ภาพจากทริปนี้ครับ
ลูกพิ้ง:
เวลาทองของการจับจ่ายยังไม่มีหมดแค่นี้หรอกนะจ้ะ ของฝากที่ระลึกก็มีไปแล้ว....ว่าแต่จะไม่มีของกินกลับไปด้วยก็ดูผิดแผกไปใช่มั้ยล่ะ ไปต่อกันที่นี่ดีกว่า ร้านวนัสนันท์ ที่นี่มีของฝากถูกปากแน่นอน ว่าแล้วทุกคนก็กรูกันไปหยิบแหนมไบโอเทค แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ข้าวแต๋น กาละแมเสวย และอื่นๆ อีกนานับ....กลับไปฝากทั้งตัวเองและญาติสนิทมิตรสหายให้อิ่มท้องกันดีกว่าเนอะ
ออกจากจากร้านวนัสนันท์ด้วยเวลาที่เข็มนาฬิกาใกล้เลขห้า....เข้าไปทุกขณะ...ยามเย็นในเวลาเลิกงานของเมืองเชียงใหม่ที่สภาพการจราจรก็คล้ายๆ กับกรุงเทพฯ นั่นแหละ การจราจรติดขัดและรถราเริ่มหนาแน่นแล้วล่ะ
ทำให้พวกเราพากันลุ้นระทึกว่าจะถึงสถานีรถไฟทันเวลาไหมหนอ.....แล้วการรถไฟจะรอเราหรือเปล่า.........พนักงานที่ตรวจตั๋ว...เค้าจะไม่สงสัยเลยเหรอว่า...เฮ้ย ผู้โดยสารสองโบกี้สุดท้ายนี่...หายไปไหนโม้ด....รถไฟจ๋า...ก่อนที่จะ....ถึงก็ช่าง....ไม่ถึงก็ช่าง...รอพวกเราก่อนน๊า.......
ลูกพิ้ง:
และแล้วรถบัสก็พาพวกเรามาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ในเวลาที่ฉิวเฉียดและเฉียดฉิว.........อะไรจะขนาดน้าน...แหมก็อยากเล่าให้แกตื่นเต้นตามไปด้วยไงล่ะ....อิ๊อิ........
จากนั้นพี่ๆ น้อง ต่างก็พากันปุเลงตุเลงหยิบกระเป๋าที่พากันออกลูกออกหลานมาเป็นสัมภาระให้หอบหิ้วกลับไปกันยกใหญ่ทีเดียวเชียวล่ะ เฮ้อ
เย้ ได้ขึ้นรถไฟแล้วล่ะ ต่างคนก็ช่วยกันจัดกระเป๋าและสัมภาระให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อที่ว่าตอนเย็นนี้เราจะได้ดินเนอร์กันในโบกี้รถไฟในรถไฟนี้ล่ะจ้ะ สำหรับอาหารในมื้อนี้ก็คล้ายจะมาโบกมืออำลาแล้วบอกว่าบ๊ายบายก่อนนะเจ๊า มาแอ่วเมืองเหนือใหม่เน้อ เอ้า...มาดูกันเลยจ้ะ เราจะกินอะไรกันบ้าง ข้าวเหนียวหมูทอด น้ำพริกหนุ่ม พร้อมผักลวก ตบท้ายด้วยส้มเขียวหวาน เป็นไงล่ะ นั่นแน้ แอบกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่เลยล่ะซี อิ๊อิ
ลูกพิ้ง:
หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อเย็นกันแล้ว....พี่ๆ น้องๆ หลายคนต่างก็จับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน...
เหล่าบรรดาละอ่อนน้อยก็ไม่รอช้า...ที่จะได้โอกาสอันดี...ที่จะขอขอบคุณพี่ๆ ซีมะโด่ง..ที่น่ารักทุกท่านที่ความเมตตาและเอ็นดูน้องๆ เป็นอย่างดี...
ว่าแล้วกลุ่มละอ่อนน้อยก็ตั้งขบวน....ไปขอถ่ายรูปร่วมกันกับพี่ๆ ซึ่งอยู่ตามที่นั่งในโบกี้รถไฟ เรียกเสียงฮือฮา....จากบรรดาพี่ๆ ที่เคยผ่านประสบการณ์การถ่ายรูปขอบคุณแขกตามโต๊ะในงานมงคล......มาแล้ว...เมื่อไม่นานมานี้...อิ๊อิ.....รึว่า....ปีก่อนต่างหากเล่า....ว่าคล้ายกับบรรยากาศเช่นนี้เลยทีเดียว........ฮา...........
ลูกพิ้ง:
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้....มารู้ตัวอีกที...ถึงสถานีลำปางแล้ว....ครานี้อาหารยามดึกก็มีมาตบท้าย....ขนมขบเคี้ยว..ของทานเล่น...แกล้มด้วยเครื่องดื่ม...ชิลล์...ชิลล์....ยิ่งทำให้บรรยากาศการสังสรรค์ระหว่างพี่-น้องซีมะโด่งคึกคักยิ่งนัก......
พี่ๆ น้องๆ ต่างมารวมกลุ่มกัน...สรวญเสเฮฮา...ร้องเพลงร่วมกันอย่างสนุกสนาน.....เพลงหอซีมะโด่งที่ร้องร่วมกันทั้งพี่น้องยามนี้ช่างไพเราะเสียจริงจริง...
พอตกดึกก็มีพี่ๆ นักเล่าเรื่อง....ตัวยง........มาสร้างความขบขัน...และครึกครื้น..กับมุขตลกที่แต่ละคนสรรหาและสรรสร้างความบันเทิงนี้สำหรับพี่ๆ น้องๆ ซีมะโด่ง โดยเฉพาะ.....
ส่วนพี่ๆ น้องๆ หลายคนก็เพิ่งได้มีโอกาสนั่งคุย...บอกเล่า...ถามไถ่ข้อมูล...แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกัน
นับเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก...กับมิตรภาพ...ของพี่ๆ น้องๆ ที่ไม่มีสิ่งใดมากั้นเราไว้....ความรู้สึกอบอุ่นและผูกพันเริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ....จนอยากจะหมุนเวลากลับไปยังวันแรกที่เราได้พบและเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน..
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา....คืนนั้นกว่าพวกเราพี่ๆ น้องๆ จะแยกย้ายกันไปได้...ก็ต้องอาศัยประกาศิตจากระเบียบของการรถไฟ...ที่ว่าหลังสี่ทุ่ม...ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นและประตูตู้นอนระหว่างโบกี้จะปิดล๊อก...ขอเชิญท่านทั้งหลายกลับที่หลับนอน...ของท่านตามตู้โบกี้โดยสวัสดิภาพ.....นะจ้ะ...อิ๊อิ
ลูกพิ้ง:
วันที่ 16 มกราคม 2550
ในยามเช้า....เวลาของจากกันก็เริ่มต้นขึ้น....พี่ๆ น้องๆ....ต่างสวัสดียามเช้าและโบกมือลาให้กับพี่ๆ น้องๆ ที่ทยอยกันลงตามสถานีรถไฟ....ที่เป็นเป้าหมาย....แล้วต่างก็จะแยกย้ายเพื่อไปปฏิบัติภารกิจ...ความรับผิดชอบ...ที่กำลังรอหลายๆ คนอยู่....เช่นเดียวกัน....
.
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ...ของพี่ๆ น้องๆ ชาวหอซีมะโด่ง.... ตลอดสามวันของการท่องเที่ยว...สองคืนในตู้รถไฟ...คงเป็นความประทับใจที่มาร่วมสุข...และสนุกร่วมกัน....เป็นแน่แท้.......จนบางทีมันก็ยากที่จะบรรยายออกมาจนกว่า.....จะลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง...นะจ้ะ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว