ภาพจากทริปนี้ครับ

<< < (10/21) > >>

ลูกพิ้ง:
อาทิตย์ที่ 14  มกราคม 2550

ยามเช้าของวันอาทิตย์ที่ลมหนาวของเมืองเหนือพัดผ่านมาแตะผิวกายหน่อยๆ   แกเอ๋ย....เหมือนจะหนาวไปถึงหัวใจนิดนึงนะ   เอ........แล้วแกล่ะจะรู้สึกเหมือนกันกับฉันรึเปล่าน๊า    อยากรู้จัง............  

 เช้านี้เราดื่มด่ำกับอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ทุกคนเติมพลังกันอย่างเต็มที่กับอาหารเช้าทั้งแบบไทยและฝรั่ง   ทีมละอ่อนน้อยก็ได้แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้กับน้องวิน  กวินหนุ่มน้อยที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันนี้   สุขสันต์วันปีใหม่ของชีวิตนะจ้ะ  น้องวิน

ลูกพิ้ง:
ได้เวลาล้อหมุนแปดโมงเช้ากว่าๆ รถคันที่ 1 และคันที่ 2  วิ่งตามกันไปมุ่งหน้าไปสู่งานพืชสวนโลกอีกครั้ง  ในรถคันที่ 1 พี่สิงห์13 ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพวกเราในการเที่ยวงานในวันนี้  และพิเศษสุดมีการนำเสนอโปรแกรมใหม่ในยามบ่ายของทริปนี้  ซึ่งเดิมในโปรแกรมได้จัดให้เราได้อยู่ในงานตลอดทั้งวัน  

แต่ทว่าหากเราไม่ได้ต้องการดื่มด่ำกำซาบกับเหล่าพรรณไม้ที่คล้ายมาจัดสวนมาโชว์มากนัก  เพราะอากาศยามเที่ยงและยามบ่ายละม้ายคล้ายกับเดินอยู่กลางทะเลทราย ถึงแม้ว่าจะมีโอเอซิสเป็นอาคารในร่มอยู่บ้าง  แต่ถ้าเราต้องการซาบซึ้งกับงานนี้แบบคิดว่ายังไงก็จะไม่มาอีกแล้ว......ก็เชิญเลยจ้ะ (ไม่เชื่อลองถามน้องเฉด40 ได้ว่าบรรยากาศการได้ดื่มด่ำกับงานพืชสวนโลกตั้งแต่เช้ายันเย็นเป็นเช่นไร......)  

ดังนั้นทางเลือกใหม่ของพวกเราในยามบ่ายก็คือการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์และสวนอะไรสักอย่างนี่ล่ะ(โทษทีทันจำไม่ได้จริงจริงจ้าเพราะมัวแต่ดูวิวเพลินอยู่)  ซึ่งพี่สิงห์ก็ให้ข้อมูลว่าสวนที่ว่าสวยและบรรยากาศดีไม่แพ้ในงานพืชสวนโลกเลยทีเดียว แล้วโปรแกรมหลังจากนั้นเราก็จะกลับมาดูการแสดงแสงสีแห่งรัตติกาลในยามค่ำคืนที่งานพืชสวนโลกกันอีกในยามเย็น  




ลูกพิ้ง:
เก้าโมงเช้ากว่าๆ รถวิ่งมาถึงงานพืชสวนโลกที่เราเคยมาเยือนเมื่อวันวานอีกครั้ง  ก่อนเข้าไปสู่บริเวณงานฉันเห็นเนินหนึ่งเนินสูงโดดเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล   ที่ใครมาก็ต้องสะดุดตากับต้นอะไรหว่าปลูกอยู่ที่นั่น      มันคือต้นราชพฤกษ์หนึ่งต้นที่ปลูกบนเนินราชพฤกษ์ที่สูงคล้ายกับภูเขาลูกหย่อมๆ จ้ะ     เมื่อวานลืมเล่าแกไปทีมละอ่อนน้อยไปเป็นผู้พิชิตเนินดังกล่าวที่ว่ามาแล้วตั้งแต่วันแรกไปถึงมาแล้วจ้ะ    บนนั้นพวกเราได้เห็นบรรยากาศของงานสุดลูกหูลูกตามีแผ่นฟ้าสีครามโอบล้อมอยู่อย่างสวยงามจริงจริง ตรงบริเวณทางเข้างานก็มีต้นปาล์มขวด ต้นไม้ขนาดยักษ์ปลูกอยู่ด้วย   เอ้า........ถ่ายรูปให้เห็นทั้งคน.......เห็นลำต้น........โน่นเลย....เห็นยอดมันด้วย........จะแจ่มเลยจ้า

เนื่องจากเป็นเวลาเช้ารถคันที่ 1 ของพวกเราเลยได้จอดในตำแหน่งที่ดีมาก  หากเดินมาจากออกปุ๊บก็ตรงมาได้เล้ยเยี่ยมจริงจริง  คือ  ยังงี้จ้ะทางผู้จัดงานเค้ามีจุดจอดรถที่กว้างขวางมาก  โดยเฉพาะรถบัสเนี่ย  เราต้องจำตำแหน่งที่จอดให้ดี....มิฉะนั้นก็หลงทางเสียเวลา.......ปล่อยให้พี่ๆ.......รอนานเลยทีเดียว..... (อันนี้กลุ่มละอ่อนน้อยติดอันดับทุกครั้ง  สงสัยเด็กๆจำที่จำทางไม่ค่อยได้....นะค่ะพี่ๆ เลยหลงกัน.........อยู่บ่อยๆ........ฮา...........)

ลูกพิ้ง:
เช้าวันนี้ก็เช่นเดิมพวกเราตั้งขบวนเรียงแถวเข้างานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย  
อ๊ะอ๊ะ........ช้าก่อน.........มาเที่ยวกันเยอะๆ ขนาดนี้ต้องชักภาพเป็นหมู่คณะประกาศ
ความยิ่งใหญ่อลังการของชาวคณะของซีมะโด่งราชพฤกษ์ทัวร์ซะก่อนจ้า........ว่าแล้ว
พวกเราแปดสิบกว่าชีวิตก็ตั้งแถวถ่ายภาพหมู่ร่วมกันตรงบริเวณซุ้มประตูที่มีรูปปั้นช้างสีขาวอยู่
เบื้องหลัง  เอ้า  นึง  ซอง  ซ้าม.......(นับต่อดิ)..........เย้........แล้วพวกเราก็ยิ้มให้กล้องพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย........จริงป่ะเนี่ย.......ลองดูภาพประกอบสิจ้ะ........อิ๊อิ..........  

ลูกพิ้ง:
หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปตามอัธยาศัย    แต่ไม่ลืมที่จะจำไว้ว่าหากเราจะไปโปรแกรมที่ได้เสนอไว้ในบ่ายนี้ก่อนออกจากงานเราต้องประทับตราที่ข้อมือตอนออกอีกครั้ง และพร้อมกันที่รถตอนบ่ายโมงนะจ้ะ  จำไว้ให้ดีล่ะ  อ้อ วันนี้รายการพรากผู้เยาว์จากอ้อมอกพี่แอกะพี่ปิ๊ดก็เกิดขึ้นเจ้าค่ะ  เมื่อน้องวินก็มารวมกลุ่มเที่ยวกะพวกเราด้วยท่าทางจะติดใจกับความมันส์ที่ได้ไปตระเวณราตรีซิตี้ทัวร์กับพี่ๆ  แน่แน่เล้ยใช่ม๊า  น้องวิน อิ๊อิ

  ยามเช้าวันนี้พวกเราส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งตรงไปยังหอคำหลวง      ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของงานนี้  หอคำหลวงยามมองไกลๆ ก็สวยแล้ว  ยิ่งได้มองดูใกล้ๆ  ก็ได้สัมผัสถึงสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์อันวิจิตรงดงามอันเป็นสุดยอดของช่างฝีมือชาวล้านนา  ภายในมีภาพจิตรกรรมลงรักปิดทองลายกำมะลอโทนสีแดง เทา ทองและมีต้นบรมโพธิสมภาร  องค์ประธานของหอคำหลวง ให้พวกเราได้ชื่นชมอีกด้วย  

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว