ภาพจากทริปนี้ครับ

<< < (12/21) > >>

ลูกพิ้ง:
เอ้าไปกันต่อที่อาคารปลูกพืชไร้ดิน  มีการแสดงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินใช้อุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยในการปลูกได้ดีเลยทีเดียว            ตรงกันข้ามกับอาคารนี้เราได้พบกับอาคารรูปโดมที่เรียกว่า โดมพรรณไม้เขตร้อนชื้นหายาก   ที่นี่ล่ะพรรณไม้เด่นที่น่าสนใจมาประชันกันอยู่ที่นี่เพียบเลย  อาทิ  โวเลเมียพายหรือต้นสน
ดึกดำบรรพ์  เฟิร์นแคระ  ปาล์มศรีสยาม  ใครมาเที่ยวงานนี้ไม่ได้ดูไฮไลต์ตามสวนที่กล่าวมาที่ว่าน่าเสียดายเหมือนกัน เนอะ

 อ้าว  ดูเวลาอีกที....เฮ้ย...มันจะบ่ายโมงอีกแล้ว...เรารีบจากไกด์และกลุ่มที่เราร่วมทางมาด้วยกันด้วยความเสียดาย....แม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความรู้ที่เราได้รับจากไกด์
 มันมีคุณค่า  ทำให้เราได้รู้จักและเข้าใจลักษณะชนิดของพรรณไม้มากเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามต้องเอ่ยถึงพี่สิงห์13 ที่ได้บอกกล่าวให้เราได้มีโอกาสไปร่วมเดินชมสวนกับกรมวิชาการเกษตร    
มิฉะนั้นการเที่ยวงานพืชสวนโลกครั้งนี้คงไม่ได้ความรู้และการได้เดินชมอย่างทั่วถึงในสวนไทยอย่างทั่วถึงเป็นแน่แท้  ขอบคุณพี่สิงห์มากเลยค่ะ

ลูกพิ้ง:
บ่ายโมงล้อหมุน.....คราวนี้ชาวหอซีมะโด่งส่วนหนึ่งก็พร้อมใจกันลี้ภัยแดดจากงานพืชสวนโลกในยามบ่ายต่างก็มาเจอกัน   พี่ๆ ซีมะโด่ง หลายคนที่อยู่รถอีกคันก็มารวมตัวกันเพราะคราวนี้เราเดินทางด้วยรถบัส  1  คัน  เพื่อไปยังอำเภอแม่ริม  อันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์  ระหว่างการเดินทางพี่ปิ้ง07 ก็ได้มาให้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับพระตำหนักแห่งนี้  

นอกจากนี้แล้วพี่สิงห์ก็ได้ครวญเพลงคืนนี้พี่คอยเจ้า  ด้วยความไพเราะ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี.......  เพลงเดียวยังไม่พอ......  เมื่อพี่ปุ๊กกี๊ขอให้พี่สิงห์ร้องเพลงให้เป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิดของน้องวิน  พี่สิงห์ได้ขับร้องเพลงค่าน้ำนม  คงความซาบซึ้งใจให้ทุกคนเป็นยิ่งนัก

ลูกพิ้ง:
เวลาบ่ายสองโมงตรงรถบัสพาพวกเรามาถึงยังพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์  ที่ตั้งอยู่ในค่ายดารารัศมี    พวกเราลงจากรถและขึ้นไปยังด้านบนของพระตำหนัก  ที่ห้องโถงทางเดินพวกเราได้รวมตัวกันนั่งพับเพียบฟังไกด์ที่เล่าพระประวัติพระราชชายาดารารัศมี   พระองค์เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่  เจ้าดารารัศมีเป็นเจ้าจอมที่เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมากองค์หนึ่ง เพราะนอกจากเจ้าดารารัศมีมีพระอัธยาศัยอันงดงามแล้ว ยังทรงเป็นผู้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระบรมราชวงศ์จักรีกับดินแดนล้านนา

 พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าดารารัศมีทรงใช้พระตำหนักหลังนี้ปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการทั้งทางด้านเกษตร และศิลปะวัฒนธรรม อาทิ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทรงฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมล้านนาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเหนือ



ลูกพิ้ง:
ที่นี่อยู่ในความดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งได้ซื้อที่ดินดังกล่าวต่อจากทายาทของเจ้าดารารัศมี  เมื่อปี พ.ศ 2492  และได้ทำการบูรณะเมื่อปี พ.ศ 2541  พระตำหนักดาราภิรมย์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์งดงามใกล้เคียงกับสภาพเดิมเมื่อกาลก่อน เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ในวันที่  9  ธันวาคม  2542   พระตำหนักดาราภิรมย์เป็นพระตำหนักที่ประทับสุดท้ายที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงรักและผูกพันอย่างยิ่ง

จากนั้นพวกเราก็ได้เยี่ยมชมห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์  ได้แก่ ห้องรับแขกและห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย   ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี  ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ด้านการศาสนา ด้านการเกษตร และด้านศิลปะศาสตร์   ห้องจัดแสดงชุดเครื่องทรง ผ้าทอที่พระราชชายาฯทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอ ชุดการแสดงที่พระราชชายาฯได้ทรงฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ  และห้องสรง  เป็นที่น่าเสียดายเหลือเกินที่ฉันไม่สามารถเก็บภาพห้องต่างๆ เหล่านี้มาฝากแกได้  เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ   แต่ไม่เป็นไร......ฉันมีภาพพระตำหนักภายนอกมาฝากจ้ะพร้อมกับภาพดอกกุหลาบดอกใหญ่สีชมพู  ซึ่งพระราชชายาเจ้าดารัศมีทรงตั้งชื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แต่พระบรมราชสวามีว่า “จุฬาลงกรณ์”

ลูกพิ้ง:
จากนั้นพวกเราก็ได้ถ่ายรูปร่วมกันที่อนุสาวรีย์พระราชชายาดารารัศมี  ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของพระตำหนักและเดินไปขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป  

แต่แล้วก็มีสิ่งล่อใจที่หยุดพวกเราไว้....ก่อนจะขึ้นรถบัส    เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ขายไอศกรีมมาจอดเทียบท่า   โดยเฉพาะน้องๆ ไม่รอช้ากรูกันไปรุมรอบรถเพื่อสั่งไอศกรีมมาทานกัน  คงไม่ต้องบรรยายถึงความน่ากินของไอศกรีม...........ซึ่งทำให้พี่ๆ หลายคนอดใจไม่ไหวต้องลงจากรถบัสมาต่อแถวกินไอติมมั่งดีกว่า..........ฮา...........  งานนี้เลยได้เห็นทั้งพี่ๆ น้องๆ ทานไอศกรีมกันอย่างเอร็ดอร่อย  









นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว