Veekung @ Edinburgh UK

[weerapong_rx]

อ่านทุกตอนเลยเน้อ แต่ไม่ชอบตอนจบที่มาคำนวณเป็นเงินบาทไทย วีใช้เงินน้อยมากกกกกก
เก็บมากไปไม่ดีนะ จ่ายออกบ้าง อีกประการหนึ่งคือ การคูณด้วย 70 อาจทำให้ท่านเป็นทุกข์ได้ อยากทานอะไร อยากไปเที่ยวไหนก็ไปนะ เก็บเงินทีหลังได้ แต่เมืองเอดินบะระค่าครองชีพต่ำกว่าลอนดอนเยอะครับ เช่น เราจ่ายค่าห้องเล็กๆ เดือนละ 400 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทย 28,000 บาท) ไม่รวมน้ำไฟ เห็นไหมว่ามันน่าเสียดายเงินมาก สร้างบ้านที่ไทยได้เป็นหลังเลยราคานี้ แต่ถ้าลงมาเที่ยวลอนดอนก็บอกนะ เผื่อเราอาจไปอาศัยเวลาที่ขึ้นไปหัวเมืองทางเหนือ ว่าวีทำวิจัยเรื่องอะไรเหรอครับ?

[veekung]

อ่านทุกตอนเลยเน้อ แต่ไม่ชอบตอนจบที่มาคำนวณเป็นเงินบาทไทย วีใช้เงินน้อยมากกกกกก
เก็บมากไปไม่ดีนะ จ่ายออกบ้าง อีกประการหนึ่งคือ การคูณด้วย 70 อาจทำให้ท่านเป็นทุกข์ได้ อยากทานอะไร อยากไปเที่ยวไหนก็ไปนะ เก็บเงินทีหลังได้ แต่เมืองเอดินบะระค่าครองชีพต่ำกว่าลอนดอนเยอะครับ เช่น เราจ่ายค่าห้องเล็กๆ เดือนละ 400 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทย 28,000 บาท) ไม่รวมน้ำไฟ เห็นไหมว่ามันน่าเสียดายเงินมาก สร้างบ้านที่ไทยได้เป็นหลังเลยราคานี้ แต่ถ้าลงมาเที่ยวลอนดอนก็บอกนะ เผื่อเราอาจไปอาศัยเวลาที่ขึ้นไปหัวเมืองทางเหนือ ว่าวีทำวิจัยเรื่องอะไรเหรอครับ?

โหพี่พงษ์แค่นี้ก็ใช้เยอะมากแล้วครับ ผมอยู่หอมหาวิทยาลัย เดือนล่ะ 540.2 ปอนด์ครับ แพงกว่าพี่พงษ์มากๆ เลยล่ะ อยากเที่ยว อยากกินเหมือนกันครับ (พอดีได้เงินมาน้อยมาก ๆ บวกกับค่าที่พักที่แพงมาก ๆ ) แต่งบมีจำกัดครับ ไว้เก็บได้มากพอจะลงไปหานะครับ (แต่คงอีกนาน  :lol:  :lol: ) เรื่องคูณเป็นเงินไทยเนี่ยะเป็นแค่ช่วงแรก ๆ ครับ ตอนนี้ไม่คูณแล้ว (เพราะเริ่มรู้ว่าเท่าไหร่แพง เท่าไหร่ยอมรับได้สำหรับที่นี่ครับ) ที่ลงใน diary เพราะผมอยากทำบัญชีครับว่าทั้งปีใช้เงินแต่วันเท่าไหร่ครับ แล้วเรื่องทำวิจัย ผมทำ thesis เกี่ยวกับ respiratory virus ครับ แต่พอมานี่กลับกลายเป็น New virus discovery project ครับ(พูดมากไม่ได้ครับมันเป็น confidential ครับ เค้าว่าอย่างนั้น:lol:  :lol: ) งงเหมือนกัน แต่ก็น่าจะเอาไปโยงกับ thesis ได้ครับ

ปล.มาแก้ไขเพราะพึ่งอ่านคำพูดพี่พงษ์แล้วเข้าใจครับ ตอนแรกเข้าใจไปอีกอย่างซะงั้น  :lol:  :lol:

[por-sim]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

[khesorn mueller]

แต่พี่เห็นประโยคนี้บ่อยๆ ทำให้มีกำลังใจเก็บทุกยูโรกลับมาใช้ที่เมืองไทยค่ะ
ขอโทษด้วยค่ะที่เมื่อวานสายตัดไปเฉยๆ...โทรศํพท์ห้องพี่บ๊องๆค่ะ!!

วีวี่,
มองคนอื่นๆเค้าเบรคตอนไหน ไปกินข้าวตอนไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ทำตามโลด...ที่โน่นมีกฎระเบียบตายตัว การทำงานมากและนานกว่าคนอื่นจนลืมกิน...ไม่เป็นผลดีต่อตัวเรา...
p.nn

[veekung]

แต่พี่เห็นประโยคนี้บ่อยๆ ทำให้มีกำลังใจเก็บทุกยูโรกลับมาใช้ที่เมืองไทยค่ะ
ขอโทษด้วยค่ะที่เมื่อวานสายตัดไปเฉยๆ...โทรศํพท์ห้องพี่บ๊องๆค่ะ!!

วีวี่,
มองคนอื่นๆเค้าเบรคตอนไหน ไปกินข้าวตอนไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ทำตามโลด...ที่โน่นมีกฎระเบียบตายตัว การทำงานมากและนานกว่าคนอื่นจนลืมกิน...ไม่เป็นผลดีต่อตัวเรา...
p.nn

ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำเยอะกว่าคนอื่นหรอกครับพี่หนิง แต่ว่าด้วย lab ที่ทำมันทำให้กินข้าวไปได้จริง ๆ ครับ (ขนาดแค่พี่อ่านยังกินไม่ค่อยลง แต่ผมนี่ได้ทั้งสีทั้งกลิ่นเลยครับ) :lol:  :lol:  :lol:

เรื่องโทรศัพท์ก็ไม่เป็นไรครับเพราะพูดยังพูดไม่จบก็ตัดไปแล้ว ก็นั่งรออยู่สักพักครับ (นึกว่าพี่จะโทรมาอีกรอบ :lol:  :lol:  :lol: ) แล้วก็อาบน้ำเข้านอนครับ :lol:  :lol:  :lol:

อาทิตย์นี้มีโปรแกรมเสียเงินเยอะเลยล่ะพี่หนิง แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ :lol:  :lol:  :lol:

[veekung]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

[khesorn mueller]

พี่ก็พยายามจะอยู่ให้ได้หลายๆวันโดยไม่ใช้เงิน ทีนี้เกิดอะไรขึ้นรู้มั้ยคะ?พี่เรียกมันว่า "แรงเหวี่ยง"...เมื่อวาน เนื่องจากต้องขับรถอยู่แล้ว...แฟนพี่สั่ง ก่อนไปทำงานให้ช่วยไปซื้อปั้มลมสำหรับจักรยาน อันละ 6,99€...พี่กับลูกสาว นักshopตัวยงและมืออาชีพ ...เออออห่อหมกกันอยู่นั่นแล้ว..นั่นก็จำเป็น นี่ก็ต้องใช้ โน่นก็เกือบจะหมด ขนซื้อไปเลยจะได้ไม่ต้องกลัวขาดบ้าน...หนูอยากกินนี่ มาม้าอยากกินโน่น...หยิบเลยค่ะไหนๆก็มาแล้ว...แทนที่จ่ายเงินแค่ 7€ พี่เจอไป 38€ ค่ะ!!!
p.nn :lol:  :lol:

[veekung]

เอาเถอะครับพี่หนิงเพราะยังไงก็ต้องซื้ออยู่แ้ล้วนี่ครับของพวกนั้นน่ะแค่ซื้อเร็วขึ้นเท่านั้นเอง :lol:  :lol:

[หล้า]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

5555555 ขอเราด้วยนะวี ขอบใจมากๆจ้า น่าร้ากกกก ที่สุด  :oops:

[Tritti_83]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

5555555 ขอเราด้วยนะวี ขอบใจมากๆจ้า น่าร้ากกกก ที่สุด  :oops:

วีวีใจดีจริงๆเกรงใจจังเลยแต่ก็ขอบใจนะ... :oops:  :roll:

[nuchon]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

5555555 ขอเราด้วยนะวี ขอบใจมากๆจ้า น่าร้ากกกก ที่สุด  :oops:

วีวีใจดีจริงๆเกรงใจจังเลยแต่ก็ขอบใจนะ... :oops:  :roll:

ไปด้วย ๆ ๆ ๆ   ดูสิเพื่อนรักวีกันทุกคนเลย  :lol:  :lol:  :lol:  

[khesorn mueller]

วีวี่ รีบออกมาแก้ต่าง...ก่อนจะล้มละลายมากกว่านี้!!
p.nn :lol:  :lol:

[party]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

5555555 ขอเราด้วยนะวี ขอบใจมากๆจ้า น่าร้ากกกก ที่สุด  :oops:

วีวีใจดีจริงๆเกรงใจจังเลยแต่ก็ขอบใจนะ... :oops:  :roll:

ปายด้วยยยยยยยยย

[party]

พี่พงษ์ วีได้เงินน้อยจริง ๆ แหละ คงต้องประหยัดสุด ๆ แต่ทีสำคัญ วีตั้งใจเก็บเงินเป็นค่าตั๋วให้เพื่อนที่หอได้บินไปเยี่ยมต่างหาก หุหุหุ

ช่วงใด  :evil:  :evil:

5555555 ขอเราด้วยนะวี ขอบใจมากๆจ้า น่าร้ากกกก ที่สุด  :oops:

วีวีใจดีจริงๆเกรงใจจังเลยแต่ก็ขอบใจนะ... :oops:  :roll:

ปายด้วยยยยยยยยย

[veekung]

ก็ปล่อยให้พูดไปครับ เพราะผมไม่มีเงินให้หรอกครับพี่หนิง :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[veekung]

มาลง diary ต่อดีกว่าครับ  :lol:  :lol:

28/3/2551
   ดีจังที่เมื่อคืนไม่ตื่นเพราะเป็นตะคริวกลางดึกอย่างที่กลัว (คงเพราะกินยาคลายกล้ามเนื้อเข้าไปด้วยล่ะมั้ง) แต่ก็ตื่นก่อนนาฬิกาปลุกอยู่ดี แต่คราวนี้แปลกเพราะตื่นมานานแล้วแต่นาฬิกาไม่ยักจะปลุกสักทีนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนได้ยินเสียงนกร้อง อ๊ะเริ่มผิดปกติเลยหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู โอ้ว 7.44 ทำไมนาฬิกา (โทรศัพท์ที่กลายสภาพมาเป็นนาฬิกาปลุก) ไม่ปลุกอ่ะ พอหยิบขึ้นมา ปรากฏว่าแบตหมด เมื่อคืนมันก็ร้องเตือนแล้วนะว่าแบตกำลังจะหมดไอ้เราก็นึกว่าจะอยู่ถึงเช้า เด้งขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว จัดการกับข้าวเที่ยง ดีนะที่หุงข้าวไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

แต่กระนั้นไอ้หมูที่เข้าช่องฟรีสก็แข็งแป็กเลยอ่ะ เลยตัดใจผัดผักกับไข่แล้วกัน (เฮ้อ) ส่วนอาหารเช้าก็เป็นซีเรียลกับนม+ขนมปังอีกหนึ่งก้อน เสร็จแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ทำทุกอย่างเสร็จตอน 8.30 จะออกเดินแล้ว (ไม่ได้สวดมนต์เลยวันนี้) แต่ว่าฝนตกครับท่าน ทำไงล่ะที่นี้ร่มก็ไม่มีแล้วนี่ก็ได้เวลาต้องออกแล้วด้วย เพราะว่าจะรีบไปทำ lab เลยตัดสินใจตากฝนออกไป ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะขึ้นรถเมล์ดีหรือเปล่า แต่ด้วยความงก (ตั้ง 1 ปอนด์) ก็เลยตัดสินใจเดินตากฝนไปแล้วกัน แต่พอเดินมาได้สักพักฝนก็ซ่าลงจะเกือบหยุด (ดีนะที่ไม่ตัดสินใจขึ้นรถเมล์) ทำไมอากาศมันแปรปวนอย่างนี้ฟ่ะ เมื่อวานแดดเปรี้ยง วันนี้ฝนตก แล้วพรุ่งนี้จะเจออะไรเนี่ยะ แต่ที่แน่อุณหภูมิยังคงอยู่ที่ 7-10 องศาเซลเซียสครับท่าน
   
มาถึง lab ก็พุ่งขึ้นชั้น 5 ทำ lab ทั้งวันเลย ตอนแรกก็กะเวลาไว้ดีแล้วว่า lab น่าจะเสร็จประมาณเกือบ ๆ 6 โมงเย็น แต่ว่ามันจะต้องมีเหตุที่ทำให้ไม่เป็นตามคาดตลอด (คง concept ว่าง่าย ๆ ไม่ ยาก ๆ วีขอ) วันนี้ในกลุ่มที่เราอยู่ด้วยเค้ามี meeting lab กัน (จัดสองอาทิตย์ครั้ง) ก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง (ก่อนเริ่ม จิลก็มาบอกกับเราว่าไอ้ username กับ password น่าจะใช้ได้ในอาทิตย์หน้า) ตอนไหนที่เค้าหัวเราะเราก็เนียนยิ้ม ๆ ไปกับเค้าด้วย แต่จริง ๆ ฟังได้แค่ประมาณ 50% (เนียนไหมล่ะ) ก็สังเกตุดูนะว่าเวลาเค้าพูดกันเองจะรัวแล้วก็อยู่ในลำคอด้วย แต่ถ้าพูดกับเราทุกคนจะพยายามพูดให้ช้าลงแล้วก็ชัดถ้อยชัดคำ (เป็นความกรุณามาก ๆ เลยครับ กับคนที่โง่ภาษาอังกฤษคนนี้)

พอ meeting เสร็จก็รีบพุ่งไปทำ lab ต่อ ให้ทายว่าเสร็จกี่โมงวันนี้ วันนี้เกือบหนึ่งทุ่มครับท่าน (ดึกขึ้นเรื่อย ๆ หวังว่าคงไม่ต้องถึงกับค้างที่ lab หรอกนะ) แต่วันนี้ดีหน่อยที่มีเวลาว่างให้กินข้าวเที่ยงได้ (ตอนบ่ายสาม) ตอนกินข้าวได้อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ ไอ้สนามบิน Heathrow ที่ London teminal 5 ที่เค้าเปิดใหม่ (มั้ง) มีปัญหามากมาย fight เครื่องบิน cancel ตั้งแต่เมื่อวานวันนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น บาง fight ที่บินได้ก็มีปัญหาเรื่องกระเป๋าประมาณว่าคนไปแต่กระเป๋าไม่ไปอะไรประมาณนั้น คนโวยกันใหญ่เพราะรู้สึกว่าจะลงทุนไปเยอะ แล้วเค้าก็พยายามโปรโมท Heathrow กันอยู่ (เหมือนสุวรรณภูมิหรือเปล่าหว่า) มาคิดดูดีนะที่ไม่ได้มาช่วงนี้ ไม่งั้นจะซวยไม่ใช่แค่กระเป๋าหาย แต่อาจจะต้องติดอยู่ที่ Heathrow วันหรือสองวันก็เป็นได้ (ก็ถือว่ายังโชคดีเนอะ) เพราะว่าไอ้ terminal 5 ที่เป็นปัญหาเนี่ยะมันเปิดเพื่อรองรับเครื่องของ British Airway โดยเฉพาะ แล้วไอ้เครื่องที่เราต้องต่อมา Edinburgh เนี่ยะก็เป็นของ BA นั่นแหละ เพราะฉะนั้นโชคดีไหมล่ะ

หลังจากที่ lab เสร็จก็เดิน (ฝ่าอากาศหนาว) กลับหอ มาถึงก็จัดการเอาไก่ที่เหลืออยู่มีทำแกงเขียวหวานรอบสุดท้ายของเครื่องแกงซองนี้ ด้วยความขี้เกียจสับไก่ก็เลยต้มทั้งน่อง ผลที่ได้ก็คือสุกยากมาก ๆ หิวก็หิวต้องมานั้งรอไก่สุกอีก ทรมานชะมัด แต่สุดท้ายก็ได้กินล่ะฟ่ะ แถมยังเหลือให้กินได้อีกมื้อสองมื้อ จากนั้นก็อาบน้ำ เขียน diary สวดมนต์แล้วก็เข้านอน พรุ่งวางแผนไว้ว่าจะเดินไปให้ถึง prince street คราวนี้ไม่ได้ไปหาซื้อของหรืออะไรทั้งนั้นแต่จะไปดูและเก็บบรรยากาศ แต่คงต้องดูอากาศก่อนล่ะว่าเป็นไง (แอบอ่านพยากรณ์อากาศบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเช้าฝนจะตกซะด้วย คงได้ออกสาย ๆ ล่ะมั้ง)

วันนี้ไม่ได้ใช้เงินซักปอนด์ดีจัง แต่จะดีกว่านี้ถ้าหางานทำอย่างที่พี่หนิงแนะนำได้


29/3/2551
   วันนี้พ่อโทรมาปลุกแต่เช้าเลย (ตอนแรกกะว่าจะนอนตื่นสายสักหน่อย) ได้คุยประมาณเกือบ 20 นาทีได้มั้ง พ่อก็วางไป นอนต่อไม่ได้ซะแล้วซิครับ ก็เลยลุกขึ้นจัดการกับข้าวเช้าเป็นแกงเมื่อคืนกับไข่ดาวหนึ่งฟองซัดเข้าไปเยอะเหมือนกันเพราะกะว่าวันนี้คงกลับมาถึงหอไม่ต่ำกว่าบ่ายสามแน่นอน (เพราะฉะนั้นรวบข้าวเที่ยงไปด้วยเลย) จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว แล้วไอ้พยากรณ์อากาศก็แม่นซะด้วยฝนตกลงมาเล็กน้อย หลังจากที่รอจนมั่นใจแล้วว่าวันคงไม่ตกแล้วล่ะก็ออกเดิน ประมาณ 11 โมง

จุดมุ่งหมายของเราวันนี้ก็คือ prince street แล้วอาจะจะเลยไป Edinburgh castle หรือไม่ก็ Calton hill วันนี้อากาศไม่หนาวมาก (ทั้ง ๆ ที่เมื่อเช้าฝนตก) คงเพราะแดดออกด้วยล่ะมั้ง เลยได้เอากล้องออกมาถ่ายได้หลายรูปเชียว แต่ก็นะไอ้แดดที่กำลังออกอยู่ดี ๆ ก็หลบหายเข้าไปในกลีบเมฆซะงั้น แต่อากาศก็หนาวในระดับที่พอทนได้

พอเดินถึง prince street ก็ต้องเลือกล่ะนะว่าจะไปทางไหนเพราะถ้าจะไป Edinburgh castle ก็ต้องเลี้ยวซ้ายส่วน ถ้าจะไป Calton hill ก็ต้องเลี้ยวขวา หลังจากชั่งใจแล้วก็ตกลงใจว่าจะไป Edinburgh castle ผู้คนตรง Prince street นี่คับคั่งมาก ๆ รวมถึงรถราด้วย (ช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากที่แถวหอพักซะไม่มี) ไอ้ปราสาทที่ว่าเนี่ยะมันตั้งอยู่บนเข้าครับ เพราะฉะนั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเดินขึ้นเนิน (เป็นถนนนะแต่เป็นชันพอสมควรเลยอ่ะ) นักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกัน (ไม่รู้หรอกนะว่ามาจากไหนบ้าง เพราะไม่ได้ถาม ^_^) กว่าจะเดินถึงเล่นเอาเมื่อยเหมือนกันอ่ะ

เนื่องจากว่าจำเป็นต้องเสียเงินค่าเข้าด้วยรู้สึกจะเกือบเก้าปอนด์ต่อคน (แพงชะมัด) เลยไม่ได้เข้าไปยลโฉมข้างในของปราสาท (ได้แต่เดินดูด้านหน้าจนถึงประตูปราสาทด้านนอก) หลังจากเก็บภาพไปซักพัก (ฟ้าเริ่มปิด แต่ก็ยังมีแดดอยู่รูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่อ่ะ) ก็เดินออกมาตาม Royal mile มีอะไรให้ดูเยอะเหมือนกันเหมือนเป็นลานกิจกรรมแล้วก็มีร้านขายของฝากจาก Scotland เต็มไปหมด ระหว่างทางก็มีของกินขายก็อยากนะ อย่างไอศครีมเงี่ยะแต่พอเห็นราคาแล้วตัดใจได้เลยครับ (โคนล่ะเกือบสองปอนด์ จะแพงไปไหนนี่ยะกลับไปกินน้ำเปล่าที่หอก็ได้ฟ่ะ)

 เดินไปเรื่อย ๆ  (สบายไงเพราะเดินลงเนิน) จนไปสุดที่ The palace of Holyroodhouse ปราสาทที่เคยเป็นที่ประทับของ Mary, Queen of Scotl แล้วก็ยังเป็นที่ประทับของ Queen Elizabeth II ตอนที่เสด็จแปรพระราชฐานจาก London ในกรณีที่มีเทศกาลหรืออะไรนี่แหละ (ไกลพอสมควรเลยล่ะ) ปกติก็เปิดให้เข้าชมได้ แต่ถ้ามีเชื้อพระวงศ์มาพักก็จะปิดครับ เสียเงินค่าเข้าชมด้วย (เกือบเก้าปอนด์ต่อคนเหมือนกัน) เพราะฉะนั้นขอบายครับ

ด้านหน้ามี Queen’s gallery ด้วยเสียเงินเช่นกัน (อันนี้ไม่รู้ครับว่าเท่าไหร่ แต่เห็นมีห้องขาย ticket ด้วยเลยเดาว่าเสียเงินแน่นอน) เลยได้แค่ถ่ายรูปด้านหน้ามา เดินเลยมาหน่อยก็จะเป็น Holyrood park ที่เป็นภูเขาที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน สูงพอสมควรมีคนมาเดินเล่น ขึ้นเขาเยอะเหมือนกัน ตอนแรกก็กะว่าจะลองเดินขึ้นไปดูซักหน่อย แต่ว่าพอเห็นแผนที่บวกกับความสูงแล้ว ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน เพราะว่าวันนี้เดินมาเยอะแล้ว (จริง ๆ ตอนที่ตัดสินจะไม่ขึ้นก็ยังไม่เมื่อยเท่าไหร่นะ แต่นึกถึงเหตุการณ์ข้างหน้าแล้วไว้คราวหน้าแล้วกัน) เลยเดินมาเข้า Earth dynamic มันเป็นอะไรซักอย่างที่พวกพ่อแม่จะพาเด็ก ๆ มาดูอะไรซักอย่างนี่แหละ (สรุปไม่รู้อะไรเลย) คล้าย ๆ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการกำเนิดโลกหรืออะไรนี่แหละเสียเงินเข้าชมเหมือนกันเลยได้แค่เดินเฉียด ๆ แล้วเดินกลับ คราวนี้เดินขึ้นเนินอีกรอบ (เริ่มเมื่อย)

 จากนั้นก็มุ่งตรง Cameron Toll เพื่อไปซื้อของบางอย่างที่ Saints’ berry (ที่ราคามันไม่ต่างในแต่ล่ะวัน) พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องหิ้วของหนักมาก ตอนเดินไปเนี่ยะเหมือนขาจะหลุดเลยอ่ะ ดีนะที่ตัดสินไม่ขึ้นไอ้ Holyrood park ไม่งั้นแย่แน่ ๆ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อของไม่เยอะแต่ก็ได้ไปหลายเหมือนกันทั้งข้าวสาร (อีกแบบ) น้ำส้ม น้ำเต้าหู้ (เอามาแทนนมที่กินแล้วท้องเสีย) แล้วก็แย้มถั่วและก็โก้โกผง กับเครื่องปรุงพวกเกลือ น้ำตาล โดนค่าเสียหายไป 6.04 ปอนด์

วันนี้อุตส่าห์ตั้งใจจะกำจัดเหรียญซักหน่อยตอนที่จ่ายเงินก็ถามว่าเท่าไหร่เราก็ได้ยินว่า Six pound forty pence ก็เลยหยิบแบงค์ห้าปอนด์แล้วก็เหรียญหนึ่งปอนด์กับห้าสิบเพน ดันทอนมา 46 pence อีกพอได้ใบเสร็จถึงรู้ว่า 6.04 โธ่กลายเป็นได้เหรียญมาอีกเพียบเลยทีนี้  กว่าจะเดินกลับมาถึงหอนิ้วชาเลยอ่ะ (หนักใช่ย่อย ดีนะที่ทะยอยซื้อวันนี้ก่อน)

ตอนใกล้ถึงหอตาไปสะดุดของสิ่งหนึ่งเข้านั่นก็คือ Tag ติดกระเป๋าที่เราติดไว้ (สีส้มแปรด) แต่มันหายไปตอนได้กระเป๋าคืนมามันแขวนอยู่แถว ๆ ถังขยะดีนะที่ไม่ทิ้ง (เค้าคงเห็นชื่อกับที่อยู่แน่ ๆ เลย)  ดีจังอย่างนี้ตอนขากลับก็ไม่ต้องหาใหม่แล้วล่ะซิเย้ ๆ  พอกลับมาถึงก็จัดการหุงข้าวเพื่อกินกับแกงที่เหลืออยู่ (ดีจังทำที่กินได้สามมื้อแน่ะ) จากนั้นก็มานั่งเขียน diary (ตอนที่นั่งเขียนอยู่นี่ฝนก็ตกลงมา ท่าทางจะไม่หยุดง่าย ๆ ดีนะที่กลับมาถึงหอพักแล้ว)

อาบน้ำทำอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วก็คงจะสวดมนต์เข้านอน ก่อนนอนก็เอาเงินที่มีอยู่ออกมานับ ปรากฎว่าหายไป 1.04 ปอนด์ หายไปได้ไงก็ไม่รู้ ตอนทำบัญชีก็คิดว่าจดเป๊ะแล้วนะ ก็ยังหายไปอีกจนได้ (หรือจะทำตกหล่นหายไปหว่า) ซวยจริง ๆ เอาเหอะช่างมัน เข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้ว่าจะลองเดินไปที่ Royal observatory ที่เป็นที่ดูดาว ที่พี่อั๋นแนะนำสักหน่อย แล้วค่อยเดินไปซื้อของสดมาเก็บไว้ตอนเย็น ๆ

สรุปปค่าใช้จ่ายวันนี้ 7.08 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 453.12 จริง ๆ จริง ๆ แล้ววันนี้เดินไปดูอัตราแลกเปลี่ยนมา 1 ปอนด์มัน 71 บาทแล้วแต่นี่ยังเอา 64 คูณอยู่เพราะจะอิงตามตอนที่แลกมาจากไทยตอนนั้นล่ะนะ โอยเห็นค่าเงินแล้วถ้าได้งานทำแล้วเก็บเงินกลับเมืองไทยคงจะดีไม่น้อยเลยนะเนี่ยะ

[veekung]

มีรูปด้วยล่ะกำลัง upload อยู่นะครับ :lol:  :lol:

[veekung]

รูปนี้ถ่าเมื่อหลายวันก่อนตอนเดินไปดูร้าน Oriental Thai market แต่อากาศหนาวเลยได้แค่รูปเดียว


เลยแก้ตัวใหม่วันนี้ แดดออกดีเชียว ฟ้าสีสวย ๆ


ป้ายรถเมลล์กับโบสถ์

[veekung]

Summer Hall สถานที่ทำงานครับผม ฟ้าเริ่มปิด


ตึก 6 ชั้นที่ทำงานอยู่ครับ


สวนสาธารณะตรงข้าม lab ออกดอกตอนรับ spring ครับไม่ได้เข้าไปเพราะกั้นรั้วไว้

[veekung]

Prince street ไก๊ลไกล :lol:  :lol: รูปเดียวที่มีครับเพราะมันวุ่นวาย ไม่สวยครับ แต่นักท่องเที่ยวแยะ


ตัดสินใจเดินต่อไป Edinburgh castle


ด้านหน้าก่อนเข้าครับ

[veekung]

หันมาถ่ายวิวด้านหลัง


เข้าไปแล้วต้องเสียเงินเลยบอกลาโดยการหันมาถ่ายอีกซักรูป ไว้เก็บเงินได้แล้วจะมาใหม่นะ


ทางขึ้นปราสาทครับต้นถนน Royal mile ครับ นักท่องเที่ยวเยอะเชียว

[veekung]

คุณคนนี้เค้าแต่งตัวมาถ่ายกับนักท่องเที่ยวครับ ท่าทางเป็นแฟนด์ลี่ครับ ใครถูกใจก็ให้เงินได้ครับ


Royal Mile ครับ


ร้านขายของฝากเยอะเลยครับ

[veekung]

ขาดไม่ได้ครับของฝากประจำชาติ


เหมือนที่พี่หนิงเอารูปมาให้ดูเลยครับ


้น้องเค้ามาเป่าปี่สก๊อตให้ฟังครับ (จริง ๆ มีเยอะเลยครับ แต่จะเป็นผู้ชายแก่ ๆ ซะส่วนใหญ่ครับ)

[veekung]

ทำไมเข้าเว็ปหอยากอย่างนี้อ่ะ ต่อดีกว่า นี่ครับพี่หนิงสก๊อตวิสกี้ที่พี่หนิงบอกให้หาโอากาสลอง (มีราคาติดด้วยนะครับแต่อาจจะไม่เห็น)  :lol:  :lol:


ตู้โทรศัพท์แบบเก่าที่หาดูได้เฉพาะที่ถนนสายนี้เท่านั้น (เค้าว่าอย่างนั้นครับ)


หันไปถ่าย Royal Mile ชัด ๆ อีกรอบ


พอถ่ายรูปนี้เสร็จก็มีนักท่องเที่ยวขอให้ถ่ายรูปให้เค้าหน่อย ^_^

[veekung]

ตู้ไปรษณีย์ที่หายากพอ ๆ กับ TAXI ครับ :lol:  :lol:


Holyrood palace ครับ ไม่ได้เข้าครับเลยได้ถ่ายแค่ทางเข้าครับ


Queen's gallery ครับ ไมไ่ด้เข้าเช่นกัน