23 พฤศจิกายน 2567, 06:56:26
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 27  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ตามครูไปเที่ยวอีก  (อ่าน 285858 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #275 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2557, 18:38:21 »

อดีต..ที่ไม่หวลคืน ...มีแต่จะก้าวหน้าอย่างมั่นคง

หอพักนิสิตจุฬาฯ  

จุดประสงค์ของการสร้างหอพักสำหรับนิสิตนั้น นอกจากจะเป็นที่พักอาศัย ให้ความสะดวกสบายไม่ต้องเดินทางไกล ให้ความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียนแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม ได้รับการอบรมส่งเสริมจริยธรรม เพื่อให้นิสิตสามารถบรรลุเป้าหมายแห่งการเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ มหาวิทยาลัยจึงได้เล็งเห็นความสำคัญ โดยจัดหอพักในมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นสวัสดิการช่วยเหลือนิสิตที่มีความจำเป็น ในด้านที่พักรวมถึงต้องการให้หอพักเป็นสถานที่เพิ่มพูนความรู้และช่วยพัฒนาบุคคลให้มากที่สุด

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2459 การศึกษาในสมัยแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดแบบ Residential College หรือเป็นการศึกษาและอยู่กินในมหาวิทยาลัย หอพักนิสิตจุฬาฯ จึงถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆกับการมีมหาวิทยาลัย

ที่พักของนิสิตที่เป็นลักษณะหอพักเริ่มแรก ตั้งอยู่ในบริเวณ “วังวินเซอร์” ซึ่งเป็นวังของสมเด็จเจ้าฟ้าวชิรุณหิศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารในรัชกาลที่ 5 ครั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชองค์นี้ทิวงคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับรัชทายาท เป็นสมเด็จพระโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารแทน เมื่อทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานวังวินเซอร์ให้อยู่ในบริเวณของมหาวิทยาลัย

วังวินเซอร์เป็นที่ตั้งของคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2461 ห่างจากวังประมาณ 60 เมตร มีหอพักสำหรับนิสิต เรียกว่า “หอวัง” เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณวัง เป็นเรือนไม้ จัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม แบ่งเป็นเรือน ก ข ค และ ง หอวังนี้รับนิสิตได้ 30 คน ซึ่งเป็นนิสิตชาย ในชั้นต้นมี ขุนสมิทธิ อนุสรณ์ (เซี้ยง สูยวณิช) เป็นผู้ปกครองหอคนแรก ครั้นถึง พ.ศ. 2465 ตำแหน่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น “อนุสาสก” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีมาจนถึงปัจจุบันนี้ ใน พ.ศ. 2479 หอวังถูกรื้อเพื่อสร้างสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ

จากการที่หอวังรับนิสิตได้เพียง 30 คน ทำให้ไม่เพียงพอกับจำนวนนิสิตที่กำหนดให้ทุกคนต้องอยู่หอพัก ดังนั้น ในปี พ.ศ.2465 จึงได้สร้างหอพักขึ้น 2 หลัง สามารถรับนิสิตชายได้ 40 คน เรียกว่า “หอใหม่” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนจุฬา ซอย 1

เนื่องจากมหาวิทยาลัยเห็นว่า มีนิสิตหญิงจำนวนมากที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดและไม่มีที่พักอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ต้องไปอยู่อาศัยตามหอพักเอกชน บางแห่งไม่มีระเบียบและไม่ปลอดภัย นิสิตไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนด้วยตนเองโดยสงบ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้พิจารณาวางโครงการก่อสร้างหอพักนิสิตหญิงขึ้นโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับการสร้างหอพักนิสิตชาย

เมื่อปี พ.ศ. 2492 ท่านเจ้าจอมสมบูรณ์ในรัชกาลที่ 5 ได้บำเพ็ญกุศลทำบุญฉลองอายุครบหกรอบ โดยบริจาคเงินจำนวน 120,000 บาท ให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์ที่จะให้สร้างหอพักนิสิตหญิง ต่อมาท่านได้รวบรวมเงินจากบรรดาญาติมิตรบริจาคสมทบเป็นจำนวนเงิน 3,911 บาท ครั้นปี พ.ศ. 2493 ในงานฉลองรัฐธรรมนูญ ณ สวนอัมพร ท่านเจ้าจอมฯได้มอบเงินสมทบให้อีกเป็นจำนวนเงิน 260 บาท รวมเงินที่ท่านเจ้าจอมฯได้บริจาคให้สามครั้ง เป็นจำนวนเงิน 124,171 บาท ประกอบกับชุมนุมนิสิตหญิงได้มอบเงินสมทบอีก 283.50 บาท ทำให้เงินบริจาคมีจำนวนทั้งสิ้น 124,454.50 บาท นับว่าท่านเจ้าจอมฯเป็นผู้ริเริ่มให้อุปการะคุณแก่นิสิตหญิงของมหาวิทยาลัยที่ขาดแคลนที่พักอาศัยเป็นอันดับแรก



ในปี พ.ศ. 2493 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณเพื่อก่อสร้างหอพักนิสิตหญิงเป็นจำนวนเงิน 1,105,560 บาท และได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 เมื่อสร้างตัวอาคารหอพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าจอมสมบูรณ์ได้กรุณาให้เตียงนอนประจำห้องอีก 75 ชุด เมื่ออาคารสร้างเสร็จ ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดให้นิสิตหญิงเข้าพำนักในต้นปีการศึกษา 2495 แต่ทำพิธีเปิดอาคารในวันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2496 สามารถรับนิสิตหญิงเข้าพักได้ทั้งหมด 75 คน มี ม.ร.ว.สลับ ลดาวัลย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอนุสาสกหอพักนิสิตชาย (หอใหม่) ในขณะนั้น รักษาการในตำแหน่งอนุสาสกหอพักนิสิตหญิง โดยมี อาจารย์ ม.ร.ว.แสงโสม เกษมศรี เป็นผู้ช่วยอนุสาสก เมื่อทำการรับนิสิตเข้าหอและวางระเบียบข้อบังคับเรียบร้อยแล้ว จึงได้มอบหมายให้ ม.ร.ว.แสงโสม เกษมศรี เป็นอนุสาสก และอาจารย์สุรางค์ โค้วตระกูล เป็นผู้ช่วยอนุสาสก

อาคารหอหญิงเมื่อสร้างเสร็จ มี 2 อาคาร คือ อาคารด้านทิศเหนือ (หอเหนือ) และอาคารด้านทิศใต้ (หอใต้) รับนิสิตได้ 71 คน ต่อมามีการสร้างอาคารกลางเชื่อมหอเหนือและหอใต้ จึงรับนิสิตได้ทั้งหมด 152 คนสำหรับค่าบำรุงหอพักในขณะนั้น แบ่งเป็นประเภทห้องเดี่ยวและห้องคู่ คือ ประเภทห้องเดี่ยวหอเหนือและหอใต้ ค่าพำนักวันละ 5 บาท หอกลางค่าพำนักวันละ 10 บาท ส่วนประเภทห้องคู่ หอเหนือและหอใต้ ค่าพำนักวันละ 3 บาท ส่วนหอกลางค่าพำนักวันละ 5 บาท สำหรับค่าอาหารจัดให้ 2 มื้อ คือ เช้าและเย็น คิดค่าอาหารวันละ 5 บาท


          

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #276 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 12:36:22 »

วันก่อนไปวัดชลอ ริมคลองบางกรวย

อุโบสถก่อนได้รับการบูรณะ




งามแล้ว







      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #277 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 12:55:08 »

ท่าเรือ..๕๗ ปีมาแล้ว



ทางลาด ไม่ใช่ ๕๗ ปี  ใต้ทางลาดเป็นบันได สมัยก่อนใช้ขึ้น ลงทางบันไดนี้







      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #278 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 13:04:50 »

มีเรือผ่านไปมาตลอด




      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #279 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 14:28:03 »

     น้องเริง แม้จะไปร่วมงานหอทั้งสองช่วงแต่ก็สู้มาดูในเวป ตามครูไปเที่ยวไม่ได้ เห็นภาพตึกหอใหม่และๆอาคารอื่น ดีจริง
      วัดชลอ ชื่อนี้มีความหมาย ที่มาอย่างไรค่ะดูจากอายุวัดตั้ง257 ปีมาแล้ว
      บันทึกการเข้า

เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #280 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 14:45:46 »

ครับ

ประวัติวัดชลอ
วัดชลอ ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย วัดนี้มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อพ.ศ. ๒๓๐๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จทางชลมารคมาตามลำน้ำเจ้าพระยาผ่านเมืองนนทบุรีเรื่อยมาทางคลอง "ลัด" ในปัจจุบันเรียกว่า "คลองบางกรวย" พระองค์ทรงเห็นว่า ที่ตรงนี้น่าจะมีการสร้างวัดขึ้นมาสักวัดหนึ่ง แต่เนื่องจากบริเวณนั้นในอดีตเคยมีเรือสำเภาจากเมืองจีนล่มและจมลง มีลูกเรือล้มตายมาก มีความเชื่อว่าเป็นที่อาถรรพ์ ในระหว่างการก่อสร้างก็มีอุปสรรคนานัปการ จึงทรงเสี่ยงสัตยาธิษฐานกับเทพยดาและมีพระสุบินนิมิตไปว่า ชายจีนชรามากราบทูลว่า ต้องสร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภาเพื่อการแก้เคล็ด จึงทรงสร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ได้พระราชทานนามวัดดังกล่าวว่า "วัดชลอ" วัดชลอถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่ามาโดยตลอด เพิ่งจะมีพระภิกษุมาจำพรรษาในรัชกาลที่ 3 หรือรัชกาลที่ 4

หมายเหตุ อุโบสถแอ่นเป็นท้องเรือสำเภา
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #281 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2557, 18:39:49 »

ฮิตเลอร์ ในด้านอื่นที่เป็นไปได้ ?



จากหนังสือพิมพ์ M2F วันที่ 19พย.
 


      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #282 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2557, 18:18:20 »



 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2557  รัฐบาลไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้รับคืนโบราณวัตถุของไทย จำนวน 554 ชิ้น จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานอัยการกลางแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเดิมเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Bowers เมืองซานตาอานา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย มาเก็บรักษาไว้ ณ คลังกลาง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ประกอบด้วย เครื่องปั้นดินเผา 222 รายการ เครื่องประดับสำริด 197 รายการ เครื่องมือเครื่องใช้สำริด 79 รายการ ลูกปัดทำด้วยวัสดุต่างๆ 35 รายการ เครื่องมือหินและขวานหิน 11 รายการ และแม่พิมพ์หินทราย 10 รายการ ส่วนมากเป็นโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากแหล่งโบราณคดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะแหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียง และมาจากภาคกลางบางส่วน มีโบราณวัตถุสมัยประวัติศาสตร์อีกเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการซ่อมสงวนรักษาตามหลักวิชาการอนุรักษ์




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #283 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2557, 18:24:33 »

ภาพนี้ ภาชนะซ้ายมือสวยและสมบูรณ์มาก



นี่ก็สวย แต่แตก



 กรมศิลปากรโดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้รับหีบห่อเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2557 โดยเก็บรักษาไว้ ณ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ​กรมศิลปากร โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพโบราณวัตถุ พบว่าภาชนะดินเผาส่วนใหญ่ชำรุด แตกต่อไว้ เครื่องมือเครื่องใช้โลหะประเภทสำริดยังไม่ได้รับการอนุรักษ์ มีคราบดินและสนิมกัดกร่อน หลายชิ้นชำรุดแยกออกจากกัน จำเป็นต้องได้รับการซ่อมสงวนรักษา โดยนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ และจากการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นโดยนักโบราณคดีทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พบว่าน่าจะเป็นโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง ประมาณร้อยละ 60-70  จากแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์อื่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ประมาณร้อยละ 25-30 และโบราณวัตถุสมัยประวัติศาสตร์ ประมาณร้อยละ 5-10 ​โบราณวัตถุเหล่านี้แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ทราบแหล่งที่พบแน่นอนแท้จริง แต่ก็สามารถศึกษารูปแบบศิลปะ เทคนิควิธีการทำ เนื้อวัตถุหรือส่วนผสม รวมทั้งกำหนดอายุสมัยได้ จึงยังคงมีคุณค่าและประโยชน์ทางวิชาการ





      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #284 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2557, 18:59:10 »

กศน.ไคโรจัดโครงการ'ศพยิ้มได้'
เปิดโลกการศึกษามุสลิม ตอน: กศน.ไคโรจัดโครงการ'ศพยิ้มได้'

             ในรั้วสถาบัน “อัลอัซฮัร”  สถานสอนศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งยังมีนักศึกษาอีกหลายร้อยคนที่ไม่จบการศึกษาสามัญมาจากเมืองไทย ส่วนใหญ่จะจบสูงสุดแค่ชั้นประถมปีที่ 6 และมัธยมต้นโดยเฉพาะนักศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เน้นหนักทางด้านศาสนา แต่ไม่ใช่ทางของตัวเองที่จะศึกษาด้านสามัญ พวกเขาจึงต้องพึ่งพา "ศูนย์การเรียนทางไกล” อีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญสำหรับนักศึกษาไทยในประเทศอียิปต์ ที่เดินทางมาศึกษาด้านศาสนากว่า 2,000 คน

             แต่เมื่อมีการเปิดการศูนย์การศึกษานอกระบบ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “กศน.” ได้มาเปิดที่ไคโร ประเทศอียิปต์ ทำให้มีนักศึกษาเข้ามาศึกษาในระดับประถมจำนวนมาก เพราะมีนักศึกษาไทยซึ่งถือกำเนิดในต่างประเทศ ที่พูดไทย และเขียนไทยไม่ได้ การเปิดศูนย์การเรียน กศน. จึงเปิดโอกาสให้เด็กสัญชาติไทยในต่างแดนได้ศึกษาภาษาไทยทั้งการเขียน การพูด และการจัดกิจกรรม กศน.จึงเป็นหนึ่งสำนักงานส่งเสริมการศึกษาได้ดีทีเดียวในประเทศอียิปต์

             เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาสไปร่วมการทำกิจกรรมของกศน. ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญในพิธีกรรมด้านศาสนา งานนี้ "พีรศักย  จันทวรินทร์" เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร และข้าราชการ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดพิธี “การสาธิตการอาบน้ำศพในศาสนาอิสลาม” หรือเราเรียกกันว่า “ศพยิ้มได้” ซึ่งเป็นการสอนเรื่องการอาบน้ำให้ศพ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเข้าสู่วิธีการฝัง จากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักศึกษาเป็นอย่างมาก



"กิตติพร ฤทธิ์โต" นักศึกษามัธยมตอนปลาย บอกว่า รู้สึกได้เลยว่าวันนี้ได้รับความรู้เรื่องศาสนาอีกเรื่องหนึ่งอย่างละเอียด และเป็นความรู้ที่ดูไปพร้อมการปฏิบัติ โครงการดีๆ และมีประโยชน์ต่อสังคมในวันข้างหน้า ขอบคุณ กศน. ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ นอกจากได้รับความรู้แล้ว ยังทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ในเรื่องการดำเนินชีวิตที่จะต้องระวังให้มาก เพราะอนาคตที่แท้จริง ที่เราทุกคนต้องพบคือ วันตาย ซึ่งต้องทำความดีในทุกวันให้ตัวเองและสังคม ขอบคุณโครงการศพยิ้มได้ ที่ทำให้ผมเองยิ้มได้ในวันนี้

             กศน.แม้จะเป็นการเปิดเรียนให้สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนในชั้นเรียนแบบเต็มหลักสูตร แต่เนื้อหาสาระไม่ต่างจากการเรียนเต็มหลักสูตรแม้แต่น้อย ที่สำคัญจะทำให้ก้าวหน้าและเป็นคนดีได้เช่นกัน
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #285 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2557, 08:46:23 »

ขุดเจอโครงกระดูก 19 ร่าง



เกิดเรื่องประหลาดในหมู่บ้านที่ชัยบาดาล จ.ลพบุรี วิญญาณมนุษย์โบราณทยอยมาเข้าฝันให้ชาวบ้านขุดหลุม บอกอยู่มานาน 2,700 ปี แล้วอยากไปผุดไปเกิด แปลกที่ขุดไปตามฝันตรงไหนก็เจอตรงนั้น จนมีโครงกระดูกแล้วถึง 19 โครง



เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านสำราญชัย ม.8 ต.หนองยายโต๊ะ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี หลังจากว่ามีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยโบราณจำนวนมาก พบชาวบ้านหลายสิบคนกำลังเดินดูโครงกระดูกมนุษย์ที่อยู่ในหลุม ความลึกประมาณ 2 เมตร   ..ข่าวไทยรัฐ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #286 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2557, 20:23:17 »

ไปงานนี้

ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจัดขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารสำนักงาน กศน.ทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญ และสามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจให้แก่ครู นักศึกษา กศน.และประชาชนอย่างถูกต้อง ในการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันอภิปรายเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติไทย และความเป็นเอกราชของชาติไทย และเรื่องความเสียสละของบูรพมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน



วิทยากรบรรยาย



      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #287 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2557, 15:20:43 »

โอ้โอ!  ใช้เงินลงทุนเยอะจัง

"ยักษ์ใหญ่ "เซ็นทรัล" เดินหน้าสร้างความฮือฮาให้กับแวดวงธุรกิจเมืองไทยอีกครั้งเมื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ฉายภาพแผนการลงทุนที่จะเกิดขึ้นใน 3 ปีนับจากนี้ถึง 8 สาขา รวมเงินลงทุนถึง 5.3 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงทุนครั้งนี้เซ็นทรัลได้ให้ความสำคัญกับโคราช หัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่แพ้กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีกำลังซื้อมหาศาล เดินเกมยึดตลาดเต็มรูปแบบ ด้วยการตัดสินใจลงทุนรองรับอนาคตบนที่ดินทั้ง 2 แปลงยักษ์



ในช่วงต้นปี "กลุ่มเซ็นทรัล" ได้ประกาศแผนลงทุน 7,000 ล้านบาท เปิดโครงการเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา บริเวณถนนบายพาสเส้นเลี่ยงเมือง บนพื้นที่ 52 ไร่ และกำหนดเปิดให้บริการในต้นปี 2559 ต่อมาในเดือนเมษายนเซ็นทรัลได้กว้านซื้อที่ดินแปลงใหม่ 70 ไร่บนถนนมิตรภาพ ทำเเศรษฐกิจหลักของโคราช ย้ายพื้นที่การก่อสร้าง มาอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับเดอะมอลล์ เทอร์มินอล 21 แม็คโคร และบิ๊กซี"


เขาใจดีให้ทุนการศึกษา แต่ต้องทำงานกับเขา

บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2558 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต จำนวน 500 ทุน

หลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร นักศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หรือหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต และมีงานในกลุ่มธุรกิจ CRC รองรับทันทีที่สำเร็จการศึกษา

คุณสมบัติของผู้สนใจ
1. อายุไม่เกิน 25 ปี มีบุคลิกภาพดี
2. สำเร็จการศึกษาระดับชั้น ม.6, ปวช., ปวส, (มหาวิทยาลัยบูรพา รับเฉพาะสายวิทย์-คณิต และศิลป์-คำนวณเท่่านั้น)
3. เกรดเลี่ยสะสมตั้้งแต่ 2.75 ขึ้นไป
4. สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว
5. สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตลอดหลักสูตร

สถาบันอุดมศึกษา 12 แห่งที่เข้าร่วมโครงการกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพฯ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
- มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ต่างจังหวัด
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงใหม่
- มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
- มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี

ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.centralsmartjobs.com และสมัครด้วยตนเองที่ มหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการ หรือส่ง E-mail : youngretailer@central.co.th หรือส่งไปรษณีย์มาที่ ศูนย์บริการการศึกษา (สมัครรับทุนเรียนฟรี) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เลขที่ 306  อาคารเซ็นทรัลสีลมทาวเวอร์ ชั้น 2 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #288 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2557, 09:03:56 »

ซีมะโด่ง คนนี้ก็ไม่เบาเลย



พฤกษาฯผุดโรงงานพรีคาสท์แห่งใหม่



นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์  ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และจะก่อให้เกิดการกระจายตัวของที่พักอาศัยของพี่น้องประชาชน บริษัทฯ จึงได้ลงทุนรวม 2,300 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานพฤกษาทีนวนคร



สำหรับโรงงานใหม่ทั้ง 2 โรง ได้เริ่มต้นการผลิตแล้วบางส่วนเมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิตบ้านได้ประมาณ 480 หลังต่อเดือน และเมื่อรวมกับโรงงานเดิมจำนวน 5 โรงงาน ที่ลำลูกกา ซึ่งมีกำลังผลิต 640 หลังต่อเดือน จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 1,120 หลังต่อเดือน ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนการเปิดโครงการใหม่ และแผนการส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี

จะเห็นได้ว่า ทองมา นั้นไม่เบาเลยจริงๆครับ  ๕๕๕


      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #289 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 07:05:17 »

                            

เศรษฐีหน้าใหม่ใจป้ำ ควักเงิน 200 ล้าน พัฒนาบ้านเกิด เปลี่ยนกระท่อมเก่าโทรมเป็นทาวน์โฮมหรูอยู่สบาย แล้วให้ชาวบ้านเข้าอยู่ฟรี ตอบแทนที่เคยช่วยเหลือครอบครัวและตัวเขามาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก

          นายเซี่ยง ชุยหัว นักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็กวัย 54 ปี จากจีน ผู้ฝ่าฟันชีวิตลำเค็ญวัยเด็กจนประสบความสำเร็จรวยล้นเป็นเศรษฐี หันหน้ากลับบ้านเกิดในหมู่บ้านเซียงเกียง เมืองซินหยู ทางตอนใต้ของจีน กว้านซื้อที่ดินในหมู่บ้านมาพัฒนา โดยตามรายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 ระบุว่า นายชุยหัวกว้านซื้อที่ดินในหมู่บ้านไปเมื่อ 5 ปีก่อน และอีกไม่กี่ปีถัดมาเขาก็เริ่มโครงการเปลี่ยนถนนลูกรังที่เป็นหลุมเป็นบ่อโคลนตมให้เป็นถนนลาดยาง เปลี่ยนกระต๊อบไม้ที่สร้างไว้แค่พออยู่ได้ ให้กลายเป็นหมู่บ้านทาวน์โฮมหน้าตาทันสมัย รวมมูลค่าการก่อสร้างกว่า 200 ล้านบาท แล้วก็ให้ชาวบ้าน 72 ครอบครัวเข้าอยู่อาศัยฟรี ๆ และในตอนนี้อีก 18 ครอบครัว ที่มีบุญคุณกับเขาก็กำลังย้ายเข้าไปอยู่เพิ่มเติม ซึ่งนอกจากบ้านฟรีแล้ว เศรษฐีกตัญญรายนี้ยังจัดให้มีอาหารฟรี 3 มื้อ สำหรับผู้เฒ่าผู้แก่และคนที่มีรายได้น้อยอีกด้วย



นายชุยหัว ซึ่งตั้งตัวจากธุรกิจรับเหมาก่อนผันไปทำอุตสาหกรรมเหล็กจนประสบความสำเร็จ ระบุว่า ตอนเด็ก ๆ  เขาและครอบครัวได้รับความกรุณาช่วยเหลือจากชาวบ้านที่หมู่บ้านนี้ไว้มากมาย ในเมื่อตอนนี้เขาทำงานและประสบความสำเร็จดีแล้ว และเงินที่มีก็มากเสียจนไม่รู้จะเอาไปใช้อะไรอีก เลยต้องการกลับมาตอบแทนชาวบ้านที่มีบุญคุณกับครอบครัวของเขา



          "ผมไม่อยากจะลืมรากเหง้าของตัวเอง ผมชดใช้หนี้ของผมเสมอ และผมก็อยากจะแน่ใจว่าชาวบ้านที่มีกรุณาต่อครอบครัวผมและต่อตัวผมสมัยยังเด็กจะได้รับการตอบแทนที่ดี" นายชุยหัวกล่าว

          ด้านผู้เฒ่าวัย 75 ปี จากหมู่บ้านแห่งนี้เผยว่า "ฉันจำพ่อแม่เขาได้ดีทีเดียว เป็นคนที่มีจิตใจดีมาก เอาใจใส่คนอื่นอยู่เสมอ และมันก็ดีเหลือเกินที่ลูกชายของพวกเขาได้รับถ่ายทอดจิตใจที่ดีงามนั้นมาด้วย"
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #290 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 20:21:37 »

ไปบางลำภู

มีร้านขายเสื้อเหลือง



พระเตรียมตกแต่งวัด เพือวันที่ ๕ ธันวาคม


      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #291 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 20:26:55 »

ผ่านถนนข้าวสาร










      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #292 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 20:37:58 »

ผ่านสถานีตำรวจฯชนะสงคราม




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #293 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 20:45:12 »

และวัดชนะสงคราม

วัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง เดิมเรียกว่าวัดกลางนา

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็นวัดตองปุ และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพที่ทุ่งลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ พ.ศ. 2328  และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดชนะสงคราม




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #294 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2557, 14:22:11 »

ปีนัง.
จาก..เดลินิวส์



“ปีนัง” เดิมชื่อ “เกาะหมาก” เป็นส่วนหนึ่งของรัฐปีนัง 1 ใน 13 รัฐของมาเลเซีย ดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งตะวันออก” เพราะเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ของมาเลเซีย  มีเมืองหลวงเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกอย่าง “จอร์จทาวน์”

เสน่ห์ของเมืองจอร์จทาวน์ อยู่ที่ความโดดเด่นทางวัฒนธรรม อาหาร และสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นแหล่งรวมผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งจีน มาเลย์ อินเดีย และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ โดยสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดคือการตามหา “สตรีตอาร์ต” ภาพวาด 3 มิติ ที่แฝงอยู่บนถนนแทบทุกเส้นในเมืองจอร์จทาวน์ ผลงานของ นายเออร์เนสต์ ซาคาเรวิก ศิลปินชาวลิทัวเนีย เป็นภาพวาดตามผนังกำแพงและศิลปะเหล็กดัดในรูปแบบภาพ 3 มิติ สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น

ความโดดเด่นของจอร์จทาวน์ คือสถาปัตยกรรมอายุร้อยกว่าปี อาคาร บ้านเรือนแบบคลาสสิกสไตล์ชิโนโปรตุกีสคล้ายเมืองภูเก็ต ซึ่งหากลองนั่งพาหนะท้องถิ่นเป็นสามล้อถีบพื้นเมืองก็จะได้อารมณ์ไปอีกแบบในการชมความงามของทัศนียภาพเมืองเก่าที่มีเสน่ห์แปลกตา

มนต์เสน่ห์ของเมืองมรดกโลกปีนังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ยากจะอธิบาย ทำให้ปีนังกลายเป็นสถานที่สุดพิเศษหลากอารมณ์ เหมาะสำหรับการเที่ยวชมเก็บความทรงจำ สัมผัสมนต์ขลังที่จะไม่มีวันลืม “ปีนัง"
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #295 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2557, 13:20:49 »

ทรงพระเจริญ

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #296 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2557, 18:22:03 »

พระเจ้ากรุงธนบุรี

"ในปัจจุบันพระราชวังเดิมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือและผู้บริหารพิพิธภัณฑ์คือมูลนิธิสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งมีการบริหารจัดการที่ทันสมัย เช่นมีของที่ระลึกจำหน่ายตามแบบพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ทั่วไป ตัวพระราชวังเดิมมีความร่มรื่น ได้รับการดูแลภูมิทัศน์อย่างดี เป็นอีกแห่งที่น่าเข้าเยี่ยมชม



อาคารท้องพระโรง:เป็นทรงไทยก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยพระที่นั่งองค์ทิศเหนือและองค์ทิศใต้เชื่อมต่อกัน ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงาน ประกอบพิธีสำคัญ รับรองบุคคลสำคัญและห้องประชุม


ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าพิพิธภัณฑ์ใดจะได้รับการดูแลที่ดีขึ้นอยู่กับหน่วยราชการที่สังกัดซึ่งมีงบประมาณและบุคลากรเพียงพอคอยดูแลอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีแห่งนี้ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ หรือวังจิตรลดาในบริเวณวังปารุสกวันซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ถือโอกาสประชาสัมพันธ์ในที่นี้ว่า __วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี___ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ในวันอื่นๆ หากต้องการเข้าชมต้องทำจดหมายเป็นหมู่คณะถึงกองทัพเรือ

ผู้ที่เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีและอ่านข้อมูลต่างๆจะค่อยๆซึมซับคุณูปการของพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มีต่อชาติไทยทุกวันนี้ การทำศึกตลอดระยะเวลายาวนาน 15 ปีเพื่อรักษาและขยายอาณาเขตของไทยเพื่อส่งต่อให้กับราชวงศ์จักรี

ในสมัยของพระองค์อาณาเขตของประเทศไทยทิศเหนือจรดอาณาจักรล้านนาทิศใต้จรดเมืองไทรบุรี ทิศตะวันออกจรดญวณใต้ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจรดเวียงจันท์ หัวเมืองพวน และหลวงพระบาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดเมืองพุทไธมาศ ทิศตะวันตกจรดมะริดและตะนาวศรี ออกมหาสมุทรอินเดีย

จุดเด่นของพระเจ้ากรุงธนบุรีคือความเป็นนักรบ แต่จุดด้อยคือความเป็นนักปกครอง และจุดอ่อนอีกประการหนึ่งคือชาติกำเนิดซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จุดด้อยและจุดอ่อนสองประการหลังนั้นได้พาท่านไปสู่จุดจบของแผ่นดิน

ความเป็นนักรบความกล้าหาญและความเสียสละของท่านทำให้พระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นวีรบุรุษในดวงใจของคนไทย แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่น่าสรรเสริญยิ่งคือการรู้จักเวลาของตนเอง " ..จากหนังสือศิลปวัฒนธรรม
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #297 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2557, 18:36:28 »

วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ธันวาคม ปีนี้ หากไม่มีภารกิจ จะไปเยี่ยมชมวัดแจ้งและพระราชวังเดิมแห่งนี้
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #298 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2557, 18:51:25 »

บูรณะวัดแจ้ง



วันนี้(4ธ.ค.)พระศากยปุตติยวงศ์ (ต่อศักดิ์ สุนฺทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า วัดอรุณฯได้รับงบประมาณโครงการบูรณะศาสนสถานภายในวัดที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้การสนับสนุนจากทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดำเนินการบูรณะพระอุโบสถวัดอรุณฯ ซึ่งมีความทรุดโทรม โดยขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการบูรณะเครื่องชุดประกอบบนหลังคาพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางวัดจึงใช้โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2557 จัดพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดอรุณฯ

ทั้งนี้พระอุโบสถวัดอรุณฯ เคยมีการบูรณะครั้งใหญ่มาแล้ว 1 ครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 และครั้งนี้ถือเป็นการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 9 โดยงบฯที่ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ จะนำมาดำเนินการบูรณะศาสนสถานตามโครงการดังกล่าวนั้น คาดว่าจะต้องใช้งบฯ 400 ล้านบาท โดยจะนำไปบูรณะพระอุโบสถ พระวิหารหลวง หอไตร 2 หลัง มณฑปพระพุทธบาทจำลอง และประตูซุ้มยอดมงกุฏ ตลอดจนการปรับภูมิทัศน์โดยภาพรวม จะเริ่มจากการบูรณะพระอุโบสถก่อน

ในส่วนขององค์พระปรางค์วัดอรุณฯนั้น ทางกรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการบูรณะ โดยรัฐบาลอนุมัติงบฯในการดำเนินการบูรณะ 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการบูรณะองค์พระปรางค์ประกอบซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 จากนั้นในปี 2559 จะมีการบูรณะองค์พระปรางค์หลักต่อไป..ข่าวเดลินิวส์

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #299 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2557, 23:21:17 »

วันนี้

ช่วงเช้า อยู่ที่ ตลาดซอย 2 เมืองนครปฐม (ถนนทิพากร ซอย 2)
วันนี้ถือเป็นวันสุกดิบ ของการซื้อเสื้อเหลือง
พรุ่งนี้ 5 ธ.ค. ใส่เสื้อเหลืองทั้งประเทศ

พบผู้คนเลือกซื้อเสื้อเหลืองหลายรูปแบบ เสียดายที่ถ่ายแบตฯของกล้องหมดพอดี)
สินค้าเสื้อสีเหลืองหลายหลาก ขายดี แถมราคาค่อนข้างแพงด้วย
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 27  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><