เหยง 16
|
|
« ตอบ #1625 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2556, 21:14:35 » |
|
น้องเริง
เจอกับตัวเองเมื่อเย็นนี้ ที่อุทยานสวรรค์ ฝนตกช่วง 18.30 ซึ่งเป็นช่วงพีคของการออกกำลังกาย ไล่ผู้คนหายไปหมดเลย
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1626 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 07:08:09 » |
|
น้องเริง
วันนี้ ออกพื้นที่ไหนต่อ ??
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1627 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 08:38:23 » |
|
บ่ายไปสทศ. สำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ที่อาคารพญาไทพลาซ่า
ตรงข้ามไปรษณีย์ราชเทวี ที่เคยไปรับเงินทุกเดือนที่พ่อส่งมาให้ตลอด
ช่วงที่อยู่หอซีมะโด่งครับ
พรุ่งนี้อยู่ที่เมืองทองธานี ฮอลล์ ๑และ ๒
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1629 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 11:24:37 » |
|
สำหรับเงินค่าปรับ 3 ล้านฟรังก์นั้น แม้จะนำ "เงินถุงแดง" หรือเงินพระคลังข้างที่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเก็บสะสมกำไรจากการส่งสำเภาไปค้าขายกับต่างชาติเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ต่างรวบรวมทรัพย์สินเข้าสมทบจนครบ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าละม่อม กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร เสด็จอาของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชมารดาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงเลี้ยงดูล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 มาตั้งแต่พระเยาว์ เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงบริจาคสมทบมากที่สุด
เงินค่าปรับที่จ่ายให้ฝรั่งเศสนั้น เป็นเหรียญทองเม็กซิโกรวมทั้งหมด 801,282 เหรียญ ซึ่ง 1 เหรียญเท่ากับ 3.2 ฟรังก์ น้ำหนักของเงินเหรียญทั้งหมดรวมกันกว่า 23 ตัน ต้องขนกันทั้งวันทั้งคืนใส่รถออกจากประตูต้นสน พระบรมมหาราชวัง ไปลงเรือที่ท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อให้ทันตามกำหนด 24 ชั่วโมงที่ฝรั่งเศสยื่นคำขาด ล้อรถเที่ยวแล้วเที่ยวเล่าที่บรรทุกน้ำหนักเงินเหรียญ 23 ตันนั้น กดทับจนทำให้หินปูถนนเกิดรอยสึก
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1630 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 11:29:02 » |
|
สมชาย ชัยประดิษฐ์รัก นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจ.สมุทรปราการ และ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เห็นตรงกันว่า การรบที่ป้อมพระจุลจอมเกล้านั้น นายทหารผู้บัญชาการป้อมปืนและเรือรบฝ่ายไทย ล้วนเป็นฝรั่งต่างชาติทั้งสิ้น ทำให้อาจไม่มีจิตใจสู้รบปกป้องเอกราชเท่าคนไทยเจ้าของแผ่นดิน
“ไม่เพียงแต่นายทหารเรือ แต่สมัยนั้นฝรั่งต่างชาติยังเป็นผู้ดูแลกิจการต่างๆ ทั้งโทรเลข และรถไฟอีกด้วย เพราะเป็นช่วงที่กำลังเริ่มพัฒนาประเทศ หลังวิกฤติการณ์ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงส่งพระเจ้าลูกยาเธอไปศึกษาวิชาการสมัยใหม่ทุกด้านในทวีปยุโรป เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ จนทำให้เรายืดหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง นี่คือคุณูปการสำคัญของวิกฤติร.ศ.112”สมชายกล่าว
แม้จะทรงโทมนัสดังทรงมีพระราชหัตเลขา ส่งพระราชนิพนธ์ถึงพระบรมวงศ์ใกล้ชิดตอนหนึ่งว่า
“เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มนะเรื่องบำรุงกาย ส่วนจิตบ่มีสบาย ศิระกลุ้มอุราตรึง แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา เสียเมืองจะนินทา จึงจะอุดและเลยสูญฯ”
แต่พระปรีชาญาณของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ก็นำพาชาติบ้านเมืองผ่านพ้นภัยมาได้ วิกฤตร.ศ.112 ผ่านไปแล้ว 120 ปี ความเจ็บปวดในอดีตมิใช่เพื่อผูกแค้นสืบไป แต่ควรจะเป็นบทเรียนให้คนไทยตระหนักถึงการปรับตัวและเตรียมพร้อม เพื่อรับความท้าทายที่อาจจะเข้ามาเผชิญได้ทุกเมื่อ แม้ไทยจะยินยอมแต่ผลต่อเนื่องหลังวิกฤต ดังนี้
2436 13 ก.ค. ฝรั่งเศสส่งเรือรบบุกเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา 15 ก.ค. ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรี อ้างว่าเป็นประกันให้ไทยปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง แต่ฝรั่งเศสก็ยึดจันทบุรีต่อไปอีก 10 ปี
2446 13 ก.พ. ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิ สยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 จุดเริ่มต้นการปักปันเขตแดนพื้นที่ลาวและกัมพูชา มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนและทำแผนที่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นข้อพิพาทเขาพระวิหาร ผลจากสนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนเมืองจันทบุรี แต่เข้ายึดเมืองประจันตคิรีเขตต์ หรือเกาะกง และเมืองตราดแทน
2449 ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 6 ก.ค. ฝรั่งเศสถอนทหารออกจากตราด แต่ยังยึดเกาะกงต่อไป แลกกับการที่ไทยยกดินแดนมณฑลบูรพา เสียงราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส
2496 กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส
2502 6 ต.ค. กัมพูชาฟ้องศาลโลก คดีปราสาทพระวิหาร
2505 15 มิ.ย. ศาลโลกพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา 15 ก.ค. ไทยถอนกำลังและยกเสาธงชาติลงจากปราสาทพระวิหาร
2551 7 ก.ค. คณะกรรมการมรดกโลก ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 15 ก.ค. ไทยส่งกำลังเข้าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นครั้งแรกในรอบ 49 ปี เพื่อรักษาสิทธิอธิปไตย ส่งผลให้เกิดปัญหาพิพาทกับกัมพูชาตามมา
2554 28 เม.ย. กัมพูชาฟ้องศาลโลกให้ตีความคำพิพากษา 2505 18 ก.ค. ศาลโลกกำหนดมาตรการชั่วคราวให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1631 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:13:07 » |
|
ผลที่ตามมา2446 13 ก.พ. ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิ สยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 จุดเริ่มต้นการปักปันเขตแดนพื้นที่ลาวและกัมพูชา มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนและทำแผนที่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นข้อพิพาทเขาพระวิหาร ผลจากสนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนเมืองจันทบุรี แต่เข้ายึดเมืองประจันตคิรีเขตต์ หรือเกาะกง และเมืองตราดแทน
2449 ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 6 ก.ค. ฝรั่งเศสถอนทหารออกจากตราด แต่ยังยึดเกาะกงต่อไป แลกกับการที่ไทยยกดินแดนมณฑลบูรพา เสียงราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส(บน) ภาพจากหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส (ปกหลัง) Le Petit Journal ฉบับวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1905 ภายหลังความตกลง สยาม-ฝรั่งเศส ฉบับ ค.ศ. 1904 ฝรั่งเศสยอมถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่กลับไปยึดครองตราดและเกาะกงไว้แทน โดยอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันว่าสยามจะปฏิบัติตามอนุสัญญาใหม่โดยเคร่งครัด ในภาพเป็นพิธีมอบตราดและเกาะกงอย่างเป็นทางการให้นายโมเรล ข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศสประจำเขมร ส่วนตัวแทนของฝ่ายไทยคือพระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยสิริ) ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย อนึ่ง สยามได้ตราดกลับคืนมาจากสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ฉบับ ค.ศ. 1907 ในภาพจะเห็นว่าธงช้างถูกชักลงจากเสา นั่นหมายถึงสยามหมดอิสรภาพใน ณ บัดนั้น
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1632 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:16:33 » |
|
ประวัติศาสตร์ต้องจดจำ เพื่อมิให้กระทำผิดซ้ำรอยเดิม
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1633 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:21:46 » |
|
History repeats itself. ใช่ไหมครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1634 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 10:27:37 » |
|
โบราณว่า กงล้อประวัติศาตร์ย่อมย่ำซ้ำรอยเดิมครับ ??
แต่เดี๋ยวนี้...ไม่ทราบเหมือนกันเพราะมันต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะประติดประต่อเรื่องราวให้สมบูรณ์ได้
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1636 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2556, 14:15:21 » |
|
ข่าวจากเดลินิวส์มะเขือพวง มีประโยชน์มากๆอย่างไม่น่าเชื่อคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้วิจัยเรื่องสรรพคุณ ของมะเขือพวงพบว่า มีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินได้ดี นอกจากนี้มะเขือพวงยังมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ เช่น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี แก้ปวด ฟกซ้ำ ปวดกระเพาะ แก้อาการฝีบวมหนอง อาการบวม อักเสบ ขับปัสสาวะ ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัย ทำให้พบว่ามะเขือพวงมีสารจำพวก “ไฟโตนิวเทียนท์” ที่จะช่วยร่างกาย ในสภาวะขาดสารอาหาร ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติมีกลุ่มสาร “ทอร์โวไซด์” ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำคอเลสเตอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของคอเลสเตอรอลในลำไส้ จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่งมีสาร “ซาโปนิน” มีฤทธิ์ขับเสมหะเป็นพืชที่มีเส้นใยมาก เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า เส้นใยในมะเขือพวง มีชื่อเรียกว่า “เพกติน” ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้ สารนี้จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็วเกินไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้.
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #1637 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:05:50 » |
|
โห...ขอบคุณมากครับพี่เริง ข้อมูลเจ๋งมาก ... เผอิญ ผมชอมมะเขือพวง ซะด้วย...
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1638 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:51:32 » |
|
น้องเริง หนุน
2 เดือนที่แล้ว (ในฤดูแล้ง) มะเขือพวง กก.ละ 180 บาท ซื้อมา 1 ขีด 18 บาท ฝานใส่ในน้ำพริกปลาทู ช่วยเพิ่มความอร่อย หากมีเม็ดแก่ ตากแดด และปลูกไว้ริมรั้ว ช่วยลดเงินในการซื้อ และพร้อมจะใส่ในถ้วยน้ำพริก ดีนะประโยชน์มากกว่าผักชี ที่ใช้เพียงโรยหน้า เอากลิ่น ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1639 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:53:30 » |
|
น้องเริง
พี่กลับถึงบ้านเมื่อคืน ช่วง 2 ทุ่มเช่นกัน แต่หลับไปเลย เพราะเป็นโชเฟอร์ขับรถทั้งขาไป-ขากลับ งานจัดที่ Jubilee Hall ติดชาเลนเจอร์ 1 นรม.ปู-ยิ่งลักษณ์ เป็น ปธ. เปิดงานและกลับเลย ??
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1640 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 18:44:01 » |
|
วันหยุดสี่วัน พาไปเที่ยวที่ไหนดีน๊า..ยังนึกไม่ได้เลย อีกสองวันคงมีคำตอบเนาะภาพประจำต้ว ถ่ายกับทับหลังฯที่มีอายุร่วมพันปีของเมืองพิมาย..เมืองปลายทางจากเมืองพระนคร(นครธม)ในสมัยขอมเรืองอำนาจ
..โดยเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมาย ที่เดียวกับรูปหินของชัยวรมันที่ ๗
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1641 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 09:41:16 » |
|
ศิลปากรขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณอายุ 600 ปีพื้นที่สวนยางพาราของนางเสี่ยน สามีวัง โดยตรวจดูที่จอมปลวกที่ถูกขุดพบพระและยังมีจอมปลวกอีก 2 กองที่อยู่ใกล้ ๆ ที่ยังสมบูรณ์อยู่ ซึ่ง น.ส.พิกุล กล่าวว่า เป็นพระบุเงิน บุทอง ที่นิยมทำกันสมัยวัฒนธรรมล้านช้าง ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 พรือประมาณพุทธศักราชที่ 1800 กว่า ๆ และมาเสื่อมความนิยมกันเมื่อประมาณ 100 ปีเศษ ๆ จึงบอกชัดเจนไม่ได้ว่าอายุเท่าไหร่ แต่บอกได้ว่าประมาณ 600-1000 ปี มาแล้วซึ่งเป็นที่นิยมกันในภาคอีสาน ส่วนพื้นที่ที่ขุดพบไม่พบหลักฐานอื่น ๆ บนเนินดิน น่าจะเป็นเนินดินธรรมชาติ แล้วมีคนนำมาฝังไว้ แต่จากการสัมภาษณ์ข้อมูลบริเวณใกล้เคียงพบว่ามีโบราณคดีอื่น ๆ บ้าง จึงน่าจะมีการเข้ามาใช้ประโยชน์ของมนุษย์โบราณสมัยอาณาจักรล้านช้างเหมือนกันและมักจะพบบ่อย ๆ ในหลายพื้นที่ทั้งก๊อกยา ไหใส่กระดูกที่มีการเผา ก้อนอิฐ และน่าจะมีอาคารด้วยข่าวเดลินิวส์
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1642 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 21:22:54 » |
|
ได้คำตอบแล้ว
ไปทำงานที่อยุธยา..ก็พาชมวัดซะเลย..พรุ่งนี้
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1643 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 11:22:35 » |
|
ช่วงวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ฝนมากขึ้นใน 2 วันนี้ ขับรถด้วยความระมัดระวัง คลิ่นในทะเลสูง ลมแรง จึงไม่ใช้สถานที่สำหรับนักท่องเที่ยว ยกเว้นนักผจญภัย
พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 20 กรกฏาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนบริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1644 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 16:40:48 » |
|
กลับจากอยุธยาแล้ว
ได้งาน ได้ชมวัดเก่าและเยี่ยมบ้านโบราณริมแม่น้ำป่าสัก สมัย ร.๖ ชื่อบ้านคุณพระ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|