23 พฤศจิกายน 2567, 07:13:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2] 3 4 ... 13  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญร่วมท่องเที่ยว "ทริป ไอหมอก ม่านเมฆ แห่งเมืองเชียงตุง"  (อ่าน 166718 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #25 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 10:47:44 »

เจ้าอู่เมืองสะสมดาบเก่าๆไว้หลายเล่มค่ะ อยู่บ้านเล็กๆ น่าสงสาร แต่ก็ยังทำหน้าที่ดูแลกู่เจ้าฟ้าตลอด
      บันทึกการเข้า

เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #26 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 10:52:34 »

พวกเราจะมีโอกาสได้คุยกับท่านบ้างไหมครับ ครั้งก่อน ไป ๕ คน ท่านขี่จักรยานผ่านมา และทักทาย คุยริมถนนได้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #27 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:02:39 »

สรุป สายการบินที่ไปเชียงราย

สายการบินไทยสมายล์ จำนวน 4 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย จำนวน 6 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินนกแอร์ จำนวน 8 เที่ยวบินต่อวัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #28 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:05:26 »

ยังหาตั๋วถูกกันไมไ่ด้
เพราะเป็นเดือนมกราคม ของปีหน้า 2558


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #29 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:07:52 »

จะถามอีกเรื่องหนึ่งครับ

ข้ามไปเชียงตุง ไม่มีปัญหาเรื่อง VISA หรือครับ ใช้ Border Pass ใช่หรือไม่ ??
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #30 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:13:55 »

ครั้งก่อนใช้หนังสือเดินทางครับ ขออนุญาตอบแทนพี่รัตนาพร  ๑๔ ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #31 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:33:55 »

น้องเริง

หนังสือเดินทาง ต้องขอ VISA หรือไม่


เพราะพี่หลั่น - รัตนาพร โพสต์ว่า ใช้รูปนิ้วครึ่ง 3 บาน, สำเนาบัตร ปชช. 3 ฉบับ
ส่งไปให้พี่ที่เชียงราย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #32 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 11:35:53 »

ที่อยู่ ที่ใช้ส่งเอกสาร......

รัตนาพร เศรษฐกุล
120/99 หมู่บ้านปาล์มสปริงส์
ถนน มหิดล ตำบลหนองหอย
อำเภอเมือง  เชียงใหม่50000
รบกวนemsนะคะ จะได้ชัวร์ค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #33 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 12:05:00 »

พี่หลั่น โพสต์ไว้ในไลน์.....ว่า

เอกสารส่งภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้นะคะ
ค่ามัดจำท่านละ4000บาท ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2557โอนเข้าบัญชีชื่อ รัตนาพร เศรษฐกุล เลขบัญชี253-037214-9 ธนาคารกรุงเทพ สาขาสันป่าข่อยค่ะ โอนแล้วกรุณาถ่ายใบโอนส่งเข้าไลน์มาด้วยนะคะ เพื่อยืนยัน ได้รับแล้วหลั่นจะตอบยืนยันทันทีค่ะ




      บันทึกการเข้า
รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #34 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 14:37:08 »

ขอบคุณเหยงมากๆเลยค่ะที่ช่วยส่งข่าว ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตค่ะ วีซ่าไม่ต้องค่ะ border pass. อย่างเดียว จะรวบรวมเอกสารส่งไปทำพร้อมกันค่ะ
      บันทึกการเข้า

รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #35 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 14:38:47 »

เริงคะ พี่จะนัดให้นะคะ ถ้าสนใจ
      บันทึกการเข้า

เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #36 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2557, 18:05:50 »

ครับ

หากได้ไปจะติดต่อพี่ทางโทรศัพท์  ก่อน15 ตค.ครับ
      บันทึกการเข้า
รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #37 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2557, 17:08:06 »

ยินดีค่ะ ไปด้วยกันนะคะ
      บันทึกการเข้า

รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #38 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2557, 18:40:52 »

ขณะนี้มี19ท่านแล้วค่ะ รับถึง24ท่านค่ะ
      บันทึกการเข้า

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #39 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2557, 20:25:13 »

เพียงวันเดียว 18 รายชื่อ จะปิดรับแล้วนะครับ

1. พี่ติ๋ม - ธิดา 10
2. พี่อ้วน -  จิรศักดิ์  
3. เหยง พิเชษฐ์ เชื่อมวราศาสตร์ 16
4. ประทาน 14
5. แต๊ก-ศิริวรรณ 20
6. ผ่อง 14
7. ดนัย 12
8. แอ 14
9. ขิม 14
10. พี่สิงห์ ศิริวรรณ 12
11. พี่แดงดารณี 12
12. ลูกสาวพี่แดง
13. พี่สาวิตรี 12
14. พี่หนุ่ย บุญเพิ่ม 12
15. พี่แอ๋ว จีระ 12
16. พี่บี้ พรพินิจ 12
17.พี่แจ๋ว 13
18.พี่ยุ้ย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #40 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2557, 20:26:44 »

อ้างถึง
ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 04 ตุลาคม 2557, 18:05:50
ครับ

หากได้ไปจะติดต่อพี่ทางโทรศัพท์  ก่อน15 ตค.ครับ
[/size]
เริง

หากไปได้ เชิญร่วมคณะ เหลืออีกเพียง 5 ที่เท่านั้น
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #41 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 13:49:38 »

พี่หลั่น
ผมได้ค้นคว้าและอ่านแล้วครับ ได้ความรู้อีกมากมาย


"Chiang Tung War: Opening of  Military Activities in the Extreme North
of Siam in the Reign of Rama IV
Associate Professor Dr. Rattanaporn Sethakul

ศึกเชียงตุง : การเปิดแนวรบเหนือสุดแดนสยาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดย รองศาตราจารย์ ดร.รัตนาพร เศรษฐกุล "
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #42 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 13:55:33 »

น่าสนใจเช่นกัน...สยามตีเชียงตุง 2 ครั้งไม่สำเร็จ


ยังปรากฏให้เห็นเด่นชัดของร่องรอยคูเมืองนครเชียงตุงดินแดนพม่า มีกำแพงดินธรรมชาติสูงชันอันเป็นป้อมปราการชั้นดีในการป้องกันข้าศึกรอบด้านที่จะบุกเข้าตีเมือง

ระหว่างคูกำแพงจากฝั่งด้านนอกของกำแพงเพื่อข้ามมาฝั่งกำแพง โดยมีสะพานแขวนเก่าๆ โอนเอนจะโค่นมิโค่นแหล ตัวเสารับน้ำหนักก่อด้วยปูน เหล็กเส้นติดสนิมเกี่ยวคล้องกับเชือกเพื่อรับน้ำหนักไม้แผ่นที่พาดขนานกันไปทอดเป็นสะพาน เมื่อนับความกว้างของสะพานที่ก้าวเท้าไปแต่ละก้าวจุดสุดปลายฟากหนึ่ง ๓๙ ก้าว ถ้าคิดเป็นเมตรก็น่าจะอยู่ราวๆ ๓๕ เมตร บวกลบ ๒ เมตร ส่วนความสูงของกำแพงดินนั้นประมาณด้วยสายตาแล้ว ๑๕ เมตรเป็นอย่างต่ำ

นักวิชาการประวัติศาสตร์ที่ร่วมเดินทางมากับคณะสัมมนาวิชาการตามพระนิพนธ์ “จดหมายเหตุกองทัพเชียงตุง” พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร.ศ. สมโชติ อ๋องสกุล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงความเห็นว่า “กำแพงนครเชียงตุงสูงกว่านครเชียงแสนเกือบ ๓ เท่า และกำแพงนี้เป็นเพียงชั้นในเท่านั้น ส่วนตรงข้ามของกำแพงเป็นเนินเขาสูงลาดชัน ไกลออกไปนอกเมืองมีดอยเหมยตั้งตระหง่านเป็นกำแพงภูเขาโดยธรรมชาติ”

ร.ศ.สมโชติ กล่าวภาพรวมกำแพงนครเชียงตุง “นับได้ว่ามีถึง ๓ ชั้นด้วยกัน นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่กอง ทัพสยามในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จะเข้ายึดนครเชียงตุงถึง ๓ ครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งศึกเชียงตุงครั้งที่ ๔ ไทยเข้ายึดได้สำเร็จ (พ.ศ.๒๔๘๕) แต่ภายหลังได้มอบนครเชียงตุงให้สหประชาชาติเข้ามาจัดการปกครอง”



นักประวัติศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ร.ศ. ดร.รัตนาพร เศรษฐกุล คณะสังคมศาสตร์มนุษยศาสตร์ มหา วิทยาลัยพายัพ เปิดปูมหลัง “ศึกเชียงตุง : การเปิดแนวรบเหนือสุดแดนสยาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔” กล่าวว่า “ศึกเชียงตุงครั้งแรกเกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.๒๓๙๒–๒๓๙๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ และได้กลายเป็นภารกิจที่สืบต่อมาถึงรัชกาลที่ ๔ สยามได้ส่งกองทัพขนาดใหญ่พรั่งพร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยเวลานั้นโจมตีเชียงตุง ในพ.ศ.๒๓๙๕ แต่ไม่สำเร็จ ในพ.ศ.๒๓๙๖-๒๓๙๗ ส่งกองทัพขนาดใหญ่กว่าเดิมเข้าตี แต่ก็ต้องถอยทัพกลับมาเช่นกัน”

นักประวัติศาสตร์กล่าวถึงเอกสารราชการสยามระบุว่า “เป็นความพยายามของสยามในการป้องกันอันตรายจากพม่าที่จะขยายเข้ามาสู่เชียงราย พรมแดนทางเหนือของล้านนาติดต่อกับเชียงตุง และเกิดจากการที่เจ้านายเมืองเชียงรุ่งขอความช่วยเหลือจากสยามให้เข้าแทรกแซงการเมืองภายในของสิบสองปันนา ดังนั้นรัชกาลที่ ๔ ทรงสานต่อการศึกเชียงตุง ทั้งเพื่อรักษาพระเกียรติของพระองค์”

ถึงอย่างนั้นก็มีสาเหตุอื่นที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ด้านหนึ่งการทำศึกเชียงตุงเป็นการแสดงอำนาจอธิปไตยของสยามเหนือดินแดนหัวเมืองประเทศราชล้านนา และเมืองขึ้นของล้านนามาทางเหนือ มีการตั้งศูนย์อำนาจควบคุมกันเป็นชั้นๆ จากเมืองหลวง ดังนั้นการศึกเชียงตุงจึงเป็นความพยายามที่จะสร้างศูนย์อำนาจย่อย จะขยายพระราชอาณาเขตออกไปให้กว้างขวางและควบคุมเมืองชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ

ศึกเชียงตุง ไม่ได้มีสาเหตุจากความขัดแย้งระหว่างสยามและพม่าเท่านั้น แต่เกิดจากความไม่สมดุลแห่งอำนาจรัฐที่อยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้เชื่อมโยงไปถึงอาณาจักรตั้งแต่จีนตอนใต้ สิบสองปันนา หลวงพระบาง ล้านนาและเชียงตุง ซึ่งบ้านเมืองเหล่านี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งบ้านเมือง ดังนั้นการขยายอำนาจของสยามจึงก้าวเข้ามาเป็นชาติมหาอำนาจในพื้นที่นี้แทนพม่า ที่กำลังอ่อนแอและเผชิญปัญหากับชาติจักรวรรดินิยม

นอกจากประโยชน์ทางการเมืองแล้ว เชียงตุงยังตอบสนองผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสยาม เพราะเชียงตุงเป็นรัฐใหญ่ทางตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน มีเมืองบริวารสำคัญๆ ที่สามารถเป็นแหล่งกำลังคนและแหล่งการผลิต

นักประวัติศาสตร์ท่านนี้ มองความล้มเหลวของการศึกเชียงตุงของสยามครั้งนี้ว่า “เกิดจากการขาดการวางแผนยุทธศาสตร์การรบ ไม่รู้จักพื้นที่ดีพอ และเจ้านายล้านนาไม่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในด้านกำลัง คนและเสบียงอาหาร อีกทั้งระหว่างการทำศึกมีความขัดแย้งกันเองข้าราชการสยามกับเจ้านายล้านนาอย่างรุน แรง ทำให้สยามประสบความล้มเหลว ส่งผลให้พม่าผู้เป็นเจ้าอธิราชของเชียงตุงยังคงรักษาฐานะรัฐไทใหญ่ที่สำ คัญที่สุดทางฟากตะวันออกของแม่น้ำสาละวินไว้ได้”

อีกทัศนะหนึ่ง ที่มองข้ามไม่ได้ในการศึกเชียงตุง คือเรื่องไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งช้างม้าโคขนสัมภาระเสบียงอาหาร อ.จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์(ศิลปไทย)ว่า “การยกทัพของสยามไปทำศึกสงครามนั้น ตามแบบโบราณจัดให้มีทัพหน้า ทัพหลวง และทัพหลัง ซึ่งในการศึกเชียงตุงมีกองทัพเจ้านายฝ่ายเหนือเข้าสมทบกองทัพสยาม ในพ.ศ.๒๓๙๖ ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท และเจ้าพระยายมราช คุมกองทัพกรุงฯ

เจ้าพระยายมราช นำกองทัพหน้าเดินทางไปสู่เมืองพยาก จัดสร้างค่ายขึ้น เพื่อที่รอกองทัพหลวงกรมหลวงวงษาธิราชสนิทจะเสด็จตามขึ้นไป และกองทัพเมืองเชียงใหม่ แล้วจัดวางแผนการเดินทัพไปตีเมืองเชียงตุง ทั้งจัดให้กองทัพเมืองลำปางกับเมืองแพร่ยกไปตีเมืองยองทางหนึ่ง ให้กองทัพเมืองลำพูนยกไปตีเมืองล้ง เมื่อกรมหลวงวงษาธิราชสนิทจะเสด็จฯ นำกองทัพยาตราเข้าไปตีเมืองเชียงตุงนั้นโปรดเกล้าฯ ให้จัดกองทัพเป็นกระ บวนพยุหยาตราตามตำรับพิไชยสงครามและโบราณราชประเพณี

พระยาสุริยวงศ์ ผู้บัญชาการทัพหน้าคุมไพร่พล ๓,๐๐๐ คน พระยาน่านคุมไพร่พล ๓,๐๐๐ คน พระยาวิชิตณรงค์คุมคนไปแต่กรุงฯ ๒๖๐ คน พระยาแพร่คุมไพร่ไปสมทบ ๑,๐๐๐ คนเป็นกองหน้า พระยารามคำแหงคุมคนไปแต่กรุงฯ ๒๐๐ คน กำกับไพร่เมืองพระบาง ๑,๐๐๐ คน เป็นปีกขวาของกองทัพหลวง พระยาพิไชยสงครามคุมคนไปแต่กรุงฯ ๒๐๐ คน ควบคุมไพร่เมืองหลวงพระบาง ๑,๐๐๐ คน เป็นปีกซ้ายของกองทัพหลวง

กรมหลวงวงษาธิราชสนิท คุมคนไปแต่กรุงฯ กับไพร่หัวเมือง ๒,๐๐๐ คน เป็นทัพหลวง เจ้าอุปราชเมืองหลวงพระบางคุมไพร่ ๑,๐๐๐ คน เป็นทัพหลังตามทัพหลวง โดยกองทัพหลวงกรมหลวงวงษาธิราชสนิทยกทัพออกไปแต่เมืองเชียงแสน วันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๓๙๖

อ.จุลทัศน์ ยกเหตุการณ์ตอนหนึ่งเข้าตีเมืองเชียงตุง ที่บันทึกในจดหมายเหตุรายงานทัพ “เมื่อกองทัพยกขึ้นไปถึงเมืองเชียงตุง(อาทิตย์ที่ 19 มี.ค.) บริเวณเจ้าพระยายมราชตั้งค่ายอยู่นั้นเป็นที่กันดารน้ำ ไม่พอสำ หรับไพร่พล ช้างและโคได้กิน ขณะที่หน้าเมืองเชียงตุงอีกฟากหนึ่ง พวกเมืองเชียงตุงยิงปืนใหญ่ ปืนเล็กบนกำแพง ปืนคาบศิลายิงตามสนามเพลาะ ไพร่พลที่ขึ้นไปถูกยิงตายบ้าง ป่วยเจ็บไปหลายคน”

ฝ่ายกองทัพสยามและเจ้านายฝ่ายเหนือเอาปืนใหญ่ยิงเข้าไปในเมือง แต่ไม่ถึงดี เพราะค่ายเมืองเชียงตุงนั้นตั้งอยู่บนเชิงเขาสูง กระสุนที่ยิงใส่เข้าไปก็ตกเพียงเชิงเนินเขาบ้าง ใบเสมาบ้าง ถึงกระนั้นฝ่ายเราตีค่ายบนเขาจอมศรีได้ แล้วเอาปืนใหญ่ตั้งยิงโต้ตอบทั้งเช้าเย็น

เมื่อกองทัพหลวงเดินทางมาถึงเมืองเชียงตุง(อังคาร 22 มี.ค.) หน้าประตูย่านกลางเมือง พวกเชียงตุงก็ออกมาตีคัดท้ายกองทัพเพื่อแย่งชิงเอาช้าง แล้วก็สู้รบ จนไปตั้งค่ายทางทิศเหนือเมืองเชียงตุง อย่างไรก็ดีกอง ทัพสยามและกองทัพเจ้านายฝ่ายเหนือก็มิอาจตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ทุกด้าน เพราะเมืองเชียงตุงตั้งอยู่บนเนินเขา ประกอบกับภายในกำแพงเมืองมีหนองน้ำ 4 หนองหล่อเลี้ยงชาวเมือง มีเนินลูกสูงต่ำไว้คอยสังเกตการณ์รอบๆ

การสู้รบตีเมืองเชียงตุงกินเวลา 7 วัน กรมหลวงวงษาธิราชสนิทจึงมีรับสั่งว่า “ครั้นจะสู้บต่อไป หามีหญ้าจะให้ช้างกินไม่ ช้างม้าก็ซวดโซลงทุกวัน เห็นเสียเปรียบข้าศึกถ่ายเดียว กระสุน ดินดำก็น้อยลง จึงให้ถอยทัพลงมาตั้งอยู่ที่เมืองเชียงแสน” การศึกสงครามคราวกองทัพสยามยกขึ้นไปตีเมืองเชียงตุง เป็นต้องยุติลงในเวลานั้น

อ.จุลทัศน์ กล่าวการตีเมืองเชียงตุงไม่ได้นั้น ปัญหาบางกรณี เช่น สภาพลมฟ้าอากาศเป็นช่วงฤดูร้อน กลางวันร้อน กลางคืนอากาศเย็น เพราะเมืองเชียงตุงมีภูเขาล้อมรอบ เป็นเหตุให้คนที่ไม่คุ้นเคยสภาพอากาศเกิดการเจ็บไข้ได้ง่าย เสบียงอาหารและแหล่งน้ำรอบนอกไม่เพียงพอ สำหรับผู้คนในกองทัพ รวมไปถึงช้าง ม้า วัว ทำให้ทั้งคนและสัตว์อ่อนระโหยโรยแรง ขณะที่แม่ทัพและนายกองนั่งบนหลังช้าง ส่วนไพร่พลเดินด้วยเท้าย่อมเหนื่อยล้า และการศึกมีการยิงโต้ตอบทั้งกลางวันและคืน
จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่กองทัพสยามคิดว่าตีเมืองเชียงตุงได้ แต่ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้


เนติ โชติช่วงนิธิ
ประจำเดือนมีนาคม 52
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #43 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 15:43:14 »

       น้องเริง พี่เพิ่งรู้จักเชียงตุง จากที่อ่านเรื่องราวจากน้องนีาแหละ
          เก็บไว้อ่านก่อนนอนเพราะเรื่องยาว
          ต้องขอบคุณพี่หลันที่มากรุยทางทริปนี้
      บันทึกการเข้า

suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #44 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 18:42:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ Dtoy16 เมื่อ 06 ตุลาคม 2557, 15:43:14
       น้องเริง พี่เพิ่งรู้จักเชียงตุง จากที่อ่านเรื่องราวจากน้องนีาแหละ
          เก็บไว้อ่านก่อนนอนเพราะเรื่องยาว
          ต้องขอบคุณพี่หลันที่มากรุยทางทริปนี้
บอกข่าวดีครับ เมื่อวานในที่ประชุมจัดงานคืนสู่เหย้า ที่หอฯ
เห็นกรรมการเขาจะขอบัตรที่พักฟรีจากรีสอร์ตน้องคณะผมที่ชื่อธวัช
มาเป็นรางวัลสอยดาวสักสองสามใบอะไรเนี่ย
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #45 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 18:59:26 »

ครับ เมืองเก่า ตั้งอยู่ในที่สูงจริงๆเป็นยอดเชิงเขาก็ว่าได้  

นอกกำแพงเมืองเป็นทางลง ขึ้นไปยาก ทำให้โจมตีได้ยากมาก หลายๆครั้งยังไม่สำเร็จ (ตามภาพทึ่หม่องเริง 2520 นุ่งโสร่ง มีที่ยืนถ่ายภาพนิดเดียว ถัดไปเป็นทางลาดลง )

บนนั้น เป็นพื้นราบ คนพักได้เป็นร้อยในยามสงคราม  ปัจจุบันมีต้นไม้ใหญ่ ชืีอ "ต้นหมายเมือง"

มีพระชี้นิ้ว ที่พม่าตั้งใจชี้ไปยังหอหลวง เอาประหนึ่งว่า สะกดให้อยู่

ทุกวันนี้พม่าไม่สนใจพัฒนาเชียงตุงเลย

คนเชียงตุงเองก็ไม่ชอบพม่า จากการเดินชมบ้าน พบคนเชียงตุงว่ากล่าวพม่าให้ฟัง

ภาษาพูดเหมือนภาษาเหนือ ที่ฟังแล้วเข้าใจ

เหมือนกับที่เจ้านางสุคันธาได้ให้สัมภาษณ์ไว้เลยครับ

คนเชียงตุงบอกว่า พวกเขาไม่ใช่พม่า

พวกเขาคือไทใหญ่

อย่างไรก็ตาม ที่เชียงตุงมีมหาวิทยาลัย

เห็นเป็นเมืองใหญ่ ศูนย์กลางของเมืองใกล้เคียงกระมัง
      บันทึกการเข้า
รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #46 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 20:33:52 »

จะหาโอกาสเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองเชียงตุงมาพบพวกเราค่ะ. จะได้พูดคุยกันบ้าง
      บันทึกการเข้า

รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #47 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 20:37:28 »

พี่ป๋องขา เชิญไปเที่ยวด้วยกันค่ะ
      บันทึกการเข้า

suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #48 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 23:46:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ รัตนาพร14 เมื่อ 06 ตุลาคม 2557, 20:37:28
พี่ป๋องขา เชิญไปเที่ยวด้วยกันค่ะ
ห่างงานเกินสองวัน เครียดความดันขึ้นตายแน่เลยครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
รัตนาพร14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #49 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 06:36:44 »

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 [2] 3 4 ... 13  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><