25 พฤศจิกายน 2567, 21:27:13
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ทัน "เบาหวาน"  (อ่าน 16378 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
MahDee
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,081

« เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 14:34:42 »

"เบาหวาน" โรคยอดฮิตในทุกครัวเรือน....

เบาหวานคืออะไร

เป็นชื่อของกลุ่มอาการจากความผิดปกติที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและถูกขับออกมาทางปัสสาวะเนื่องจากร่างกายขาดฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่ง คือ อินซูลินจากตับอ่อนที่ผลิตไม่พอใช้หรือผลิตแล้วใช้ไม่ได้ตามปกติ เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่นาน ก็จะเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาทั้งเฉียบพลันและเรื้อรังในกรณีเรื้อรังจะไปทำให้หลอดเลือดเสื่อมเสียหายและทำลายอวัยวะส่วนปลายทาง เช่น ไต สมอง หัวใจ เป็นต้น โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำลายหลอดเลือดร่วมอยู่ด้วย

น้ำตาล...ไปทำอะไรอยู่ในร่างกายของเรา

ปกติเมื่อคนเรารับประทานอาหารจำพวกข้าว แป้ง น้ำตาล เข้าไปในร่างกายเริ่มตั้งแต่ในปากจะมีการย่อยสลายอาหารกลุ่มนี้ออกเป็นหน่วยเล็กลงเรื่อย ๆ และเมื่อถึงลำไส้เล็กส่วนใหญ่ของหน่วยเล็ก ๆ เหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตเพื่อให้ร่างกายนำเข้าไปในเซลล์ของร่างกาย และเผาผลาญกลายเป็นพลังงานในร่างกายสามารถเคลื่อนไหว คิดและปฏิบัติกิจในชีวิตประจำวันได้โดยมีฮอร์โมนจากตับอ่อนที่เรียกว่า "อินซูลิน" เป็นสารช่วยนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์

ดังนั้นในกระแสเลือดของเราจะมีน้ำตาลอยู่เสมอแต่จะอยู่ในระดับที่พบดีสำหรับการนำไปใช้ที่เซลล์ของร่างกายคืออยู่ในช่วง 70-120 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เมื่อไรที่ระดับน้ำตาลในเลือดเกิน 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรจะกรองน้ำตาลออกมาในปัสสาวะทำให้สามารถตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะได้
 

 
อาการ...ของผู้ที่เป็นเบาหวาน

1. ปัสสาวะบ่อยและมาก ปัสสาวะกลางคืน

2. คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อย และมาก

3. หิวบ่อย กินจุ แต่น้ำหนักลด ผอมลง อ่อนเพลีย

4. เป็นแผลหรือฝีง่ายแต่หายยาก

5. คันตามผิวหนังและบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์

6. ชาปลายมือปลายเท้าความรู้สึกทางเพศลดลง

7. ตามัว พร่า ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย ๆ


 
สาเหตุของเบาหวาน

ในชุมชนไทยมีโอกาสพบคนเป็นเบาหวานตั้งแต่ช่วงอายุ 13 ปีขึ้นไป โดยประมาณทั้งสิ้นถึงหนึ่งล้านเจ็ดแสนคน นอกจากนั้นยังพบว่าเมื่ออายุสูงขึ้นมีโอกาสเป็นเบาหวานได้ง่ายขึ้น ได้แก่ ประชากรระหว่าง 20-44 ปี จะพบประมาณร้อยละ 2-3 และอายะ 45-59 ปี ขึ้นไป อาจพบสูงถึงร้อยละ 10-12 สาเหตุของการเกิดโรคมีดังนี้

1. น้ำหนักเกิน ความอ้วน และขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกายที่เพียงพอ

2. กรรมพันธุ์ มักพบโรคนี้ในผู้ที่มีบิดา มารดา เป็นเบาหวาน ลูกมีโอกาสเป็นเบาหวาน 6-10 เท่าของคนที่พ่อแม่เป็นเบาหวาน

3. ความเครียดเรื้อรังทำให้อินซูลินทำงานนำน้ำตาลเข้าเนื้อเยื่อได้ไม่เต็มที่

4. อื่น ๆ เช่น จากเชื้อโรคหรือยาบางชนิด เกิดร่วมกับโรคเนื้องอกของต่อมใต้สมองหรือต่อมหมวกไต เป็นต้น


 
ผู้ใด...ควรจะสงสัยว่าตนเองเป็นหวาน

ผู้มีอาการของโรคเบาหวาน ผู้มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 40 ปี และผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อยในข้อใดหนึ่งต่อไปนี้

1. มี บิดา มารดา พี่ หรือน้อง คนใดคนหนึ่งเป็นโรคเบาหวาน

2. อ้วน โดยมีดรรชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 25

3. มีภาวะความดันโลหิตสูง

4. มีภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ (ไตรกลีเซอไรด์) มากกว่า 250 มก./ดล. เอช ดี แอล คลอเลสเตอรอล (HDL cholesterol) น้อยกว่า 35 มก./ดล.

5. มีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือมีประวัติการคลอดบุตรที่น้ำหนักตัวแรกคลอดมากกว่า 4 กิโลกรัม

6. มีประวัติหรือเคยมีประวัติน้ำตาลในเลือดสูงจากการตรวจเลือดโดยการงดอาหาร (Fasting Plasma Glucose) = 110-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือตรวจวัดน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังกินกลูโคส 75 กรัม ตรวจพบน้ำตาล = 140-199) มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

รู้ได้อย่างไร..ว่าเป็นเบาหวาน

ถ้าสงสัยว่ามีความเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง ให้ไปตรวจน้ำตาลในเลือดจากปลายนิ้วที่สถานบริการรักษาพยาบาลพื้นฐาน ก่อนไปตรวจจะต้องงดอาหารทุกชนิด ยกเว้นน้ำเปล่าก่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ถ้าผลเลือดตรวจพบน้ำตาลมากกว่าหรือเท่ากับ 110 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ต้องสงสัยว่าเป็นเบาหวาน และสามารถรับประทานอาหารได้หลังการเจาะเลือด

แต่ถ้าสถานบริการใดไม่มีเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด ต้องตรวจน้ำตาลในปัสสาวะแทนให้ผู้รับบริการเตรียมตัวเก็บปัสสาวะ

ในการเก็บปัสสาวะเพื่อตรวจทดสอบให้มีมาตรฐานที่ดีในการตรวจนั้น ควรปัสสาวะทิ้งหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเสียก่อนแล้วจากนั้นดื่มน้ำตาม 1 แก้ว รับประทานอาหารเช้าแล้ว หลังอาหาร 2 ชั่วโมงจึงเก็บปัสสาวะส่งตรวจ และถ้ายังมีอาการน่าสงสัย แต่ตรวจไม่พบความผิดปกติจากการตรวจน้ำตาลในปัสสาวะให้ไปตรวจอีกครั้งจากสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลชุมชน เป็นต้น

เมื่อตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจคัดกรองข้างต้นแล้วสถานบริการพื้นฐานจะส่งตัวท่านไปวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานหรือไม่โดยแพทย์ ซึ่งจะตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจากข้อพับแขนของท่านอีกโดยการเตรียมตัวเพื่อรับการตรวจเช่นเดียวกับการตรวจเลือดปลายนิ้วและจะวินิจฉัยว่าท่านเป็นเบาหวานเมื่อผลเลือดของท่านมากกว่า 126 มก./ดล.ขึ้นไปอย่างน้อย 2 ครั้ง

 
 

แหล่งข้อมูล: คู่มือดูแลตนเองเบื้องต้น เรื่องเบาหวาน "รู้ทันเบาหวาน"
สำหรับผู้เป็นเบาหวาน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
บันทึกการเข้า

RCU 2541>> ปะกาโด่ง 81
----------------------------
http://www.facebook.com/MrMahD
LadyBamboo
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 402

« ตอบ #1 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 14:42:37 »

แทงกิ้วนะมะดี  ที่ทำให้พี่รู้ว่าพี่ก็เป็นคนอินเทรนด์ในบางเรื่องกะเค้าเหมือนกัน ก็เรื่องนี้แหละ หุหุ :cry:
บันทึกการเข้า

As long as you wish beautiful, you will be beautiful!
party
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,875

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 18:16:52 »

ระวังตัวเยอะนะคะ พี่ไผ่ และพี่ๆคนอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงกับโรคนี้ชื่อมันเพราะนะคะ แต่ร้ายนักหละ..คุณยายหนูเป็นโรคเบาหวาน เวลาเป็นแผลจะหายยากมากคะ ถ้าไม่เป็นโรคนี้คุณยายคงจะอยู่เป็นร่มโพธ์ร่มไทรให้หนูนานกว่านี้คะ หนูก้อต้องระวังเป็นพิเศษเพราะอาจจะเป็นกรรมพันธุ์คะ :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:  :cry:

ป.ล.รักคุณยายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกคะ :cry:  :cry:  :cry:
บันทึกการเข้า

http://happinessparty.multiply.com/
<embed src=\\\"http://images.multiply.com/multiply/horizontal-headshot-badge.swf\\\" type=\\\"application/x-shockwave-flash\\\" wmode=\\\"transparent\\\" FLASHVARS=\\\"user_id=happinessparty&enc=U2FsdGVkX1.XgxV7rEZX6q1u2Jyr2y9bKY8Amx,Hc,GTybsHCwE8.8sOCJWnoHQj
oatani
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 มีนาคม 2551, 11:32:45 »

อยากจะแนะนำอาหารเสริมตัวนึงอะครับ
ลองให้ญาติตัวเองทาน แล้วมันได้ผลดีมากกับระดับน้ำตาลในเลือด
ขนาดที่ มีญาติอยู่ 2 คน

คนแรกทาน ก่อนทาน 180 ทานไป 3 วัน 140 1 เดือน 118 เลย
อีกคน ไม่ทราบผล แต่รู้แค่ว่า ทานไป 3 วันเค้าเห็นผลน้ำตาลนี่
ขนาดที่ว่าอยากน้ำอัดลมมานานเนี่ย ต้องไปซื้อมาฉลองกินเลยอะครับ

แค่วันละ 10 บาทเท่านั้นเอง สนใจติดต่อหรืออยากทดลองได้นะครับ
สัก 5 วันรับรองผล กล้าท้าเลย

ติดต่อได้ที่ 086-368-9250 โอ๊ต
กริ้งมาได้ติดต่อได้ 24 ชั่วโมงเลยครับ
บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><