22 พฤศจิกายน 2567, 14:19:38
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สามสหายตลุยภูฏาน  (อ่าน 28442 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 19:26:47 »


เมื่อวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา  สามสหายรุ่น 14 ได้ไปเที่ยวภูฏานกันมา
สามคนที่ว่านี้ ประกอบด้วย แววตา  ประทาน  และ เน็ก ตระการพรรณ


สามคนยืนเข้าแถวเรียงลำดับตามความสูง และความสวย



คนกลางแอ๊บแบ๊วสุดๆ


บรรยากาศจะเป็นอย่างไร เน็กจะทยอยนำรูปมาเล่าเรื่อง  โปรดติดตาม


      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #1 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 19:35:45 »

เริ่มตั้งแต่เตรียมตัวก่อนเดินทางกันเลย  ได้ข่าวว่าอาหารการกินอาจจะไม่ถูกปากคนไทยนัก
 เน็กเลยเตรียมเสบียงไปหลายขนาน ทั้งอาหารและขนม  แต่ที่ขาดไม่ได้คือ กระดาษทิชชู  
ที่คนลือกันว่าทิชชูที่นั่นออกจะไม่สุภาพ ( หยาบกระด้าง)สักหน่อย  เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง
จึงต้องขนทิชชูไปให้พอดีกับกิจกรรมที่ต้องใช้






ที่สำคัญมากคือ หมูแดดเดียว 2 กล่องใหญ่ ที่แยกทำเป็น 5 ถุง
เพื่องัดออกมากินวันละถุง

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #2 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 20:00:00 »

การเดินทาง  เราเดินทางโดยสายการบินแห่งชาติภูฏาน  ชื่อ Druk Air





คงไม่ต้องแนะนำให้ใช้บริการสายการบินอื่น  เพราะมีสายการบินเดียวที่จะนำเราไปภูฏานได้  
สายการบินนี้มีเครื่องบิน 3 ลำ ใหญ่ 2 เล็ก 1  ลำ

โดยส่วนตัวแล้ว  แม้จะมีสายการบินอื่นก็ไม่แนะนำให้ใช้  ควรจะใช้ Druk Air อย่างยิ่ง
ไม่เชื่อต้องดูรูปข้างล่างนี้



ระหว่างทางหลังจากบินพ้นประเทศอินเดียมาแล้ว  เราก็จะเห็นแต่เทือกเขาสูงๆ
ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทาง แอร์โฮสเตส บอกว่าเป็นเทือกเขาหิมาลัย



พอใกล้เครื่องบินจะลงที่สนามบินซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองพาโร  
แต่กว่าจะถึงสนามบิน  เครื่องบินจะต้องบินเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้าย
ยังกับรถวิ่งเข้าซอยอย่างนั้นแหละ
อิฉันนั่งข้างหน้าต่าง ถึงกับตกใจที่เห็นยอดเขาอยู่ห่างปีกเครื่องบินนิดเดียว อย่างนี้ อย่างนี้




หลุดจากยอดเขานี้ เครื่องจะเลี้ยวซ้าย เห็นเมืองพาโรอยู่ข้างล่าง




มองลงไปเห็นคนเดินอยู่ด้วยล่ะ  



เครื่องใกล้ลง ผ่านเมืองพาโร ซึ่งไม่ใช่เมืองหลวง แต่เป็นเมืองเดียวที่มีที่ราบยาวพอสร้างสนามบิน
 บ้านผู้คนอยู่ใกล้สนามบินมาก เพราะเป็นหุบเขาแคบๆ

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #3 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 20:34:51 »

เมื่อลงจากเครื่องบิน ก็พบกับป้ายต้อนรับใหญ่มากที่สนามบิน เป็นป้ายแสดงความยินดีในวโรกาสแห่งการอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก
 และต่อจากนี้ไป เราจะเห็นรูปนี้ ในทุกที่ทั่วประเทศ
รวมทั้งที่เข็มกลัดเสื้อของคนภูฏานทุกคน





เมืองพาโร มองจากยอดเขา



ลำธารเล็กๆอย่างนี้มีทั่วไปในเมืองนี้ เป็นน้ำที่มาจากการละลายของหิมะ  
ทุกหมู่บ้านจะมีลำธารไหลผ่านหน้าบ้าน น่าอิจฉามาก



ป้อมเมืองพาโร หรือ Paro Dzong เป็นป้อมโบราณ สร้างไว้เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ตั้งอยู่เหนือจากป้อมพาโร


วันแรกเราไม่ได้พักเมืองนี้ แต่นั่งรถตลุยผ่านเมืองทิมพู  ซึ่งเป็นเมืองหลวง ไปยังเมือง ปูนาคาก่อน



ระหว่างทางผ่าน  จุดบรรจบของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำพาโร และ แม่น้ำทิมพู  
โดยมีการสร้างเจดีย์ไว้ 3 องค์ เป็นศิลปะของ 3 ชาติคือ ภูฏาน  ธิเบต และ อินเดีย  
มองไกลๆนึกว่าเป็นด่านเจดีย์สามองค์บ้านเรา



ระหว่างทาง เป็นภูเขาวกเวียน ไม่มีถนนตรงยาวเกิน 5 เมตรเลย นั่งเหวี่ยงกันไปตลอดทาง
 ยิ่งไปก็ยิ่งสูง ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ขณะแวะเข้าห้องน้ำและกินกาแฟยามบ่าย
คุณนายแววตา ต้องไปยืนผิงข้างเตาไฟ กลางร้านอาหาร
อากาศช่วงที่ไป กลางวัน 10 องศา กลางคืน ติดลบค่ะ


      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #4 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 21:55:49 »

กว่าจะถึงเมืองปูนาคา ก็ค่ำแล้ว  หลังอาหารเย็นเราก็เข้านอนกันแต่หัวค่ำ
 เพราะไม่มีอะไรให้ทำเลย รอบโรงแรมเงียบสนิท ดีเหมือนกัน เพราะเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เรามีจุดหมายที่จะต้องไปชม ป้อมแห่งเมืองปูนาคา  




สาเหตุที่ต้องมาชมป้อมนี้ให้ได้ก็เพราะ  
เมืองปูนาคา เป็นเมืองหลวงเดิม  และป้อมนี้ก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ที่ทุกพิธีกรรมจะต้องมาดำเนินการที่นี่
ตั้งแต่พิธีราชาภิเษก ของกษัตริย์ทุกพระองค์ และ พระราชพิธีอภิเษกสมรส ระหว่าง สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กับนางสาว เจตซุน เปมา  ซึ่งต่อมาเป็นสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก  
และที่สำคัญคือ วันที่เราไปเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระราชาธิบดี  บรรยากาศของป้อมจึงอบอวลไปด้วยพิธีกรรมทางศาสนา



ป้อมนี้ตั้งอยู่ระหว่างจุดบรรจบของแม่น้ำสองสายมาพบกัน เป็นสถานที่ที่งดงามมาก



หากจะมาชมป้อมแห่งนี้  ควรมาชมเป็นที่สุดท้าย เพราะหากมาชมก่อน  ป้อมหรือสถานที่อื่นๆจะหมดความหมายไปทันที



      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #5 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2555, 23:46:15 »


ขอตามชม.. ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ด้วยคนนะครับ พี่เน็ก

ขอบคุณครับ...
      บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #6 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 08:17:33 »




                  สวยงาม น่าชม น่าอ่านอย่างยิ่งค่ะ พี่เน็ก..............

                  หนีไปกันแค่ 3 คนเองหรือคะ.... น่าสนุกค่ะ...

                 ภาพถ่ายฝีมือพี่เน็กสวยงามตามเคย

                 รอชมและรออ่านต่อนะคะ.....เมืองในฝันเลยนะเนี่ย...........ภูฏาน................
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #7 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 08:47:47 »

จั่วหัวเรื่องว่า สามสหาย เพราะเป็นรุ่น 14 สามคน แต่ยังมีพี่หมอโอภาส และภรรยาของประทานไปด้วย    ดูรูปซิ น่าอิจฉาไม๊ 












ประทาน กับภรรยา และลูกๆชาวภูฏาน



ถึงอิฉันจะไปคนเดียว แต่ก็มิได้เว๊า เหว่ นะจ๊ะ  สาวๆโปรดอย่าตาร้อน

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #8 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 08:53:19 »



      ถึงห้ามก็คงไม่ไหวหรอกค่ะ...อิจฉามากๆด้วยแหละ....พี่เน็ก...

      สองคู่ชู้ชื่นยังไม่อิจฉาเลย..อิจฉาพี่เน็กคนเดียวเลยนะเนี่ย.....555

      กำลังนึกอยู่เชียวว่า พี่ตากับพี่ประทาน ทำไมไปเดี่ยว....ธ่อ....ที่แท้ก็ยังควงคู่อยู่เช่นเดิม....

      ดีค่ะ ดี...รอชมอีกค่ะ..
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #9 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 09:01:20 »

ในป้อมปูนาคา แห่งนี้ เราได้พบกับคนภูฏานหลายคน  
มีช่วงหนึ่งที่ แววตาไปชมเข็มกลัดรูป พระราชาธิบดีจิ๊กมี่  เขาก็ถอดให้เลย




ส่วนหญิงแม่ลูกอ่อนคนนี้   ก็เดินเอาเข็มกลัดของตัวเองมาให้อิฉันบ้าง แม้จะพยายามให้เงินก็ไม่ยอมรับ  ช่างน้ำใจงามจริงๆ



ออกจากป้อมปูนาคา  เรามากินข้าวกลางวันในหมู่บ้านเล็กๆ  ที่มีวิวทุ่งนาสวยงามมาก นับว่าเป็นวิวที่ชอบสุดๆ  เพราะช่วงที่ไป เป็นช่วงที่กำลังเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูใบไม้ผลิ  ต้นไม้ ต้นหญ้ายังคงแห้งแล้ง  การได้เห็นทุ่งนาสีเขียวๆแบบนี้ชื่นใจมาก  








ดังนั้นในขณะที่ผู้คนกำลังยุ่งอยู่กับอาหารกลางวัน  อิฉันก็ลงมาเดินลุยท้องนาซะงั้น
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #10 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 09:09:45 »

เสร็จจากชมป้อมปูนาคา เราก็เดินทางกลับเมืองทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของภูฏาน  ระหว่างทางผ่านสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ 108 อรหันต์  ซึ่งอยู่บนยอดเขาสูง ในวันที่อากาศดี  จากจุดนี้จะเห็นยอดเขาหิมาลัย  แต่วันนี้อากาศปิดมาก เราจึงไม่สามารถมองเห็นอะไรเกิน 4 เมตรเลย





      บันทึกการเข้า

Cinderlily
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 09:12:12 »

...เข้ามาชมรูปจ้ะ...เน็ก...

...สวยมากเลย...น่าไปมากค่ะ...

...เมื่อวานแววตาโทรมาเล่าให้ฟังแล้วว่าเพิ่งกลับมาจากภูถาน...

...พอดีไปกับคณะที่ไปทำบุญทอดผ้าป่า...เลยได้ราคาถูกสี่หมื่นกว่าๆ...

...และได้ไปปีนเขาที่ไหนสักแห่ง...บอกว่าสูงมากและเหนื่อยมากค่ะ...

...และบ่นว่าไปครั้งนี้ภูถานไม่ค่อยสวยเท่าไหร่...

...แต่ดูจากรูป...วิวก็งามมากนะคะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
TU14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 342

« ตอบ #12 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 11:23:44 »

ตามมาดูจ้ะ เน็ก รูปสวยมาก
      บันทึกการเข้า
sutat14
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19

« ตอบ #13 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 11:40:58 »

ตามมาชมด้วยคน  เราเคยไปมาเช่นกัน  เมืองน่าเที่ยวมาก ผู้คนก็น่ารักมาก  ใครมีโอกาสก็แนะนำนะครับ
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #14 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 15:57:53 »

ตู่จ๋า ....เราไปกับคณะของผู้ไปวางศิลากฤษ์ก่อสร้างพระพุทธรูปปางลีลา
องค์ปฐมที่สร้างในประเทศภูฏาน ซึ่งได้รับพระบรมราชานุญาติจากสมเด็จพระราชาธิบดี จิ๊กมี่  
ร่วมกับชาวไทย  พระพุทธรูปนี้สร้างไว้ที่สวน Centenary Park ติดกับสนามกีฬา
 ที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆของประเทศนี้

ในงาน เดิมมีกำหนดการว่าท่านนายกรัฐมนตรีของภูฏานจะมาเป็นประธาน แต่เนื่องจากวันนั้น
เป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีจิ๊กมี่  
จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีหลายท่านมา
 พร้อมกับท่านฑูตทุกประเทศ



















น้องจิ๋ม 20 ก็ไปด้วย


สาวๆที่ไปในงานต้องแต่งชุดไทยสวยๆโชว์คนภูฏาน  ทั้งๆหนาวมากๆก็ต้องทนเพื่อความงาม

ที่ว่าค่าใช้จ่ายถูกก็เพราะ คณะนี้ได้รับอนุญาติ ไม่ต้องเสียภาษีเข้าประเทศ วันละ 200 USD.
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #15 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 16:16:21 »

พอตู่ถามเรื่องค่าใช้จ่าย เลยเล่าข้ามไป  ขอกลับมาพูดเรื่องเมืองทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงก่อน
เช้าวันที่เราไปถึง อิฉันก็ตื่นเช้าตามเคย  ออกไปเดินชมเมือง กะว่าจะได้ภาพชีวิตเด็ดๆของชาวบ้าน
แต่ก็พบกับเมืองที่ว่างเปล่า ไร้ผู้คน  ทำเอาออกจะกลัวนิดๆที่เหมือนเดินอยู่ในเมืองร้าง





เนื่องจากเมืองทิมพู ตั้งอยู่ในหุบเขา พระอาทิตย์จึงขึ้นช้ามาก  
เพราะกว่าจะพ้นยอดเขา แถมยังมีเมฆหมอกที่ต้องต่อสู้กันอีก
จนเกือบ 7 โมงเช้าแล้ว เมืองนี้ก็ยังอยู่ในความมืดอยู่เลย



เกือบแปดโมงแล้ว แสงอาทิตย์สว่างขึ้น สายแล้ว รถยังไม่มี จราจรก็ยังไม่มาทำงาน



สายหน่อยพี่โอภาส กับแววตาตามมาสมทบ กับความว่างเปล่าของถนน





เมืองทิมพูในแสงแดด เพียงเสี้ยววินาที จากนั้นก็ไม่มีอีกเลย


เราขึ้นไปชม Big Buddha บนยอดเขาในเมืองทิมพู  เป็นพระพุทธรูปที่หลายๆประเทศในเอเชียร่วมกันสร้างให้










      บันทึกการเข้า

Cinderlily
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 16:33:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2555, 15:57:53
ตู่จ๋า ....เราไปกับคณะของผู้ไปวางศิลากฤษ์ก่อสร้างพระพุทธรูปปางลีลา
องค์ปฐมที่สร้างในประเทศภูฏาน ซึ่งได้รับพระบรมราชานุญาติจากสมเด็จพระราชาธิบดี จิ๊กมี่ 
ร่วมกับชาวไทย  พระพุทธรูปนี้สร้างไว้ที่สวน Centenary Park ติดกับสนามกีฬา
 ที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆของประเทศนี้

ในงาน เดิมมีกำหนดการว่าท่านนายกรัฐมนตรีของภูฏานจะมาเป็นประธาน แต่เนื่องจากวันนั้น
เป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีจิ๊กมี่ 
จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีหลายท่านมา
 พร้อมกับท่านฑูตทุกประเทศ



















น้องจิ๋ม 20 ก็ไปด้วย


สาวๆที่ไปในงานต้องแต่งชุดไทยสวยๆโชว์คนภูฏาน  ทั้งๆหนาวมากๆก็ต้องทนเพื่อความงาม

ที่ว่าค่าใช้จ่ายถูกก็เพราะ คณะนี้ได้รับอนุญาติ ไม่ต้องเสียภาษีเข้าประเทศ วันละ 200 USD.

...ขออภัยจ้ะ...เน็ก...ตู่จำผิดไปหน่อย...อิอิ...

...ก็ตาบอกว่าไปทำบุญ...และยังได้มีโอกาสกราบท่านลามะองค์ปัจจุบันด้วย...

...โชคดีจังเลย...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #17 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 16:46:46 »

จากนั้นเราก็ไปยัง Thimpu Dzong หรือ ตาชิโซ ซอง ( Tashicho Dzong)
ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ของเมืองทิมพู ใช้เป็นที่ทำงานของรัฐบาล และ ฝ่ายศาสนา
คือเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช  เป็นที่เก็บพระฑันตธาตุ  
องค์ที่เชิญมาเมืองไทยเร็วๆนี้ และ ได้นำกลับมาก่อนวันที่เราไปถึง 1 วัน  
ขณะที่องค์พระฑันตธาตุอยู่เมืองไทย เราไม่มีโอกาสได้เห็นเลย  
แต่วันนี้เราได้ยืนเคารพอยู่ใกล้ๆ นับว่าโชคดีมาก
ที่ ตาชิโซ ซองนี้  เขาห้ามถ่ายรูป เลยมีมาให้ชมแค่นี้






สิ่งที่ต้องนำมาให้ดูอีกอย่างคือ สัตว์ประจำถิ่นของประเทศนี้ ชื่อว่า ทาคิน
เป็นสัตว์ที่มีลักษณะผสมระหว่างแพะและวัว เป็นสัตว์ที่อารมณ์ดีมาก ไม่ดุเลย และเหลือน้อยแล้ว นับเป็นสัตว์ที่ต้องอนุรักษ์ไว้



ตกบ่าย เราเข้าเมือง ก็พบว่าเริ่มมีรถราวิ่งกันแล้ว และตำรวจจราจรก็เข้าประจำที่  
ในประเทศนี้ไม่มีไฟจราจร เพราะผู้คนสับสน จึงต้องใช้ตำรวจโบกมืออย่างนี้



      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #18 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 21:46:54 »

วันต่อมาเป็นวันที่เราจะต้องขึ้นเขาไปเที่ยววัดตั๊กซัง
ที่มีชื่อเสียงมากเรื่องความหฤโหด  เพราะเป็นวัดที่สร้างอยู่บนหน้าผาที่สูง900 เมตร
 (ทางตรง 900 แต่เวลาขึ้นวกวนตามสันเขายาวเป็น 500 เท่า)

ก่อนจะขึ้นเขา เราไปชมยอดหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ที่ชื่อ ยอดเขาจูโมฮารี
เป็นยอดเขาที่อยู่ในเขตประเทศภูฏาน สูง 7340 เมตรจากระดับน้ำทะเล  
ยอดเขานี้ยังไม่มีใครพิชิต เพราะถือเป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ ห้ามคนขึ้นไป






และแล้วเราก็มาถึงการผจญภัยกับการขึ้นเขาเพื่อไปวัดตั๊กซัง




วัดตั๊กซัง เป็นภาษาภูฏาน แปลว่า รังเสืีอ Tiger Nest  วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มาก  สร้างอยู่บนหน้าผาสูง  
ที่เรียกว่า วัดรังเสือ เพราะ เล่ากันว่าท่าลามะ ท่านหนึ่งได้เดินทางมาจากอินเดียด้วยการขี่หลังเสือมา  
และเมื่อมาถึงจุดนี้จึงสร้างวัดไว้เป็นพุทธบูชา  
ภายในวัดจะประดิษฐานรูปหล่อพระพุทธเจ้า 3 องค์ไว้ เคารพบูชา

เส้นทางขึ้นเขา  มี 2 วิธี คือสามารถขี่ม้าไปได้ครึ่งทาง จากนั้นเดินต่ออีก 2 ช.ม.
แต่มีคนเตือนว่า ขึ่ม้าน่าหวาดเสียวกว่า
เพราะม้าชอบเดินริมขอบทาง ที่มองลงไปจะเป็นเหว  ทางที่ดีเดินไปดีกว่า
เดินขึ้น 4 ช.ม. ลงอีก 4 ช.ม.  รวมเป็น 8 ช.ม.



รูปนี้เป็นประทาน กับภรรยาที่เดินนำหน้า  อิฉันมัวแต่เดินชมวิว และถ่ายรูปจึงอยู่รั้งท้ายตลอดๆ  
ก็วิวมันสวยบาดใจ อย่างนี้










พออิฉันเดินไปถึงที่พักครึ่งทาง  ปรากฏว่า พี่โอภาส แววตา  ประทาน และภรรยา  
กำลังจะเดินขึ้นเขาต่ออีกครึ่งทาง



ความที่เสียดายวิว และอยากถ่ายรูปต่อ  
ทำให้อิฉันไม่ยอมเดินขึ้นเขาอีกแล้ว  ขอนั่งจิบกาแฟร้อนๆแก้หนาวเคล้าวิวสวยๆให้สบายใจดีกว่า
วันนี้ช่างมีความสุขเสียจริง


ช่วงลงมาจากเขา เห็นชาวภูฏาน พาครอบครัวมาปิคนิคกันทั่วไปตาม ทุ่งหญ้าป่าเขา
เนื่องจากวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวภูฏาน เป็นภาพที่สวยงามมาก


 



      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #19 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 22:19:56 »

เรื่องที่ขาดไม่ได้เมื่อเดินทางไปทุกที่คือ เรื่องอาหาร แม้จะมีคนบอกว่าอาหารภูฏานไม่อร่อย แต่พวกเราก็พอกล้ำกลืนกินกันไปได้  เพราะดูแล้วรสชาติก็ไม่ต่างกับของเราเท่าใดนัก  มีสาเหตุเดียวที่ทำให้ทุกคนแย่ก็คือ  อาหารทุกมื้อ ทุกวันจะคล้ายๆกัน  ทำให้เบื่อมั่ก มั่ก   เชิญชมอาหารของเขาค่ะ



พริกผัดชีส มีทุกมื้อ ทุกวัน คล้ายกับเป็นพริกน้ำปลาบ้านเรา หรือกิมจิ ของเกาหลี
คือเป็นอาหารที่คนภูฏานต้องกินทุกวัน รสชาติเผ็ดเค็ม
วันแรกมื้อแรกก็อร่อยดี  พอเข้าวันที่สาม มื้อที่ 9 แค่เห็นก็แย่แล้ว





ซุปถั่ว


มะเขือยาวผัดซ๊อสมะเขือเทศ


มันฝรั่งผัดชีส


หมี่ผัดแบบเจ  นึกว่าจะพออาศัยได้บ้าง  แต่ก็อาศัยอะไรไม่ได้เลย


ผัดผักรวมแบบเจ มีทุกมื้อ


ไข่เจียวมีให้  3 มื้อ 5 วันติดกัน
วันแรก : อร่อยจัง
วันที่สอง : ก็โอเคนะ
วันที่สาม : พอแหลกล่าย
วันที่สี่ : แหลกม่ายลงแล้วอ่ะ
วันที่ห้า : แค่ได้กลิ่นก็เวียนหัวแย๊ว อ๊ากกกก.... ผีไข่เจียวตามมาหลอกหลอน กัวอ่ะ กัว กัว กัว



นี่คือจานของอิฉัน ตักมาก็กิง ม่ายลง  ไข่เจียวหน้าตาเหมือนเครปเค็ก
ทำให้คิดถึงขนมเค็กอีกต่างหาก


ขนมที่นี่ ไม่ต้องพูดถึง


นอกจากผลไม้รสจืดๆแล้ว บ่อยครั้งที่เขาเสริฟ ขนมจำพวกคัสตาร์ดกับผลไม้
ที่จริงอิฉันเป็นคนชอบคัสตาดมาก  แต่มาที่นี่รู้สึกคิดถึงขนมเมืองไทยมาก ถึงมากที่สุด

สรุปแล้ว อาหารที่เรานำติดตัวไป ดูจะเป็นของมีค่ายิ่ง เพราะไม่เหลือกลับมาเลย
แถมทุกวันนี้ ยังเป็นโรคกลัวไข่เจียวไม่หาย  ต้องรีบไปกินสเต็ก เป็นการบำบัดโดยด่วน

ขอจบการเล่าเรื่องภูฏานแค่นี้นะจ๊ะ ที่จริงมีรูปอีกมาก แต่ขอตัวไปกินขนมเค็กให้หายคิดถึงก่อนค่ะ



      บันทึกการเข้า

Cinderlily
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #20 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 08:12:59 »



      อย่าเพิ่งจบนะคะ พี่เน็ก....กำลังสนุกทีเดียวเชียว...

     พี่เล่าเรื่องอาหาร ......ทำให้นึกถึงตอนที่ไปล้างพิษที่จอมทองเลยค่ะ

    เห็นภาพอาการพี่ชัดเจนเหมือนไปด้วยเลยล่ะ...555
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 09:01:06 »



 

...ได้ข่าวว่าชุดแบบนี้แพงมากเลยใช่มั้ยจ๊ะเน็ก...

...ได้ซื้อกันมาบ้างหรือเปล่าคะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #22 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 09:23:54 »


แพงมากจริง  ของภูฏานแพงทุกอย่าง   แต่เราซื้อเสื้อแบบนี้มา 1 ตัว เป็นผ้าแพรเนื้อหนา ใส่แล้วร้อนนะ
ส่วนชุดของผู้ชาย ยิ่งแพงกว่า  และแน่นอน ร้อนกว่ามาก
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 09:29:31 »

คุณเน็กถ่ายสวยครับ วิวสวย มุมมองถ่ายสวย
คู่พระคู่นางทั้งสองคู่ ก็น่ารัก
วันฟุตบอลประเพณีพี่ก็นั่งใกล้กับคุณประทาน
แต่ไม่ทราบเลยว่า คุณประทานเพิ่งกลับมาจากทำบุญที่ภูฏาน

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #24 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 13:58:42 »

 รูปสวยมากค่ะ พี่เน้ก
เนื้อเรื่องเลาแล้วสนุก ชวนติดตามค่ะ
มีต่อ สักนิดนะคะ กำลังตามมาอย่างสนุกเชียวค่ะ
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #25 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 16:59:22 »


เรื่องเล่าหลักๆก็หมดไปแล้ว  เพราะเล่าแบบสรุปหัวข้อข่าว   ตอนนี้ก็มีแต่เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย เท่านั้น


รูปแรกขอนำเสนอ 2 หนุ่มชี้ให้ดูยอดเขา จูโมฮารี ก่อน กลัวคนไม่รู้ว่ายอดไหนเลยต้องเน้นๆ อย่างนี้

ที่แววตาบอกว่า วิวสวยไม่เท่าที่หวังไว้  เป็นเพราะเราไปช่วงที่เพิ่งจะผ่านจากฤดูหนาว 
หิมะเพิ่งละลายหายไป ต้นไม้ใบหญ้าจึงดูแห้งแล้ง แต่บนเขาบางแห่งเรายังเห็นหิมะกองอยู่ข้างถนน
รวมทั้งน้ำตกที่ยังคงเป็นน้ำแข็ง ค้างอยู่ตามซอกเขา
แต่โดยทั่วไปแล้ว บรรยากาศก็ไม่เลวเลยทีเดียว โดยเฉพาะบ้านพักที่เราพัก อยู่ในป่าสน สวย สงบดีมาก
หากไม่ต้องเดินทางไปชมโน่น นี่ เราคงได้นอน อ่านหนังสือ หรือจิบชาอร่อยๆท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆนะ














โดยเฉพาะลำธารที่น้ำใส ไหลเย็น ( เย็นมาก) ที่ไหลผ่านไปทั่วทุกหน้าบ้าน เป็นอะไรที่ชอบมาก
 เวลารถวิ่งเลียบลำธาร หลายคนบ่นอยากจะลงไปกระโดดน้ำเล่นจริงๆ

ที่ภูฏาน ชาวบ้านจะติดธงมนต์ ไว้ทุกที่ เป็นสีต่างๆล้วนสดใส  โดยจะแขวนไว้ในที่ที่มีลมพัดผ่าน
 เพื่อให้ธงโบกสบัด เสมือนกำลังสวดมนต์ตลอดเวลา  เราเห็นจนเป็นภาพที่คุ้นตา 





แต่บางครั้ง อีกมุมมองหนึ่งที่ เตะตาอิฉันคือภาพที่ชาวบ้านที่ตากผ้าไว้หน้าบ้าน
ดูแล้วให้อารมณ์เหมือนกันนะ  - อารมณ์คิดถึงบ้านต่างจังหวัด 







      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #26 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2555, 17:12:08 »

อีกเรื่อง ที่ Touch my heart มาก คือเรื่องของหมา ที่ภูฏาน
ขอบอกไว้เลยว่า หากจะต้องเกิดเป็นสุนัขแล้วล่ะก็  ควรจะเลือกเกิดเป็นสุนัขที่ประเทศภูฏาน


เพราะ ที่ภูฏาน มีหมาไม่มีเจ้าของ ( เอ..ไม่เห็นมีคนเลี้ยงหมาในบ้านนะ เห็นแต่นอนตามถนน) เยอะมาก
แต่ทุกตัวอ้วนสมบูรณ์ดี เพราะคนภูฏานจะให้อาหารหมา เนื่องจาก เขาเชื่อว่า
หมาพวกนี้ชาติหน้าจะเกิดเป็นคน ดังนั้นต้องเลี้ยงเขาให้ดีๆ (แต่คนเลี้ยงผอมนะ)

ภาพที่ไม่คุ้นตาคือ ทุกที่จะมี หมาเดินเต็มถนน แม้แต่ในงานพิธีก็ยังมีมาเดินบนพรมแดงด้วย
 ทำให้นึกถึงภาพบ้านเราสมัยเป็นเด็กที่มีหมาตามถนนเยอะๆอย่างนี้
แต่หมาที่ภูฏานน่ารักทุกตัวนะ อ้วน ขนปุย ไม่สกปรก  และทุกตัวมีนิสัยดี ไม่ก้าวร้าว เป็นมิตรกับทุกคน

ช่วงเช้าฉันเดินออกมาสำรวจเมือง เห็นหมานอนขดตัวตามหน้าบ้านคนแล้วน่าสงสาร
เพราะมันหนาวมาก และไม่เห็นหมาใส่เสื้อกันหนาวแบบบ้านเราเลยนะ
ทั้งๆที่อากาศตอนกลางคืน ติดลบ หมาบ้านเราแค่ 20 องศาก็รีบใส่เสื้อให้แล้ว



อึ๊บ.........ออกกำลังกายตอนเช้า แก้หนาว



ชาอุ่นๆสักถ้วยไม๊จ๊ะ



พ่อรูปหล่อตัวนี้ ตามขึ้นไปเขาตั๊กซัง ที่สูงมากๆ จนถึงครึ่งทาง แวะคุยกันตลอดทาง น่ารักมาก


แถมเรื่องรถหน่อย  ในภูฏานใช้รถกันมาก  แต่ส่วนใหญ่เป็นรถคันเล็ก  แม้แต่รถเมล์ที่วิ่งระหว่างเมืองไกลๆ ก็เป็นรถตู้ เพราะทางในประเทศภูฏานเป็นทางที่วกวน หาทางตรงเกิน 5 เมตรแทบไม่มี  อีกทั้งแคบ และสูงต่ำตามระดับของภูเขา เวลาขับรถน่าหวาดเสียวมาก  ใครขับรถที่ภูฏานได้ถือว่าเก่งสุดๆ  แต่คงมาขับบ้านเราไม่ได้ เพราะเขาชินกับถนนคดเตี้ยว  มาบ้านเราคงขับไป ก็หลับไปแน่นอน




รูปนี้ไม่ค่อยชัด แต่อยากให้ดูว่า ทะเบียนรถที่ภูฏานเป็นสีแดงทุกคัน  
คนไทยชอบมาก เพราะให้ความรู้สึกดีเหมือนว่า ได้ขับรถใหม่ป้ายแดงตลอดชีพ ฮา ฮา
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #27 เมื่อ: 01 มีนาคม 2555, 07:53:57 »


   ชอบรูปและเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อบแบบนี้ค่ะ พี่เน็ก....

   รอชมอีก...นะคะ...
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #28 เมื่อ: 01 มีนาคม 2555, 09:00:53 »



รูปบรรยากาศภายในรถของเรา   รถคันนี้ขับดีที่สุด แม้จะทางวกวน 5 พันโค้ง ผู้โดยสารก็ยังไม่เวียนหัว
ผิดกับรถคันอื่นที่อาเจียนกันเยอะ  แม้จะทั้งเหวี่ยง ทั้งกระโดด จนสั่นคลอนไปหมด  แต่ก็ยังหน้าระรื่น
สงสัยคนขับเห็นอิฉันน้ำหนักมาก เลยส่งมานั่งถ่วงข้างหลังกระมัง




มีรูปจากล้องของประทาน มาเพิ่มจ้า














รุมช๊อปปิ้ง












ขวัญใจคุณนายแววตา


รูปสุดท้าย นานๆจะมีคนชมซะที  เลยขอเอาใจ อ้อย 17 แฟนคลับที่เหนียวแน่นหน่อย
เอ๊า รูปหนุ่มหล่อ มาแบ่งกันเชยชมจ้า





      บันทึกการเข้า

Cinderlily
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 01 มีนาคม 2555, 09:51:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2555, 17:12:08
อีกเรื่อง ที่ Touch my heart มาก คือเรื่องของหมา ที่ภูฏาน
ขอบอกไว้เลยว่า หากจะต้องเกิดเป็นสุนัขแล้วล่ะก็  ควรจะเลือกเกิดเป็นสุนัขที่ประเทศภูฏาน


เพราะ ที่ภูฏาน มีหมาไม่มีเจ้าของ ( เอ..ไม่เห็นมีคนเลี้ยงหมาในบ้านนะ เห็นแต่นอนตามถนน) เยอะมาก
แต่ทุกตัวอ้วนสมบูรณ์ดี เพราะคนภูฏานจะให้อาหารหมา เนื่องจาก เขาเชื่อว่า
หมาพวกนี้ชาติหน้าจะเกิดเป็นคน ดังนั้นต้องเลี้ยงเขาให้ดีๆ (แต่คนเลี้ยงผอมนะ)

ภาพที่ไม่คุ้นตาคือ ทุกที่จะมี หมาเดินเต็มถนน แม้แต่ในงานพิธีก็ยังมีมาเดินบนพรมแดงด้วย
 ทำให้นึกถึงภาพบ้านเราสมัยเป็นเด็กที่มีหมาตามถนนเยอะๆอย่างนี้
แต่หมาที่ภูฏานน่ารักทุกตัวนะ อ้วน ขนปุย ไม่สกปรก  และทุกตัวมีนิสัยดี ไม่ก้าวร้าว เป็นมิตรกับทุกคน

ช่วงเช้าฉันเดินออกมาสำรวจเมือง เห็นหมานอนขดตัวตามหน้าบ้านคนแล้วน่าสงสาร
เพราะมันหนาวมาก และไม่เห็นหมาใส่เสื้อกันหนาวแบบบ้านเราเลยนะ
ทั้งๆที่อากาศตอนกลางคืน ติดลบ หมาบ้านเราแค่ 20 องศาก็รีบใส่เสื้อให้แล้ว



อึ๊บ.........ออกกำลังกายตอนเช้า แก้หนาว



ชาอุ่นๆสักถ้วยไม๊จ๊ะ



พ่อรูปหล่อตัวนี้ ตามขึ้นไปเขาตั๊กซัง ที่สูงมากๆ จนถึงครึ่งทาง แวะคุยกันตลอดทาง น่ารักมาก


แถมเรื่องรถหน่อย  ในภูฏานใช้รถกันมาก  แต่ส่วนใหญ่เป็นรถคันเล็ก  แม้แต่รถเมล์ที่วิ่งระหว่างเมืองไกลๆ ก็เป็นรถตู้ เพราะทางในประเทศภูฏานเป็นทางที่วกวน หาทางตรงเกิน 5 เมตรแทบไม่มี  อีกทั้งแคบ และสูงต่ำตามระดับของภูเขา เวลาขับรถน่าหวาดเสียวมาก  ใครขับรถที่ภูฏานได้ถือว่าเก่งสุดๆ  แต่คงมาขับบ้านเราไม่ได้ เพราะเขาชินกับถนนคดเตี้ยว  มาบ้านเราคงขับไป ก็หลับไปแน่นอน




รูปนี้ไม่ค่อยชัด แต่อยากให้ดูว่า ทะเบียนรถที่ภูฏานเป็นสีแดงทุกคัน 
คนไทยชอบมาก เพราะให้ความรู้สึกดีเหมือนว่า ได้ขับรถใหม่ป้ายแดงตลอดชีพ ฮา ฮา



...เห็นด้วยกับเน็กจ้ะ...

...ที่หมาควรไปเกิดที่ประเทศภูฎาน...

...หมาบ้านเราเยอะมาก...จนไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร...

...คนมีฐานะดีหน่อยก็อยากเลี้ยงแต่หมาฝรั่ง...

...ทั้งๆที่หมาจรจัดบางตัวก็น่ารักออก...

...ที่บ้านตู่ก็เลี้ยงแมวจรจัดไว้ตัวนึง...

...พันธุ์ไม่ไฮโซ...แต่เค้าก็น่ารักดีนะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 01 มีนาคม 2555, 09:55:32 »





...ถ้ามีคนโสดไป...อาจได้แฟนชาวภูฎานกลับมาแน่ค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #31 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 17:31:46 »


สวัสดียามเย็นครับ... พี่เน็ก..พี่สิน..พี่ตู่..พี่ตุ๊..พี่สุทัศน์..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

หลายรูปสวยบาดใจจริงๆครับ...

เคยอ่านมาว่า... วัดตั๊กซัง เป็นวัดในศาสนาพุทธที่สวยที่สุดครับ
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #32 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 19:35:22 »


ถูกต้องจ๊ะ ...สวยที่สุด และ โหดที่สุด วันนี้มีคนพูดในทีวี ตรงกับใจพี่เลย
เขาบอกว่า วัดตั๊กซังนี้ ต้องมีแรงศรัทธา เท่านั้น ที่จะพาไปได้
คนที่จะขึ้นไปต้องมี ศรัทธา 2 อย่าง
1. ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ  แรงศรัทธาในศาสนา ไปให้ถึงวัด ไปกราบพระแล้วมีความสุข เหนื่อยแค่ไหนก็จะไป
2. ศรัทธาในอุดมการณ์ของนักท่องเที่ยว ที่ต้องไปพิชิตวัดนี้ให้ได้ เพราะเวลาใครพูดถึง ก็สามารถยืดอกตอบได้ว่า ไปมาแล๊ว

แต่.....   ยังมีคนอยู่นอกกรอบทั้งสองข้อนี้อยู่ 1 คน  คือคนที่ไม่มีแรงใดมาดึงดูดให้ขึ้นไปถึงวัดนี้ได้ คือพี่เอง
เพราะขณะเดินตามทางก็มี ความสุขเพียงพอแล้ว  การอยู่เงียบๆท่ามกลางธรรมชาติ นี่ประเสริฐสุด
พี่ไปนั่งมองวัดตั๊กซังที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ที่มีสิ่งแวดล้อมประกอบโดยรวม
ดูดีกว่าไปถ่ายรูปตึกใกล้ๆ  ซึ่งจะได้รูปตึกเหมือนๆตึกบนพื้นดิน ไม่มีอะไรแตกต่าง

แต่ .....ก็คิดอยู่นะว่า อาจจะไปขึ้นอีกครั้ง เร็วๆนี้ ก่อนที่จะไม่มีแรงขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่า อิฉันยังไหวนะค๊าาาาา


      บันทึกการเข้า

Cinderlily
dolly
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 27

« ตอบ #33 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2555, 20:31:33 »

 ตามป้า Lilyไปเที่ยวด้วยคน ต้องขอชมจากใจว่า ภาพสวยงามมาก แถมการบรรยายเรื่องชวนให้ติดตามแบบใจจดใจจ่ออยู่ตลอด เวลา โชคดีที่มีเพื่อนๆที่ยังแข็งแรงไปเที่ยวในดินแดนไกลโพ้น เราเลยพลอยได้อาศัยบารมีชื่นชมวิวทิวทัศน์โดยไม่ต้องเหนือยแรงเอง ด้วย ยกนิ้วให้จ๊ะ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><