ØØØ พี่ตี้ถาปัด2..ชวนคุย ØØØ

[jum2524]

โอ๊ะโอววว!!!...ลุงตี้นี่ยอดฝีมือน่านับถือจริงๆ..ทั้งถ่ายทำและนำนางแบบสวยๆแถมตามด้วยเรื่องเล่ามาให้ได้ชมกัน  ขอบคุณมากๆจ้ะ

[Uncle Na]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 09:13:00
	อ้างถึง ข้อความของ Kaimook เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2553, 22:24:03 อ้างถึง ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2553, 10:56:47 ชักโหลดภาพยากอีกแล้วครับ แค่ชมท่าน ผบ. หน่อยเดียวเอง ไม่ให้โหลดซะแล้ว นางแบบของลุงตี้สวยมากๆเลยค่ะขอบอก...และอ้าวววว...รูปบนขวานั่นน้ำอ้อยกะพี่อ้อมานั่งคอยใครหว่า... เหอ เหอ เหอ ไม่มีใครแซวเราๆแซวตัวเองก็ได้อิอิอิ... รูปบนขวานั่น ตอนถ่ายก็นึกถึงตัวเองตอนแก่ ไม่มีลูกก็คงต้องเป็นแบบนี้แหละ อย่างแม่อ้อยกับพี่อ้อ ไม่มีเวลามานั่งแบบนี้หรอกเพราะต้องเลี้ยงหลาน อิ อิ

มาดูภาพดอกไม้ห้องนี้และคำบรรบายเกี่ยวกะตายายแล้ว ดวงตามองเป็นธรรมเลย

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 10:31:20
	อ้างถึง ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 09:13:00 อ้างถึง ข้อความของ Kaimook เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2553, 22:24:03 อ้างถึง ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2553, 10:56:47 ชักโหลดภาพยากอีกแล้วครับ แค่ชมท่าน ผบ. หน่อยเดียวเอง ไม่ให้โหลดซะแล้ว นางแบบของลุงตี้สวยมากๆเลยค่ะขอบอก...และอ้าวววว...รูปบนขวานั่นน้ำอ้อยกะพี่อ้อมานั่งคอยใครหว่า... เหอ เหอ เหอ ไม่มีใครแซวเราๆแซวตัวเองก็ได้อิอิอิ... รูปบนขวานั่น ตอนถ่ายก็นึกถึงตัวเองตอนแก่ ไม่มีลูกก็คงต้องเป็นแบบนี้แหละ อย่างแม่อ้อยกับพี่อ้อ ไม่มีเวลามานั่งแบบนี้หรอกเพราะต้องเลี้ยงหลาน อิ อิ มาดูภาพดอกไม้ห้องนี้และคำบรรบายเกี่ยวกะตายายแล้ว ดวงตามองเป็นธรรมเลย

ว่าไปนั่น ลุงนะรายงานกวางโจวถึงไหนแล้ว

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ jum2524 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 09:57:32
	โอ๊ะโอววว!!!...ลุงตี้นี่ยอดฝีมือน่านับถือจริงๆ..ทั้งถ่ายทำและนำนางแบบสวยๆแถมตามด้วยเรื่องเล่ามาให้ได้ชมกัน  ขอบคุณมากๆจ้ะ

แวะมาดูเรื่อยๆนะป้า แล้วล้างรถ อันผาด เสร็จหรือยัง

[jum2524]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 10:39:49
	อ้างถึง ข้อความของ jum2524 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 09:57:32 โอ๊ะโอววว!!!...ลุงตี้นี่ยอดฝีมือน่านับถือจริงๆ..ทั้งถ่ายทำและนำนางแบบสวยๆแถมตามด้วยเรื่องเล่ามาให้ได้ชมกัน  ขอบคุณมากๆจ้ะ แวะมาดูเรื่อยๆนะป้า แล้วล้างรถ อันผาด เสร็จหรือยัง

เดี๋ยวบ่ายวันนี้จะสวมบทเป็นพขร.ขับให้เจ้านายนั่งจ้ะ..(พี่ทุยผอ.ศูนย์ฝึกฯเชียงรายมาประชุมที่สระแก้วและจะติดรถไปกทม.ด้วย)

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ jum2524 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 11:55:45
	อ้างถึง ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 10:39:49 อ้างถึง ข้อความของ jum2524 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 09:57:32 โอ๊ะโอววว!!!...ลุงตี้นี่ยอดฝีมือน่านับถือจริงๆ..ทั้งถ่ายทำและนำนางแบบสวยๆแถมตามด้วยเรื่องเล่ามาให้ได้ชมกัน  ขอบคุณมากๆจ้ะ แวะมาดูเรื่อยๆนะป้า แล้วล้างรถ อันผาด เสร็จหรือยัง เดี๋ยวบ่ายวันนี้จะสวมบทเป็นพขร.ขับให้เจ้านายนั่งจ้ะ..(พี่ทุยผอ.ศูนย์ฝึกฯเชียงรายมาประชุมที่สระแก้วและจะติดรถไปกทม.ด้วย)

 ขับดีดีนะ ใบสั่งไม่เอา และฝากสวัสดีพี่ทุยด้วยนะป้า

[พธู ๒๕๒๔]

ฝีมือดี ฝีปากเยี่ยม กองเชียร์เยอะ นำเสนอได้น่าอ่าน ผัวสวยเมียหล่อ หน้าม้ามาก เอชมอะไรอีกดีหนอ

[Uncle Na]

นี่แหละที่ เค้าเรียกว่าสุดยอด..

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 17:21:57
	ฝีมือดี ฝีปากเยี่ยม กองเชียร์เยอะ นำเสนอได้น่าอ่าน ผัวสวยเมียหล่อ หน้าม้ามาก เอชมอะไรอีกดีหนอ

ฝีปากเยี่ยม นี่ดูเหมือนจะชมเลยนะ แต่ก็รับได้
แต่ ไอ้ผัวสวยเมียหล่อ นี่มันยังไงหว่า

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2553, 21:19:18
	เอาละครับ คืนนี้ก็คงจะขอจบลงตรงที่ล่องเรือมาถึงเมือง St. Goar กันแล้วครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อด้วยการเดินทางจาก St. Goar ไปยัง Heidelberg กันครับ เมือง Heidelberg  นี่ก็สวยงามมากครับ คืนนี้หลับฝันดีนะครับ จุ๊บ จุ๊บ

เมื่อวานเราล่องเรือชมวิวริมสองฝั่งแม่นำ้ Rhine มาถึงเมือง St. Goar เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทีนี้เราก็จะเดินทางต่อด้วยรถบัสคันเดิม จาก St. Goar  ไปยังเมือง Heidelberg

แต่ก๋อนไปเรามาทำความรู้จักเมือง St. Goar สักเล็กน้อย
ในช่วงระยะเวลาประมาณ 10 นาทีที่เดินจากท่าเรือมาขึ้นรถ



St.Goar
Sankt Goar am Rhein is a town in the German federal state of Rhineland-Palatinate, Germany. St. Goar is located on the Rhine, in the section known as the Rhine Gorge, and is impressively situated between mountains which rise on either side of the river. It is known particularly for the legend of the Loreley, associated with the dangerous Loreley rocks which are a hazard to shipping. It is also famous for the ruined castle Burg Rheinfels. St. Goar lies in the central Rhine Valley, which in 2002 was adopted by UNESCO as a world cultural heritage site.

Sankt Goar is part of the Verbandsgemeinde Sankt Goar-Oberwesel.
The Catholic Encyclopedia notes that "a small church" was dedicated to Goar of Aquitaine in 1768 "in the little town on the banks of the Rhine which bears his name (St. Goar)." It is also reported that Charlemagne built a church over the site of Goar's hermitage. It is around this church that the town of Sankt Goar am Rhein grew on the left bank of the Rhine between Wesel and Boppard.

In German linguistics, the Sankt Goar Line is an isogloss separating dialects to the north from those to the south. See High German consonant shift.

St Goar lies opposite Sankt Goarshausen.
Many people visit St Goar as it is the nearest village to Burg Rheinfels, a large castle situated above the village. The castle and towns are featured in many guidebooks. Also some tours that run throughout Europe stop in St. Goar for shopping or for a wine tasting session at a nearby winery. The towns is reached by train, boat, or car.

[ตี้ถาปัด]

เราใช้เวลาในการนั่งเรือจาก Boppard ไปยัง St. Goar ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ คิดเป็นระยะทางที่เดินทางด้วยรถประมาณ 14.6 กิโลเมตรซึ่งจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น
ขึ้นจากเรือที่ท่าเมือง St. Goar ตอนแรกนึกว่าจะได้มีโอกาสเที่ยวชมเมืองซะหน่อยเพราะได้ยินมาว่าเป็นเมืองมรดกโลกของ UNESCO ยังไม่ทันจะเหลียวซ้ายแลขวามองทำเลโดยรอบ ก็ได้ยินเสียงหัวหน้าทัวร์ของเราเร่งให้รีบเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Heidelberg ด้วยเกรงว่าจะเดินทางไปถึง Heidelberg ไม่ทันอาหารกลางวันที่นั่นเพราะเสร็จจากเมือง Heideiberg เราจะต้องเดินทางต่อไปยังเมือง Titisee ซึ่งกว่าจะถึงอาจจะมืดคำ่เนื่องจากอาจจะเจอกับปัญหาการจราจรในระหว่างที่ผ่านเมือง Freiburg........ แล้วเราก็จำต้องเดินไปขึ้นรถบัสคันเดิมเพื่อมุ่งหน้าตรงสู่เมือง Heidelberg โดยอดเที่ยวชมเมือง St.Goar แต่ยังไงก็ขอถ่ายรูปกันสักแชะสองแชะให้เป็นที่ระลึกก็ยังดี และแล้วปฏิบัติการตามล่าหาดอกไม้ก็ดำเนินต่อไปแบบไม่ยำเกรงเสียงเรียกให้ขึ้นรถของหัวหน้าทัวร์ของเรา

[พธู ๒๕๒๔]

ขออำไพ กำลังหัดชมอาจมีข้อผิดพลาดบ้าง จะไปเหมือนพวกชมเก่ง ๆ ได้ไง

[ตี้ถาปัด]

11.00
ได้เวลาที่รถบัสคันเดิมเคลื่อนตัวออกจาก St.Goar มุ่งหน้าสู่ Heidelberg โดยลัดเลาะไปตามถนนเลียบแม่นำ้ Rhine ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าการนอนเนื่องจากอาการง่วงอันเกิดจากการตื่นตั้งแต่ตี 4 ยากเกินกว่าที่จะฝืนดูวิวสองข้างทาง ตาดำที่เคยส่อประกายแวววาวยามได้เที่ยวคอยแต่จะหลบซ่อนโดยการชักเปลือกตาลงมาห่อหุ้มปิดบังในอบบที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาหารเช้าที่ใส่เข้าไปในท้องบัดนี้มันได้ถูกย่อยสลายไปเรียบร้อยแล้วการนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ไม่เช่นนั้นอาการหิวอาจจะไม่ไว้หน้าโดยการส่งเสียงร้องออกมาเป็นแน่ อย่ากระนั้นเลย......นอนซะ...คร๊อก ครืดดดดดดดด

เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่ทันรู้ตัว มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนหัวหน้าทัวร์ทำการ Phone In เข้ามาในภวังค์ว่าขณะนี้รถของเราได้เข้าสู่ตัวเมือง Heidelberg แล้ว ด้วยภาระกิจในการตามล่าหาดอกไม้ยังไม่สิ้นสุด สัญชาติญาณในการคว้ากล้องขึ้นมาถ่ายรูปจึงเป็นไปโดยอัตโนมัติ ภาพบ้านเรือน ที่ตั้งอยู่ริมนำ้แม่นำ้ Neckar ที่ไหลผ่านตัวเมือง Heidelberg ที่เคยมาเยือนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วถูกบันทึกเก็บลงในกล้องอย่างรวดเร็ว ขาดอย่างเดียวที่ไม่สามารถบันทึกลงไปได้คือแสงแดดเพราะฟ้าไม่เป็นใจ พร้อมกับเสียงชัตเตอร์ที่ลั่นประสานไปด้วยครวญครางของท้องที่เริ่มหิวที่เริ่มส่งเสียงกระจองอแงแบบไม่ไว้หน้าเจ้าของ รถบัสพาเรามาส่งตรงจุดจอดสำหรับรถท่องเที่ยว ให้เราเดินไปอีกเล็กน้อยเพื่อไปทานอาหารกลางวันที่จัดเตรียมไว้ วันนี้เราจะทานอาหารไทยที่ร้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพาน Charles Bridge ในเขดเมืองเก่าที่ชื่อว่าร้าน "ภูเก็ต" ความคาดหวังที่มีต่ออาหารไทยมื้อแรกมีค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะเพิ่งมาเที่ยวได้สองวันแต่การได้ทานอาหารไทยก็เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในยามหิวเช่นนี้

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 21:06:37
	ขออำไพ กำลังหัดชมอาจมีข้อผิดพลาดบ้าง จะไปเหมือนพวกชมเก่ง ๆ ได้ไง

น่านนนนนนนน ไปแขวะเค้าอีก พวกไหนเหรอ

[ตี้ถาปัด]

Baden-Württemberg
Baden-Württemberg (Alemannic German: Baade-Wiirdebäärg; German pronunciation: [ˈbaːdən ˈvʏɐ̯təmˌbɛɐ̯k]) is one of the 16 states of Germany. Baden-Württemberg is in the southwestern part of the country to the east of the Upper Rhine, bordering Alsace (France) to the west, Switzerland to the south, Bavaria to the east and northeast, Hessen to the north, and Rhineland Palatinate to the northwest.
Most of the major cities of Baden-Württemberg straddle the banks of the Neckar River, which runs centrally through the state (downstream (from southwest to the centre, then northwest) first Tübingen, then Stuttgart, Heilbronn, Heidelberg, and Mannheim). It is third largest in both area and population among the country's sixteen states, with an area of 35,742 square kilometers (13,800.1 sq mi) and 10.7 million inhabitants (both almost equivalent to all of Belgium). The state capital is Stuttgart.
The sobriquet Ländle (Low Alemannic and Swabian German dialect for "small land") is sometimes used as a synonym for Baden-Württemberg.

[พธู ๒๕๒๔]

พวกชมเก่ง ๆ (พวกเราเองแหละ)

[พธู ๒๕๒๔]

รูปสวย  ชอบบ้านเรือน สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี

[ตี้ถาปัด]

นี่ครับ ตัวอย่างโฉมหน้าบ้านเรือนริมนำ้ของเมือง Heidelberg ในแบบใกล้ๆ
เดี๋ยวไปมองจากมุมสูงกันอีกทีตอนที่ขึ้นไปบนปราสาทบนเขานะ

Heidelberg
Heidelberg is a city in Baden-Württemberg, Germany. As of 2008, over 145,000 people live within the city's 109 square kilometres (42 sq mi) area. Heidelberg is a unitary authority. The Rhein-Neckar-Kreis rural district surrounds and has its seat in the city, but the city itself does not form a part of it.
Heidelberg lies on the river Neckar at the point where it leaves its narrow, steep valley in the Odenwald to flow into the Rhine valley where, 20 kilometres (12 mi) northwest of Heidelberg, it joins the river Rhine at Mannheim. Heidelberg is part of a densely populated region known as the Rhine-Neckar Metropolitan Region.

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 21:14:25
	พวกชมเก่ง ๆ (พวกเราเองแหละ)

  นินทาไรชั้นยะ  ได้ยินนะ!!!

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 21:16:55
	รูปสวย  ชอบบ้านเรือน สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี

เออ.. เริ่มชมเป็นแล้ว ดีมาก

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 21:17:55
	อ้างถึง ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 21:14:25 พวกชมเก่ง ๆ (พวกเราเองแหละ)   นินทาไรชั้นยะ  ได้ยินนะ!!!

เฮ้ย....ป้ามาแล้ว ไหนบอกว่ามาปลายอาทิตย์ไง
หมอนขวาน กับ เชี่ยนหมาก ถูกยกออกไปไหนแล้ว เอามาด่วน
ขอกระโถนมาให้ป้าแกบ้วนนำ้หมากด้วย

[พธู ๒๕๒๔]

บ้านหลากสี ดูสวย สมรวยทรัพย์
ดอกไม้จับ ใจจด สดเหลือหลาย
ผู้คนดู มีสุข สนุกสบาย
ได้พักกาย พักใจ ไปเที่ยวมา
หนุ่มก้อหล่อ สาวก้อสวย รวยความสุข
เที่ยวสนุก รูปถ่ายดี ที่ศึกษา
นำเสนอ ได้เข้าใจ ที่ไปมา
เสียแต่ว่า อ่านไม่ออก บอกเล็กจัง

[ตี้ถาปัด]

ที่ขยายใหญ่ มาให้อ่าน ดันไม่อ่าน
ทำมองผ่าน อ่านไม่เห็น เป็นไฉน
สู้อุตส่าห์ ขยายให้ ตั้งมากมาย
แล้วไฉน อ่านไม่ออก ช่วยบอกที

[ตี้ถาปัด]

History
Approximately 1,000,000 years ago, the "Heidelberg Man", whose jaw-bone was discovered in 1907, the earliest evidence of human life in Europe, died at nearby Mauer.
In the 5th century BC, there was a Celtic fortress of refuge and place of worship on the Heiligenberg, or "Mountain of Saints". Both places can still be identified.

In 40 AD, a fort was built and occupied by the 24th Roman cohort and the 2nd Cyrenaican cohort (CCG XXIIII and CCH II CYR). The Romans built and maintained castra (permanent camps) and a signalling tower on the bank of the Neckar and built a bridge with wooden top on stone pillars across the river Neckar. The first civilian settlements would develop under the protection of the camp. The Romans remained until 260 AD, when the camp was conquered by German tribes.
Modern Heidelberg can trace its beginnings to the 5th century when the village Bergheim ("Mountain Home") is first mentioned in documents dated to 769 AD. Bergheim now lies in the middle of modern Heidelberg.
In 863 AD, the monastery of St. Michael was founded on the Heiligenberg inside the double rampart of the Celtic fortress, and, around 1130, the Neuberg Monastery was founded in the Neckar valley. At the same time, the bishopric of Worms extended its influence into the valley, founding Schönau Abbey in 1142. Modern Heidelberg can trace its roots to this monastery.

In 1155, Heidelberg castle and its neighboring settlement were taken over by the house of Hohenstaufen, and Conrad of Hohenstaufen became "Count Palatine of the Rhine" (German: Pfalzgraf bei Rhein).

In 1195, the Palatinate passed to the House of Welf through marriage.
The first reference to Heidelberg can be found in a document in Schönau Abbey dated to 1196. This is considered the founding date for Heidelberg.


In 1225, Louis I, Duke of Bavaria obtained the Palatinate, and thus also the castle, which is mentioned in a document.

In 1303, two castles are mentioned; the one located further up the mountain was destroyed in a gunpowder explosion in 1537. The palace of today was then built at the site of the lower castle. In 1356, the Counts Palatine were granted far-reaching rights in the Golden Bull in addition to becoming Electors.

In 1386, the University of Heidelberg was founded by Rupert I, Elector Palatine. The University played a leading part in the era of humanism and reformation and the conflict between Lutheranism and Calvinism in the 15th and 16th centuries. Heidelberg's library, founded in 1421, is the oldest public library in Germany still intact. A few months after the proclamation of the 95 theses, in April 1518, Martin Luther was received in Heidelberg, to defend them.

In 1620, the royal crown of Bohemia was offered to the Elector, Frederick V (married to Elizabeth, eldest daughter of James VI of Scotland). He became known as the "winter king", as he only reigned for one winter until the Imperial house of Habsburg regained the crown by force. This marked the beginning of the Thirty Years' War.

In 1622, after a siege of two months, the armies of the Catholic League, commanded by Johann Tserclaes, Count of Tilly, captured Heidelberg. He gave the famous Bibliotheca Palatina from the Church of the Holy Ghost to the Pope as a present. The Catholic Bavarian branch of the house of Wittelsbach gained control over the Palatinate and the title of Prince-Elector. In 1648, at the end of the war, Frederick V's son Charles I Louis, Elector Palatine, was able to recover his titles and lands.

In order to strengthen his dynastic power, he married his daughter Liselotte to Philip I, Duke of Orléans, the brother of Louis XIV, king of France. In 1685, after the death of Charles Louis' son Elector Charles II, Louis XIV laid claim to his sister in law's inheritance. The claim was rejected and war ensued. In 1689, city and castle were both taken by French troops, who brought about an almost total destruction in 1693.

In 1720, religious conflicts with the citizens of Heidelberg caused the Prince-Elector Charles III Philip to transfer his residence to nearby Mannheim, where it remained until the Elector Charles Theodore became Elector of Bavaria in 1777 and established his court in Munich.
In 1742, Elector Charles Theodore began rebuilding the Palace. In 1764, a lightning bolt destroyed other palace buildings during reconstruction, causing the work to be discontinued. Heidelberg fell to the Grand Duchy of Baden in the year 1803. Charles Frederick, Grand Duke of Baden re-founded the University, named "Ruperto-Carola" after its two founders. Notable scholars soon earned it a reputation as a "royal residence of the intellect".

In 1810, the French revolution-emigrant Count Charles Graimberg began with the preservation of the palace ruins and the establishment of a historical collection

In the 18th century, the city was rebuilt in Baroque style on the old Gothic layout.

In 1815, the Emperor of Austria, the Emperor of Russia and the King of Prussia formed the "Holy Alliance" in Heidelberg.

In 1848, it was decided to have a German National Assembly in Heidelberg. In 1849, during the Palatinate-Baden rebellion, Heidelberg was the headquarters of a revolutionary army which was defeated by a Prussian army near Waghaeusel. Until 1850, the city was occupied by Prussian troops.

Between 1920 and 1933, the University of Heidelberg's reputation was enhanced by a number of notable physicians (Czerny, Erb, Krehl) and humanists (Rohde, Weber, Gundolf).
/color]

[พธู ๒๕๒๔]

เห็นไหมตัวนิดเดียว