิษย์ฝรั่งของท่านองค์หนึ่ง(จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว)  เล่าไว้ว่า  วันหนึ่งได้ขุ่นเคืองใจให้กับพระด้วยกันอีกรูปหนึ่ง
ในจิตใจก็มีแต่ความขุ่นเคือง  ตอนเช้าไปบิณฑบาต ก็ยังขุ่น  แต่พอหลวงปู่มาทักว่า   กู้ดมอร์นิ่ง  ใจเบิกบาน  ใจฟู เลย
กลับถึงวัด ฉันอาหารเสร็จ  ทำธุระช่วงเช้าเสร็จ  หลวงปู่ก็เรียกให้ไปรับใช้บิีบนวด(พระลูกศิษย์มีมาก โอกาสเช่นนี้จะหายาก)  ก็ยิ่งดีใจ  ใจฟูใหญ่เลย  อยู่บนกุฏิกำลังบีบนวด  ก็มีอันต้องล้มคะมำตามแรงถีบของหลวงปู่   ใจแฟบทันที
หลวงปู่ท่านสำทับทันที    จิตใจไม่หนักแน่น (ท่านรู้ใจลูกศิษย์ตั้งแต่ที่มีความขุ่นเคือง จึงจงใจเรียกมาสอนธรรมนั่นเอง)


สาธุ แจกสละลอยแก้วมากขนาดนั้น  ใครช่วยคว้านเม็ดคะ  น่าะจะเป็นหมื่นเม็ดอยู่
อนุโมทนาด้วยกับบุญที่ทำค่ะ  รวมถึงทุกคนที่ช่วยกันทำสละลอยแ้ก้วค่ะ 


วันอาทิตย์เดียวกัน  พัชก็ไปทอดกฐินที่วัดอุดมวารีค่ะ  มีคนสัก 5-600 คนมีทั้งจากตปท.(ชาวตปท.) และตจว.
 มีพระจากวัดสาขามาร่วมอีก 9 วันรวมพระราว 60 รูป  พัชรับหน้าที่เรื่องสถานที่ค่ะ  เต้นท็  เก้าอี้   ดอกไม้  และส่งคนงานไปช่วยในครัว
ตกลงว่าอาทิตย์ที่ 18 ต้องอยู่ทอดกฐินที่อ.เมือง เชียงรายค่ะ 
ขออนุโมทนาบุญกับแม่เลี้ยงและครอบครัวครับ   ใช้เวลาทำสละลอยแก้ว 7 วัน  คนทำ 8 คน  แจก 3 ชั่วโมงก็หมดแล้ว  แต่ทุกคนก็อิ่มบุญไม่เหนื่อยครับ  อาทิตย์ที่ 18 ทอดกฐินที่วัดป่าแก้ว จันทบุรีเช่นกันครับ  เตรียมอาหารไปถวายพระและเลี้ยงคนแล้ว
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2722 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 18:08:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 22:57:24
วันนี้ขออนุญาตมาเล่าเรื่อง "พระโลสกะ" นะครับ

พระโลสกะเป็นพระที่อาภัพมากๆ ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตร
ตอนเด็กๆยากจนมากมาย ไม่มีข้าวกินหรอกครับ ต้องเทียวหา
ดูว่าบ้านไหนน่า เค้าจะล้างหม้อ  ก็ไปเก็บข้าวที่ติดหม้อนั่นแหล่ะคับมากิน


แต่พอบวชมาแล้วนี่ เวลาไปบิณฑบาตก็ไม่มีใครใส่บาตรให้ ไม่ใช่เพราะว่า
เค้ารังเกียจนะครับ แต่ทุกครั้งที่ยื่นบาตให้คนจะเห็นว่าบาตเต็มแล้วททุกครั้ง
ทั้งๆที่บาตนั้นว่างเปล่า

ส่วนพระสารีบุตร หากท่านไปบิณฑบาต คนจะใส่บาตรมากเลย แต่ถ้าวันใดที่
พระโลสกะไปด้วย วันนั้นก็จะไม่มีคนใส่บาตรเหมือนกัน ซึ่งพระสารีบุตรเองก็ทราบดี

พี่ๆสงสัยไหมครับว่า ทำไม๊ทำไม พระโสลกะถึงได้อาภัพขนาดนี้???....

ผมจะขอพาพี่ๆย้อนกลับไปอีกสมัยพุทธกาลครับ คือสมัยที่พระพุทธเจ้าองค์ก่อน
ชื่อว่าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตอนนั้นพระโลสกะไปเกิดเป็น "เจ้าอาวาส"
ก็มีคนฐานะดีคนหนึ่ง (เค้าเรียกว่า กฎุมพี)  คอยดูแลปรนอุปฐากท่านอยู่

อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีพระอรหันต์องค์หนึ่งเดินผ่านมา กฎุมพีเห็นแล้วก็เลื่อมใส
็ก็เลขพาไปฝากไว้ที่วัด แล้วตอนเย็นก็มาสนทนาด้วย เจ้าอาวาสก็ไม่รู้ว่าท่านเป็น
พระอรหันต์ แต่เห็นกฎุมพีดูแลดี ก็เกิดความรัษยา ต้องหาทางกำจัดออกไป
เพราะถ้าอยู่ไปนานๆ เห็นทีเจ้าอาวาสคงแย่

----- ติดตามต่อ ภาคสองนะคับ แหะๆ  --

รอติดตามอยู่ครับน้องสน
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2723 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 18:10:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ idick เมื่อ 15 ตุลาคม 2552, 21:03:49
เข้ามารับธรรมะ และขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

สาธุ   สาธุ   สาธุ   ท่านดิ๊ก รับบุญไปเต็มๆ
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #2724 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 18:15:40 »

แม่เลี้ยง  ลูกศิษย์หลวงปู่ชาที่เป็นฝรั่งใช่ พระชยสาโร ไหม?
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 107 108 [109] 110 111 ... 204   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><