ภาพจากทริปนี้ครับ

<< < (5/21) > >>

ลูกพิ้ง:
และแล้วแท็กซี่ก็พาพวกเรามาถึงหัวลำโพงได้ในเวลาเกือบ 1  ทุ่ม พี่แท็กซี่จอดรถจ่อท้ายรถที่มาส่งพี่อ๋า 14  ประธานชมรมและพี่จิ๋ม  ภรรยา  พอดิบพอดี  พวกเราก็เลยได้เข้าไปพร้อมกับพี่ทั้งสอง  พอเดินเข้าไปยังชานชลา  เอ๊ะ  แล้วน้องพี่ซีมะโด่งอยู่ไหนกันหมดเนี่ย  ไหงมีแต่ป้ายทริปราชพฤกษ์ของหมอศิริราชล่ะ  และแล้วพี่ปู  ปาริชาติก็เดินตรงมาอยู่โบกี้นี้กันค่ะ  เล่นเอาฉันกับพี่ปุ๊กกี้เกือบจะไปราชพฤกษ์กับทริปอื่นเสียแล้วไม่ล่ะ  ฮา..........

ขึ้นไปบนโบกี้เจอะเจอกับพี่ๆ ซีมะโด่งทั้งคุ้นหน้าคุ้นตา....และพี่ๆ ท่านใหม่.....ที่เราจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน  อดตื่นเต้นซะมิมี......เอ๊ะ.......เราจะโดนรับน้องรถไฟมั้ยหนอ.........แกรู้ใช่มั้ยล่ะ........น้องใหม่อย่างพวกเราและพี่ใหม่ (หมายถึงพี่ๆ.....ทุกคนล่ะ  เข้าใจมั้ยน๊า  อิ๊อิ)

  แต่ละคนต่างก็มีป้ายชื่อคล้องคอเหมือนก็ตอนที่พวกเรารับน้องใหม่กันยังไงล่ะ  ป้ายบอกชื่อ  คณะและรุ่นของตัวเอง  เดาเอาว่าพี่ๆ รุ่น 14 (ผู้จัดทริปนี้)  คงอยากสลับตัวเลขสองตัวนี้ให้เหมือนน้องน้อยซีมะโด่ง 41 รุ่นเล็กสุดเป็นแน่แท้ ฮา........... แล้วฉันก็ได้ยินต่างคนต่างก็ทักทายและแนะนำตัวกันใหญ่เชียวล่ะ

เข็มกลัดที่ระลึกงานนี้ อาจารย์เผ่าติดที่หน้าหมวกเลยค่ะ เห็นมาแต่ไกล

ลูกพิ้ง:
ทุ่มสี่สิบรถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีหัวลำโพง     ทริปนี้สมาชิกรวม 84 คน  รถนอนแอร์  2  โบกี้ที่ทำให้เราไปมาหาสู่กันได้โดยง่าย  อยากเจอใครทักทายกันได้เลยโบกี้ 7 กะ 8 จ้า

 แกอยากรู้ล่ะสิว่าซีมะโด่งรุ่นไหนเกี่ยวก้อยไปกันบ้างบอกได้เลยว่ามีตั้งแต่รุ่นพี่ที่เข้าจุฬา  2492 ...95….96  ต๊กกะใจละซี  ขอบอกเลยว่าพี่แต่ละคนสปิริตแรงกล้า...เที่ยวทุกที่และร่วมทุกกิจกรรมไม่มีเว้นเลยล่ะจ้ะ   ชื่นชมพี่ๆ ทุกคนเลย  โดยเฉพาะพี่ทองอู่  งานนี้พวกเราเที่ยวไปที่ไหน  พี่ทองอู่และองครักษ์ก็ไปด้วย  เย้  เย้

ไล่ลงถึงมารุ่นโครมันยอง 07- 08-09  ที่พี่ปิ้งได้สถาปนาขึ้น  ตามด้วยรุ่น........สิบยังแจ๋ว 10, 11,13 ,14,15,16,17,18  ตามติดด้วยรุ่นยังแอทฮาร์ท   20,22  ตบท้ายด้วยรุ่นละอ่อนน้อย.........ผู้ร่วมสร้างสีสันให้กับทริปนี้  ขอจารึกชื่อไว้หน่อยล่ะค่ะ  น้องปุ๊กกี้35  
น้องแอนและเอ39  น้องเฟิร์สและเฉด40  น้องรุ่น41 น้องออย,อ๋อย (ปล.เกือบพิมพ์ชื่อพี่อ้อย14 ไปแล้วมั้ยล่ะ  จะได้ผันตามเสียงวรรณยุกต์ซะเลย ฮา...........)  

อ้อ! ไม่มีทางที่จะลืมน้องน้อยที่แจ้งเกิดในงานนี้.........น้องชาร์ป41    ชายหนุ่มโสดที่แสนดี.....อบอุ่น.....โรแมนติก  แต่.....ไม่มีใคร.........(พี่ๆ ค่ะ  บ้านไหนมีลูกสาว...หลานสาว...โปรดรับหนุ่มน้อยคนนี้ไว้ในอ้อมใจ............  ไว้พิจารณาด้วยเถิดค่ะ...........ฮิ้ว.........)





ลูกพิ้ง:
บนขบวนรถไฟในวันนั้น พี่อี๊ด14และพี่ตุ๊14 ก็คอยดูแล ให้พวกเราแจกจ่ายอาหารกล่องให้กับพี่ๆ เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน  หลังจากอิ่มกันแล้วอาจารย์เผ่าได้นำเสื้อเชียร์ฟุตบอลประเพณีมาจำหน่ายและให้พวกเราเร่ขายไปตามตู้รถไฟกันด้วย  พี่ๆ รีบจับจองกันยกใหญ่   ยังไงก็ต้องขอขอบคุณอาจารย์เผ่ามากค่ะที่ได้นำของหายาก.........มาให้พวกเรา  เพราะได้ข่าวว่าทางกรุงเทพฯ สินค้านี้ ดีมานด์และซัพพลายสูงมาก  พี่ๆ หลายคนชื่นชมกับเสื้อฟุตบอลที่ออกแบบมาแล้วก้อนัดกันใส่ในวันพรุ่งนี้เลยล่ะ  

ดึกแล้วหลายที่นั่งก็แปลงสภาพเป็นเตียงนอนชั้นบนชั้นล่าง   พี่ๆ หลายคนก็เริ่มเอนกายานอนหลับพักผ่อนกันแล้ว  ฉันก็ปีนบันไดขึ้นไปนอนบนเตียงบน  พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้ามาลอดอุโมงค์ถ้ำขุนตานกับดูรอดูสะพานทรงโค้งสีขาวที่คล้ายกับสะพานรัษฎาภิเษกที่ตัวเมืองลำปาง  ฉันเคยอ่านในหนังสือท่องเที่ยว เจอน่ะ เห็นบอกว่าสะพานที่รถไฟจะวิ่งผ่านนี้อยู่ใกล้กับสถานีแม่ทาลำพูนดีกว่า  ว่าแล้วฉันก็ผล๊อยหลับไป

ลูกพิ้ง:
เสาร์ที่ 13 มกราคม 2550

ตื่นมาในยามเช้าตรู่  นี่มันหกโมงแล้ว  ตื่นมาชมธรรมชาติสองข้างทางดีกว่า  ว่าแล้วฉันก็ไต่บันไดลงมาจากเตียงนอนชั้นบน  เห็นพี่ๆ หลายคนก็ตื่นกันแล้ว  เจ้าหน้าที่ก็เริ่มมาจัดเตียงให้แปรสภาพเป็นเก้าอี้นั่งตามเดิม  คราวนี้ล่ะฉันได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทางอย่างจุใจ  
ฉันอยากให้แกมานั่งชิดขอบหน้าต่างแล้วมองไปที่วิวข้างทางกับฉันจัง  เห็นโน่นไหม  ทิวเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา   ดอกไม้ป่าบานเต็มต้น  ลำธารที่อยู่เบื้องล่างยามรถไฟวิ่งผ่าน  วิ้ดวิ้ว วี้ดวิ้ว  จะลอดถ้ำขุนตานแล้ว  มืดตีดตื๋อเล้ย  แล้วรถไฟก็ลอดออกมาแล้ว  เย้  แล้วก้อผ่านสะพานสีขาวโค้งที่แสนสวยงามแล้วจ้า   วิวสองข้างทางมันโรแมนติกมั่กมาก   รู้มั้ย......ตอนนี้แอบคิดถึงแกมากเลยล่ะ.......จะบอกให้



7 โมงครึ่งรถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนเข้าจอดที่สถานีนครลำปาง  พร้อมกับการต้อนรับของพี่ๆ ซีมะโด่ง ลำปางด้วยพวงมาลัยคล้องคอที่งดงามและอาหารเช้าที่สุดแสนอร่อยภายใต้การกำกับของพี่ทองอู่  ที่ให้ทุกคนได้ลิ้มรสกับไส้อั่ว  ข้าวมันไก่  ซาลาเปา  ข้าวหลาม  ข้าวเกรียบ  ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้  ของอร่อยที่ขึ้นชื่อของเมืองลำปาง  ขอบคุณมั่กมากค่ะ  น้องๆ กินกันเสียอิ่มแปล้เลยล่ะค่ะ



เมนูอาหารตอนเช้า ไม่ค่อยจะหนักเล๊ย


ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก ไม่เอาน่า อย่าคิดไปกันใหญ่...อิอิ  :wink:


เมื่อความรัก "หวานชื่น" ระหว่าง เฉด วโรภาส กับ ชายไม่ทราบชื่อ


เมื่อรักนั้นกลายเป็น "ขม"

ลูกพิ้ง:
สิบโมงเช้าได้เวลารถไฟเทียบท่าเข้าสถานีเชียงใหม่  มีรถทัวร์ 2  คันมาจอดรอพวกเราอยู่แล้ว  พวกเรารีบขนของและขึ้นรถตามเลขที่ที่ได้จัดไว้  พวกเรากระจายกันไปในแต่ละคัน  กลุ่มละอ่อนน้อยอยู่รถคันที่ 1  ส่วนพี่ๆ ก็บ้างรวมรุ่นบ้างก็กระจายในแต่ละคัน  รถคันที่ 1  มีพี่สิงห์13  เป็นหัวหน้าคอยให้ข้อมูลและเกร็ดความความรู้ต่างๆ พวกเราในรถคันนี้  

อากาศเย็นสบายยามเช้าที่สถานีรถไฟเชียงใหม่เจ้า


เดิน ๆ เดินเถิดฤา นิสิตมหาจุฬาลงกรณ์
 

รถเคลื่อนพาพวกเรามุ่งหน้าไปยังโรงแรมสุริวงศ์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับไนต์บาซาร์  ถึงโรงแรมแล้วพวกเรีบขนของลงจากรถ  เตรียมจะเช็คอินปรากฏว่ามีห้องไม่พอกับจำนวนพวกเราในขณะนี้  แต่ยังไงทุกคนก็อยากจะอาบน้ำก่อนไปเที่ยวในบ่ายนี้  พวกเราเลยต้องแบ่งกลุ่มกันไปอาบน้ำในห้องพักที่สามารถจะเช็คอินได้ก่อน แล้วมาทานข้าวกลางวันที่ห้องอาหารในโรงแรม  แล้วจะออกไปเที่ยวงานพืชสวนโลก  



ทั้งพี่ๆและน้องๆ กระจายกันไปอาบน้ำ  ฉันมองเวลาแล้วยังมีเวลาพอที่ฉันจะเดินเที่ยวแถวบริเวณใกล้ๆ โรงแรมในยามเที่ยงวันได้ก่อน  ใจหนึ่งก็อยากอาบน้ำใจหนึ่งก็อยากออกไปสำรวจบริเวณใกล้ ๆ โชคดีที่ฉันได้ไปอาบน้ำที่ห้องของพี่ๆ 14   อย่างทันใจและได้ออกไปเดินเที่ยวสมใจ  ขอบคุณพี่แววตา  พี่แอและพี่อีกหลายคนในห้องดังกล่าวที่ว่ามา มากเลยค่ะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว