26 พฤศจิกายน 2567, 04:45:11
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2] 3  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ภัยรายวัน  (อ่าน 65213 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ตุ้งติ้ง2
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 40

« ตอบ #25 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2551, 21:51:54 »

:shock: อ่านเรื่องของพี่ๆทุกท่านแล้ว ขอแสดงความเห็นใจกับสิ่งร้ายๆที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณที่ได้กรุณาเตือนภัยให้

ตุ้งก็มีเรื่องเล็กๆอยากจะบอก สำหรับคนที่ใช้ ATM หรือ E-Banking บ่อยๆ โดยไม่สนใจกับ
สลิปยืนยันยอดเงิน รวมถึงขี้เกียจเอาสมุดบัญชีไป Up date
 เพราะว่าสลิปของหลายธนาคารเสื่อมเร็วมาก บางธนาคารรับมาไม่ถึงเดือน ตัวอักษรเลือนหายไปจนไม่เหลือร่องรอย ใช้เป็นหลักฐานยืนยันอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น หากมีเงินเยอะแยะจนเชคไม่ไหว อาจมีผู้ช่วยเบิกออกไปตอนไหนก็ได้นะคะ
เช่นเรื่องของอาจารย์ท่านหนึ่ง ไปกดATM แล้วพบว่าเงินหายไปจากบัญชี 1แสนบาท เธอเอา
สลิปไปสอบถามพนักงาน เอาสมุดบัญชีไปยืนยันด้วย แต่พนักงานธนาคารไม่เต็มใจตรวจสอบให้ อ้างว่าเธออาจจะเบิกไปแล้วลืมเอง อาจารย์ท่านนั้นเป็นนักกฎหมาย เธอตามไปโวย ผจก.ธนาคาร เขาก็ไม่ตรวจสอบให้ จนเธอขู่ว่าจะดำเนินคดีและฟ้องสื่อมวลชนด้วย เขาจึงตรวจสอบให้แบบไม่เต็มใจนัก กว่าอาจารย์ท่านนั้นจะได้เงินแสนของเธอคืนมาก็เหนื่อยไปหลายยก

เรื่องนี้เกิดมานานสิบกว่าปีแล้ว ตอนนี้เมื่อมีผู้ร้ายไฮเทคขนาดนี้ ยิ่งต้องระวัง บางครั้งตุ้งก็คิดว่าการเขียนใบเบิกถอนที่มีลายเซ็นพนักงานแบบโบราณมันก็เป็นหลักฐานที่ดีกว่าการใชเครื่องที่เกิดเรื่องแล้ว จับมือใครดมไม่ได้เลย

คิดตามประสาคนโลว์เทคอะค่ะ :cry:
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2551, 01:22:18 »

ขอบคุณน้องตุ้งที่มาเล่าสู่กันฟัง  เรื่องยอดเงินในบัญชีที่อาจจะล่องหนได้  ถ้าไม่เอาใจใส่หมั่นตรวจสอบ ... เรื่องนี้  คนที่มีเงินเหลือในบัญชีเท่าหนวดกุ้ง ก็สบายไป  ไม่มีภาระ ... ha  ha  ha !

ที่จริงตุ้งนี่เป็นนักเขียนสำนวนดีนะ  เล่าแล้วเห็นภาพชัดเจน  เป็นขั้นเป็นตอนดีด้วย  นอกจากจะแปลภาษาญี่ปุ่นแล้ว  ตุ้งเคยเขียนเรื่องลงที่ไหนไว้บ้างคะ ?  พี่จะตามไปอ่าน   ปิ๊งๆ
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551, 16:46:44 »

ประกาศแจ้งเตือนไวรัสที่แฝงมากับอีเมล์ที่มีหัวเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย และประเทศกัมพูชา

พี่ชรินทร์ - รัฐ 07 ... ส่งมา

เนื่องด้วยศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ประเทศไทย ( ThaiCERT ) ตรวจพบอีเมล์ที่มีหัวเรื่องว่า " Cambodia attacks Thailand in Asia war " ซึ่งในเนื้อความนั้นเชิญชวนให้กดลิงค์  เพื่อรับชมวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างประเทศไทย และประเทศกัมพูชา  หากกดลิงค์ดังกล่าวพบว่ามีการดาวน์โหลดไวรัสมาติดตั้งไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติ  และวีดีโอดังกล่าวนั้นไม่มีอยู่จริง  ซึ่งใช้เทคนิคการหลอกลวงว่าจำเป็นต้องปรับปรุงเวอร์ชันของโปรแกรมดูวีดีโอแล้ว  จึงสามารถดูได้

ดังนั้นถ้าหากได้รับอีเมล์ที่มีหัวเรื่องหรือเนื้อหาที่ชักชวนให้ทำการเปิด  หรือดาวน์โหลดที่เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา  ควรลบทิ้งอย่างเร่งด่วน  และห้ามส่งต่อเป็นเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแพร่กระจาย  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.thaicert.org/advisory/alert/Thailand_Cambidia_email.php

ด้วยความปรารถนาดี  ศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ประเทศไทย ( ThaiCERT )


 - - - - - - - - - - - - - --------------------------------------

ท่านสามารถอ่านเอกสารฉบับนี้ได้ จาก http://www.thaicert.org

ข้อมูลติดต่อศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ประเทศไทย ( ThaiCERT )  ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 112 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน  ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง  จังหวัดปทุมธานี 12120  โทรศัพท์: 0-2564-6868  โทรสาร: 0-2564-6871  E-mail: thaicert@nectec.or.th

ข้อสงวนสิทธิ์ของ ThaiCERT

ThaiCERT เป็นหน่วยงานในสังกัดของ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  ซึ่งมีบริการส่วนหนึ่งเป็นการบริการเผยแพร่ความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัย  ของระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามหลักวิชาการให้แก่สาธารณะ  โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  ดังนั้นการเชื่อ  หรือการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ  คำแนะนำ หรือความเห็นของ ThaiCERT จึงเป็นสิทธิ์และดุลยพินิจโดยสมบูรณ์ของบุคคล  ThaiCERT จึงสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในความสูญหายหรือเสียหายที่เกิดขึ้นแก่  ข้อมูล  ระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือทรัพย์สินอื่นใดของผู้ที่นำเอาข้อ  เสนอแนะ  คำแนะนำ หรือความเห็นของ ThaiCERT ไปปฏิบัติโดยไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ  นอกจากนี้ ThaiCERT สงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบในความสูญหายหรือเสียหายที่เกิดขึ้น  แก่ข้อมูล  ระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือทรัพย์สินอื่นใดของบุคคลใดอันเป็นผล  มาจากการกระทำของผู้บุกรุกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Hacker) และไวรัสคอมพิวเตอร์  ซึ่งรวมถึง Worm และ Trojan ทั้งนี้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นในระบบหรือ  เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของ ThaiCERT หรือของบุคคลใด และในสภาวะใด ๆ ก็ตาม  การตรวจสอบที่มาและความถูกต้อง  ThaiCERT ขอแนะนำให้ผู้ที่ได้รับ e-mail หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ตรวจสอบที่มาและ  ความถูกต้องของสาระ บทความ ข้อมูล สัญลักษณ์ รูปภาพ เสียง และรูปแบบต่างๆ  ที่ปรากฏอยู่ใน e-mail หรือเว็บไซต์ว่า เป็นของ ThaiCERT หรือไม่ โดยตรวจสอบได้  ดังนี้  I. e-mail  สาระภายใน e-mail จะต้องมีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะที่เป็น Digital Signature จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ PGP ทุกครั้ง และต้องทำการพิสูจน์ได้ว่าเป็น Digital Signature ของ ThaiCERT จริง และท่านสามารถดาวโหลด PGP Public Key ของ ThaiCERT ได้ที่ http://www.thaicert.nectec.or.th/ThaiCERT.asc II. เว็บไซต์  ที่อยู่ (URL) ของ ThaiCERT จะต้องเป็น http://www.thaicert.nectec.or.th หรือ http://www.thaicert.org เท่านั้น

-----BEGIN PGP SIGNATURE-----> Version: GnuPG v1.4.7 (MingW32)
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2551, 16:58:45 »

กลโกง ATM

พี่สุวิทย์ - วิศวะ ... ส่งมา

เรื่องมีอยู่ว่า ... เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนา มีคนโทรเข้ามา  บอกว่าเป็นพนักงานแบงค์กรุงเทพฯ  บอกว่ามีลูกค้าโอนเงินเข้ามาที่บัญชีเราผิด  บอกเลขบัญชีทุกอย่างถูกหมด  แล้วก็บอกให้โอนเงินกลับด้วย  เพราะว่าลูกค้าคนนั้นเดือดร้อนมาก  เราก็บอกว่าขอไปเช็คก่อน  พอวันเสาร์เราไปกดตังค์  ก็พบว่ามีเงินเข้ามาบัญชีเราผิดตามจำนวนที่เค้าบอกจริงๆ  ก็เลยโอนคืนไปให้...... ก็ไม่คิดว่ามีอะไร  เพราะมันก็ไม่ใช่เงินเราจริง....
 
จนมาวันนี้ได้รับใบแจ้งหนี้จาก CITI BANK มี ยอด Call for cash ให้ผ่อนจ่ายรายเดือน ก็เลยโทรไปเช็คที่ call center เค้าบอกว่าเราโทร.ไปขอเบิกเงินสดเข้าบัญชีเราเอง  เมื่อวันที่ 25 มีนา  เราก็บอกว่าไม่ได้ทำ ... อย่างนี้ก็โดนหลอกแล้วซิ  พนักงาน call center ก็ได้แต่บอกให้ไปแจ้งความ  ซึ่งก็ยังดีที่เราเก็บ silp ที่เราโอน เงินไว้น ะ..... จะรบกวนผู้รู้ค่ะ  ว่าจะทำอย่างไรต่อดี จะไปแจ้งความที่ไหน  แล้วตำรวจจะช่วยเราได้ไหม  เพราะจำนวนเงินนั้นก็หลายหมื่นเลยค่ะ
 
จากคุณ : jupjib - [ 19 เม.ย. 51 14:36:15 ]


วิธีแก้ไข

หากเจอแบบนี้  ไม่ต้องทำรายการโอนครับ  ถึงจะมีการโอนเข้ามาผิดจริง  ทางธนาคารสามารถทำรายการแก้ไขได้เองอยู่แล้ว  การทำรายการโอนเงิน  เท่ากับเราเป็นผู้สั่งโอน  การแก้ไขจะทำได้ลำบากขึ้น

หรือหากเป็นการโอนจาก ATM หรือ CDM  ให้ขอหลักฐานเป็นหนังสือที่ออกโดยธนาคารมาให้เราก่อน ( ตัวจริงนะครับ )  แล้วเช็คข้อมูลกับธนาคารต้นทางก่อนจนแน่ใจ  อีก 4-5 วันค่อยโอนก้อไม่เสียหาย  เพราะไม่ได้มีเจตนาโกง  ฟ้องมาก้อชนะแน่นอน  ... ถ้าเป็นการทำรายการโอนผิด  ธนาคารแค่แจ้งลูกค้าปลายทาง  แล้วจัดการเองได้เลยแน่นอน

นี่เป็นวิธีหลอกลวงแบบใหม่  เพื่อนๆ โปรดระวัง  แจ้งเตือนกันให้ทั่ว  คนส่วนใหญ่ในสังคมเป็นคนดี ... อยากคืนเงินคนที่เดือดร้อนแน่อยู่แล้ว  ดังนั้นมีโอกาสตกหลุมนี้ได้ไม่ยากเลย  เจ้าของบัญชีที่รับโอนกลับคงเป็นคนบ้านนอก  ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนัก   ถูกจ้างให้เปิดบัญชีพร้อมบัตร ATM ได้ เงิน 200-300 บาทก็เอาแล้ว   คนโกงก็กด ATM เชิดไปแล้วหลายหมื่น


ข้อควรระวังเรื่องนี้
 
1. ถ้าโอนผิดจริง  แบงก์สาขาจะสามารถจัดการได้เองเลย  เราไม่ต้องทำอะไรครับ
 
2. เบอร์โทรเข้ามา  ถ้าแปลกๆ  แบบไม่แสดงเบอร์  หรือเป็นแบบโทร.จาก internet ให้ระวัง
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2551, 03:41:23 »

ทำอย่างไรเมื่อเกียร์รถยนต์หลุด ขณะขับรถ

นุชน้อย - อักษร 16 ... ส่งมา

ประสบการณ์จริง จากรถเกียร์ออโต้ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ! ... คุณคงเคยอ่านข่าว รถจอดอยู่แล้วไหลชนเจ้าของบ้าน หรือตกคลองกันบ้าง เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้

เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา 27.6.08 นี้เอง หลังจากที่ได้นำรถ BENZ 300 E ไปเข้าอู่เพื่อดูแลตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์เข็คโน่นเช็คนี่ตามเลขกิโลที่กำหนด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาเลย แต่บ่ายวันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้ เคยได้ยินไหม " เกียร์หลุด " ไม่ใช่หลุดออกมา ไม่ใช่เข้าเกียร์ไม่ได้ แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไรก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2 ทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด ยิ่งคุณพยามยามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น อย่าหวังพึ่งเบรคมือ เพราะจะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้ไหลเท่านั้น


เย็นวันนั้นหลังเลิกงาน แวะ Shopping ที่ห้างเดอะมอล์ ผ่านจากจุดรับบัตรตรงทางเข้าไปนิดหน่อย ก็เห็นที่มีที่จอดรถว่างอยู่ เป็นทางลาดเล็กน้อย ( เล็กน้อยจริงๆ ) ก็เลยเปิดไฟกระพริบ เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อถอยหลังเข้าที่จอด ถอยไปได้ครึ่งคัน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนเป็น D เพื่อให้รถเดินหน้าจะได้ตั้งลำถอยใหม่ ตอนนี้เองรถไม่ยอมเดินหน้า ถอยหลังซะงั้น ก็เริ่มแปลกใจ หันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้น ? รีบเหยียบเบรค เข้าเกียร์ D ใหม่ เหยียบคันเร่งเบา ๆ รถกลับถอยหลังแรงขึ้นไปอีก ก็เหยียบเบรคอีก แต่รถมันคอยจะถอยอย่างเดียว เครื่องดังหึ่ง ๆ จะถอยลูกเดียว ทีนี้คิดว่าจะทำอย่างไรดี ไม่เคยเจอ ก็เลยให้อีกคนเปิดประตูลงมามองหาว่ามันมีที่กั้นล้อด้านหลังไหม จะได้กั้นรถไว้ได้ เพราะด้านหลังเป็นท่อแก๊ส และท่อน้ำขนาดใหญ่ของห้าง ถ้าถอยไปชน จะเกิดอะไรขึ้น ? พอลงไปดูเห็นมีที่กั้นค่อยโล่งใจหน่อย ก็เลยตะโกนบอกมีที่กั้น จอดเลยไม่ต้องถอยแล้ว คนขับก็เหยีบเบรคและเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N ห่างจากจุดที่กั้นเป็นปูนประมาณ 2 คืบได้ แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด

ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ รถกระโดดข้ามไปอยู่บนที่กั้นด้วยความเร็วและแรงมากในชั่ววินาทีเดียว วินาทีเดียวจริง ๆ ซึ่งคนที่ยืนดูท้ายอยู่ อยู่ห่างจากตัวรถทางด้านข้างไม่ถึงฝ่ามือ ยืนตะลึง แรงของรถกระแทกท่อแก๊ส กับท่อน้ำอย่างแรง กันชนแตกเละ โครมเบ้อเริ่ม สิ่งที่ทำตอนนั้นคือตะโกนว่า ดับเครื่อง ดับเครื่อง ดับเครื่อง หลายคนคงสงสัยแล้วแล้วจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ ก็ค่อยๆ มองซ้ายมองขวาช่วยกันเข็นรถที่มันคาอยู่บนขอบปูน และกำลัง เบียดท่อแก๊สกับท่อน้ำ ออกน่ะสิ โชคดีมาก ๆ ท่อเป็นเหล็กหนามาก ไม่อย่างนั้น คนที่ดูหลังอยู่ด้านท้ายคงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง คงจะแบนไปกับท่อแก๊สไปแล้ว * ทุกคนคงอยากดูรูป แต่ตอนนั้นตกใจลืมนึกไป *
 
สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คือ

1. เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที ( คำแนะนำของช่าง ) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง

2. เมื่อจะถอยหลัง หรือออกรถ ระวังอย่าให้มีคนยืนอยู่ด้านหน้า หรือด้านหลังเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ เวลาถอยรถ เรามักมีคนไปด้วยช่วยลงไปดู เพราะไม่แน่ใจ หรือคอยระวังรถคันอื่น

3. รถที่พึ่งออกจากอู่ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด

4. สติของคนขับสำคัญมาก แม้ประสบการณ์ขับรถมานานหลายสิบปี ในสถานการณ์คับขัน ก็อาจควบคุมสติไม่ได้

เล่าสู่กันฟังด้วยความปรารถนาดี
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2551, 03:54:48 »

แฉเบื้องหลังการโจรกรรมรถยนต์

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

มาดูว่าโจรเข้าไปในรถเราได้อย่างไร โจรต้องหาวิธีเข้าไปภายในรถยนต์ของเราให้ได้ก่อน ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายวิธี ได้แก่



1. กุญแจปลอม
ถ้าคนร้ายมีกุญแจเหมือนกับเรา ก็เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของรถนั่นเอง วิธีการที่ผู้ร้ายจะได้กุญแจปลอมนั้น ได้แก่ การแอบปั๊มกุญแจ เช่นเวลาที่เรานำรถไปจอดซ่อม ล้างอัดฉีด ซื้อรถจากโชว์รูม เต็นท์ขายรถมือสอง จากเจ้าของเก่าที่ไว้ใจไม่ได้ หรือที่นิยมสมัยนี้คือ การติดต่อซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต แล้วแอบมาปั๊มลูกกุญแจเวลาเจ้าของเผลอ ซึ่งคนร้ายจะติดตามมาถึงบ้าน และที่จอดรถประจำเพื่อขโมย



2 .เหล็กแข็งแทนกุญแจ
คนร้ายจะใช้เหล็กขนาดเท่ากุญแจรถแต่เป็นเหล็กแข็ง ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยม มุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง ตีเข้าที่รูกุญแจแล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล็อคเปิดออก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนร้ายชอบใช้กัน
 


3. ใช้ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู
ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถแล้วเรียกช่างมาปลดล็อคกุญแจจะเคยเห็นว่า ช่างจะใช้ลวดเชื่อมยาวๆเบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก และใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อคให้เด้งขึ้น เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูขึ้น หรือใช้ฟุตเหล็กแยงให้ตรงกับคันชักกลอนประตูให้เด้งลง หรือใช้ลวดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อมาดันตัวกดล็อกให้เด้งขึ้น วิธีนี้ถ้าช่างที่มีความชำนาญจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

4. งัดประตูหูช้าง
พวกรถกระบะแค็บที่มีประตูหูช้าง โจรจะใช้ลวดแข็งมากๆงอเป็นตัวยู สอดเข้าไประหว่างกระจกแค็ปแล้วงัดแรงๆ กระจกจะเปิดออก แล้วจะงัดตัวล็อคให้หัก ใช้มือเอื้อมมาเปิดตัวล็อคประตู บางคนคิดว่ากระจกบานนี้น่าจะแข็งแรงแต่ถ้าคุณลองงัดดู จะต้องเปลี่ยนใจว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด

5.ใช้น้ำกรด
โจรจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้นใส่เข็มฉีดยา หยดไปตามรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง และสปริงเล็กๆในแม่กุญแจ แบบนี้ยังนำมาใช้ภายในรถพวกล็อคพวงมาลัย ล็อคเกียร และล็อคครัชได้อีกด้วย

6. ทุบกระจกประตูหรือกระจกหูช้าง
โจรจะใช้เหล็กแหลมคม ค่อยๆกะเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว ใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง จนกระจกแตกออกทั้งบาน ใช้มือล้วงเปิดตัวล็อคกุญแจออก คราวนี้ก็ถือเป็นการง่ายแล้วถ้าจะเข้าไปในรถของท่าน



7. ช็อตวงจรไฟฟ้า
บางท่านคิดว่าใช้กุญแจรีโมตแล้วปลอดภัยแน่ แต่จริงๆแล้วกลับง่ายต่อการต่อรัดวงจรไฟฟ้า เช่น วงจรไฟเลี้ยว ในชุดรีโมตแบบธรรมดา หรือถ้าเป็นรถยุโรปด้วยแล้วกลับเป็นเรื่องง่าย ตัวล็อคจะเด้งหลุดทันที



8. จูนสัญญาณจากรีโมต
เวลาจอดรถในห้างสรรพสินค้าพอเรากดรีโมตล็อคปุ๊ป คนร้ายก็จะมีเครื่องมือมาจับความถี่สัญญาณ แล้วหาก็อปปี้ความถี่มาใช้ยิงเปิดประตูได้เลย แบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่อันตรายมาก

9. ยกรถ
บางครั้งแล้วคนร้ายอาจใช้วิธีเอารถยกมายกไปเลย แบบนี้อย่าคิดว่าขำครับ เป็นวิธีที่โจรบางพวกนิยมใช้กัน เมื่อยกรถแล้วจะหาทางเข้าที่เปลี่ยวๆ แล้วปลดล็อคต่างๆ กันต่อไป

10. จี้หรือปล้น
อย่างที่เคยได้ยินกันตามหน้าหนังสือพิมพ์นี่หละครับ เช่น การวางเรือใบ ดักซุ่มในที่เปลี่ยว ล่อลวงต่างๆ แต่ที่เห็นเป็นประเด็นร้อนอย่างการลวงซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต แล้วขอนัดดูในที่เปลี่ยว แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้มาขอซื้อรถหรอกครับ แต่อาจจะขอไปใช้กันฟรีๆ เลยก็ได้

เมื่อเข้ารถได้แล้วโจรมักจะทำอย่างไร

1. งัดคอพวงมาลัย เพื่อเป็นการปลดล็อคระบบบังคับเลี้ยว โจรจะถอดคอพวงมาลัยแล้วใช้อุปกรณ์งัดหูล็อคคอกุญแจ หรือตัดกุญแจล็อคคอที่เป็นตะกั่วให้หลุดออกจากแกนพวงมาลัย แค่นี้ระบบล็อคคอก็จะหลุดออกอย่างรวดเร็ว

2. ใช้เลื่อยตัด ถ้าเรามีกุญแจล็อคคันเกียร หรือล็อคพวงมาลัย อย่าพึ่งหลงคิดว่าโจรจะใช้เวลามากเพราะล็อคเกียร หรือล็อคพวงมาลัยราคาถูก ก็เปรียบเสมือนเครื่องประดับรถสำหรับโจรแค่นั้นเอง อย่างในรูปล็อคเกียรนั้นจับเวลาในการตัดได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น

3. ใช้น้ำกรด โจรจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้น หยอดไปตามรูกุญแจต่างๆจนเสียหาย และหลุดออก

4. ช็อตวงจรไฟฟ้า และต่อสายตรง คนร้ายส่วนมากจะมีการฝึกฝน และศึกษาวงจรกันขโมยของแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมาเป็นอย่างดี คนร้ายอาจใช้เวลาไม่นานในการต่อสายตรงแล้วสตาร์ทเครื่องหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว


ขโมยแล้วเอาไปไหน

1. ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
แนวทางของคนร้ายถ้าเป็นรถใหม่ก็จะนำส่งประเทศเพื่อนบ้าน แรกๆก็แปลกใจว่าถ้าจะข้ามตะเข็บชายแดนก็มีทหาร ตำรวจสกัดด่านไว้หมด แล้วมันเอาไปได้ไง ที่เคยเห็นก็เป็นวิธีเอาลงแพ แล้วใช้ไม้ลวกถ่อข้ามแม่น้ำไป ราคาขายในประเทศเพื่อนบ้านไม่เกินหลักแสนบาท

2. แยกขายเป็นอะไหล่มือสอง
ถ้าเป็นรถเก่าหน่อยคนร้ายก็จะนิยมเอามาแยกขายอะไหล่แบบเชียงกงบ้านเรา ถ้าสังเกตกันดีๆมีหลายร้านที่มีอะไหล่ทั้งนอกและในบ้านเราผสมอยู่ก็ไม่น้อย หรือนำไปซ่อมขาย ลักษณะพวกนี้จะทำงานเป็นออเดอร์สั่งมาเลย อยากได้รุ่นไหน สีอะไรเป็นต้องได้ พวกนี้จะนำมาแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาซ่อมรวมกับรถที่เกิดอุบัติเหตุแบบสาหัส ที่ต้องการอะไหล่แบบครึ่งคัน หรือใช้เกือบทั้งคันเลยก็มี

3. สวมทะเบียน
อีกแบบก็นำมาสวมกับทะเบียนรถอุบัติเหตุแบบซ่อมไม่ได้แล้ว ใช้แค่ทะเบียนกับหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องเดิมนำมา ต่อใส่แล้วเก็บสีให้สวยก็ขายได้แล้ว สมัยนี้ช่างฝีมือ และเทคนิคใหม่ๆมีเยอะ ขนส่งยากที่จะจับได้

4. ทำทะเบียนปลอม
แบบสุดท้ายใช้รถแบบนั้นเลยแล้วทำทะเบียนปลอมขึ้นมา ( จากขนส่ง ) สามารถต่อทะเบียนวิ่งได้ทุกปี จนถึงปีที่ 6 ต้องตรวจ ต.ร.อ. ก็ไม่สามารถทำได้เพราะกลัวตรวจสอบเจอ ก็นำไปแยกขายอะไหล่อีกที


แล้วเรามีวิธีป้องกันรถหายกันได้อย่างไร

ใช้อุปกรณ์ป้องกันขโมย ในปัจจุบันมีคนพัฒนาอุปกรณ์เพื่อมาหยุดยั้งการโจรกรรมรถยนต์ออกมาขายมากมายไปหมด มาดูตัวอย่างระบบกันขโมยที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

1. ล็อคเกียร แทบเป็นอุปกรณ์ที่แถมมากับโรงงานเลย แนะนำให้ใช้ยี่ห้อที่มีเชื่อเสียง วัสดุเป็นสแตนเลส หรือเหล็กกล้าอย่างดี ถ้าเป็นแบบของแถมราคาถูกต้องขอบอกตรงๆครับว่าเหมือนของประดับรถมากกว่า

2. ล็อคพวงมาลัย เป็นอุปกรณ์ที่ดีโจรต้องใช้เวลาในการปลดล็อคเพิ่มขึ้น โจรอาจใช้วิธีขันพวงมาลัยออกมาปลดล็อค หรือตัดพวงมาลัยออกแบบพวงมาลัยเครื่องบินแล้วขับหนีกันไปแบบนั้นเลย



3. ล็อคเบรคครัช เป็นแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ผลิตกันมามากมายหลายยี่ห้อ การล็อคแบบนี้จริงๆแล้วถือเป็นการป้องกันแบบทีมีประสิทธิภาพมาก บางรุ่นคนร้ายอาจต้องใช้แก็สตัดเพื่อปลดล็อคเลยก็ได้


เทคโนโลยีล่าสุดในการป้องกันขโมยรถยนต์แบบต่างๆ

1. ระบบ ควบคุมการล็อคประตูแบบไร้สาย (Wireless Door-lock Remote Control System)
เป็นระบบที่ใช้รีโมตควบคุมระยะไกล ใช้คลื่นความถี่สูงระดับ FM! ส่งรหัส ID Lock จากตัวแม่ Master เข้าสู่กล่องควบคุม ECU ระบบนี้จะใช้รหัสโค้ด 10 ตัว เพื่อเข้ารหัสในการปลดล็อคกุญแจ ถ้ารหัสผิดกล่องจะทำการตัดสัญญาณ ต้องใช้กุญแจไขเท่านั้น และยังคอยรับอาการผิดปกติที่เกิดกับรถยนต์ทุกรูปแบบ

2. ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ ( Engine Immobilizer System )
ระบบนี้จะอาศัยแผ่นโค๊ด ( Tran sponder Chip ) ที่ฝังอยู่ในลูกกุญแจ เมื่อนำลูกกุญแจเสียบเข้าสู่แม่กุญแจ จะ มีการส่งสนามแม่เหล็กจากตัวแม่ มาสู่ตัวลูก เพื่อเปรียบเทียบโค๊ด ถ้ารหัสผิดกล่องคอมพิวเตอร์จะตัดสัญญาณการสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที และไม่สามารถสตาร์ทใหม่อีกได้ ระบบนี้ ถ้าเจ้าของรถบางคันคาดไม่ถึง เอาลูกกุญแจสำรองที่ทำปั้มเองมาไข จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ ต้องลากรถกลับเข้าไปแก้โค๊ดที่ศูนย์ทุกรายครับ

3. ระบบ TDS หรือระบบส่งสัญญาณด้วยเสียง
ระบบนี้จะทำงานเมื่อมีการกดรีโมตล็อคประตู ซึ่งระบบจะมีเซนเซอร์จับสัญญาณ เสียงสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันการทุบกระจกรถ การเปิดประตูโดยไม่ใช้รีโมต การถอดขั้วแบตเตอร์รี่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงทันที ด้วยตัวกำเนิดสัญญาณเสียงแบบมีแบตเตอร์รี่ในตัว หรือบางรุ่นใช้ต่อพ่วงกับแตรรถยนต์ให้เกิดเสียงดัง ซึ่งต้องใช้รีโมตเป็นตัวหยุดการทำงานเท่านั้น

4. แบบอื่นๆ
เทคโนโลยีการป้องกันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เช่นระบบติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม ด้วยเรดาร์นำท าง GPRS ที่จะมีตัวส่งสัญญาณให้ทราบได้เลยว่า ขณะนี้รถที่ถูกขโมยวิ่งอยู่ที่ไหน ระบบจะประสานงานกับ GPRS ของตำรวจเพื่อติดตาม หรือจะเป็นระบบที่ปล่อยควันหมอกออกมา ให้โจรตกใจและรีบหลบหนีไป และระบบที่เมื่อรถถูกขโมย ระบบจะส่งสัญญาณมายังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของรถ ว่ารถกำลังถูกขโมย เพื่อให้เจ้าของรีบโทรแจ้งตำรวจมาสกัดจับได้ต่อไป

 
การดูแลและป้องกัน

1. การหาที่จอดรถ ไม่ควรจอดในที่เปลี่ยว ลับตาคน หรือจอดค้างคืนไว้เป็นเวลานานจนคนร้ายขโมยได้ง่าย

2. ป้องกันการถูกปั๊มกุญแจ เช่นเวลานำรถไปซ่อมตามอู่ที่ไม่น่าเชื่อถือ ล้างอัดฉีด ขอดูรถซื้อขาย และวิธีอื่นๆที่โจรอาจจะใช้เวลาที่เราเผลอแอบปั๊มลูกกุญแจและสะกดรอยตาม เวลานำรถไปซ่อม หรือล้าง ควรทิ้งไว้เฉพาะกุญแจรถเท่านั้น กุญแจล็อคแบบอื่นๆ ต้องเก็บไว้ให้หมด

3. ป้องกันการถูกล่อลวง เช่นการขอซื้อรถยนต์ หรือการนัดพบในที่เปลี่ยว หรือในที่ที่ก่อให้เกิดอันตราย

4. เป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจ ถ้าพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรม หรือกำลังโจรกรรมให้รีบแจ้งเพื่อจับกุม


เมื่อรถหายแล้วควรทำอย่างไร

1. แจ้ง จส.100 สายด่วนรถหายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-7119160 เพื่อออกอากาศในสถานีวิทยุ เพื่อมีผู้ที่เห็นรถที่หายขับอยู่บนท้องถนน

2. โทรแจ้ง ศปร.ตร ที่เบอร์ 1192 เพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวไปในทุกหน่วยงานในพื้นที่

3. แจ้งความที่โรงพัก และสถานีตำรวจใกล้บ้านให้รวดเร็วที่สุด เพื่อตำรวจได้รีบออกติดตามคนร้าย

4. บอกต่อเพื่อนฝูง คนสนิทที่รู้จักทั้งหมด ให้รีบกระจายข่าวเพื่อออกไล่ติดตาม

5. ติดตาม และสอดส่องในจุดที่สันนิฐานว่าคนร้ายใช้เส้นทางใดหลบหนี หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดี
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2551, 00:13:35 »

ระวังห้องน้ำ ตามปั๊มน้ำมัน !!

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

ระวังห้องน้ำในปั้ม และรถที่ขับตามมา สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ความตายรออยู่รอบตัวเรา

เราเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนหน้า น.ส.พ.ทุกวัน เป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง ... ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว วิชชุ เศรษฐกนก ศิลปินฝึกหัดของบริษัท Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป จึงตระหนักว่าไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆ กัน


วันที่เกิดเหตุ ผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียส เลยใช้เวลานาน คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้ แต่อยากซื้อขนมกับไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย

ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ท เข้าไปซื้อของเสร็จ คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท ไม่มีใครในห้องน้ำเลย แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง ... เป็นเสียงคนเดินเข้ามา พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแรกคือ ไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง ... จังหวะนั้นมันเร็วมาก พอผมเอี้ยวตัวไป เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน คนถือปืนก็ขึ้นลำปืน แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆว่า ... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง ผมบอกเขาว่า " พี่อยากได้อะไร เอาไปเลย " หวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้ายแรง แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน ทุบเอาอีก ... แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควก ก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ ก็จับตัวผมหันมา จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง หมัดเดียวแต่จุกมาก จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น แล้วทำท่าเหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน เริ่มจากปิดตา ปิดปาก ตอนปิดปาก เขาปิดจมูกไปด้วย ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ เท่านั้น โชคดีว่าพันไม่แน่นมาก ยังมีช่องเหลือให้หายใจได้

หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป แล้วทุกอย่างก็เงียบ ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้ เอาแต่รถไปอย่างเดียว รออีกเดี๋ยวค่อย ๆ กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้ แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่ ผมดิ้นสุดชีวิตเลย โดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้ ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นรถ เพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่ .... ท่านจะอยู่อย่างไร เพราะผมเป็นลูกคนเดียว แล้วก็นึกถึงพระ ปลงว่าท่าจะไม่รอด รถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้า คาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป ... เผมคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว ก็พยายามแกะเทป แล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ มีคนขับรถผ่านมา ช่วยผมพาไปส่ง ร.พ. ไปนอนไอ.ซี .ยู 1 คืน

วิชชุบอกว่า พ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก ให้ระวังคนขับรถมาชน อาจเป็นโจร .... คนๆ นี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้


โลกนี้มันมีทั้งเรื่องที่ดีงาม และเรื่องที่ไม่ดี มันเป็นโลกแห่งความจริง ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่าใจ หลาย ๆ คนคิดว่า ... ไม่เป็นไร แค่นี้เอง แต่แค่นี้เอง มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้ว ถึงแม้จะไม่ห่วงตัวเอง ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคน ที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน ถ้าเป็นผู้หญิง ก็อาจจะเสียทั้งกาย ทั้งใจ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #32 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2551, 22:54:50 »

พี่เจี๊ยบขา,
อ่านเสร็จ(เรื่อง trickการขโมยรถ)
ให้ตกใจ...
1.ทำไมกุญแจเราประหลาด
2. electronicทั้งหมด...ฮู้,น่ากลัวคะ





แต่กุญแจนี้ เปิดแบบ manualได้คะ
หาก electronicเจ๊ง..
กดตรงไหนซักแห่ง ก็จะมีส่วนเหล็กออกมา
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #33 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2551, 03:22:12 »

พี่เจี๊ยบขา,
ต่ออีกนิดนะคะ จะได้ต่อเนื่องกันเลย!
พ่อบ้านต้องไปbusiness trip to Switzerland
ได้รถเช่ามา เริงร่าดีใจ...Audi A4รุ่นล่าสุด!
ทันสมัยเฉียบ ไหนขอดูกุญแจ....ว้ายยยยยย
สุดประหลาดคะ!

ด้านหน้า


ด้านหลัง


นั่นสิ แล้วจะเสียบยังไง??


บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #34 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2551, 03:25:53 »

ไหนดูอีกที...ขอบอก,เสียบไปทั้งแบบนั้นเลยคะ!


บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #35 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2551, 03:33:47 »

ไหนๆก็ไหนๆ...โรงงาน Audiก็อยู่ Heilbronn-Neckarsulmเนี่ย
promoteเล็กๆน้อยๆคงไม่เป็นไร!
(ขอบคุณคะ...)

<a href="http://www.youtube.com/v/1i_LXX_86eQ&amp;hl=en&amp;fs=1.swf" target="_blank">http://www.youtube.com/v/1i_LXX_86eQ&amp;hl=en&amp;fs=1.swf</a>

nn.(ภัยรายวัน)
บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2551, 22:56:06 »

NN ... พี่ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลยค่ะ  มีเวบหอก็ดี๊ ดี อย่างงี้แหละนะ ... Rudi ขับรถเช่าอย่างหรู - Audi A4 รุ่นล่าสุดไปทำงานที่ Switzerland เองเลยเหรอคะ ? ... สะดวกสบายแท้ๆ เชียว  ก็ Germany มีพรมแดนติดต่อกับ Switzerland อยู่แล้วนี่นา  แถม Switzerland - ดินแดนในฝัน ก็เพิ่งจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม Schengen แบบสดๆ ร้อนๆ ซะอีก  ( กระซิบ ... เมษา ปีหน้า  พี่หมายตาไว้แล้ว  ดีใจจัง ! ที่ไม่ต้องขอ Visa เพิ่มอีกประเทศนึง )

กุญแจรถ Mercedez ของหนิง และของรถ Audi ทันสมัยจริงๆ ... พี่ไปหยิบกุญแจรถ Mercedez S500 ของที่บ้านมาดูมั่ง  รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีดำ  พอกดปุ่มเล็กๆ ที่อยู่ตรงมุม  ก็จะมีดอกกุญแจเหล็กเด้งออกมา ... ไอ้หยา ! สนิมเขรอะเลย  ก็คุณเธออายุเกิน 10 ปี แล้วนี่คะ  ส่วนปุ่มใหญ่นูนๆ ตรงกลางนั่น ไว้กดเปิด-ปิด lock รถแบบ electronic




... ไม่รู้ว่าท่าน " อภิมหาโจรา " อยากจะทำกุญแจผีของรถพวกนี้ รึเปล่านะ  พี่ว่าคงจะมี order จากต่างประเทศมาน้อยมาก  หรือไม่ก็ท่านคงซาล่ะตะแล้วล่ะว่า " ได้ ไม่คุ้มเสีย " อย่าคิดขโมยดีก่า !
 
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2551, 23:07:56 »

ข้อมูลวิทยานิพนธ์จากผู้ต้องขังข้อหาข่มขืนจากคุกบางขวาง และลาดยาว จำนวน 100 คน‏

พี่ชรินทร์ - รัฐ 07... ส่งมา

นางสาวอลิสา แสงขำ นักศึกษาปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิติศาลตร์ ภาควิชาอาชญวิทยา เก็บข้อมูลจากนักโทษข้อหาข่มขืนจากคุกบางขวาง และลาดยาว จำนวน 100 คน

- 90% เลือกผู้หญิงผมยาว คือหางเปีย หางม้าปล่อยตามธรรมชาติ เพราะกระชากจากข้างหลังได้ง่าย

- 87% เลือกผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าถอดง่าย แต่หากพบผู้หญิงถูกใจแต่สวมเสื้อผ้าที่ต้องใช้เวลาถอดนาน เขาจะกลับมาดักรอเป็นครั้งที่สอง พร้อมกรรไกรหรือคัตเตอร์

- 84% เลือกผู้หญิงที่เดินไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย มือถือสามารถนำไปขายต่อได้ หรืออ่านการ์ตูน หรือหนังสืออื่น ขณะเดินเพราะไม่ได้ระวังตัว

- 96% เลือกผู้หญิงที่เดินทางไปไหนมาไหนเวลากลางคืน เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกตอนกลางคืน โดยไม่คำนึงว่าต้องเป็นผู้หญิงสวยหรือหุ่นดี ขอให้มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า หากเวลานั้นเป็นเวลาที่เขาต้องการปลดปล่อยแล้ว เขาไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย วัว ควาย

- 99% เลือกผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งทำทีเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับผู้หญิงคนที่ถูกใจจากกลุ่มเพื่อนของเธอที่เดินด้วยกัน ไปข่มขืน

- 80% สามารถข่มขืนได้ในการกระทำครั้งแรก โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงนั่นเอง เป็นอุปกรณ์ช่วยประกอบการกระทำผิด เช่น เข็มขัด ลูกกุญแจ กระจกส่องหน้า

- 70% เลิกล้มความตั้งใจ หากผู้หญิงคนนั้นจ้องหน้าเขา แล้วเริ่มต้นสนทนาสั้นๆ กับเขาก่อน ขณะที่เขาเข้าประชิดตัว เช่น โทษค่ะ กี่โมงแล้ว
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #38 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2551, 19:16:18 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 13 ธันวาคม 2551, 22:56:06
NN ... พี่ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลยค่ะ  มีเวบหอก็ดี๊ ดี อย่างงี้แหละนะ ... Rudi ขับรถเช่าอย่างหรู - Audi A4 รุ่นล่าสุดไปทำงานที่ Switzerland เองเลยเหรอคะ ? ... สะดวกสบายแท้ๆ เชียว  ก็ Germany มีพรมแดนติดต่อกับ Switzerland อยู่แล้วนี่นา  แถม Switzerland - ดินแดนในฝัน ก็เพิ่งจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม Schengen แบบสดๆ ร้อนๆ ซะอีก  ( กระซิบ ... เมษา ปีหน้า  พี่หมายตาไว้แล้ว  ดีใจจัง ! ที่ไม่ต้องขอ Visa เพิ่มอีกประเทศนึง )

กุญแจรถ Mercedez ของหนิง และของรถ Audi ทันสมัยจริงๆ ... พี่ไปหยิบกุญแจรถ Mercedez S500 ของที่บ้านมาดูมั่ง  รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีดำ  พอกดปุ่มเล็กๆ ที่อยู่ตรงมุม  ก็จะมีดอกกุญแจเหล็กเด้งออกมา ... ไอ้หยา ! สนิมเขรอะเลย  ก็คุณเธออายุเกิน 10 ปี แล้วนี่คะ  ส่วนปุ่มใหญ่นูนๆ ตรงกลางนั่น ไว้กดเปิด-ปิด lock รถแบบ electronic




... ไม่รู้ว่าท่าน " อภิมหาโจรา " อยากจะทำกุญแจผีของรถพวกนี้ รึเปล่านะ  พี่ว่าคงจะมี order จากต่างประเทศมาน้อยมาก  หรือไม่ก็ท่านคงซาล่ะตะแล้วล่ะว่า " ได้ ไม่คุ้มเสีย " อย่าคิดขโมยดีก่า !

พี่เจี๊ยบ,
ด่ายชายแดนสวิต แถบนี้อยู่ที่เมือง Schaffhausen 230 km.far from Heilbronn.
heต้องติดอยู่บนการจราจร ไป-กลับ รวม 4.5ชม.
เพื่อการสาธิตอะไรซักอย่าง 1.5ชม.


งวดก่อนๆเวลาไปไหนๆ...heมักจะได้รถรุ่นล่าสุด
รับมาเสร็จ ถ้ายังไม่มืด..heจะให้หนิงลองขับค่ะ
เมื่อ 2-3ปีก่อน ต้องไปทางเหนือ...heได้Mercedes Benz
SLKเปิดประทุน....ว้าวพี่!เหมือนลอยในเมฆ ขับเสร็จหัวกระเซิง!!
เป็นหน้าร้อน คงได้ฝ้าเป็นของแถม!

ว้าว!ได้เห็นกุญแจ Benzรุ่นก่อนๆแล้วให้ปลาบปลื้ม!
ที่เยอรมันก็มีการลักรถค่ะ ไปโผล่โปแลนด์ รัสเซีย...
แต่โจรก็โจรเถอะ....กระจอกไม่ได้เด็ดขาด-
ก็แผนกที่เกี่ยวข้อง หรือ Automobilzuliefererที่ดูแล
เรื่องนี้เรื่องเดียว....เกณฑ์engineer,mechanicer,programmer
สมองใส...geniusไม่ทำอย่างอื่น..ทำเรื่องนี้เรื่องเดียว
ทั้งปี....ทั้งชาติ

ช่วยด้วย!ช่วยด้วย!หนูออกจากรถไม่ได้...มันขังหนูไว้ในรถ

nn.
บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 12:04:43 »

ทันเล่ห์แก๊งก๊อปปี้บัตร " ดึงบัตรออกจากตู้ ATM ช้าๆ "

พูลศรี Algaier - ครุ 16 ... ส่งมา

เตือนกด ATM เจอดูดข้อมูล แบงก์ใบโพธิ์สูญแล้วกว่า 2.5 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2551 ว่านายภิญโญ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมและป้องกันการทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ รับมอบอำนาจจากธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าแจ้งความกับ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. เพื่อให้จับกุมแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรกดเงินสดอีเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรเอทีเอ็ม ในความผิดฐานลักทรัพย์ และปลอมแปลง และใช้บัตรอีเล็กทรอนิกส์ปลอม หลังจากพบว่าเงินในบัญชีเงินฝากเอทีเอ็มของลูกค้าถูกลักลอบกดออกไปเป็นจำนวน 41 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 ล้านบาท

น.ส.ขวัญเรือง บุญจันทร์ อายุ 23 ปี พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าหลวง จ.ลพบุรี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่บริเวณหน้าธนาคารที่ทำงานอยู่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากนั้นคนรู้จักกันได้โอนเงินเข้ามาในบัญชีเป็นจำนวน 25,000 บาท เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม แต่หลังจากไปกดตรวจสอบดูในวันถัดมา ปรากฎว่ายอดเงินในบัญชีมีเงินอยู่เพียง 5,000 บาท สูญหายไปเป็นจำนวน 20,000 บาท จึงรีบโทรศัพท์สอบถามไปยังศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารก็ได้รับคำตอบว่า บัตรเอทีเอ็มของตนมีการกดเงินออกไปเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่มีการโอนเงินเข้ามาที่ตู้หน้าร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้กดเงินจากตู้ดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วน น.ส.ศิรินภา ไวจำปา อายุ 27 ปี ผู้เสียหายอีกรายระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลาประมาณ 11.00 น.ได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าตลาดสดย่านบางกรวย ซึ่งเงินในบัญชีมีเหลืออยู่ประมาณ 32,000 บาท กระทั่งในช่วงเย็นวันเดียวกัน ขณะที่ตนจะนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินอีกครั้งปรากฎว่า ยอดเงินกลับเหลืออยู่เพียง 1,000 กว่าบาทเท่านั้น เมื่อตรวจสอบไปที่ธนาคารพบว่า เงินจำนวนที่สูญหายไปนั้น มีการกดเงินออกไปหลังจากที่ได้กดเงินออกมาล่าสุดเพียง 2 ชั่วโมง

ขณะที่นายภิญโญกล่าวว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่า น่าจะเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีการจับกุมแก๊งชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่โจรกรรมข้อมูลบัตรอีเล็กทรอนิกส์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว และธนาคารต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนหลายล้านบาท โดยที่ผ่านมาแต่ละธนาคารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความเสียหายของผู้ใช้บัตรเป็นระยะ และออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหา อย่างไรก็ดีตนอยากฝากถึงผู้ใช้บัตรอีเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ว่า ต้องหมั่นสังเกตตู้เอทีเอ็มที่จะกดเงินว่ามีการดัดแปลงอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือไม่ รวมทั้งใช้มือปิดเวลากดรหัสบัตรทุกครั้ง หรือหากไม่มั่นใจก็ควรเปลี่ยนรหัสก่อน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม และกดเงินออกไปจากพื้นที่ต่าง ๆ รวม 7 จังหวัด ได้แก่ จ.แพร่ ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ ปทุมธานี นนทบุรี และ กทม.ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 2 ธันวาคม 2551 ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป




ตะลุยข่าว : ทันเล่ห์แก๊งก๊อบปี้บัตร " ดึงบัตรออกจากตู้ ATM ช้าๆ "

การจับกุมแก๊งปลอม และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมรายใหญ่ครั้งล่าสุดของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ได้ผู้ต้องหาประกอบด้วย ด.ต. ปราโมทย์ เปียทอง อายุ 41 ปี ผบ.หมู่งาน 4 กก.2 ส.1, โยนัท บูลลาเกอร์ อายุ 28 ปี โรเบิร์ต โรต้ารู อายุ 29 ปี สัญชาติโรมาเนีย จิรายศ ศิริบวรเกียรติ อายุ 43 ปี และพนธกร ดีประเสริฐ อายุ 31 ปี ทำให้รู้เล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพเพิ่มขึ้น

ตลอดระยะเวลานานกว่า 6 เดือนที่ดีเอสไอเฝ้าติดตาม และหาหลักฐานจับกุมขบวนการนี้ กระทั่งมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ด.ต.ปราโมทย์ ซึ่งคลุกคลีอยู่กับงานสืบสวนปราบปรามคดีปลอมบัตรเครดิต รู้จักขบวนการปลอมบัตรเครดิต กลับใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ผิดคบคิดกับแก๊งเหล่านี้ทำผิดเสียเอง โดยให้โยนัทและโรเบิร์ตนำเข้าอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต แม้ชุดหนึ่งจะมีมูลค่าสูงเกือบล้านบาทก็คุ้มค่ากับการลงทุน

มิจฉาชีพแก๊งนี้จะใช้กล่องบันทึกภาพขนาดเล็ก ใช้ถ่านขนาดเล็กที่ไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปเป็นตัวจ่ายไฟ ใส่ไว้ในจุดที่ใช้ใส่กล้องวิดีโอบริเวณมุมซ้าย-ขวาบนตู้เอทีเอ็ม หรือจุดที่มีแผ่นพลาสติกใสสีดำยา;ประมาณ 2-3 นิ้วติดอยู่ โดยกล่องบันทึกภาพจะทำหน้าที่บันทึกรหัสบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการ ส่วนเครื่องดูดข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งเป็นแผ่นบางๆ จะติดไว้บริเวณช่องเสียบบัตร ทำหน้าที่ดูดข้อมูลจากแถบแม่เหล็กของบัตรเก็บไว้

" เพียงแค่นี้แก๊งมิจฉาชีพก็จะได้ทั้งข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตพร้อมรหัส จากนั้นก็นำข้อมูลบัตรไปทำบัตรเอทีเอ็มปลอม-บัตรเครดิตปลอม แล้วนำไปกดเงินสดหรือซื้อสินค้า " พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุ

จากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า แก๊งของ ด.ต.ปราโมทย์ยังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มของธิบดี ธีรอุดมกุล พร้อมพวกรวม 6 คน แก๊งปลอมแปลงบัตรเครดิตรายใหญ่ที่ถูกตำรวจสอบสวนกลาง ( บช.ก. ) จับกุมไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ซึ่งครั้งนั้นสามารถยึดของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ บัตรเครดิตปลอม 25 ใบ ข้อมูลบัตรเครดิตที่ขโมยมา 102 ข้อมูล คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และอุปกรณ์การคัดลอกที่ใช้ในการกระทำผิดอีกจำนวนมาก

พฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ จะนำอุปกรณ์ในการโจรกรรมข้อมูลบัตรไปติดตั้งยังตู้เอทีเอ็มตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด เช่น ทองหล่อ รัชดา สุขุมวิท ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เชียงใหม่ เป็นต้น เมื่อขโมยดูดข้อมูลบัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายได้แล้วก็จะนำไปใช้ทำบัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็มปลอม ก่อนจะนำไปกดเงินสดใช้ซื้อสินค้า สร้างความเสียหาย 100-200 ล้านบาท " พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศ ส่วน 2 กล่าว

การสืบสวนติดตามแก๊งนี้มานานกว่า 6 เดือนสิ้นสุดลง เมื่อแนวทางการสืบสวนยืนยันชัดเจนว่า มิจฉาชีพแก๊งนี้จะติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลบัตรที่ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางกรุงตอนกลางดึกวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงวางกำลังดักซุ่มกระทั่งพบ ด.ต.ปราโมทย์ โยนัท และโรเบิร์ต กำลังนั่งปรึกษาหารือเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลจึงแสดงตัวเข้า ตรวจค้น

จากการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมาก ได้แก่ เครื่องคัดลอกข้อมูล กล่องบันทึกภาพสีดำขนาดเล็กไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ อุปกรณ์สำหรับคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวไปขยายผลตรวจค้นที่พักของกลุ่มผู้ต้องหาในกรุงเทพฯ อีก 5 จุด ก่อนจะจับกุมจิรายศและพนธกร เพื่อนร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก 2 คน


สำหรับ การป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งเหล่านี้นั้น พ.ต.อ.อัครพล แนะนำเช่นนี้ว่า นอกจากจะใช้มือปิดบังรหัสบัตรแล้ว พยายามเลือกตู้เอทีเอ็ม และสังเกตรอบข้างตู้เอทีเอ็มว่ามีความผิดปกติ หรือมีคนที่น่าสงสัยอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ และเทคนิคพิเศษที่เพิ่งค้นพบคือ ให้ค่อยๆ ดึงบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตออกมาช้าๆ " เจ้าของบัตรบางคน เวลาทำธุรกรรมทางการเงินเสร็จแล้ว จะรีบดึงบัตรออกอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้ให้เปลี่ยนเสียใหม่ เพราะการทำอย่างนั้นจะช่วยให้เครื่องคัดลอกข้อมูลทำงานได้มีประสิทธิภาพมาก ดังนั้นต่อไปควรจะค่อยๆ ดึงบัตรออกมาช้าๆ เพราะจะทำให้เครื่องคัดลอกข้อมูลทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือบางครั้งอาจจะไม่สามารถดูดข้อมูลบัตรได้เลย " พ.ต.อ.อัครพล แนะนำ
 
http://www.komchadluek.net/2008/11/22/x_scoo_p001_232379..php?news_id=232379
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 12:15:08 »

ภัยจากนามบัตร

จงรักษ์ - อักษร 16 ... ส่งมา

ผู้หญิงคนหนึ่งไปเติมแก็สที่ปั้มแก็ส มีผู้ชายมาเสนอบริการทาสีบ้าน โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับมาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจากปั้มแก็ส ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถตามมา และเธอก็รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรีบเปิดหน้าต่าง และเริ่มเอะใจว่ากลิ่นนั้นมาจากมือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถต่อ และกดแตรดังไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไป

ยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยา BURUNDANGA เพิ่อให้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วเจ้าตัวร้ายก็จะขโมยของ และหรือทำร้ายร่างกายเรา ยานี้มีฤทธ์แรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า


ดังนั้นอย่ารับกระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้านะจ๊ะ !
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2552, 21:58:05 »

วิธีการป้องกันแก๊งค์ปาหินใส่รถยนต์

นุชน้อย - อักษร 16 ... ส่งมา

เนื่องจากปัจจุบันมีข่าวการปาหินใส่รถยนต์ตามถนนหลวงในหลายจังหวัด  และดูเหมือนว่าเพิ่มขึ้นทุกวัน  ด้วยความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนๆ จึงขอเสนอวิธีการป้องกันดังนี้
 
1. หากท่านมีกำลังทรัพย์  อาจติดฟิลม์กรองแสงชนิดใสที่กระจกหน้าทั้งบาน  ประโยชน์นอกจากกันความร้อนแล้ว  ฟิลม์ยังช่วยดูดซับแรงกระแทกจากก้อนหินที่มากระทบได้ดี

2. ส่วนใหญ่การปาหินมักเกิดขึ้นตอนกลางคืน  บนถนนสายเปลี่ยวและมืด  หากท่านขับรถผ่านถนนที่มีลักษณะดังกล่าว  ควรเปิดไฟสูง ( เมื่อมีโอกาส ) เพื่อสอดส่องดูว่ามีรถจักรยานยนต์กำลังขับขี่สวนทางมาหรือไม่  เนื่องจากคนร้ายมักซ้อยท้ายรถ จยย. ที่ไม่เปิดไฟหน้า  หากท่านเปิดไฟสูงนอกจากจะช่วยให้ท่านมองเห็นคนร้ายแล้ว  ยังจะช่วยบดบังสายตาของคนร้ายได้ด้วย ( ทำให้คนร้ายตาพร่าจากแสงไฟของท่าน )  นอกจากนั้นท่านไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูงบนถนนที่มีลักษณะนี้  ให้ระวังทางโค้งมากเป็นพิเศษ  เพราะคนร้ายมักใช้ทางโค้งเป็นจุดดักซุ่มรอ
  
3. หากท่านสังเกตเห็นว่ามีรถ จยย. กำลังขับขี่สวนทางมายังท่าน  ควรรีบชลอความเร็ว และเปลี่ยนช่องการจราจรให้ออกห่างจากรถ จยย. ดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ( ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร )  ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้  ให้ลดความเร็วให้เหลือเพียง 40 – 60 พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟกระพริบเพื่อเตือนรถที่ตามหลังท่านมาว่าท่านกำลังจะชลอตัว  ความเร็วยิ่งช้าเท่าไร  ความแรงของก้อนหินที่มากระทบรถของท่านก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
 
4. หากรถของท่านถูกปาหินใส่ได้รับความเสียหายแล้ว  อย่าจอดรถในบริเวณนั้นทันที  เพราะคนร้ายอาจตามมาปล้นทรัพย์สินของท่าน  พยายามประคองรถช้าๆ  ไปจนกว่าจะพบผู้คน และเข้าขอความช่วยเหลือ
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2552, 18:36:51 »

เตือนภัยรูปแบบใหม่ - อ้างว่าโทร. มาจากศาล - อย่างหลงกล !

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา

ถึงทุกๆท่าน

        ดิฉันมีเรื่องอยากเตือนทุกท่านให้ระวังเอาไว้  ถึงการหลอกลวงรูปแบบใหม่  เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552 เวลาประมาณ 09.15 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข  +886226994823   +886226994823 เป็นระบบเสียงอัตโนมัติอ้างว่าโทร." จากศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งว่ามีหมายส่งถึงดิฉัน แต่ไม่สามารถส่งหมายได้ให้ติดต่อไปยังศาลอาญา  มิฉะนั้นศาลจะออกหมายจับ  กด 1 หากต้องการฟังซ้ำ  กด 9 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ "

        ด้วยความที่ดิฉันเป็นทนายความ   จึงสงสัยและจับพิรุธได้ดังนี้

                1. เกิดมาไม่เคยกระทำความผิดใดๆ ตามกฏหมายที่จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา
                2. เบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ   เหมือนโทร.มาจากต่างประเทศ
                3. ในประเทศไทยไม่มีศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร
                4. ศาลไม่มีบริการติดตามคู่ความ หรือตรวจสอบข้อมูลทางโทศัพท์ ( ยกเว้นท่านจะโทร.ไปที่ศาลเพื่อขอข้อมูลเองหรือตรวจสอบจากเว็บไซด์ )
 
        ดิฉันจึงตัดสินใจกด 9 เพราะอยากรู้มีเขามีลูกเล่นอย่างไร  สักพักก็จะมีเสียงผู้หญิงรับสาย  ( มีเสียผู้ชายดังเข้ามาเหมือนกำลังเจรจาเกี่ยวกับคดีความกับคนอื่นอยู่ ซึ่งทำให้เหมือนจริงว่าโทร.มาจากศาล )  แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาสาจะตรวจสอบข้อมูลให้   ขอทราบชื่อ-นามสกุล     ดิฉันก็แจ้งชื่อ-นามสกุลให้ทราบ   จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็จะขอหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก   ดิฉันไม่ให้   เขาก็บอกว่าการติดต่อราชการจะต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน   ดิฉันจึงบอกไปว่าการตรวจสอบข้อมูลของศาลนั้นไม่ต้องใช้เลขบัตรประชาชนก็ได้   ตรวจจากชื่อนาม-นามสกุลก็ได้แล้ว   ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังยืนยันว่าต้องใช้เลขบัตรประชาชน   ดิฉันจึงแจ้งว่าจะไปติดต่อศาลเอง   ขอทราบชื่อเจ้าหน้าศาลที่จะต้องติดต่อ   ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตอบมาด้วยเสียงดุๆ ว่าให้ไปติดต่อได้ที่ศาลอาญารัชดา แล้วก็รีบวางสาย  ไม่ยอมแจ้งชื่อให้ทราบ
 
        ดิฉันได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวพบว่า
               -   ไม่ใช่หมายเลขของศาลอาญารัชดาฯ
                - เป็นรหัสทางไกล 886  ซึ่งโทร.มาจากไต้หวัน
 
        ดังนั้นจึงขอเตือนทุกๆท่าน ได้โปรดระวังการหลอกลวงแบบใหม่นี้ไว้ด้วย   เพราะหากท่านให้เลขบัตรประชาชน 13 หลักไป  ไม่ทราบว่าเขาจะเอาไปทำอะไร  เลขบัตรประชาชนของท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆของท่าน เช่นข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต ฯลฯ ได้มากมาย
  
        นอกจากนี้ขอให้เตือนเพื่อนๆ   ญาติสนิท มิตรสหายของท่านให้ทราบด้วย
 
                                                                                 ขอบคุณค่ะ
                                                                            ธิดาพร    วณิชย์รุจี    
                                                                                   (ปุ้ย)
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #43 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2552, 20:15:16 »

ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน เพิ่งจะได้เข้ามา เป็นประโยชน์และเป็นข้อเตือนใจให้ระมัดระวังเป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันให้ข้อมูลเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดกับคนอื่น โดยเฉพาะขอบคุณน้องเจี๊ยบค่ะ
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 01 มกราคม 2553, 23:12:52 »

ยินดีค่ะ พี่เอมอร ...

หากเจอลิฟต์ร่วง ต้องทำยังไง ?

ขอให้อ่าน และจดจำไว้  เราไม่รู้ว่าเมื่อไร และที่ไหนที่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเรา หรือผู้คนรอบข้าง  หวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยพวกเรา  เพื่อน  และบุคคลที่เรารักได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ  

วันหนึ่ง ขณะที่อยู่ในลิฟต์  มันเกิดหยุดกระทันหัน และร่วงลงจากชั้น 13 ด้วยความเร็วสูง  โชคดีที่ผมจำได้จากทีวีที่สอนว่า คุณจะต้องกดทุกปุ่มสำหรับทุกชั้นอย่างรวดเร็ว  ท้ายที่สุดลิฟต์หยุดที่ชั้น 5 ... ขณะที่คุณกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย  การตัดสินใจทำอะไร  จะตัดสินความอยู่รอดของคุณ  ถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์ลิฟต์ตก  สิ่งแรกในใจมักจะคิดรอความตาย  แต่ขอให้จำคำแนะนำต่อไปนี้ให้ขึ้นใจ

สิ่งแรก - ให้กดปุ่มให้ลิฟต์จอดทุกชั้น อย่างเร็วที่สุด  เพราะเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงาน  ลิฟต์จะหยุดร่วงลงมา

สอง - จับที่จับให้แน่น ( ถ้ามี )  จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรงมาก  จากการหล่นกระแทกแบบร่างกายเสียสมดุล

สาม - พิงหลัง และศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง ในแนวดิ่ง จะช่วยป้องกันหลัง และกระดูกส่วนอื่นของคุณได้มาก

สี่ - งอเข่า  เหตุผลก็คือเมื่อลิฟต์ตก  คุณจะไม่รู้ว่าเมื่อไรลิฟท์จะกระแทกกับพื้น  ซึ่งอาจทำให้กระดูกทั่วทั้งร่างแตกละเอียด  เส้นเอ็นของเรายืดหยุ่นได้ดี  และทำหน้าที่เชื่อมต่อกระดูกเข้าด้วยกัน  การงอเข่าจะช่วยลดกการบาดเจ็บจากกระดูกแตกได้ดีกว่า

 
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 27 มกราคม 2553, 20:19:47 »

หลอกซ้อน 2 ต่อ คนกลางกลายเป็นแพะ โดนดำเนินคดี

นิรา - วิทยา 16 ... ส่งมา      

..... เริ่มเรื่องเลยนะคะ .....

       เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคม  น้องเราได้โพสต์ขายมือถือในเว็บบอร์ดสาธารณะ ในราคา 7,500 บาท ( น้องเราชอบซื้อแล้วก็ขายของในเว็บไซต์ค่ะ )  ผ่านไป 1 วัน  ช่วงเย็นของวันที่ 24 มกราคม  ก็มีโทรศัพท์ ของนาย เอ๊ก ( มิจฉาชีพ ) ติดต่อเข้ามาเพื่อขอดูของและซื้อขาย  ซึ่งน้องของเราก็ได้นัดหมายสถานที่เป็นที่เรียบร้อย

         ประมาณช่วงค่ำของวันเดียวกัน ( วันที่ 24 มกราคม ) นายเอ๊ก ( มิจฉาชีพ ) โทรเข้ามาเพื่อขอเลขที่บัญชีของน้องเรา โดยอ้างว่าจะโอนเงินไปให้ก่อน เพราะกลัวว่าน้องเราจะนำมือถือไปขายคนอื่น ซึ่งน้องเราเองก็ไม่ได้เอะใจ ( น้องเรากำลังรวมเงินเพื่อซื้อมือถือใหม่ ) จึงได้ให้เลขที่บัญชีกับ นายเอ๊กไป

         จากนั้น ประมาณ ตี 1 ของวันเดียวกัน นายเอ๊ก ได้ติดต่อให้น้องเราไปเช็คยอดเงินในบัญชี  เพราะนายเอ๊กอ้างว่าได้ทำการโอนมาแล้ว  พร้อมทั้งย้ำว่า  ถ้าเช็คว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว ให้โทรกลับไปบอก นายเอ๊ก ด้วย จากที่น้องเราไปดูยอดเงิน ก็มียอดเงินโอนเข้ามาให้เป็นจำนวน 6,900 บาท ซึ่งน้องเราได้ตกลงขายมือถือที่ราคา 7,200 บาท เงินที่ขาดอีก 300 บาท นายเอ๊ก บอกจะนำมาให้ด้วยตนเองในวันรับของ

         วันที่ 25 มกราคม น้องเรา ได้เดินทางไปพบ นายเอ๊ก ที่สถานที่นัดหมาย โดยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เมื่อขายมือถือไปแล้ว น้องเราก็เดินทางกลับมาที่พัก และกดเงินจำนวน 6,900 บาท ออกมาเพื่อนำไปซื้อมือถือ ในเย็นวันเดียวกัน

         วันที่ 26 มกราคม ช่วงเวลา 18.00 น. น้องเราได้รับโทรศัพท์จากพ่อและแม่  บอกว่ามีคนโทรเข้ามาที่บ้าน ชื่อ " โอม " แล้วบอกว่าน้องเราไปหลอกขายเครื่องเล่น Play Station 3 โดยให้ โอม ทำการโอนเงินมาให้ในคืนวันที่ 24 มกราคม เป็นจำนวนเงิน 6,900 บาท ซึ่งตอนนี้ โอม กำลังเตรียมหลักฐานทั้งหมด ( สลิปการโอนเงิน พร้อมข้อความตกลงซื้อขายในกระทู้ ) ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

         วันที่ 26 มกราคม ช่วงเวลา 20.00 น. น้องเราได้รับการติดต่อจาก โอม เพื่อทวงถามถึงเครื่องเล่น Play Station 3 แต่จากที่ได้พูดคุยกัน จึงทำให้ โอม ทราบว่า น้องเราไม่ได้เกี่ยวข้อกับการซื้อขาย Play Station 3 แต่อย่างใด ( แต่เค้าเอาชื่อนามสกุล เลขที่บัญชีน้องเราไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว )  ความจริงเริ่มปรากฎ คือ โอม โดนหลอกขาย Play Station 3 ในราคา 6,900 บาท .... น้องเรา โดนหลอกซื้อมือถือ โดยใช้เงินของ โอม ที่โอนเข้าบัญชี ... ซับซ้อนได้อีก

         และในวันนี้ น้องเรา กำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ ( สถานที่นัดรับมือถือ ) เพื่อนำใบแจ้งความไปขอดูกล้องวงจรปิด ( ดีนะที่น้องนัดรับของในร้าน KFC ) ซึ่งน้องเราอาจจะต้องเสียมือถือไป  เพราะต้องคืนเงินจำนวน 6,900 บาท  ที่ โอม ทำการโอนมาคืนให้กับ โอม

          ....จากเรื่องราวที่เล่ามา....

       จะบอกว่า เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพ มีเยอะมาก โดยหลายคนที่อ่าน อาจจะบอกว่า " นี่ไง ที่เคยอ่าน , นี่ไง ที่เคยเจอในทีวี "  แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น น้องเราไม่ได้รู้เห็นด้วยเลย แต่กลายเป็นแพะ  เพราะว่า โอม ไม่ได้ตรวจเช็คข้อมูลของ นายเอ๊ก ให้ละเอียด รีบโอนเงินเข้าบัญชี ไม่ได้สังเกตุเลยว่า ชื่อบัญชี เป็นผู้หญิง แต่คนตกลงซื้อขายเป็นผู้ชาย

        ที่มากไปกว่านี้ ชาวบอร์ด ที่น้องเราไปโพสต์ขายมือถือ ได้ช่วยกัน ขุดคุ้ยหาข้อมูล ทั้งเบอร์โทรบ้านน้องเรา ชื่อพ่อ ชื่อแม่ คนที่นามสกุลเดียวกับน้องเรา เบอร์โทรศัพท์ญาติ ๆ มาโพสต์ประจานกันในกระทู้ โดยที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา (คืนวันที่ 26 มกราคม) ทางบ้านได้รับความเดือดร้อน และพ่อแม่ ก็ตกใจและเป็นห่วงว่าน้องเราจะถูกดำเนินคดี หรือ โอม จะถอนแจ้งความให้

        ก็อยากจะเตือนทุกคนนะคะ บางครั้งแค่เราให้หมายเลขบัญชีไป หรือเราโอนเงินให้ไป คนที่เอาเลขที่บัญชีเราไป เค้าจะเอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมันไม่ได้เสียแค่เงินไม่กี่พันบาท แต่มันจะเสียชื่อเสียง ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ตามมาอีกมากมายเลยค่ะ ตอนนี้ก็รอให้น้องไปสถานีตำรวจ ถ้าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมา จะนำมาให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในนี้ได้ระวังไว้นะคะ


ซื้อของออนไลน์แบบเดิม  โอนเงินไปแล้วไม่ได้ของ  มันตกรุ่นไปแล้ว  สมัยนี้ต้องใช้เงินคนอื่นซื้อของ  เหอ ๆ ๆ

      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #46 เมื่อ: 27 มกราคม 2553, 21:09:19 »

What to Take to Bed With You‏

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา

เป็นความคิดที่ไม่เลว  ถ้าเราจะวาง " กุญแจรถ " ไว้ข้างเตียง ในเวลากลางคืน

บอกคนที่คุณรัก  ลูกคุณ  เพื่อนบ้าน  พ่อแม่  และทุกคนที่คุณรู้จัก  ให้วางกุญแจรถไว้ข้างเตียงนอน

ถ้าคุณได้ยินเสียงข้างนอกบ้าน  หรือมีใคร ( ที่คุณไม่รู้จัก  หรือไม่ต้องการให้เข้าบ้านคุณ ) พยายามจะเข้ามาในบ้าน  คุณเพียงแต่กดปุ่ม Panic ที่รีโมท  สัญญาณเตือนภัยจะดังจนกระทั่งคุณกดปิด  หรือแบตฯ หมด

นี่เป็นคำแนะนำจาก “ ผู้ประสานงานเพื่อนบ้านเฝ้าระวัง "  คราวหน้าหากคุณกลับถึงบ้านตอนกลางคืน  เมื่อจะวางกุญแจรถ ให้คิดถึงว่า : รีโมทรถคือระบบป้องกันขโมย  และมันจะทำงานจนกว่าแบตฯ จะหมด  หรือคุณกดปิด  เมื่อมิจฉาชีพเข้ามาได้ยินเสียงก็เผ่นแล้วครับ  เพราะเสียงของสัญญาณกันโขมยที่ดังผิดปกติ  จะเรียกให้เพื่อนบ้านออกมาดู .... และใช้ได้ในกรณีที่คุณเดินไปขึ้นรถในลานจอดรถ  ถ้าคุณรู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัย  ก็สามารถใช้ได้เหมือนกันครับ
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 28 มกราคม 2553, 10:25:42 »

ธนาคารกสิกรไทย เตือนภัยกลุ่มมิจฉาชีพไฮเทค

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา



      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 29 มกราคม 2553, 10:23:50 »

เจี๊ยบเจอกับตัวเอง สดๆ ร้อนๆ เช้าวันนี้ค่ะ ... ลบทิ้งซะเลย ... มิจฉาชีพสมัยนี้หากินกันง่ายแท้ ไม่ต้องลงทุนกันอะไรกันมากมายเลย ...

Windows Live Hotmail Alert ™‏
From:  Windows Live Hotmail (cmukhop@hotmail.com
You may not know this sender.Mark as safe|Mark as junk
Sent: Fri 1/29/10 3:47 AM
To:  windowslivehotmail@microsoft.com

Windows Live Hotmail Alert !!!
 
CONFIRM YOUR WINDOWS LIVE ACCOUNT SERVICES. VERIFY YOUR HOTMAIL ACCOUNT NOW TO AVOID IT CLOSED !!! 

 
Dear Account Owner

This Email is from Hotmail Customer Care and we are sending it to every Hotmail Email User Accounts Owner for safety. we are having congestions due to the anonymous registration of Hotmail accounts so we are shutting down some Hotmail accounts and your account was among those to be deleted. We are sending this email to you so that you can verify and let us know if you still want to use this account. If you are still interested please confirm your account by filling the space below.Your User name, password, date of birth and your country information would be needed to verify your account. After following the instructions in the sheet,your account will not be interrupted and will continue as normal.
 
* Name:  .....................................
* Username: .............................
* Password: ..............................
* Date of Birth: ..........................
* Country Or Territory: ..............
 
Confirm your E-mail by filling out your Login Information below after clicking the reply button, or your account will be suspended within 48 hours for security reasons.
 
Sincerely,
The Windows Live Hotmail Team.
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 31 มกราคม 2553, 18:13:25 »

คนร้ายหาอุบายให้เราลงจากรถ แล้วขับหนี

เสรษฐวิทย์  นิเทศ 16 ... ส่งมา

ตำรวจเตือนมา  มีผู้เคราะห์ร้ายแล้ว

ลองนึกภาพดู  ท่านกำลังเดินมาในลานจอดรถ  เปิดประตุรถและเข้าไปในรถ  ท่านล็อคประตู
แล้วสตาร์ทรถยนต์ และเข้าเกีียร์เพื่อถอยรถ  ขณะนั้นท่านมองที่กระจกส่องหลังที่อยู่หน้า
คนขับเพื่อมองทางที่จะถอย  ทันใดก็เห็นว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่กลางกระจกรถด้านหลัง
ท่านก็ต้องเปลี่ยนเกียร์มาที่ตำแหน่งเพื่อจอดรถ  เปิดประตูออกจากรถเพื่อจะลงไปเอากระดาษ
ที่ติดอยู่ออกเพราะทำให้การมองเห็นไม่ดี  ขณะที่เดินถึงด้านหลังของรถ
จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดเข้าไปในรถและขับรถออกไป
เครื่องยนต์กำลังติดอยู่  (เจ้าของรถที่เป็นผู้หญิง จะมีกระเป๋าถือวางอยู่ในรถด้วย )
รถที่ออกก็จะพุ่งออกไปท่านต้องหลีก เพราะกลัวถูกชน

โปรดระวัง โจรรถยนต์ บางรายเริ่มใช้วิธีนี้แล้ว
วิธีที่ดีและปลอดภัย คือ ท่านขับรถออกเลยไปปล่อยให้กระดาษติดอยู่ที่กระจก
แบบนั้นแหละ  นึกไว้เลยว่า  เราโดนโจนเล่นงานแล้ว  และค่อยไปเอากระดาษออกทีหลัง
หลังจากที่ออกรถไปจากลานจอดรถที่น่าสงสัยนั้นแล้ว

ขอให้ทุกคนส่งต่อ ไปให้ญาติมิตร โดยเฉพาะ ที่เป็นผู้หญิง กระเป๋าถือมีบัตรประชาชน
และแน่นอนถ้าตกอยู่ในมือของมิจฉาชีพก็ไม่ค่อยดีแน่
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 [2] 3  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><