ภาพจากทริปนี้ครับ
ลูกพิ้ง:
เอ้าไปกันต่อที่อาคารปลูกพืชไร้ดิน มีการแสดงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินใช้อุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยในการปลูกได้ดีเลยทีเดียว ตรงกันข้ามกับอาคารนี้เราได้พบกับอาคารรูปโดมที่เรียกว่า โดมพรรณไม้เขตร้อนชื้นหายาก ที่นี่ล่ะพรรณไม้เด่นที่น่าสนใจมาประชันกันอยู่ที่นี่เพียบเลย อาทิ โวเลเมียพายหรือต้นสน
ดึกดำบรรพ์ เฟิร์นแคระ ปาล์มศรีสยาม ใครมาเที่ยวงานนี้ไม่ได้ดูไฮไลต์ตามสวนที่กล่าวมาที่ว่าน่าเสียดายเหมือนกัน เนอะ
อ้าว ดูเวลาอีกที....เฮ้ย...มันจะบ่ายโมงอีกแล้ว...เรารีบจากไกด์และกลุ่มที่เราร่วมทางมาด้วยกันด้วยความเสียดาย....แม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความรู้ที่เราได้รับจากไกด์
มันมีคุณค่า ทำให้เราได้รู้จักและเข้าใจลักษณะชนิดของพรรณไม้มากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามต้องเอ่ยถึงพี่สิงห์13 ที่ได้บอกกล่าวให้เราได้มีโอกาสไปร่วมเดินชมสวนกับกรมวิชาการเกษตร
มิฉะนั้นการเที่ยวงานพืชสวนโลกครั้งนี้คงไม่ได้ความรู้และการได้เดินชมอย่างทั่วถึงในสวนไทยอย่างทั่วถึงเป็นแน่แท้ ขอบคุณพี่สิงห์มากเลยค่ะ
ลูกพิ้ง:
บ่ายโมงล้อหมุน.....คราวนี้ชาวหอซีมะโด่งส่วนหนึ่งก็พร้อมใจกันลี้ภัยแดดจากงานพืชสวนโลกในยามบ่ายต่างก็มาเจอกัน พี่ๆ ซีมะโด่ง หลายคนที่อยู่รถอีกคันก็มารวมตัวกันเพราะคราวนี้เราเดินทางด้วยรถบัส 1 คัน เพื่อไปยังอำเภอแม่ริม อันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ ระหว่างการเดินทางพี่ปิ้ง07 ก็ได้มาให้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับพระตำหนักแห่งนี้
นอกจากนี้แล้วพี่สิงห์ก็ได้ครวญเพลงคืนนี้พี่คอยเจ้า ด้วยความไพเราะ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี....... เพลงเดียวยังไม่พอ...... เมื่อพี่ปุ๊กกี๊ขอให้พี่สิงห์ร้องเพลงให้เป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิดของน้องวิน พี่สิงห์ได้ขับร้องเพลงค่าน้ำนม คงความซาบซึ้งใจให้ทุกคนเป็นยิ่งนัก
ลูกพิ้ง:
เวลาบ่ายสองโมงตรงรถบัสพาพวกเรามาถึงยังพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ ที่ตั้งอยู่ในค่ายดารารัศมี พวกเราลงจากรถและขึ้นไปยังด้านบนของพระตำหนัก ที่ห้องโถงทางเดินพวกเราได้รวมตัวกันนั่งพับเพียบฟังไกด์ที่เล่าพระประวัติพระราชชายาดารารัศมี พระองค์เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้าดารารัศมีเป็นเจ้าจอมที่เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมากองค์หนึ่ง เพราะนอกจากเจ้าดารารัศมีมีพระอัธยาศัยอันงดงามแล้ว ยังทรงเป็นผู้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระบรมราชวงศ์จักรีกับดินแดนล้านนา
พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าดารารัศมีทรงใช้พระตำหนักหลังนี้ปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการทั้งทางด้านเกษตร และศิลปะวัฒนธรรม อาทิ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทรงฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมล้านนาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเหนือ
ลูกพิ้ง:
ที่นี่อยู่ในความดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งได้ซื้อที่ดินดังกล่าวต่อจากทายาทของเจ้าดารารัศมี เมื่อปี พ.ศ 2492 และได้ทำการบูรณะเมื่อปี พ.ศ 2541 พระตำหนักดาราภิรมย์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์งดงามใกล้เคียงกับสภาพเดิมเมื่อกาลก่อน เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ในวันที่ 9 ธันวาคม 2542 พระตำหนักดาราภิรมย์เป็นพระตำหนักที่ประทับสุดท้ายที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงรักและผูกพันอย่างยิ่ง
จากนั้นพวกเราก็ได้เยี่ยมชมห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์ ได้แก่ ห้องรับแขกและห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ด้านการศาสนา ด้านการเกษตร และด้านศิลปะศาสตร์ ห้องจัดแสดงชุดเครื่องทรง ผ้าทอที่พระราชชายาฯทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอ ชุดการแสดงที่พระราชชายาฯได้ทรงฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ และห้องสรง เป็นที่น่าเสียดายเหลือเกินที่ฉันไม่สามารถเก็บภาพห้องต่างๆ เหล่านี้มาฝากแกได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ แต่ไม่เป็นไร......ฉันมีภาพพระตำหนักภายนอกมาฝากจ้ะพร้อมกับภาพดอกกุหลาบดอกใหญ่สีชมพู ซึ่งพระราชชายาเจ้าดารัศมีทรงตั้งชื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แต่พระบรมราชสวามีว่า “จุฬาลงกรณ์”
ลูกพิ้ง:
จากนั้นพวกเราก็ได้ถ่ายรูปร่วมกันที่อนุสาวรีย์พระราชชายาดารารัศมี ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของพระตำหนักและเดินไปขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
แต่แล้วก็มีสิ่งล่อใจที่หยุดพวกเราไว้....ก่อนจะขึ้นรถบัส เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ขายไอศกรีมมาจอดเทียบท่า โดยเฉพาะน้องๆ ไม่รอช้ากรูกันไปรุมรอบรถเพื่อสั่งไอศกรีมมาทานกัน คงไม่ต้องบรรยายถึงความน่ากินของไอศกรีม...........ซึ่งทำให้พี่ๆ หลายคนอดใจไม่ไหวต้องลงจากรถบัสมาต่อแถวกินไอติมมั่งดีกว่า..........ฮา........... งานนี้เลยได้เห็นทั้งพี่ๆ น้องๆ ทานไอศกรีมกันอย่างเอร็ดอร่อย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว