14 พฤศจิกายน 2567, 13:13:04
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 64 65 [66] 67 68 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ตามครูไปเที่ยว  (อ่าน 918075 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1625 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2556, 21:14:35 »

น้องเริง


เจอกับตัวเองเมื่อเย็นนี้ ที่อุทยานสวรรค์
ฝนตกช่วง 18.30 ซึ่งเป็นช่วงพีคของการออกกำลังกาย
ไล่ผู้คนหายไปหมดเลย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1626 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 07:08:09 »

น้องเริง


วันนี้ ออกพื้นที่ไหนต่อ ??
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1627 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 08:38:23 »

บ่ายไปสทศ. สำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ที่อาคารพญาไทพลาซ่า

ตรงข้ามไปรษณีย์ราชเทวี ที่เคยไปรับเงินทุกเดือนที่พ่อส่งมาให้ตลอด

ช่วงที่อยู่หอซีมะโด่งครับ  

พรุ่งนี้อยู่ที่เมืองทองธานี ฮอลล์ ๑และ ๒
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1628 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 11:23:24 »

เมื่อ ๑๓ กค. ๒๔๓๖ หรือ ๑๒๐ ปีก่อน









“วิกฤต ร.ศ.112” มูลเหตุจากปัญหาพิพาทที่เมืองคำม่วน ดินแดนลาว ติดเขตแดนเวียดนาม ซึ่งขณะนั้นในปีพ.ศ.2436 หรือรัตนโกสินทร์ศก(ร.ศ.)112 ลาวเป็นดินแดนในอาณัตของสยาม

22 พ.ค. 2436 ทหารฝรั่งเศสในเวียดนามบุกเข้าเมืองคำม่วน พระยอดเมืองขวาง(ขำ ยอดเพชร) ข้าหลวงเจ้าเมืองนำทหารต่อสู้ ทำให้ผู้บังคับบัญชาทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต ฝ่ายฝรั่งเศสประท้วงขอให้ไทยส่งตัวพระยอดเมืองขวางให้ฝรั่งเศส แต่ฝ่ายไทยไม่ยอม เรื่องยืดเยื้อมากระทั่งวันที่ 13 ก.ค.2436 ฝรั่งเศสส่งเรือรบ 2 ลำ และเรือสินค้าซึ่งเป็นเรือนำร่องอีก 1 ลำ เข้ามามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดการยิงปะทะด้วยปืนใหญ่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เรือนำร่องฝรั่งเศสจม 1 ลำ ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ส่วนฝ่ายไทย เรือหลวงมกุฏราชกุมารถูกยิงเสียหาย ทหารไทยเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 40 นาย แต่สุดท้ายเรือรบฝรั่งเศสทั้งสองลำ ก็แล่นผ่านเข้ามาจอดลอยลำอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ย่านเจริญกรุง (ปัจจุบันคือบ้านพักเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ใกล้โรงแรมโอเรียลเต็ล) โดยสมทบกับเรือรบฝรั่งเศสอีก 1 ลำที่จอดลอยลำอยู่ก่อนแล้ว

เรือรบฝรั่งเศสที่เข้ามาถึงพระนคร โดยหันปากกระบอกปืนมาทางพระบรมมหาราชวัง ทำให้ชาวพระนครหวาดกลัวพากันอพยพหนีภัย ฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ไทยตอบรับใน 48 ชั่วโมง โดยเรียกร้องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง(ลาว กัมพูชา) พร้อมเงินสด 3 ล้านฟรังก์เป็นค่าปรับที่ไทยยิงเรือฝรั่งเศส ระหว่างนั้นฝรั่งเศสเคลื่อนกำลังเข้ายึดเมืองจันทบุรี
วิกฤติการณ์ที่มีเอกราชของชาติเป็นเดิมพัน สร้างความโทมนัสให้แก่ล้นเกล้ารัชดกาลที่ 5 เป็นอย่างยิ่ง ทรงจำยอมรับเงื่อนไขเพื่อรักษาเอกราชของชาติ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1629 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 11:24:37 »

สำหรับเงินค่าปรับ 3 ล้านฟรังก์นั้น แม้จะนำ "เงินถุงแดง" หรือเงินพระคลังข้างที่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเก็บสะสมกำไรจากการส่งสำเภาไปค้าขายกับต่างชาติเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ต่างรวบรวมทรัพย์สินเข้าสมทบจนครบ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าละม่อม กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร เสด็จอาของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชมารดาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงเลี้ยงดูล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 มาตั้งแต่พระเยาว์ เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงบริจาคสมทบมากที่สุด

เงินค่าปรับที่จ่ายให้ฝรั่งเศสนั้น เป็นเหรียญทองเม็กซิโกรวมทั้งหมด 801,282 เหรียญ ซึ่ง 1 เหรียญเท่ากับ 3.2 ฟรังก์ น้ำหนักของเงินเหรียญทั้งหมดรวมกันกว่า 23 ตัน ต้องขนกันทั้งวันทั้งคืนใส่รถออกจากประตูต้นสน พระบรมมหาราชวัง ไปลงเรือที่ท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อให้ทันตามกำหนด 24 ชั่วโมงที่ฝรั่งเศสยื่นคำขาด ล้อรถเที่ยวแล้วเที่ยวเล่าที่บรรทุกน้ำหนักเงินเหรียญ 23 ตันนั้น กดทับจนทำให้หินปูถนนเกิดรอยสึก
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1630 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 11:29:02 »

สมชาย ชัยประดิษฐ์รัก นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจ.สมุทรปราการ และ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เห็นตรงกันว่า การรบที่ป้อมพระจุลจอมเกล้านั้น นายทหารผู้บัญชาการป้อมปืนและเรือรบฝ่ายไทย ล้วนเป็นฝรั่งต่างชาติทั้งสิ้น ทำให้อาจไม่มีจิตใจสู้รบปกป้องเอกราชเท่าคนไทยเจ้าของแผ่นดิน

“ไม่เพียงแต่นายทหารเรือ แต่สมัยนั้นฝรั่งต่างชาติยังเป็นผู้ดูแลกิจการต่างๆ ทั้งโทรเลข และรถไฟอีกด้วย เพราะเป็นช่วงที่กำลังเริ่มพัฒนาประเทศ หลังวิกฤติการณ์ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงส่งพระเจ้าลูกยาเธอไปศึกษาวิชาการสมัยใหม่ทุกด้านในทวีปยุโรป เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ จนทำให้เรายืดหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง นี่คือคุณูปการสำคัญของวิกฤติร.ศ.112”สมชายกล่าว

แม้จะทรงโทมนัสดังทรงมีพระราชหัตเลขา ส่งพระราชนิพนธ์ถึงพระบรมวงศ์ใกล้ชิดตอนหนึ่งว่า

“เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์     มนะเรื่องบำรุงกาย
ส่วนจิตบ่มีสบาย            ศิระกลุ้มอุราตรึง
แม้หายก็พลันยาก         จะลำบากฤทัยพึง
ตริแต่จะถูกรึง               อุระรัดและอัตรา
กลัวเป็นทวิราช              บตริป้องอยุธยา
เสียเมืองจะนินทา           จึงจะอุดและเลยสูญฯ”

แต่พระปรีชาญาณของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ก็นำพาชาติบ้านเมืองผ่านพ้นภัยมาได้ วิกฤตร.ศ.112 ผ่านไปแล้ว 120 ปี ความเจ็บปวดในอดีตมิใช่เพื่อผูกแค้นสืบไป แต่ควรจะเป็นบทเรียนให้คนไทยตระหนักถึงการปรับตัวและเตรียมพร้อม เพื่อรับความท้าทายที่อาจจะเข้ามาเผชิญได้ทุกเมื่อ
แม้ไทยจะยินยอมแต่ผลต่อเนื่องหลังวิกฤต ดังนี้


2436
13 ก.ค. ฝรั่งเศสส่งเรือรบบุกเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา
15 ก.ค. ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรี อ้างว่าเป็นประกันให้ไทยปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง แต่ฝรั่งเศสก็ยึดจันทบุรีต่อไปอีก 10 ปี

2446
13 ก.พ. ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิ สยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 จุดเริ่มต้นการปักปันเขตแดนพื้นที่ลาวและกัมพูชา มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนและทำแผนที่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นข้อพิพาทเขาพระวิหาร ผลจากสนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนเมืองจันทบุรี แต่เข้ายึดเมืองประจันตคิรีเขตต์ หรือเกาะกง และเมืองตราดแทน

2449
ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907
6 ก.ค. ฝรั่งเศสถอนทหารออกจากตราด แต่ยังยึดเกาะกงต่อไป แลกกับการที่ไทยยกดินแดนมณฑลบูรพา เสียงราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส

2496
กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส

2502
6 ต.ค. กัมพูชาฟ้องศาลโลก คดีปราสาทพระวิหาร

2505
15 มิ.ย. ศาลโลกพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา
15 ก.ค. ไทยถอนกำลังและยกเสาธงชาติลงจากปราสาทพระวิหาร

2551
7 ก.ค. คณะกรรมการมรดกโลก ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
15 ก.ค. ไทยส่งกำลังเข้าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นครั้งแรกในรอบ 49 ปี เพื่อรักษาสิทธิอธิปไตย ส่งผลให้เกิดปัญหาพิพาทกับกัมพูชาตามมา

2554
28 เม.ย. กัมพูชาฟ้องศาลโลกให้ตีความคำพิพากษา 2505
18 ก.ค. ศาลโลกกำหนดมาตรการชั่วคราวให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1631 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:13:07 »

ผลที่ตามมา

2446
13 ก.พ. ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิ สยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 จุดเริ่มต้นการปักปันเขตแดนพื้นที่ลาวและกัมพูชา มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนและทำแผนที่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นข้อพิพาทเขาพระวิหาร ผลจากสนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนเมืองจันทบุรี แต่เข้ายึดเมืองประจันตคิรีเขตต์ หรือเกาะกง และเมืองตราดแทน

2449
ไทยและฝรั่งเศสทำสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907
6 ก.ค. ฝรั่งเศสถอนทหารออกจากตราด แต่ยังยึดเกาะกงต่อไป แลกกับการที่ไทยยกดินแดนมณฑลบูรพา เสียงราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส




(บน) ภาพจากหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส (ปกหลัง) Le Petit Journal ฉบับวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1905 ภายหลังความตกลง สยาม-ฝรั่งเศส ฉบับ ค.ศ. 1904 ฝรั่งเศสยอมถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่กลับไปยึดครองตราดและเกาะกงไว้แทน โดยอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันว่าสยามจะปฏิบัติตามอนุสัญญาใหม่โดยเคร่งครัด ในภาพเป็นพิธีมอบตราดและเกาะกงอย่างเป็นทางการให้นายโมเรล ข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศสประจำเขมร ส่วนตัวแทนของฝ่ายไทยคือพระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยสิริ) ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย อนึ่ง สยามได้ตราดกลับคืนมาจากสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ฉบับ ค.ศ. 1907 ในภาพจะเห็นว่าธงช้างถูกชักลงจากเสา นั่นหมายถึงสยามหมดอิสรภาพใน ณ บัดนั้น
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1632 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:16:33 »

ประวัติศาสตร์ต้องจดจำ เพื่อมิให้กระทำผิดซ้ำรอยเดิม
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1633 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 21:21:46 »

History repeats itself. ใช่ไหมครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1634 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 10:27:37 »

โบราณว่า กงล้อประวัติศาตร์ย่อมย่ำซ้ำรอยเดิมครับ ??

แต่เดี๋ยวนี้...ไม่ทราบเหมือนกันเพราะมันต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะประติดประต่อเรื่องราวให้สมบูรณ์ได้
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1635 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 16:57:58 »

ไปเมืองทองธานี มีกิจกรรมเกี่ยวกับ กศน.











      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1636 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2556, 14:15:21 »

ข่าวจากเดลินิวส์

มะเขือพวง มีประโยชน์มากๆอย่างไม่น่าเชื่อ



คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้วิจัยเรื่องสรรพคุณ ของมะเขือพวงพบว่า  มีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระ  ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน   มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินได้ดี นอกจากนี้มะเขือพวงยังมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ  เช่น  ช่วยเจริญอาหาร  ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ  ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี  แก้ปวด  ฟกซ้ำ  ปวดกระเพาะ แก้อาการฝีบวมหนอง  อาการบวม  อักเสบ  ขับปัสสาวะ  ทั้งนี้  จากการศึกษาวิจัย  ทำให้พบว่ามะเขือพวงมีสารจำพวก “ไฟโตนิวเทียนท์” ที่จะช่วยร่างกาย ในสภาวะขาดสารอาหาร ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติมีกลุ่มสาร “ทอร์โวไซด์” ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำคอเลสเตอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น  รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของคอเลสเตอรอลในลำไส้  จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่งมีสาร “ซาโปนิน”  มีฤทธิ์ขับเสมหะเป็นพืชที่มีเส้นใยมาก เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง  65 เท่า  เส้นใยในมะเขือพวง  มีชื่อเรียกว่า “เพกติน”  ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้
สารนี้จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้  ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็วเกินไป  ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้.


 
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #1637 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:05:50 »


โห...ขอบคุณมากครับพี่เริง
ข้อมูลเจ๋งมาก ... เผอิญ ผมชอมมะเขือพวง ซะด้วย...
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1638 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:51:32 »

น้องเริง หนุน

2 เดือนที่แล้ว (ในฤดูแล้ง) มะเขือพวง กก.ละ 180 บาท
ซื้อมา 1 ขีด 18 บาท ฝานใส่ในน้ำพริกปลาทู ช่วยเพิ่มความอร่อย
หากมีเม็ดแก่ ตากแดด และปลูกไว้ริมรั้ว ช่วยลดเงินในการซื้อ และพร้อมจะใส่ในถ้วยน้ำพริก
ดีนะประโยชน์มากกว่าผักชี ที่ใช้เพียงโรยหน้า เอากลิ่น ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1639 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:53:30 »

น้องเริง

พี่กลับถึงบ้านเมื่อคืน ช่วง 2 ทุ่มเช่นกัน
แต่หลับไปเลย เพราะเป็นโชเฟอร์ขับรถทั้งขาไป-ขากลับ
งานจัดที่ Jubilee Hall ติดชาเลนเจอร์ 1
นรม.ปู-ยิ่งลักษณ์ เป็น ปธ. เปิดงานและกลับเลย ??
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1640 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 18:44:01 »

วันหยุดสี่วัน พาไปเที่ยวที่ไหนดีน๊า..ยังนึกไม่ได้เลย อีกสองวันคงมีคำตอบเนาะ


ภาพประจำต้ว ถ่ายกับทับหลังฯที่มีอายุร่วมพันปีของเมืองพิมาย..เมืองปลายทางจากเมืองพระนคร(นครธม)ในสมัยขอมเรืองอำนาจ  

 ..โดยเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมาย ที่เดียวกับรูปหินของชัยวรมันที่ ๗




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1641 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 09:41:16 »

ศิลปากรขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณอายุ 600 ปี




พื้นที่สวนยางพาราของนางเสี่ยน สามีวัง โดยตรวจดูที่จอมปลวกที่ถูกขุดพบพระและยังมีจอมปลวกอีก 2 กองที่อยู่ใกล้ ๆ ที่ยังสมบูรณ์อยู่  ซึ่ง น.ส.พิกุล กล่าวว่า เป็นพระบุเงิน บุทอง ที่นิยมทำกันสมัยวัฒนธรรมล้านช้าง ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 พรือประมาณพุทธศักราชที่ 1800 กว่า ๆ และมาเสื่อมความนิยมกันเมื่อประมาณ 100 ปีเศษ ๆ จึงบอกชัดเจนไม่ได้ว่าอายุเท่าไหร่ แต่บอกได้ว่าประมาณ 600-1000 ปี มาแล้วซึ่งเป็นที่นิยมกันในภาคอีสาน  ส่วนพื้นที่ที่ขุดพบไม่พบหลักฐานอื่น ๆ บนเนินดิน น่าจะเป็นเนินดินธรรมชาติ แล้วมีคนนำมาฝังไว้ แต่จากการสัมภาษณ์ข้อมูลบริเวณใกล้เคียงพบว่ามีโบราณคดีอื่น ๆ บ้าง จึงน่าจะมีการเข้ามาใช้ประโยชน์ของมนุษย์โบราณสมัยอาณาจักรล้านช้างเหมือนกันและมักจะพบบ่อย ๆ ในหลายพื้นที่ทั้งก๊อกยา ไหใส่กระดูกที่มีการเผา ก้อนอิฐ และน่าจะมีอาคารด้วย

ข่าวเดลินิวส์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1642 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 21:22:54 »

ได้คำตอบแล้ว

ไปทำงานที่อยุธยา..ก็พาชมวัดซะเลย..พรุ่งนี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1643 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 11:22:35 »

ช่วงวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ฝนมากขึ้นใน 2 วันนี้ ขับรถด้วยความระมัดระวัง
คลิ่นในทะเลสูง ลมแรง จึงไม่ใช้สถานที่สำหรับนักท่องเที่ยว ยกเว้นนักผจญภัย

พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 20 กรกฏาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนบริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา
น่าน แพร่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก

อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1644 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 16:40:48 »

กลับจากอยุธยาแล้ว

ได้งาน ได้ชมวัดเก่าและเยี่ยมบ้านโบราณริมแม่น้ำป่าสัก สมัย ร.๖ ชื่อบ้านคุณพระ





      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1645 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 18:32:09 »

คัดเลือกนักกีฬาและกรีฑาที่อยุธยา เพื่อไปแข่ง กศน.เกมส์ที่หนองคาย ปีที่แล้วไปภูเก็ต
















      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1646 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 18:42:45 »

ข้างสนามกีฬาฯ มีวัดโบราณ และร้าง




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1647 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 19:13:36 »

ออกจากสนามกีฬาฯมาแล้ว ผ่านเจดีย์วัดสามปลื้ม ที่ใช้เป็นวงเวียน?




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1648 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 19:18:41 »

เส้นทางผ่านไปสถานีรถไฟฯที่เป็นอาคารเก่า






เห็นรถสามล้อหน้าหล่อ..มีที่อยุธยาแห่งเดียว เลขทะเบียนอยู่ด้านบน เท่มาก

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #1649 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2556, 19:27:03 »

และมาหยุดที่สามแยกถนนป่าโทน..เยี่ยมชมบ้านคุณพระ  บ้านไม้สักโบราณริมแม่น้ำป่าสัก





      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 64 65 [66] 67 68 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><