ภาพจากทริปนี้ครับ
ลูกพิ้ง:
อาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2550
ยามเช้าของวันอาทิตย์ที่ลมหนาวของเมืองเหนือพัดผ่านมาแตะผิวกายหน่อยๆ แกเอ๋ย....เหมือนจะหนาวไปถึงหัวใจนิดนึงนะ เอ........แล้วแกล่ะจะรู้สึกเหมือนกันกับฉันรึเปล่าน๊า อยากรู้จัง............
เช้านี้เราดื่มด่ำกับอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ทุกคนเติมพลังกันอย่างเต็มที่กับอาหารเช้าทั้งแบบไทยและฝรั่ง ทีมละอ่อนน้อยก็ได้แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้กับน้องวิน กวินหนุ่มน้อยที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันนี้ สุขสันต์วันปีใหม่ของชีวิตนะจ้ะ น้องวิน
ลูกพิ้ง:
ได้เวลาล้อหมุนแปดโมงเช้ากว่าๆ รถคันที่ 1 และคันที่ 2 วิ่งตามกันไปมุ่งหน้าไปสู่งานพืชสวนโลกอีกครั้ง ในรถคันที่ 1 พี่สิงห์13 ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพวกเราในการเที่ยวงานในวันนี้ และพิเศษสุดมีการนำเสนอโปรแกรมใหม่ในยามบ่ายของทริปนี้ ซึ่งเดิมในโปรแกรมได้จัดให้เราได้อยู่ในงานตลอดทั้งวัน
แต่ทว่าหากเราไม่ได้ต้องการดื่มด่ำกำซาบกับเหล่าพรรณไม้ที่คล้ายมาจัดสวนมาโชว์มากนัก เพราะอากาศยามเที่ยงและยามบ่ายละม้ายคล้ายกับเดินอยู่กลางทะเลทราย ถึงแม้ว่าจะมีโอเอซิสเป็นอาคารในร่มอยู่บ้าง แต่ถ้าเราต้องการซาบซึ้งกับงานนี้แบบคิดว่ายังไงก็จะไม่มาอีกแล้ว......ก็เชิญเลยจ้ะ (ไม่เชื่อลองถามน้องเฉด40 ได้ว่าบรรยากาศการได้ดื่มด่ำกับงานพืชสวนโลกตั้งแต่เช้ายันเย็นเป็นเช่นไร......)
ดังนั้นทางเลือกใหม่ของพวกเราในยามบ่ายก็คือการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์และสวนอะไรสักอย่างนี่ล่ะ(โทษทีทันจำไม่ได้จริงจริงจ้าเพราะมัวแต่ดูวิวเพลินอยู่) ซึ่งพี่สิงห์ก็ให้ข้อมูลว่าสวนที่ว่าสวยและบรรยากาศดีไม่แพ้ในงานพืชสวนโลกเลยทีเดียว แล้วโปรแกรมหลังจากนั้นเราก็จะกลับมาดูการแสดงแสงสีแห่งรัตติกาลในยามค่ำคืนที่งานพืชสวนโลกกันอีกในยามเย็น
ลูกพิ้ง:
เก้าโมงเช้ากว่าๆ รถวิ่งมาถึงงานพืชสวนโลกที่เราเคยมาเยือนเมื่อวันวานอีกครั้ง ก่อนเข้าไปสู่บริเวณงานฉันเห็นเนินหนึ่งเนินสูงโดดเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ที่ใครมาก็ต้องสะดุดตากับต้นอะไรหว่าปลูกอยู่ที่นั่น มันคือต้นราชพฤกษ์หนึ่งต้นที่ปลูกบนเนินราชพฤกษ์ที่สูงคล้ายกับภูเขาลูกหย่อมๆ จ้ะ เมื่อวานลืมเล่าแกไปทีมละอ่อนน้อยไปเป็นผู้พิชิตเนินดังกล่าวที่ว่ามาแล้วตั้งแต่วันแรกไปถึงมาแล้วจ้ะ บนนั้นพวกเราได้เห็นบรรยากาศของงานสุดลูกหูลูกตามีแผ่นฟ้าสีครามโอบล้อมอยู่อย่างสวยงามจริงจริง ตรงบริเวณทางเข้างานก็มีต้นปาล์มขวด ต้นไม้ขนาดยักษ์ปลูกอยู่ด้วย เอ้า........ถ่ายรูปให้เห็นทั้งคน.......เห็นลำต้น........โน่นเลย....เห็นยอดมันด้วย........จะแจ่มเลยจ้า
เนื่องจากเป็นเวลาเช้ารถคันที่ 1 ของพวกเราเลยได้จอดในตำแหน่งที่ดีมาก หากเดินมาจากออกปุ๊บก็ตรงมาได้เล้ยเยี่ยมจริงจริง คือ ยังงี้จ้ะทางผู้จัดงานเค้ามีจุดจอดรถที่กว้างขวางมาก โดยเฉพาะรถบัสเนี่ย เราต้องจำตำแหน่งที่จอดให้ดี....มิฉะนั้นก็หลงทางเสียเวลา.......ปล่อยให้พี่ๆ.......รอนานเลยทีเดียว..... (อันนี้กลุ่มละอ่อนน้อยติดอันดับทุกครั้ง สงสัยเด็กๆจำที่จำทางไม่ค่อยได้....นะค่ะพี่ๆ เลยหลงกัน.........อยู่บ่อยๆ........ฮา...........)
ลูกพิ้ง:
เช้าวันนี้ก็เช่นเดิมพวกเราตั้งขบวนเรียงแถวเข้างานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
อ๊ะอ๊ะ........ช้าก่อน.........มาเที่ยวกันเยอะๆ ขนาดนี้ต้องชักภาพเป็นหมู่คณะประกาศ
ความยิ่งใหญ่อลังการของชาวคณะของซีมะโด่งราชพฤกษ์ทัวร์ซะก่อนจ้า........ว่าแล้ว
พวกเราแปดสิบกว่าชีวิตก็ตั้งแถวถ่ายภาพหมู่ร่วมกันตรงบริเวณซุ้มประตูที่มีรูปปั้นช้างสีขาวอยู่
เบื้องหลัง เอ้า นึง ซอง ซ้าม.......(นับต่อดิ)..........เย้........แล้วพวกเราก็ยิ้มให้กล้องพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย........จริงป่ะเนี่ย.......ลองดูภาพประกอบสิจ้ะ........อิ๊อิ..........
ลูกพิ้ง:
หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปตามอัธยาศัย แต่ไม่ลืมที่จะจำไว้ว่าหากเราจะไปโปรแกรมที่ได้เสนอไว้ในบ่ายนี้ก่อนออกจากงานเราต้องประทับตราที่ข้อมือตอนออกอีกครั้ง และพร้อมกันที่รถตอนบ่ายโมงนะจ้ะ จำไว้ให้ดีล่ะ อ้อ วันนี้รายการพรากผู้เยาว์จากอ้อมอกพี่แอกะพี่ปิ๊ดก็เกิดขึ้นเจ้าค่ะ เมื่อน้องวินก็มารวมกลุ่มเที่ยวกะพวกเราด้วยท่าทางจะติดใจกับความมันส์ที่ได้ไปตระเวณราตรีซิตี้ทัวร์กับพี่ๆ แน่แน่เล้ยใช่ม๊า น้องวิน อิ๊อิ
ยามเช้าวันนี้พวกเราส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งตรงไปยังหอคำหลวง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของงานนี้ หอคำหลวงยามมองไกลๆ ก็สวยแล้ว ยิ่งได้มองดูใกล้ๆ ก็ได้สัมผัสถึงสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์อันวิจิตรงดงามอันเป็นสุดยอดของช่างฝีมือชาวล้านนา ภายในมีภาพจิตรกรรมลงรักปิดทองลายกำมะลอโทนสีแดง เทา ทองและมีต้นบรมโพธิสมภาร องค์ประธานของหอคำหลวง ให้พวกเราได้ชื่นชมอีกด้วย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว