เที่ยวละไมไปเยี่ยมต๋อย...เรื่องนี้ต้องชี้แจง

[แจง-24]

พื้นที่ของ Pinnacles Desert มีความยาวราว 26 ก.ม. ตามแนวชายฝั่ง
แต่ความกว้าง ยังไม่สามารถกำหนดขอบเขตแน่นอนได้
เพราะกระจายตัวไปเรื่อยๆ ตามแต่กระแสลมจะพัดพาทรายไป
และ Pinnacles ที่ยังจมทรายอยู่ ก็ยังไม่รู้ว่ามีอีกเท่าไหร่

[แจง-24]

บนพื้นที่กว้างใหญ่นี้ เขาเปิดให้เราขับรถสำรวจได้เป็นระยะทางแค่ 4 ก.ม.
และเดินสำรวจได้เป็นระยะทางเพียง 1.2 ก.ม.
นอกนั้นปิดไว้ เพื่อรักษาสภาพตามธรรมชาติค่ะ

[แจง-24]

แท่งหินปูนที่เห็นช่วงหน้าๆของทางเข้า ยังเป็น Baby Pinnacles อยู่

[แจง-24]

เดินลึกเข้าไปด้านใน จะเห็นแท่งที่อายุเยอะๆ สูงเกิน 3.5 เมตร





แต่แท่งที่เห็นยืนยิ้มอยู่นี้ อายุยังน้อยแค่ครึ่งร้อยปี เลยยังสูงไม่ถึง 1.6 เมตรเจ้าค่ะ...ฮิ...ฮิ...

[แจง-24]

นักธรณีวิทยา สันนิษฐานว่า เจ้าทุ่ง Pinnacles นี้ ก่อตัวขึ้นมานับล้านๆปีแล้ว
แต่ถูกทรายกลบทับถมไปหมดเมื่อ 6,000 ปีที่แล้ว
เพิ่งจะเผยตัวเองออกมาอีกครั้ง เพราะลมพัดทรายที่กลบออกไปเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง

[แจง-24]

วัตถุดิบที่เห็นเป็นเนื้อของเจ้าแท่งหินปูนยอดแหลมเหล่านี้
นักธรณีวิทยาได้ฟันธงตรงกันแล้วว่า มาจากฝุ่นทรายที่เกิดจากเปลือกของหอยและสัตว์ทะเล
ในยุคดึกดำบรรพ์ที่สัตว์ทะเลครองโลก

แต่ขั้นตอนการเกิด Pinnacles นั้น ยังถกเถียงกันไม่จบ

[แจง-24]

พรุ่งนี้มาคุยกันต่อนะคะ
ว่านักธรณีวิทยา เขาถกเถียงเรื่องการก่อตัวของเจ้า Pinnacles พวกนี้กันว่ายังไงบ้าง...

คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ก่อนค่ะ

 

[dtoy]

เหลืองอร่ามงามจับตาขนาดนี้
ทำเอาผิวผ่องของพวกเรา ได้รับแสงสะท้อนไปเต็มๆ
หน้าแต่ละคนดูจะกลมกลืนไปกับสีทะเลทรายเลยที่เดียว

[dtoy]

ดูท่าของป้าสองสาว สองมุม ต่างยิงกระสุนใส่เป็นพัลวัน
สาวที่สาม จินตนาการเองเน้อ เพราะรูปข้างบนจากมุมของเธอ

 

[dtoy]

ช่วงเวลาที่งดงามที่สุด จะเป็นตอนเช้าตรู่และตอนบ่ายแก่ๆค่ะ
เพราะแสงละมุนจะสาดสะท้อนแท่งหินและทอดเป็นเงายาวเบื้องหลัง งามตามากค่ะ

 

[Uncle Na]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 24 มกราคม 2555, 20:58:08
	นักธรณีวิทยา สันนิษฐานว่า เจ้าทุ่ง Pinnacles นี้ ก่อตัวขึ้นมานับล้านๆปีแล้ว แต่ถูกทรายกลบทับถมไปหมดเมื่อ 6,000 ปีที่แล้ว เพิ่งจะเผยตัวเองออกมาอีกครั้ง เพราะลมพัดทรายที่กลบออกไปเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง

น้าแจง ลุงตี้  ลุงพจน์ เพื่อนๆ
อืมม..อายุขนาดนี้ทุ่งนาบ้านลุงไม่ได้บันทึกไว้ แต่มีบันทึกไว้ว่าอารยธรรมบ้านเชียงที่อุดรธานีห่างจากทุ่งนาบ้านลุงไปประมาณ 400 กิโลเมตรทางเหนือ  ต้นกำเนิดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าลายลายนิ้วมือยี่ห้อซันโย ก็มีอายุ 6000 ปี ..เหมือนกัน
 

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ dtoy เมื่อ 25 มกราคม 2555, 09:29:23
	เหลืองอร่ามงามจับตาขนาดนี้ ทำเอาผิวผ่องของพวกเรา ได้รับแสงสะท้อนไปเต็มๆ หน้าแต่ละคนดูจะกลมกลืนไปกับสีทะเลทรายเลยที่เดียว

เห็นด้วย ผิวผ่องสวยทุกคน ท่ามกลางพื้นสีเหลือง .........        

[dtoy]

แต่ถ้าหากคิดไกลไปอีกเผื่อถึงพี่ปี๊ดของน้องๆละก้อ
ใบหน้าของพี่ปี๊ดจะหล่อเหลานวลเนียนน่าดูไม่แพ้สามป้าเชียวค่ะ

 

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 24 มกราคม 2555, 21:55:39
	พรุ่งนี้มาคุยกันต่อนะคะ ว่านักธรณีวิทยา เขาถกเถียงเรื่องการก่อตัวของเจ้า Pinnacles พวกนี้กันว่ายังไงบ้าง... คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ก่อนค่ะ

อยากรู้ว่านักธรนีวิทยา เขา บ่นไว้ อย่างไรบ้าง?...... ทรายสี ออกเหลืองๆ มาจากไหน และ หินแท่งซึ่งเป็น แร่ธาตุ คนละตัวกับทราย
จึงมาทิ่มอยู่ที่นี่ มันถูกเป่ากระเด็นมาจากไหน?......น่าสนใจ......มาก  

[dtoy]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 24 มกราคม 2555, 20:57:59
	เดินลึกเข้าไปด้านใน จะเห็นแท่งที่อายุเยอะๆ สูงเกิน 3.5 เมตร ค่ะ (แท่งที่เห็นยืนยิ้มอยู่นี้ อายุยังน้อยแค่ครึ่งร้อยปี เลยยังสูงไม่ถึง 1.6 เมตรเจ้าค่ะ...ฮิ...ฮิ...)

ถึงอายุมากขึ้น ใช่ว่าจะสูงขึ้นเหมือน pinnacles เสียหน่อย..ฮ่าฮ่า

[แจง-24]

สวัสดีค่ะ พี่ปิ๊ด ลุงณะ มัมต๋อย และทุกท่านที่ติดตามชม

ทำหนังขาดช่วงไปหลายวัน แฟนคลับหายหมด เหลือกันแต่ "แฟนขับ" แล้วนิ
ป้าไม-นักแสดงนำก็หายไป สงสัยตระเวนแจกอั่งเปายังไม่ทั่ว...เหอ...เหอ...

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 25 มกราคม 2555, 11:40:27
	อ้างถึง ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 24 มกราคม 2555, 20:58:08 นักธรณีวิทยา สันนิษฐานว่า เจ้าทุ่ง Pinnacles นี้ ก่อตัวขึ้นมานับล้านๆปีแล้ว แต่ถูกทรายกลบทับถมไปหมดเมื่อ 6,000 ปีที่แล้ว เพิ่งจะเผยตัวเองออกมาอีกครั้ง เพราะลมพัดทรายที่กลบออกไปเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง น้าแจง ลุงตี้  ลุงพจน์ เพื่อนๆ อืมม..อายุขนาดนี้ทุ่งนาบ้านลุงไม่ได้บันทึกไว้ แต่มีบันทึกไว้ว่าอารยธรรมบ้านเชียงที่อุดรธานีห่างจากทุ่งนาบ้านลุงไปประมาณ 400 กิโลเมตรทางเหนือ  ต้นกำเนิดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าลายลายนิ้วมือยี่ห้อซันโย ก็มีอายุ 6000 ปี ..เหมือนกัน

แจงว่า บ้านเชียง กับ Pinnacles นี่ น่าสนใจไปคนละแบบนะคะ ลุงณะ

บ้านเชียงของเรา เป็นที่รู้จักมากกว่า Pinnacles เพราะได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก
จุดสนใจจะเป็นเรื่องอารยธรรมของชุมชนโบราณ เน้นหนักไปทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและมานุษยวิทยา

ส่วน Pinnacles นี้ ยังไม่ถึงขนาดเป็นมรดกโลก แต่ก็มีความน่าสนใจทางธรณีวิทยา
เป็นปรากฎการณ์ที่ธรรมชาติสร้างล้วนๆ ไม่มีอารยธรรมของมนุษย์มาเกี่ยวข้องเลยค่ะ

แต่ที่แน่ๆ เป็น Landscape ที่สวยมากๆ ถูกใจช่างภาพทุกคน
พอดีวันที่พวกเราไปเที่ยวกัน ฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆ สลับกับฝนตกปรอยๆทั้งวัน
นี่ถ้าแดดจ้าฟ้าใส คงจะได้เห็นทรายสีเหลืองจัดตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสด...
น่าจะได้ถ่ายภาพกันมันส์กว่านี้อีกค่ะ

[แจง-24]

ต่อค่ะ...



ขอตอบคำถามพี่ปิ๊ดเรื่องทรายสีเหลืองก่อน แล้วค่อยไปต่อเรื่องขั้นตอนการเกิดแท่งหินปูนนะคะ

ทรายในออสเตรเลีย นอกจากจะมีสีเทาและสีนวลทรายอย่างที่เราเห็นกันทั่วไปแล้ว
ยังมีทรายสีน้ำตาลแดงและสีเหลือง
ซึ่งสองสีหลังนี้มีปริมาณ Iron และ Aluminium Oxide ปนอยู่ในปริมาณสูง

ทะเลทรายที่อยู่ตอนกลางของทวีปออสเตรเลีย จะเป็นสีน้ำตาลปนแดง
จะแดงมากแดงน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ Iron และ Aluminium Oxcide ที่ปนอยู่

แต่ทรายชนิดเดียวกัน ที่อยู่ตามชายฝั่งออสเตรเลียตะวันตก
นอกจากจะมี Iron และ Aluminium Oxide สูงแล้ว
ยังมีผงแคลเซียมจากเปลือกหอยและสัตว์ทะเลสูง ผสมกับธาตุอื่นๆจากทะเลปนอยู่ด้วย
ทำให้สีออกเป็นสีเหลือง จะเหลืองสดแค่ไหน ก็ขึ้นกับปริมาณแคลเซียมและธาตุจากทะเลที่ผสมอยู่ค่ะ

[แจง-24]

ส่วนขั้นตอนการเกิดแท่งหินปูนนี้ นักธรณีวิทยายังถกเถียงกันอยู่ 3 ทฤษฎีใหญ่ๆค่ะ...







เอ...หินงอกหินย้อยที่ไหนก็มี ตามถ้ำบ้านเราก็มีมากมาย
ทำไมถึงยังต้องมาเถียงกันเรื่องขั้นตอนการเกิดเจ้าแท่งหินงอก Pinnacles นี่อีกละเนี่ย...

[แจง-24]

น่าสงสัยอย่างนี้...ก่อนที่จะคุยเรื่องทฤษฎีต่างๆเกี่ยวกับการก่อตัวของแท่งหิน Pinnacles
ก็คงต้องมาดูกันก่อนล่ะค่ะ ว่าเจ้าแท่งหินที่นี่ มีความแตกต่างจากหินงอกหินย้อยทั่วไปอย่างไร...

ความแตกต่างจากหินงอกทั่วไป อันเป็นที่มาของการถกเถียงเรื่องทฤษฎีการเกิด Pinnacles นั้น
จากที่ฟังและอ่านมา พอจะจับจุดได้ 2 จุดใหญ่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pinnacles คือ



1. เป็นหินปูนอ่อน (Soft limestone) และ หินตะกอนแคลเซียมหรือคราบเกลือ (Calcrete)
ผสมอยู่ในแท่งเดียวกัน

(ดูจากยอดแท่งหิน จะเห็นบางส่วนเป็นรูพรุน นั่นคือ soft limestone หน้าตาคล้ายๆเนื้อปะการัง
ส่วนที่เป็นเนื้อเรียบ คือตะกอนแคลเซียมหรือคราบเกลือ Calcrete ที่อัดตัวกันแน่นกว่า)

และ



2. มี "เฝือกราก" หรือ "Root Casts" เลื้อยเป็นเส้นสายจากแกนในของแท่งออกมาถึงผิวด้านนอก

(ดูจากรูป Root Casts คือท่อขนาดจิ๋วที่เลืื้อยชอนไชอยู่ในชั้นดินและชั้นหิน
โดยมีตะกอนแคลเซียมจับตัวเป็นผนังท่อ
สันนิษฐานว่าที่ว่างภายในท่อเคยเป็นอินทรีย์วัตถุ เช่นรากไม้ หรือ Humus มาก่อน
เมื่อเวลาผ่านไป อินทรีย์วัตถุย่อยสลายกลายเป็นที่ว่าง
เหลือแต่เปลือกแคลเซียมที่หุ้มอยู่เหมือนถอดเฝือกออก
เลยเรียกว่า "Root Casts" ค่ะ)

ต่างจากหินงอกหินย้อยบ้านเรา... ของเราเป็นหินปูนเนื้อเดียวกันทั้งแท่งค่ะ

[แจง-24]

ทีนีรู้แล้วนะคะ ว่าเนื้อหินปูนมันดูแปลกๆอย่างนี้นี่เอง
นักธรณีวิทยาเขาถึงได้เดากระบวนการเกิดกันไปต่างๆนาๆ







ทฤษฎีแรก ท่านว่า แท่งหินงอกเหล่านี้ เกิดจากลมพัดเอาฝุ่นแคลเซียมมาทับถมกัน
พอฝนตกก็เกิดเป็นหินปูนอ่อนเหมือนปะการังขึ้นมาก่อนเป็นชั้นแรก

ต่อมามีต้นไม้มางอกทับ ทำให้เกิดชั้นดินและ Humus ขึ้นมาเป็นชั้นที่สอง

ส่วนตะกอน Calcrete เกิดตามมาทีหลัง ทับถมหินปูนอ่อนขึ้นไปเป็นชั้นที่สาม

เมื่อต้นไม้ตายไป หินปูนอ่อนที่รับน้ำหนักอยู่ด้านล่างกร่อนและผุพังไป
ตะกอน calcrete จึงถล่มลงมาอยู่ด้านล่าง
ส่วนหินปูนอ่อนที่ไม่ได้รับน้ำหนัก ก็ยังคงเห็นเป็นรูพรุนอยู่ด้านบน

[แจง-24]

ทฤษฎีที่ 2 ท่านว่า เจ้าแท่งหินงอกนี้ เกิดจากเปลือกต้นไม้ที่ตายแล้ว (Casts of Trees)
และลมได้พัดเอาฝุ่นแคลเซียมมาฝังกลบจนจมมิด
แต่รากของต้นไม้ในระหว่างย่อยสลาย ยังทำหน้าที่ดูดซับน้ำใต้ดินอยู่
ทำให้ความชื้นจากน้ำมาละลายฝุ่นแคลเซียม เมื่อน้ำแห้งไปก็เกิดเป็นตะกอน Calcrete
เมื่อลมและฝนพัดมานานเข้า ทำให้เกิดการผุกร่อนภายนอก จึงมองเห็น Calcrete ที่อยู่ภายใน
(ทฤษฎีนี้ไม่พูดถึง Soft Limestone เลยแฮะ)

[แจง-24]

ส่วนทฤษฎีสุดท้าย ท่านยกเครดิตให้ต้นไม้ไปเต็มๆ...

ท่านว่า การเกิด Pinnacles ไม่ใช่เรื่องฝุ่นแคลเซียมบังเอิญมาเจอกันกับต้นไม้
แต่ต้นไม้นี้แหละ เป็นปัจจัยหลักเริ่มแรกในการก่อตัวของ Pinnacles ที่เดียวเชียว
ถ้าไม่มีต้นไม้ ก็คงไม่เกิดเจ้าแท่ง Pinnacles มากมายอย่างนี้หรอก

เมื่อมีต้นไม้มางอก รากไม้ก็จะดูดซึมน้ำและสารอาหารที่จำเป็น
เนื่องจากทรายแถวนี้มีแคลเซียมสูง แคลเซียมที่ใช้ไม่หมดก็ถูกขับออกมาทางผิวราก
เกิดเป็น "Root Casts" ขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก
แล้วจึงเกิดชั้น Soft Limestone และชั้น Calcrete ทับถมกันต่อๆมา
เมื่อต้นไม้ตายไป จึงเหลือเป็นแท่งหินปูน Pinnacles อย่างที่เห็น...

[แจง-24]

นักธรณีวิทยาท่านก็คงเถียงกันได้อีกนานละค่ะ...





เพราะแม้จะมี baby pinnacles ก่อตัวขึ้นใหม่ให้เห็นๆกันอยู่ตรงหน้า
แต่ก็ไม่รู้อีกกี่ร้อยกี่พันปีมันถึงจะโตทันรุ่นพี่ๆที่เป็นโจทย์ปริศนาให้ตามแก้กันอยู่

[แจง-24]