ภาพจากทริปนี้ครับ
ลูกพิ้ง:
และแล้วแท็กซี่ก็พาพวกเรามาถึงหัวลำโพงได้ในเวลาเกือบ 1 ทุ่ม พี่แท็กซี่จอดรถจ่อท้ายรถที่มาส่งพี่อ๋า 14 ประธานชมรมและพี่จิ๋ม ภรรยา พอดิบพอดี พวกเราก็เลยได้เข้าไปพร้อมกับพี่ทั้งสอง พอเดินเข้าไปยังชานชลา เอ๊ะ แล้วน้องพี่ซีมะโด่งอยู่ไหนกันหมดเนี่ย ไหงมีแต่ป้ายทริปราชพฤกษ์ของหมอศิริราชล่ะ และแล้วพี่ปู ปาริชาติก็เดินตรงมาอยู่โบกี้นี้กันค่ะ เล่นเอาฉันกับพี่ปุ๊กกี้เกือบจะไปราชพฤกษ์กับทริปอื่นเสียแล้วไม่ล่ะ ฮา..........
ขึ้นไปบนโบกี้เจอะเจอกับพี่ๆ ซีมะโด่งทั้งคุ้นหน้าคุ้นตา....และพี่ๆ ท่านใหม่.....ที่เราจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน อดตื่นเต้นซะมิมี......เอ๊ะ.......เราจะโดนรับน้องรถไฟมั้ยหนอ.........แกรู้ใช่มั้ยล่ะ........น้องใหม่อย่างพวกเราและพี่ใหม่ (หมายถึงพี่ๆ.....ทุกคนล่ะ เข้าใจมั้ยน๊า อิ๊อิ)
แต่ละคนต่างก็มีป้ายชื่อคล้องคอเหมือนก็ตอนที่พวกเรารับน้องใหม่กันยังไงล่ะ ป้ายบอกชื่อ คณะและรุ่นของตัวเอง เดาเอาว่าพี่ๆ รุ่น 14 (ผู้จัดทริปนี้) คงอยากสลับตัวเลขสองตัวนี้ให้เหมือนน้องน้อยซีมะโด่ง 41 รุ่นเล็กสุดเป็นแน่แท้ ฮา........... แล้วฉันก็ได้ยินต่างคนต่างก็ทักทายและแนะนำตัวกันใหญ่เชียวล่ะ
เข็มกลัดที่ระลึกงานนี้ อาจารย์เผ่าติดที่หน้าหมวกเลยค่ะ เห็นมาแต่ไกล
ลูกพิ้ง:
ทุ่มสี่สิบรถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีหัวลำโพง ทริปนี้สมาชิกรวม 84 คน รถนอนแอร์ 2 โบกี้ที่ทำให้เราไปมาหาสู่กันได้โดยง่าย อยากเจอใครทักทายกันได้เลยโบกี้ 7 กะ 8 จ้า
แกอยากรู้ล่ะสิว่าซีมะโด่งรุ่นไหนเกี่ยวก้อยไปกันบ้างบอกได้เลยว่ามีตั้งแต่รุ่นพี่ที่เข้าจุฬา 2492 ...95….96 ต๊กกะใจละซี ขอบอกเลยว่าพี่แต่ละคนสปิริตแรงกล้า...เที่ยวทุกที่และร่วมทุกกิจกรรมไม่มีเว้นเลยล่ะจ้ะ ชื่นชมพี่ๆ ทุกคนเลย โดยเฉพาะพี่ทองอู่ งานนี้พวกเราเที่ยวไปที่ไหน พี่ทองอู่และองครักษ์ก็ไปด้วย เย้ เย้
ไล่ลงถึงมารุ่นโครมันยอง 07- 08-09 ที่พี่ปิ้งได้สถาปนาขึ้น ตามด้วยรุ่น........สิบยังแจ๋ว 10, 11,13 ,14,15,16,17,18 ตามติดด้วยรุ่นยังแอทฮาร์ท 20,22 ตบท้ายด้วยรุ่นละอ่อนน้อย.........ผู้ร่วมสร้างสีสันให้กับทริปนี้ ขอจารึกชื่อไว้หน่อยล่ะค่ะ น้องปุ๊กกี้35
น้องแอนและเอ39 น้องเฟิร์สและเฉด40 น้องรุ่น41 น้องออย,อ๋อย (ปล.เกือบพิมพ์ชื่อพี่อ้อย14 ไปแล้วมั้ยล่ะ จะได้ผันตามเสียงวรรณยุกต์ซะเลย ฮา...........)
อ้อ! ไม่มีทางที่จะลืมน้องน้อยที่แจ้งเกิดในงานนี้.........น้องชาร์ป41 ชายหนุ่มโสดที่แสนดี.....อบอุ่น.....โรแมนติก แต่.....ไม่มีใคร.........(พี่ๆ ค่ะ บ้านไหนมีลูกสาว...หลานสาว...โปรดรับหนุ่มน้อยคนนี้ไว้ในอ้อมใจ............ ไว้พิจารณาด้วยเถิดค่ะ...........ฮิ้ว.........)
ลูกพิ้ง:
บนขบวนรถไฟในวันนั้น พี่อี๊ด14และพี่ตุ๊14 ก็คอยดูแล ให้พวกเราแจกจ่ายอาหารกล่องให้กับพี่ๆ เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน หลังจากอิ่มกันแล้วอาจารย์เผ่าได้นำเสื้อเชียร์ฟุตบอลประเพณีมาจำหน่ายและให้พวกเราเร่ขายไปตามตู้รถไฟกันด้วย พี่ๆ รีบจับจองกันยกใหญ่ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณอาจารย์เผ่ามากค่ะที่ได้นำของหายาก.........มาให้พวกเรา เพราะได้ข่าวว่าทางกรุงเทพฯ สินค้านี้ ดีมานด์และซัพพลายสูงมาก พี่ๆ หลายคนชื่นชมกับเสื้อฟุตบอลที่ออกแบบมาแล้วก้อนัดกันใส่ในวันพรุ่งนี้เลยล่ะ
ดึกแล้วหลายที่นั่งก็แปลงสภาพเป็นเตียงนอนชั้นบนชั้นล่าง พี่ๆ หลายคนก็เริ่มเอนกายานอนหลับพักผ่อนกันแล้ว ฉันก็ปีนบันไดขึ้นไปนอนบนเตียงบน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้ามาลอดอุโมงค์ถ้ำขุนตานกับดูรอดูสะพานทรงโค้งสีขาวที่คล้ายกับสะพานรัษฎาภิเษกที่ตัวเมืองลำปาง ฉันเคยอ่านในหนังสือท่องเที่ยว เจอน่ะ เห็นบอกว่าสะพานที่รถไฟจะวิ่งผ่านนี้อยู่ใกล้กับสถานีแม่ทาลำพูนดีกว่า ว่าแล้วฉันก็ผล๊อยหลับไป
ลูกพิ้ง:
เสาร์ที่ 13 มกราคม 2550
ตื่นมาในยามเช้าตรู่ นี่มันหกโมงแล้ว ตื่นมาชมธรรมชาติสองข้างทางดีกว่า ว่าแล้วฉันก็ไต่บันไดลงมาจากเตียงนอนชั้นบน เห็นพี่ๆ หลายคนก็ตื่นกันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เริ่มมาจัดเตียงให้แปรสภาพเป็นเก้าอี้นั่งตามเดิม คราวนี้ล่ะฉันได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทางอย่างจุใจ
ฉันอยากให้แกมานั่งชิดขอบหน้าต่างแล้วมองไปที่วิวข้างทางกับฉันจัง เห็นโน่นไหม ทิวเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้ป่าบานเต็มต้น ลำธารที่อยู่เบื้องล่างยามรถไฟวิ่งผ่าน วิ้ดวิ้ว วี้ดวิ้ว จะลอดถ้ำขุนตานแล้ว มืดตีดตื๋อเล้ย แล้วรถไฟก็ลอดออกมาแล้ว เย้ แล้วก้อผ่านสะพานสีขาวโค้งที่แสนสวยงามแล้วจ้า วิวสองข้างทางมันโรแมนติกมั่กมาก รู้มั้ย......ตอนนี้แอบคิดถึงแกมากเลยล่ะ.......จะบอกให้
7 โมงครึ่งรถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนเข้าจอดที่สถานีนครลำปาง พร้อมกับการต้อนรับของพี่ๆ ซีมะโด่ง ลำปางด้วยพวงมาลัยคล้องคอที่งดงามและอาหารเช้าที่สุดแสนอร่อยภายใต้การกำกับของพี่ทองอู่ ที่ให้ทุกคนได้ลิ้มรสกับไส้อั่ว ข้าวมันไก่ ซาลาเปา ข้าวหลาม ข้าวเกรียบ ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ ของอร่อยที่ขึ้นชื่อของเมืองลำปาง ขอบคุณมั่กมากค่ะ น้องๆ กินกันเสียอิ่มแปล้เลยล่ะค่ะ
เมนูอาหารตอนเช้า ไม่ค่อยจะหนักเล๊ย
ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก ไม่เอาน่า อย่าคิดไปกันใหญ่...อิอิ :wink:
เมื่อความรัก "หวานชื่น" ระหว่าง เฉด วโรภาส กับ ชายไม่ทราบชื่อ
เมื่อรักนั้นกลายเป็น "ขม"
ลูกพิ้ง:
สิบโมงเช้าได้เวลารถไฟเทียบท่าเข้าสถานีเชียงใหม่ มีรถทัวร์ 2 คันมาจอดรอพวกเราอยู่แล้ว พวกเรารีบขนของและขึ้นรถตามเลขที่ที่ได้จัดไว้ พวกเรากระจายกันไปในแต่ละคัน กลุ่มละอ่อนน้อยอยู่รถคันที่ 1 ส่วนพี่ๆ ก็บ้างรวมรุ่นบ้างก็กระจายในแต่ละคัน รถคันที่ 1 มีพี่สิงห์13 เป็นหัวหน้าคอยให้ข้อมูลและเกร็ดความความรู้ต่างๆ พวกเราในรถคันนี้
อากาศเย็นสบายยามเช้าที่สถานีรถไฟเชียงใหม่เจ้า
เดิน ๆ เดินเถิดฤา นิสิตมหาจุฬาลงกรณ์
รถเคลื่อนพาพวกเรามุ่งหน้าไปยังโรงแรมสุริวงศ์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับไนต์บาซาร์ ถึงโรงแรมแล้วพวกเรีบขนของลงจากรถ เตรียมจะเช็คอินปรากฏว่ามีห้องไม่พอกับจำนวนพวกเราในขณะนี้ แต่ยังไงทุกคนก็อยากจะอาบน้ำก่อนไปเที่ยวในบ่ายนี้ พวกเราเลยต้องแบ่งกลุ่มกันไปอาบน้ำในห้องพักที่สามารถจะเช็คอินได้ก่อน แล้วมาทานข้าวกลางวันที่ห้องอาหารในโรงแรม แล้วจะออกไปเที่ยวงานพืชสวนโลก
ทั้งพี่ๆและน้องๆ กระจายกันไปอาบน้ำ ฉันมองเวลาแล้วยังมีเวลาพอที่ฉันจะเดินเที่ยวแถวบริเวณใกล้ๆ โรงแรมในยามเที่ยงวันได้ก่อน ใจหนึ่งก็อยากอาบน้ำใจหนึ่งก็อยากออกไปสำรวจบริเวณใกล้ ๆ โชคดีที่ฉันได้ไปอาบน้ำที่ห้องของพี่ๆ 14 อย่างทันใจและได้ออกไปเดินเที่ยวสมใจ ขอบคุณพี่แววตา พี่แอและพี่อีกหลายคนในห้องดังกล่าวที่ว่ามา มากเลยค่ะ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว