เริง2520
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 08:16:26 » |
|
ช่วงเวลาที่ไปเชียงราย เชียงตุง
นกแอร์มีลดราคา ชั้นประหยัด ไป กลับ ราคาสองพันหกร้อยบาทครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 13:44:11 » |
|
ซื้อตํ่วมาแล้วและไปจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เช่นกัน ไป-กลับ นกแอร์ รวม 2,689 บวกค่าโอน 32 เป็น 2,721 บาทครับ
ไป 23 ม.ค. เที่ยว 11.15 น. กลับ 27 ม.ค. เทียว 19.55 น.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 13:45:49 » |
|
กระเป๋า 15 กก. โหลดใต้เครื่อง, กระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่อง 7 กก. หากเกิน 200 บาท/กก. หาขนมติดมือไปเสริฟตัวเอง, น้ำ-เบียร์ มีขายบนเครื่อง
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 13:49:01 » |
|
พี่หลั่น
ผมโอนเงินงวดแรก ผ่าน BBL สาขานครสวรรค์ 281 ไปแล้วนะครับ เรื่องจัดคู่ ไม่มีคู่ครับ อยู่ห้องไหนกับใครก็ได้ครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 13:50:04 » |
|
เอกสาร สำเนา บัตร ปชช และลงชื่อรับรอง 3 ชุด + ภาพอีก 3 บาน จะส่งตามครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 13:51:58 » |
|
ไปหน่อย พี่เขาขอร้องแล้ว ทิ้งงานสัก 5 วันบ้าง เผื่อสุขภาพและความดันจะดีขึ้น
|
|
|
|
|
ประทาน14
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 22:30:11 » |
|
ช่วงนี้พี่ป๋องงานเข้าตลอด ส่วนใหญ่ต้องการให้เสร็จด่วน สั่งวันนี้จะให้เสร็จเมื่อวาน..5555 (อันนี้พี่ป๋องบอกเอง)
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 22:49:00 » |
|
อย่ามาหลอกกันซะให้ยากเลยคุณพิเชษฐ์ ผมไม่ใช่คุณมานพน๊ะจะบอกให้ จะได้มาหลอกกันง่ายๆ
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 22:50:28 » |
|
แทบจะเข้าอาทิตย์ละหลังเลยครับ อาคารน้อยใหญ่
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 23:32:22 » |
|
เข้าใจกันผิดซะแล้ว วันนี้งานเยอะ..จริง แต่เดือนมกราคา 58 งานน่าจะลดลงแล้วน่ะ IMF บอกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง จนเกินความระส่ำในตลาดลงทุนของสหรัฐอยู่ในขณะนี้ เดี๋ยวบ้านเราก็รับรู้
ไปเถอะ งานนี้ไม่ได้หลอก..กะให้ไปพักผ่อนสมอง
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 01:34:50 » |
|
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 14:47:56 » |
|
Conditions and Forecast for เชียงตุง, Myanmar Current Conditions Forecast ปรับปรุงล่าสุด: 12:30 PM MMT วัน ตุลาคม 08, 2014 Observed at Kengtung,
โปรดสังเกต กลางคืน อากาศเย็น เครื่องปรับอากาศไม่ต้องใช้
อุณหภูมิ 80ฟาเรนไฮน์ ความชื้น 50% อุณหภูมิที่อากาศอาจจับตัวเป็นหยาดน้ำค้าง 64ฟาเรนไฮน์ ลม West ความเร็วที่ 2 km/h ความดัน 1013 hPa สภาพ Scattered Clouds ทัศนวิสัย 4.0 กิโลเมตร เมฆ อุณหภูมิสูงสุดของเมื่อวาน - อุณหภูมิต่ำสุดของเมื่อวาน 1830ฟาเรนไฮน์ เวลาพระอาทิตย์ขึ้น 05:44 AM (MMT) เวลาพระอาทิตย์ตก 05:33 PM (MMT) พระจันทร์ขึ้นเหนือท้องฝ้า 05:28 PM (MMT) พระจันทร์ลับขอบฟ้า 05:16 AM (MMT) ข้างขึ้นข้างแรม Forecast as of 06:30 PM MMT วัน ตุลาคม 07, 2014
วันอังคาร ท้องฟ้าแจ่มใส. สูงสุด 29° C. วันอังคารตอนกลางคืน ท้องฟ้าแจ่มใส. ต่ำสุด 18° C. วันพุธ ท้องฟ้าแจ่มใส. สูงสุด 29° C. วันพุธตอนกลางคืน ท้องฟ้าแจ่มใส. ต่ำสุด 10° C. วันพฤหัสบดี ท้องฟ้าแจ่มใส. สูงสุด 30° C. วันพฤหัสบดีตอนกลางคืน ท้องฟ้าแจ่มใส. ต่ำสุด 10° C. วันศุกร์ มีโอกาสเกิดฝนตก. สูงสุด 31° C. วันศุกร์ตอนกลางคืน หมอกคลุม. ต่ำสุด 12° C. วันเสาร์ มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. สูงสุด 31° C. วันเสาร์ตอนกลางคืน มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. ต่ำสุด 12° C. วันอาทิตย์ มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. สูงสุด 33° C. วันอาทิตย์ตอนกลางคืน มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. ต่ำสุด 14° C. วันจันทร์ มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. สูงสุด 29° C. วันจันทร์ตอนกลางคืน มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. ต่ำสุด 15° C. วันอังคารมีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. สูงสุด 29° C. วันอังคารตอนกลางคืน มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง. ต่ำสุด 13° C.
Copyright © 2014 The Weather Underground, Inc.
Close Window
� 2000-01 VirtuallyThere.com - All rights reserved.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 17:06:43 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 20:18:52 » |
|
หนังสือนำเที่ยวเมืองเชียงตุง จาก ชาวอังกฤษ ภาพแรกเห็นยอดหอคำหลวงชัดเจนมากเมื่อ 96 ปีที่่ผ่านมา มีชาวอังกฤษเดินทางไปเที่ยวเมืองเชียงตุง เเละเขียนหนังสือนำเที่ยวเมืองเชียงตุงซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังสือนำเที่ยวเล่มเเรกๆของเมืองเชียงตุงเลยก็ว่าได้
เพจนำเสนอบรรยากาศของเมืองเชียงตุงดังนี้
"เมืองเชียงตุงในหน้าหนาวนั้นต้นไม้เหี่ยวแห้งเป็นสีน้ำตาล แต่เมื่อถึงหน้าน้ำหลากในเดือนสิงหาคมทุกแห่งก็กลับเขียวขจี นาข้าวแลดูราวทะเลสีมรกตไปจรดเทือกเขาด้านหน้า
เมืองเชียงตุงมีกำแพงและคูเมืองล้อมรอบ กำแพงส่วนใหญ่พังทลายและมีหญ้าขึ้นปกคลุมจนสิ้น เราจะเห็นแนวกำแพงได้ชัดเจนในหน้าแล้งที่ต้นหญ้าแห้งตายแล้วเท่านั้น ภายในกำแพงเมืองเชียงตุงนั้นมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ภายในกำแพงเป็นที่ตั้งของหอเจ้าฟ้า ตลาด หนองน้ำ และวัดวาอารามขนาดใหญ่ แต่หากคุณคาดหวังจะได้เห็นถนนหนทางที่พลุกพล่านในเมืองเชียงตุง คุณจะผิดหวัง เพราะเมืองเชียงตุงนั้นหลับใหลอยู่ตลอดการ เงียบเชียบเหมือนนครเกียวโต
เมื่อเดินแยกออกจากถนนหลักในตัวเมืองก็จะเป็นเจดีย์วัดอินทร์ที่เงียบเหงา มีเพียงแต่เสียงระฆังกังสดาลแว่วตามสายลมมาเท่านั้น ภายในบริเวณเจดีย์นั้นอยู่ภายใต้เงาไผ่ที่ร่มครึ้ม และดงต้นซากุระที่กลีบดอกร่วงหล่นลงสู่พื้นดินราวกับสายฝนพรำ
เสน่ห์ของเมืองเชียงตุงนั้นซ่อนเร้นซึ่งคุณต้องค้นหาเอาเอง ความประทับใจครั้งแรกของเมืองเชียงตุงนั้นคือความผิดหวัง คุณต้องหามุมสงบนั่งชมหลังคาบ้านเรือนที่งดงาม พระเจดีย์เก่าแก่ บานพระตูและฝาผนังของวัดที่วิจิตรรวมถึงหมู่พระพุทธรูปที่มีอย่างมากมาย
ผมจะนำเสนอเรื่องธุรกิจการค้าหรือตลาดของเมืองเชียงตุงซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด หากพ่อค้าแม่ค้าและนักเดินทางได้เดินทางออกจากเมืองเชียงตุงไปหมดแล้ว เมืองทั้งเมืองก็จะเงียบเหงา วังเวง ราวกับเวทีที่ไร้นักแสดง
ในเวลากลางวันมีเพียงแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงสาดส่องคอกสัตว์ เศษขยะและใบไม้ในตลาดที่ว่างเปล่าเท่านั้น ในตลาดมีเพียงหมาขี้เรื้อนนอนเลียแผลพุพองและเห่าหอนต้อนรับแสงจันทร์ในยามค่ำ ม้ากลับมาจากทุ่งหญ้านอกเมืองเดินผ่านถนนทำให้ฝุ่นกระจายคละคลุ้ง ส่วนม้าที่เป็นโรคหมดแรงก็เดินหาสถานที่เงียบสงบเพื่อนอนพักและสิ้นใจ
ตลาดจัดขึ้นทุก ๕ วัน ซึ่งครึกครื้นราวกับงานฉลอง ผู้คนเบียดเสียด และหากคุณต้องการไปชมชาวเมืองเชียงตุงก็ควรจะไปให้ตรงกับวันตลาดหรือกาดนัดนี้
ท่ามกลางชาวเชียงตุงที่มาตลาดก็ยังมีชาวเขาเดินปะปนเบียดเสียดเยียดยัดอยู่ด้วย ในตลาดมีทั้งชาวไท ชาวพม่า ชาวจีน ชาวก้อ ชาวว้า ชาวมูเซอและชาวสยาม คุณอาจว่าจ้างจิตรกรสำหรับวาดภาพบรรยากาศและผู้คนแต่ละเผ่าพันธุ์ลงในสมุดบันทึกเล่มเล็ก ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นหากคุณต้องการเรียนรู้เรื่องราวของเพื่อนบ้านอย่างละเอียด และคุณก็จะเข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาลอังกฤษใช้เวลาถึง ๓๐ปีในการเก็บข้อมูลและภาษาของชนกลุ่มน้อยต่างๆในพม่าตอนเหนือ
และที่เมืองเชียงตุงก็มีทั้ง ไท ลื้อ เขิน แลม ลาว และโยน นอกจากนี้ยังมี ก้อ มูเซอ กวี ปะหล่อง แอ่น ว้า ไทดอย ฯลฯ....สุทธิศักดิ์ถอดความ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 20:30:09 » |
|
การทำลายพระราชวังเชียงตุง เมืองเชียงตุง รัฐฉาน เมื่อปี พ.ศ. 2534 พระราชวังเชียงตุง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2446โดยเจ้ากอนแก้วอินท์แถลง นับเป็นพระราชวังใหญ่ที่สุดในรัฐฉาน ชึ่งเหมาะสมกับสถานะ ของเชียงตุง ชึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 12,000 ตารางไมล์ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน มีการใช้อิฐขนาดใหญ่แบบอินเดีย เพื่อเป็นฐานรองรับพระราชวัง และบรรดาที่พักอาศัยของเจ้าฟ้า พระชายาทั้งหก และพระราชบุตร พระราชธิดา 19 พระองค์ เจ้าฟ้าจายหลวง พระราชนัดดา เป็นผู้ปกครอง พระราชวัง องค์สุดท้าย จนถึงปี 2502 ก่อนจะส่งมอบให้กับรัฐบาลแห่งรัฐฉาน เมื่อทหารพม่ายึดอำนาจในปี 2505 พวกเขาได้จับกุมเจ้าฟ้าจายหลวง พร้อมกับพระเชศฐา และเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ ของรัฐฉาน นำตัวไปกุมขัง ในเรือนจำอินเส่ง ที่กรุงย่างกุ้ง เป็นเวลาหกปี เมื่อได้รับการปล่อยตัว พระองค์ได้ถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่เมืองเชียงตุง หน่วยทหารพม่าในพื่นที่เข้ายึดเอาพระราชวัง ทำเป็นศูนย์บันชาการ ต่อมา
การลื้อทำลายพระราชวัง เรื่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกยน 2534 ตามคำสั่งของรัฐบาลพม่า ที่เมืองย่างกุง แม้ว่าจะมีการร้องขอมากมาย จากพระภิกษุในท้องถิ่น และมีการโปรยใบปลิวเพื่อประท่วงรอบเมือง
เศษชากหินของอาคาร ตกเกลื่อนกระจัดกระจาย ตามท้องถนนรอบตัวเมืองเชียงตุง การเอาท้าวเหยี่ยบย้ำอาคารประวัติศาสตร์ ชึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรม เช่นนี้ ทั้งๆที่เท้าเป็นอวัยวะในเบื่องต่ำสุดของร่างกาย เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นอย่างชัดเจน ต่อมรดกทางวัฒนธรรม ชาวไทใหญ่ ไทเขินในเมืองเชียงตุง จึงเกิดมีความเจ็บป่วดทางกายและจิตใจ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 22:29:50 » |
|
น้องเริง
เพิ่งทำลายไปในปี 2534 นี้เองหรือ ? ไม่ใช้ 50 ปีที่ผ่านมา หรือ ??
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 11:50:51 » |
|
ในวันนั้นเอง เจ้าบุญวาศ ณ เข็มรัฐ ผู้รักษาเมืองเชียงตุง กล่าวต้อนรับ สรุปความว่า
. . . ข้าพเจ้าในนามของราษฎรนครเชียงตุง ขอต้อนรับทหารไทยด้วยความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ครั้งแรกที่ กองทัพไทยย่างเข้ามาในเขตนครเชียงตุง ราษฎรเล่าลือว่าเป็นกองทัพญี่ปุ่น จึงพากันอพยพหนีเข้าป่ากลายเป็นเมืองร้าง ทั้งนี้ เป็นด้วยเมื่อก่อนวันสงกรานต์ ญี่ปุ่นได้นำเครื่องบินมาทิ้งลูกระเบิดลงที่บริเวณตลาดหลวงเป็น ๒ ระลอก ทำให้ราษฎรตายประมาณ ๔๐๐ คน ต่อมาภายหลัง จึงได้ทราบจาก นายชุ่ม อยู่ไพโรจน์ ซึ่งท่านได้ส่งล่วงหน้าไปก่อนนั้น แจ้งให้ทราบว่าเป็นทหารไทย โดยการนำของ พลตรี ผิน ชุณหะวัณ เมื่อราษฎรทราบข่าวอันเป็นมงคลเช่นนี้ จึงได้แตกตื่นมาต้อนรับกองทหารไทย อันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไทยด้วยกัน แต่การต้อนรับกองทหารของท่านในคราวนี้ ข้าพเจ้ามีความเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ทำการต้อนรับอย่างไม่สมเกียรติ และมิให้ทหารของท่านได้รับความสุขสบายด้วยเสบียงอาหารและที่พัก เพราะก่อนที่กองทหารของท่านจะถึงนครเชียงตุง ๓ วัน กองทัพจีนผู้โหดร้ายได้เผาผลาญร้านตลาดและบ้านเรือนราษฎรในบริเวณใกล้เคียงเสียจนหมดสิ้น คงเหลือแต่ตึก ๓ หลัง เพื่อเป็นที่พักของแม่ทัพจีนครั้งสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งท่านและพี่น้องทหารทั้งหลายที่เห็นอยู่แก่ตาโดยทั่วกันแล้ว และก่อนที่กองทัพจีนจะถอยนั้น ได้กวาดต้อนเสบียงอาหารที่จำเป็นในการครองชีพไปเสียเกือบหมดสิ้น ส่วนสิ่งของที่เหลือโดยเขาขนไปไม่ได้ ได้แก่เสื้อผ้า ภาชนะใช้สอย ตลอดจนข้าวสารเป็น พันๆ กระสอบ ทหารจีนก็ทำการเผาอยู่ ๓ วัน ซึ่งเหลือแต่เถ้าถ่านอยู่ ณ บัดนี้ ด้วยเหตุขัดข้อง และขัดสนดังที่ข้าพเจ้าได้เรียนมาแล้ว
ฉะนั้น ข้าพเจ้า และพี่น้องพื้นเมืองทั้งหลายได้ขออภัยด้วย ทั้งขอมอบพื้นแผ่นดินในเขตนครเชียงตุงให้แก่ท่านเพื่อดำเนินการต่อไป"
จากนั้น พลตรี ผิน ชุณหะวัณ ผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ ได้กล่าวตอบ สรุปได้ว่า
"ท่านเจ้าบุญวาศ ณ เข็มรัฐ ที่เคารพ และพี่น้องแห่งนครเชียงตุง ผู้เลือดไทยที่รัก ทั้งหลาย
ข้าพเจ้าได้รับคำต้อนรับ และเหตุขัดข้องต่างๆ แล้ว ข้าพเจ้าและทหารทั้งหลาย รู้สึกยินดี และเศร้าสลดระคนกัน ที่ว่ายินดีก็คือ เลือดไทยทางใต้ได้มารวมกับเลือดไทยทางเหนือ ซึ่งถ้าจะนับเนื่องมาแต่โบราณกาลแล้ว พี่น้องไทยในนครเชียงตุงกับพี่น้องไทยในประเทศไทยปัจจุบัน ก็เท่ากับอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เรื่องที่แสดงให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่เดี๋ยวนี้ก็คือ เราพูดภาษาเดียวกัน ส่วนมากนับถือศาสนาพุทธเดียวกัน ถือขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเดียวกัน จะมีผิดเพี้ยนอยู่บ้างก็เพียงการแต่งกายชายหญิงเท่านั้น ส่วนข้อความที่ท่านได้กล่าวไว้ในตอนท้ายว่า การรับรองข้าพเจ้าและพวกทหารไม่สมเกียรติ ด้วยการขัดข้องและขัดสนนั้น ท่านและพี่น้องชาวนครเชียงตุงอย่าได้วิตกกังวลอย่างใดเลย เพราะแต่เพียงข้าพเจ้า และเพื่อนทหารทั้งหลายย่างเข้ามาในบริเวณนี้ ก็ประสบและเห็นเหตุการณ์อยู่แล้ว อันเป็นภาพที่สยดสยอง และแสนจะเวทนาเป็นอย่างยิ่ง และกล่าวโดยทั่วไปตามวิสัยของทหาร เมื่อทำการรบได้ชัยชนะและเข้ายึดเมืองหนึ่งเมืองใดได้แล้ว ย่อมมีการดีอกดีใจร้องไชโยโห่ฮิ้ว มีเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด ดังที่ข้าพเจ้าเห็นมาแล้ว ในสงครามอินโดจีน เมื่อทหารไทยเข้ายึดนครจำปาศักดิ์ แต่การย่างเข้านครเชียงตุงครั้งนี้ พี่น้องทั้งหลายได้สังเกตหรือเปล่าว่า ทหารได้แสดงกิริยาวาจาคึกคนองไปตามประสาผู้รบชนะบ้างไหม ข้าพเจ้าเห็นแต่เดินคอตกหน้าซีดไปตามๆ กัน นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ทหารแต่ละคนมีจิตใจสงสาร และบังเกิดความเวทนาแก่พี่น้องในนครเชียงตุง อันเป็นเลือดเนื้อไทยเดิมเป็นอย่างยิ่ง
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 12:09:26 » |
|
[ISBN 9747047349 ผู้แต่ง เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระ, 2498- ชื่อเรื่อง ดอยตุง เชียงตุง / พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. พิมพลักษณ์ เชียงใหม่ : สุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์, 2537. เลขเรียก P ท622ก 2537 รูปเล่ม 67 หน้า : ภาพประกอบสี ; 25 ซม. หัวเรื่อง ดอยตุง หัวเรื่อง เชียงตุง -- ภูมิประเทศและการท่องเที่ยว
หมายเหตุ ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ
|
|
|
|
|
|