เหยง 16
|
|
« ตอบ #3200 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 09:58:02 » |
|
ทวีธาภิเษก คือ ร.5 ครองราชย์เป็น 2 เท่าของ ร.2 (ซึ่งครองราชย์ได้ 15 ปี) เท่ากับ 30 ปี ที่ยาวนานสุด คือ ร.1 ครองราชย์ได้ 27 ปี ถ้า 2 เท่าคือ 54 ปี
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3202 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 10:41:48 » |
|
ต่อมาปี 2541 (ร.ศ. 117) หรืออีก 15 ปีต่อมาหลังการออกเหรียญครั้งแรก ร.5 ทรงครองราชได้ครบ 30 ปี ซึ่งเป็น 2 เท่าของสมเด็จพระอัยกา จึงมีเหรียญออกอีก 1 ชุด มีชื่อว่า เหรียญ ร.5 เสมอ ร.2 ทวีคูณ และมีรัฐพิธี ทวีธาภิเษกสมโภช เหรียญทวีธาภิเษกภาพจาก พิพิธภัณธ์เหรียญกษาปณ์ไทย www.thaimedal.com
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3203 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 11:07:13 » |
|
ครับ ภาพเหรียญชัดเจน
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3205 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 13:12:46 » |
|
วัดยานนาวา ที่มีเรือสำเภาปูน ครั้งหน้าได้แวะวัดยานนาวา พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดคอกควาย" เนื่องจากมีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และชาวทวายจะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน หมู่บ้านบริเวณนั้นจึงได้ชื่อเรียกกันต่อมาว่า "บ้านคอกควาย"
ในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะวัดคอกควายขึ้นเป็นพระอารามหลวง เรียกชื่อใหม่ว่า "วัดคอกกระบือ" ต่อมารัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ ครั้นถึงรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือเป็น "วัดยานนาวา "
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3206 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 13:18:15 » |
|
องค์การสะพานปลา มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ที่นี่เป็นหนึ่งในสี่แห่ง
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3208 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 13:24:12 » |
|
ต่อไปชมวัดอีกแล้ว
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3209 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 15:57:17 » |
|
น่าเสียดาย
ในเขตเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ กทม.อนุญาตให้สร้างตึกสูงรายรอบโบราณสถาน ทำให้เสียทัศนียภาพไปเป็นอย่างมาก
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #3210 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 17:32:34 » |
|
น้องเริง พี่สังเกตุเห็นตึกสูงใกล้กับวัดยานนาวามีป้ายโค๊กขึ้นเหมือนไม่มีสำนักงานหรือคนอยู่ หรือค่ะเพราะคนอยู่ก็ต้องการทัศนียภาพ ตอนพี่เฝ้าพ่อที่ร.พเลิศสิน ก็สังเกตุห็นตึกลักษณะ สร้างระเบียงหมือนคนฟันเหยิน เหมือนตึกร้าง เวลาดึกๆมองไป ฮือน่ากลัวไม่เปิดไฟอีก
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3211 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 18:33:47 » |
|
คุณต้อย น้องเริง
ได้ยินข่าวมาว่า โกดังของไทยน้ำทิพย์ หรือเสริมสุข อะไรสักอย่างนี่แหละ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 10 ไร่กว่าๆ กำลังจะขายพันกว่าล้านบาท
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3212 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 20:00:52 » |
|
ไม่ทราบเลยครับ หากทองมาทราบอาจซื้อทำคอนโดขายก็ได้นะ
ตอนนี้เขามีบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ที่ปทุมธานี ห่างพระตำหนักจักรีบงกชเพียงมีคลองคั่น เขาคนอื่นบอกมานะ ไม่เคยไปเห็นครับ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3213 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 20:05:55 » |
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3215 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 20:19:04 » |
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3217 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 20:40:12 » |
|
แล้วเดินไปตามถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกๆของประเทศถนนเจริญกรุงเป็นถนนที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2407 มีความยาวจากถนนสนามไชยถึงดาวคะนอง 8,575 เมตร การก่อสร้างถนนเจริญกรุงนั้นเนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีชาวต่างประเทศเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น และมีพวกกงสุลได้เข้าชื่อกันขอให้สร้างถนนสายยาวสำหรับขี่ม้าหรือนั่งรถม้าตากอากาศและอ้างว่า “เข้ามาอยู่ที่กรุงเทพมหานครไม่มีถนนหนทางที่จะขี่รถม้าไปเที่ยว พากันเจ็บไข้เนือง ๆ” ในปีระกา พ.ศ. 2404 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค ต่อมาคือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์) ที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่กอง พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองเป็นนายงาน รับผิดชอบในการก่อสร้างถนนช่วงตั้งแต่คูเมืองชั้นในถึงถนนตกริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลบางคอแหลม เรียกว่าถนนเจริญกรุงตอนใต้ (แต่ชาวบ้านมักเรียกว่าเจริญกรุงตอนล่าง) กว้าง ๕ วา ๔ ศอก
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3218 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 20:47:06 » |
|
เดินสองร้อยเมตร จะพบว่าพื้นที่ด้านขวา ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นโกดังเก่าของบริษัทอิสต์เอเซียติก
|
|
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3223 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:07:08 » |
|
ไปโรงเรียน โดย วานิช สุนทรนนท์
ตอนที่ ๑.
แก้ว
ทวีธาภิเศกสม ถิ่นสถานอุดมสมศักดิ์ศรี
แหล่งศึกษาเยาวชนธนบุรี แดนคนดีคนดังคนวังเดิม
ลูกเขียวขาวคือคนใหม่ต้องใจกล้า กล้าปฏิบัติพัฒนากล้าริเริ่ม
ประโยชน์สุขเพื่อส่วนรวมร่วมจุนเจิม เพื่อสร้างเสริมศักดิ์ศรีทวีธา
พุ่มดอกแก้วเขียวขาวพราวผ่องผุด บริสุทธิ์สดใสวัยศึกษา
ทวีธาลือชื่อให้ลือชา เทิดคุณค่าเขียว-ขาว ก้าวหน้าเอย
(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
ผมเดินออกจากซอยอดีตโรงหนังสุริยา วงเวียนใหญ่ ที่เคยอยู่ตอนอายุเพิ่มเริ่ม 17 ปี ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เดินไปดูสถานีรถไฟที่ไปมหาชัย ที่จากไปไม่ได้มาแลกันนานหลายสิบปี วันนี้ยังอยู่ดีแบบเรียบง่ายเหมือนเดิม ทุกวินาที... ความหลังครั้งเพิ่งเริ่มนมแตกพานกลับมาเพ่นพ่านอยู่ตรงหน้า ปีนขึ้นไปบนสะพานลอยที่จะข้ามไปยังตลาดสด ตอนที่ยังอยู่แถวๆ นี้ ผมจำเป็นต้องเดินข้ามสะพานลอยแห่งนี้ (แต่น่าจะสร้างใหม่แล้ว) ทุกวัน โดยเฉพาะในตอนเย็นๆ เพื่อไปหาข้าวกิน ซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋รอบค่ำ ยังจำได้ถึงความเหงาที่เกาะกุม และเที่ยวเดินท่องๆ อยู่ตามลำพัง เพราะผมต้องมาอยู่คนเดียวในบ้านหลังเล็กของรั้วใหญ่... ผมเดินย้อนรอย... ที่เคยเดินออกจากบ้านด้วยชุดนักเรียน จากวงเวียนใหญ่ไปถึงสี่แยกบ้านแขก เลี้ยวซ้าย แต่วันนั้น... เมื่อ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ผมไม่ได้ขึ้นรถเมล์เหมือนที่เคยปฏิบัติทุกๆ เช้าในหลายปีก่อน เพราะขึ้นได้ แต่น่าจะลงไม่ถูกป้ายแล้ว จึงเรียกรถแท็กซี่ บอกว่า เราจะไปหาโรงเรียนเก่ากันนะ น้องแท็กซี่คนนั้นเป็นคนใจดี ใจเย็น แค่ผมบอกว่า โรงเรียนเก่าของผม คือ โรงเรียนทวีธาภิเศก อยู่ในซอยที่มีทหารเรือเยอะๆ แล้วมีทางทะลุไปยังวัดแจ้ง หรือวัดอรุณราชวราราม ได้ น้องเขาพาผมไปเวียนหา ไม่นานก็พบครับ ผมให้น้องคนขับจอดรถตรงหน้าประตู แล้วค่อยๆ เดินเข้าไป 35 ปีแล้ว... ผมเพิ่งกลับมาหาโรงเรียนเป็นครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นอย่างเดียวที่พอเหลือให้ทรงจำ คือ อาคารเรียนสี่ชั้นที่หันหน้ามาทางประตูทางเข้า หลังจากบอกความประสงค์กับยามที่มีสีหน้าไม่มีความรู้สึกใดๆ แล้ว ผมก็เดินเคว้งเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางสนาม หันไปทุกทิศ ทุกทาง อย่างช้าๆ มีการรื้อตึกเก่าที่เป็นไม้ออกไป มีการก่อสร้างตึกใหม่ขึ้นมาอีกจำนวนมาก มีอยู่ 2-3 ตึก ที่มีความสูงตั้ง 6 ชั้น ไม่ไกลนั่นเป็นหอประชุม ด้านหน้าอาคารเขียนไว้ว่า พลเอกสุจินดา คราประยูร
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #3224 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:08:39 » |
|
สนามที่ผมกำลังยืนอยู่... เมื่อปี 2516-2517 เป็นดินปนทราย เป็นหลุมเป็นบ่อ ทุกครั้งที่ฝนลงหนัก ก็จะมีน้ำขังเป็นแอ่งๆ แต่วันนี้ กลายเป็นสนามคอนกรีต ทาสีพื้นด้วยสีเขียว แข็งแรง สวยงาม ผมเคยเขียนไว้หลายๆ แห่งว่า พอสอบเทียบชั้น ม.ศ. 5 ได้ ด้วยการสอบเดือนสิงหาคม พ.ศ.2517 พอประกาศผลว่าสอบได้ในเดือนธันวาคม ปีเดียวกัน ผมก็ตัดสินใจกลับบ้านที่ตรังทันทีเลย ไม่เรียนต่อ ไม่กลับไปสอบไล่ปลายปี ไม่มีเพื่อนสักคนที่เรียนด้วยกันแล้วได้ติดต่อกันมาจนถึงวันนี้ นอกจากคนเดียวที่สอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยกันที่ ม.อ.ปัตตานี โน่น... วินาที่ที่ยืนอยู่กลางสนามเคว้งคว้าง ผมเชื่อว่า มาถึง พ.ศ.นี้ คงเสียเวลาถ้าคิดจะไปสอบถาม ตามหา อาจารย์เก่าที่เคยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ และอย่าเข้าใจไปเพียงว่า พวกท่านพากันเกษียณกันไปหมดแล้ว ความจริงที่มากกว่านั้น ท่านอาจจะเสียชีวิตทั้งหมดแล้วก็เป็นได้... ผมเดินกลับมาตรงใกล้ๆ ที่คุณยามเฉยเมยนั่งอยู่ โชคดีที่ได้เจอผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่ง เขาพาลูกมารายงานตัวเข้าเรียนชั้น ม. 4 และยังบอกอีกว่า ลูกคนโตเรียนที่นี่ตั้งแต่ชั้น ม.1 จนถึง ม.6 เขาแนะนำว่า ลองเดินไปดูกระดานบอร์ดใกล้ๆ นี้สิ เผื่อจะจำใครได้บ้าง ครับ... ผมจำใครไม่ได้เลย แต่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้ว่า ผมเป็นศิษย์รุ่นน้องของคนดีๆ ในแผ่นดินนี้ตั้งหลายคน บนบอร์ดข้างฝานั้น นอกจากจะมีรูปของบรรดาครู อาจารย์ ผู้บริหาร ในปัจจุบันแล้ว ยังมีภาพของผู้บริหารตั้งแต่รุ่นแรกๆ และที่สำคัญอย่างยิ่ง มีภาพของศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงติดไว้ใกล้ๆ กันด้วย
|
|
|
|
|