28 พฤศจิกายน 2567, 00:46:17
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 9  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: นครศรีธรรมราชทัวร์ ของซีมะโด่งกลุ่มย่อย  (อ่าน 115916 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #125 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2550, 15:40:37 »

น้องหนุงหนิงครับ
  พี่มานพไปเฝ้าพี่สาวที่โรงพยาบาลหลายวัน ไหนจะกังวลเรื่องคุณแม่ จึงเกิดความเคลียดเป็นธรรมดา ได้ข่าวพี่เขาจะไปเล่นกอล์ฟต่างประเทศพี่เห็นด้วย การได้เปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้างจะช่วยไห้พี่สิงห์คลายความเคลียดลงได้ ซึ่งพี่คิดว่าการไปพักผ่อนเสียบ้างจะช่วยได้มากครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #126 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2550, 21:45:55 »

สวัสดีครับ น้องหนุ๋งหนิ๋ง
              1). แม่น้ำที่ท่าศาลาไม่ใช่แม่น้ำที่ปากพนังแน่นอนเพราะห่างกันมากครับ  เป็นเพียงคลองเล็กๆที่ทอดมาจากอำเภอนบพิตำ หรือ อำเภอกุงชิงครับ
              2). วันอาทิตย์นี้พี่สาวออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ แต่ต้องเอายาพาวิค(แพงมากๆ)ไปรับประทานต่อครับ และเดือนกุมภาพันธ์ต้องกลับมาทำบอลลูนอีกหนึ่งเส้นครับ
                     ตอนนี้น้ำที่ท่วมบ้านที่สิงห์บุรีลดลงแล้วครับไม่ท่วมแล้วแต่ก็ทำความเสียหายต่อชาวบ้านพอสมคารระดับน้ำที่บ้านผมสูงประมาณไหล่ผมครับ  ตอนนี้แห้งหมดแล้ว  ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ เมื่อวันศุกร์บ่าย และวันเสาร์ผมหนีพี่สาวกลับไปทำงานที่นครศรีธรรมราช กลับเย็นวันเสาร์ก็ไปเยี่ยมพี่สาวที่โรงพยาบาลเลยครับ  พรุ่งนี้บ่ายจะไปรับพี่สาวกลับบ้านครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #127 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2550, 21:49:31 »

สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากไปท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ขอให้รวมกลุ่มกันพอดีรถตู้ และบอกล่วงหน้า  ผมจะจัดการพาเที่ยวให้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ  สำหรับคุณน้องตุ๊ก น่าจะไป 28 ธันวาคม เพราะจุฬาฯนครศรีธรรมราช จะจัดงานเต้นรำครับ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #128 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2550, 21:55:01 »

P.Manop ka,
oh,how busy you are last few days!it is really double burden(travel and visit hospital)I can imagine.
P.Sing ka,may I ask some question please?it is may be not the first time that Singburi or your hometown get a flooding..a serious flooding..what I would like to know..what did most of people do to handle these nature catatrophe??did they build a house fit or get along to the nature environment such as thai house which not stand on the floor/ground..
I do really sure,it (flooding)will repeat again!the water level so high untill your shoulder..at least 160 cm...that is quite high level and really dangerous...
nn.
บันทึกการเข้า


manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #129 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 09:56:19 »

สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง
                      สมัยที่พี่สิงห์ยังเรียนอยู่ที่อำเภออินทร์บุรี  บ้านที่อาศัยทุกบ้านจะสร้างแบบทรงไทย ทำด้วยไม้ทั้งนั้น ใต้ถุนบ้านจะยกสูงประมาณ 2.80 ม.และโล่ง เอาไว้สำหรับเก็บของและแคร่ไม้ใผ่ หรือ ไม้สำหรับนั่ง  นอน  เสวนาและเอาไว้รับแขก กันในตอนกลางวันและจะเย็นสบายดีเนื่องจากลมสามารถพัดผ่านใต้ถุนบ้านได้ครับ
                       เวลาหน้าน้ำ น้ำจะท่วมเกือบทุกปี แต่ระดับน้ำจะท้วมไม่สูงอย่างมากก็ระดับไหล่ หรือเอว  และท้วมไม่เกิน 15 วัน ครับ  ดังนั้น ทุกบ้าน จะมีเรือพายกันทั้งนั้นครับ  อาชีพส่วมมาก98% ทำนาครับ  ดังนั้นหน้าน้ำท่วมปกติปลาจะชุกชุมมากครับ  ชาวบ้านไม่เดือดร้อน น้ำท้วมจะทำให้นาข้าวอุดมสมบูรณ์  ถ้าน้ำไม่ท้วมแสดงว่าแล้ง  ข้าวจะได้ผลน้อย และหน้านี้ชาวบ้านจะไม่มีอะไรทำมากนัก  นอกจากไปหาหญ้ามาให้วัว-ควาย กิน ครับ หลังจากนั้น หนุ่มๆชาวบ้านที่แข็งแรง จะไปซ้อมพายเรือยาว  เตรียมตัวไว้แข่งระหว่างวัด ในงานทอดกฐิน ครับ เป็นชีวิตที่มีความสุขครับ
                      แต่วิถีชีวิตปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว  บ้านปลูกแบบสมัยใหม่ไว้รอน้ำท้วม (ปลูกสองชั้น)  อาชีพก็เปลี่ยนไปทำงานราชการ หรือไม่ก็ทำงานตามโรงงานเอกชน  ไร่นารกล้างเพราะทำก็ขาดทุน  ดังนั้นชาวนาปัจจุบันคือคนรุ่นผม  อีกประมาณ 10-20 ปีข้างหน้าชาวนาไทยคงสูญพันธ์แล้วครับ  เด็กสมัยใหม่ทำนาไม่เป็น  ทุกคนเรียนหนังสือหมด  แล้วใครจะทำนาครับ คือคนด้อยโอกาสทางการศึกษา แต่บุคคลเหล่านี้ก็ไม่มีนาทำ เพราะอยากจน  ต้องไปเช่านาเขาทำครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #130 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 10:09:43 »

ปัญหาน้ำท้วม ณ ปัจจุบัน มีสาเหตุมาจาก
                      1). กรมททางหลวงแผ่นดิน และกรมทางหลวงชนบท ได้สร้างถนนเชื่อมระหว่างจังหวัด และเชื่อมระหว่างหมู่บ้านเต็มไปหมด  เป็นสิ่งที่ดี  แต่หน่วยงานพวกนี้ทำช่องระบายน้ำ หรือ สะพานน้อยมาก หรือไม่มีเลย เพราะงบในการทำสูง  ถนนเหล่านี้ก็เลยเป็นเขื่อมกันน้ำดีๆนี่เอง
                      2). กรมชลประทาน เป็นกรมที่กินกันมากที่สุดกรมหนึ่งของเมืองไทย และหากินกับโครงการพระเราชดำหริ  จนในหลวงท่านก็เอือมระอาเหมือนกัน ครับ แต่ท่านอยู่เบื้องสูงท่านทำอะไรไม่ได้  ได้แต่ป้องปรามให้รู้สำหนึก  แต่คนพวกนี้ก็ไม่เข็ด ครับ
                      3). ปัจจุบัน การปลูกบ้านของชาวบ้านทั่วไป   การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม  หมู่บ้านจัดสรรค์  ได้ทำการถมที่สูงเพื่อหนีน้ำ  ทำให้พื้นที่รับน้ำท้วมสมัยโบราณ(แก้มลิงตามธรรมชาติ)หายไป และปิดกั้นทางเดินของน้ำตามธรรมชาติหมด
                       4). การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน  ขัดกับความรู้สึกของชาวบ้าน สมควรปล่อยก็ไม่ปล่อย  จะปล่อยน้ำต่อเมื่อ น้ำล้น Spinway หรือเขื่อนจะพังจึงปล่อยน้ำทิ้ง และไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น   ผมจำได้ว่า ทางผู้ว่าชัยนาท  สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา  ขอมีส่วนร่วมในการเปิดปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนชัยนาท  ทางกรมชลประทานไม่ยอมครับ  สรุป คือ การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานห่วยแตก  ปีนี้เป็นปีแล้งน้ำน้อย  แต่น้ำท้วม ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรครับ  เผอิญปีนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวน  เลยไม่มีใครกราบทูลให้พระองค์ทราบ  ผลคือ  น้ำท้วมภาคกลางครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #131 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 10:18:37 »

ปัจจุบัน ทุกคนในภาคกลาง  หน่วยราชการ  โรงงานอุตสาหกรรม และหมู่บ้านจัดสรรค์ ต่างเอาตัวรอด ทำเขื่อนกั้นน้ำ   ถมที่สูง เพื่อเอาตัวรอดเพาะหน้า  แต่นี่จะทำให้ต่อไปนี้ฝนตกปานกลางน้ำจะท้วมทันทีเพราะระบายลงทะเลไม่ทัน   พื้นที่รับน้ำมีน้อย  แม่น้ำตื่นเขิน  คลองระบายน้ำ แทบจะไม่มีเหลือแล้วเพราะรุกที่กันหมด ต่อไปโอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯอยู่แค่เอื้อมเอง และน้ำจะท้วมนานขึ้นทุกที่  ขึ้นอยู่กัลเทวดาจะแกล้งให้ฝนตกมากตกน้อยเท่านั้น
                              นี่คือ มนุษย์เป็นผู้ทำลายธรรมชาติ   ธรรมชาติเลยกลับมาทำลายมนุษย์เสียเอง
                              เขื่อนกั้นน้ำในกรุงเทพฯ ผมเป็นคนสร้างเสียส่วนใหญ่  ผมจำได้ว่าทางสำนักระบายน้ำทำไว้สูง 1.20 ม. แต่ปัจจุบันได้ทำให้สูงมากกว่า 2.40 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท้วมครับ นี้คือความจริงที่ฟ้อง จากการที่มนุษย์เห็นแก่ตัวครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #132 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 10:32:06 »

วิธีแก้ไขไม่ให้น้ำท้วมเพาะหน้า เรื่องการระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา  ต้องคาดการมรสุมให้ใกล้เคียงที่สุด  ประตูระบายน้ำตามคลองระบานน้ำต่างๆ ต้องใช้การได้ กล่าวคือ  ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารปัจจุบัน  เราสามารถสั่งการเปิดปิดประตูระบายน้ำได้รวดเร็วทันใจครับ  
                       เราสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าพายุจะเข้ามาประเทศไทยเมื่อไร ภายหลังเริ่มก่อตัวที่ฟิลิปปิน หรือ ในทะเลจีนใต้ ที่จะพัดผ่านภาคกลางของไทย  และด้วยสถิติที่ผ่านมาเราสามารถเดาได้  ภายหลังที่พายุก่อตัวเราสามารถที่จะเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนได้ทันเพราะมีเวลามากกว่า 7 วัน ครับ น้ำใช้เวลาเดินทางจากเขื่อนชัยนาทลงทะเลประมาณสามวันครับ  ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำอย่างเดียวครับ  แต่กรมชลไม่ทำ หรือ ทำแต่ไม่ให้ความสำคัญครับ
                       ปีนี้ผมเชื่อว่ากรมชลประทาน จงใจให้น้ำท้วมครับ และกรมชลรู้ว่าน้ำจะท่วมไม่นาน ชาวบ้านไม่เดือดร้อนมาก จึงจงใจให้ท้วม เหตุผลประกอบ คือ
                       เมื่อน้ำท้วมใหญ่ปีที่แล้วภายหลังน้ำลด กรมชลประทานได้เสนอโครงการ ทำแก้มลิงด้วยพื้นที่มากกว่าแสนไร  งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท  แต่ทางรัฐบาล  สื่อ  ประชาชนทั่วไป ไม่เห็นด้วย  เรื่องเลยเงียบไป  เพราะกรมชลประทานอยากทำมากจะได้มีงบประมาณเข้ามา  จะได้อ้วนพีกันอีกครั้ง  ภายหลังที่ซบเซามานาน เนื่องจากไม่มีโครงการหลวงระยะนี้  จึงอยากทำแก้มลิงมาก   จึงต้องปล่อยให้น้ำท้วม  จะได้มีโอกาสทำแก้มลิงอีกให้ได้
                      แก้มลิงตามที่กรมชลประทานเสนอ  ต้องเวรคืนที่ดินภาคกลางตอนล่างมากกว่าแสนไร่   ต้องเสีนเนื้อที่เพราะปลูกทั้งหมด  และตามความคิดผมได้ผลไม่ถึง 50% เพราะปัจจุบันแก้มลิงที่กรมชลประทานทำไว้ฝั่งธนบุรีสองแห่งก็ไม่ค่อยได้ผล  เป็นที่พักผ่อน  ตกปลา  แข่งเรือ มากกว่าครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #133 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 10:54:56 »

การแก้ปัญหาระยะยาว
                               สมัยโบราณ พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีเป็นแสนไร่ เป้นพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงธรรมชาติอยู่แล้ว  ชาวบ้านจะรู้ดีว่าพื้นที่ไหนน้ำท้วมสูงก็จะปลูกข้าวหนัก(ข้าวเมล็ดสั้น)เพื่อหนีน้ำข้าวประเภทนี้หนีน้ำได้สบายมาก  พื้นที่ไหนดอนจะปลูกข้าวเบาเมล็ดยาว ครับ ดังนั้นเมื่อหน้าน้ำมาน้ำจะกระจายเต็มทุ่งเป็นบริเวรกว้าง  แต่ไม่ท้วมสูง  ชาวบ้านถึงชอบเพราะข้าวจะอุดมสมบูรณืครับ  ไรนามีปลาเต็มไปหมดครับ  ที่คือสิ่งที่ธรรมชาติให้
                               แต่ปัจจุบันพันธืข้าวพวกนี้ กระทรวงเกษตร  กระทรวงพาณิชย์ท่านได้ทำลายจนสูญพันธ์ไปแล้ว  ท่านว่าปลูกได้ผลน้อย ต้องปลูกข้าว พันธ์ กข 1-2-3 หรือ พันธ์ สุพรรณบุรี ข้าวพวกนี้ขายได้ราคาดี แต่ไม่หนีน้ำต้องการน้ำน้อย  น้ำท้วมข้าวพวกนี้ตายเรียบไม่เหลือ ชาวบ้านก็จนตามเคย  ไม่เหมือนพีนธืข้าวโบราณ เช้าข้าวหนักได้แก่ ข้วมป้อม  ข้าวพวง  ข้าวพวงแก้ว ข้าวหัวกะดหลกเป็นต้น  ข้าวเมล้ดยาวได้แก่  ข้าวเจ็ดรวง  ข้าวเหลือง   ข้าวหลวงแจก เป็นต้อน
                               ทางแก้ไข
                              1). จะต้องทำลายระบบที่ไปกั้นน้ำไว่ไม่ให้ไหล และทำประตูระบายน้ำเพื่อควบคุมน้ำให้ได้ คือ ถนนทุกสายจะต้องออระเบียบใหม่กำหนดสัดส่วนประตูระบายน้ำต้องมีเท่าไร  เพื่อให้น้ำกระจายไปตามทุ่งตามธรรมชาติให้ได้อิสสระ (ปัจจุบัน จังหวัดไหนมีอำนาจก็สามารถเปิดปิดประตูน้ได้ เช่นลพบุรี  ใช้กำลังทะหารมาควบคุมประตูระบายน้ำไม่ให้เปิดน้ำเข้าทุ่ง  สิงห์บุรีเลยซวยน้ำท้วมทุกที)
                       2). ทุกคนต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องยอมให้น้ำท้วม  ถ้ามันต้องท้วม เพื่อกระจายความเดือนร้อนให้เท่าเทียมกัน  น้ำจะได้ท้วมไม่สูง และไม่ท้วมนาน (ปัจจุบันจะเห็นว่ากว่าน้ำจะลดใช้เวลานานมากเพราะน้ำไม่สามารถลงทะเลได้ทันเพราะมีพื้นที่จำกัด)
                       3). ปัจจุบัน  กรมชลประทานจะกักน้ำไว้แต่ในลำเจ้าพระยาเท่านั้น  จึงทำถนนสองฝั่งสูงมาก เท่ากับบังคับน้ำเอาไว้ แล้วน้ำจะไปไหนเล่าครับ  ลองหลับตานึกภาพดู สมมุติลำน้ำเจ้าพระยาในแนวคันกั้นน้ำกว้าง 500-800 เมตร จะเก็บน้ำได้สูงเท่าไร  กับถ้าน้ำระบายไปตามแก้มลิงธรรมชาติที่เราทะลวงให้มีอิสสระในการไหลมากยิ่งขึ้นที่มีเนื้อที่เป็นล้านไร ระดับน้ำจะสูงนิดเดียวสามารถปลุกข้าวได้ตามปกติของชาวนา  แต่ถ้ากักน้ำนั้นไว้ในลำเจ้าพระยา ระดับจะสูงแค่ไหน  กรุงเทพฯในอนาคต  จะรอดได้อย่างไร
                              4). หรือไม่ต้องขอยืมคิดคิดคุณจำลอง  ศรีเมือง ขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสองครับ เพื่อสร้างโอกาสให้น้ำสามารถไหลลงทะเลได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น  ผมคิดว่าจำเป็นที่จะต้องขุดแม่น้ำเจ้าพระยาอีกสองสาย คือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เพื่อขยายตัวเมือง สร้างชุมชนใหม่ และน้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพฯ หรือภาคกลางในอนาคต ครับ
บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #134 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 11:02:56 »

จะหาเงินที่ไหนมาขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสองสายใหม่?
                       ท่านลองหลับตานึกภาพตามไปนะครับ
                               เราทำการเวรคืนที่ดินตามแนวลำน้ำที่เราจะทำแม่น้ำใหม่ ประมาณ500-800 เมตร  ขุดแม่น้ำใหม่กว้าง และลึกให้พอกับปริมาณที่เราต้องขุดดินออกเอาไปถมสองฝั่งแม่น้ำขนานไปกับลำน้ำ เราจะได้พื้นที่สร้างเมืองไหม่  สามารถกำหนดเป็นเมืองอุตสาหกรรมเพราะออกสู่ทะเลได้  เมืองราชการ  เมืองที่อยู่อาศัย อีกมากมาย  โดอยเอาเนื้อที่ใหม่นี้ไปขาย เพื่อเอาเงินมาชดเชยที่ดิน และค่าขุดดินครับ เป็นการสร้างงานอย่างดีในขณะนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรฐกิจ และเป็นประโยชน์อนันนต์แก่กรุงเทพฯในอนาคตที่ต้องเผชิญน้ำท้วม  แต่แม่น้ำใหม่เราต้องกำหนดทิศทางประตูระบายน้ำเอาไว้ด้วยเพื่อควบคุมน้ำ
                              ผมพร่ามมาเสียนาน ขอพักครับ  ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ
                                                                                                 มานพ    กลับดี
บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #135 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 16:06:18 »


สามารถ copy ออกมาพิมพ์ ไปส่งอาจารย์เป็นภาคนินพธ์ได้เลยนะเนี่ย...ได้ A sure...
บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #136 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 18:55:44 »

อ้างจาก: "manopkd"
สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง
1.หน้าน้ำท่วมปกติปลาจะชุกชุมมากครับ  ชาวบ้านไม่เดือดร้อน น้ำท้วมจะทำให้นาข้าวอุดมสมบูรณ์  ถ้าน้ำไม่ท้วมแสดงว่าแล้ง  ข้าวจะได้ผลน้อย และหน้านี้ชาวบ้านจะไม่มีอะไรทำมากนัก  นอกจากไปหาหญ้ามาให้วัว-ควาย กิน ครับ หลังจากนั้น หนุ่มๆชาวบ้านที่แข็งแรง จะไปซ้อมพายเรือยาว  เตรียมตัวไว้แข่งระหว่างวัด ในงานทอดกฐิน ครับ เป็นชีวิตที่มีความสุขครับ
2.แต่วิถีชีวิตปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว  บ้านปลูกแบบสมัยใหม่ไว้รอน้ำท้วม (ปลูกสองชั้น)  อาชีพก็เปลี่ยนไปทำงานราชการ หรือไม่ก็ทำงานตามโรงงานเอกชน  ไร่นารกล้างเพราะทำก็ขาดทุน  ดังนั้นชาวนาปัจจุบันคือคนรุ่นผม  อีกประมาณ 10-20 ปีข้างหน้าชาวนาไทยคงสูญพันธ์แล้วครับ  เด็กสมัยใหม่ทำนาไม่เป็น  ทุกคนเรียนหนังสือหมด  แล้วใครจะทำนาครับ คือคนด้อยโอกาสทางการศึกษา แต่บุคคลเหล่านี้ก็ไม่มีนาทำ เพราะอยากจน  ต้องไปเช่านาเขาทำครับ


P.Manop ka,

1.under those hard circumstance I can also see the bright side of it!and I think the inhabotant who was born and grown up there should be secured that they know what to do when rainny season comes..it is not only a lot/mass of water for their field but also the damage the water could bring.

2.this is the same situation of a farmer in Germany!...they turn to be industrail way of life...but the people still need food ..they can not "depend" on foreign market cause agricultural depend on, on the other hands, nature circumstances(climate,water supply ,drought,heat etc.) the world market could set the price as they like...so they set all technology into agricultural methode...1-2 farmer care for a big area which 50-60 years before need 10 times more manpower...this technology I mean not the usage of more pesticid but the instrument:tractor,cultivator maschine,seed setting,etc...how many percent farmer left...let me work out for the number(used to see it in one of a lecture!!)

before it collapse...let me send.
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #137 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 19:12:37 »

อ้างจาก: "manopkd"
ปัญหาน้ำท้วม ณ ปัจจุบัน มีสาเหตุมาจาก
                      1). กรมททางหลวงแผ่นดิน และกรมทางหลวงชนบท ได้สร้างถนนเชื่อมระหว่างจังหวัด และเชื่อมระหว่างหมู่บ้านเต็มไปหมด  เป็นสิ่งที่ดี  แต่หน่วยงานพวกนี้ทำช่องระบายน้ำ หรือ สะพานน้อยมาก หรือไม่มีเลย เพราะงบในการทำสูง  ถนนเหล่านี้ก็เลยเป็นเขื่อมกันน้ำดีๆนี่เอง
                      2). กรมชลประทาน เป็นกรมที่กินกันมากที่สุดกรมหนึ่งของเมืองไทย และหากินกับโครงการพระเราชดำหริ  จนในหลวงท่านก็เอือมระอาเหมือนกัน ครับ แต่ท่านอยู่เบื้องสูงท่านทำอะไรไม่ได้  ได้แต่ป้องปรามให้รู้สำหนึก  แต่คนพวกนี้ก็ไม่เข็ด ครับ
                      3). ปัจจุบัน การปลูกบ้านของชาวบ้านทั่วไป   การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม  หมู่บ้านจัดสรรค์  ได้ทำการถมที่สูงเพื่อหนีน้ำ  ทำให้พื้นที่รับน้ำท้วมสมัยโบราณ(แก้มลิงตามธรรมชาติ)หายไป และปิดกั้นทางเดินของน้ำตามธรรมชาติหมด
                       4). การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน  ขัดกับความรู้สึกของชาวบ้าน สมควรปล่อยก็ไม่ปล่อย  จะปล่อยน้ำต่อเมื่อ น้ำล้น Spinway หรือเขื่อนจะพังจึงปล่อยน้ำทิ้ง และไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น   ผมจำได้ว่า ทางผู้ว่าชัยนาท  สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา  ขอมีส่วนร่วมในการเปิดปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนชัยนาท  ทางกรมชลประทานไม่ยอมครับ  สรุป คือ การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานห่วยแตก  ปีนี้เป็นปีแล้งน้ำน้อย  แต่น้ำท้วม ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรครับ  เผอิญปีนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวน  เลยไม่มีใครกราบทูลให้พระองค์ทราบ  ผลคือ  น้ำท้วมภาคกลางครับ


P.Manop ka,
1. could it be somewhere "self supplier" for each farmer to dig their own pond for those mass of water in rainny season in their field as a outgoing of water..out of season this could be a fish rearing place for each family ?? I mean instead of waitting for any help..they should help themself first??

2.corruption??commission earning under the desk?? I think it is everywhere!!!excuse me...but it's true!or I am wrong??

3.what is"แก้มลิงตามธรรมชาติ??..a groove for the way of water flow??or any small river??is it possible to dig the river deeper/make it wider for the more containing of the mass??

4.P.Sing,can you give this excellent commentation to the city hall?may be direct to the authority direct?? They have a box for comment I do really sure...make it direct,repeat it again and again...after the motto"you or me..who will bite it through"

nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #138 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 19:26:54 »

อ้างจาก: "manopkd"
ปัจจุบัน ทุกคนในภาคกลาง  หน่วยราชการ  โรงงานอุตสาหกรรม และหมู่บ้านจัดสรรค์ ต่างเอาตัวรอด ทำเขื่อนกั้นน้ำ   ถมที่สูง เพื่อเอาตัวรอดเพาะหน้า  แต่นี่จะทำให้ต่อไปนี้ฝนตกปานกลางน้ำจะท้วมทันทีเพราะระบายลงทะเลไม่ทัน   พื้นที่รับน้ำมีน้อย  แม่น้ำตื่นเขิน  คลองระบายน้ำ แทบจะไม่มีเหลือแล้วเพราะรุกที่กันหมด ต่อไปโอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯอยู่แค่เอื้อมเอง และน้ำจะท้วมนานขึ้นทุกที่  ขึ้นอยู่กัลเทวดาจะแกล้งให้ฝนตกมากตกน้อยเท่านั้น
                              นี่คือ มนุษย์เป็นผู้ทำลายธรรมชาติ   ธรรมชาติเลยกลับมาทำลายมนุษย์เสียเอง
                              เขื่อนกั้นน้ำในกรุงเทพฯ ผมเป็นคนสร้างเสียส่วนใหญ่  ผมจำได้ว่าทางสำนักระบายน้ำทำไว้สูง 1.20 ม. แต่ปัจจุบันได้ทำให้สูงมากกว่า 2.40 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท้วมครับ นี้คือความจริงที่ฟ้อง จากการที่มนุษย์เห็นแก่ตัวครับ


P.Sing ka,
I would like to know how much money each province invest and plan for a long term to prevent this problems..I don't think the flooding problem is new in Thailand...it was better,then getting worse..and has been solved  and appeared again more worse...
It is really challenge for Engineer people!!!to set their knowledge into the reality...the quetion turn back to the beginning...where should all those budget come from??

I visited Austria more than 10 times last 14 years(summer and winter always the same )I saw how much money the city invest into their area..I am not talking about the whole picture..but a specific area which the municipal try their best to solve the problem in April/May when the snow of the mountain smelt and the mass of water run through the groove down to the ground plateau where people live...it is not the same every year cause the water flow always find their new way...when it rained in addition...the mass of water is not to underestimate...the samll dam fall,rebuild and fall again set the damage whereelse...last year,the dig a big flow way look like a long lake down to the fresh water sea...the protest is enormous cause the people ,who their land affected...feel they lost something...the citiy has to pay them a cheap price to the whole utility of the future..
How it looks like,let me visit Austria again..I will :twisted: take a photo this time..herr,herr
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #139 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 19:37:19 »

Pause!
nn.
บันทึกการเข้า


suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #140 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 20:00:55 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
Pause!
nn.

หนุงหนิง รู้จัก "โจ้ วง pause" ด้วยเหรอ
โจ้ เป็นคนอุทัยธานี บ้านเดียวกับพี่ป๋อง
โจ้ ร้องเพลงเพราะมาก ขนาด วิยะดา โกมารกุล ณ. นคร ยอมรับ และจ้างไปร้องประจำที่ห้องอาหารของเธอ
โจ้ มีความเป็นศิลปินเต็มตัวเกินไป จึงทนสู้กับชีวิตที่ผิดหวังไม่ได้ จึงฆ่าตัวตายไปแล้ว
เพลงของ "โจ้ วง pause" มีไพเราะหลายเพลง
แต่ที่พี่ป๋องร้องได้คือเพลง "ความลับ" มีโอกาสจะร้องให้ฟัง
โจ้ไม่ได้เป็นชาวจุฬาแต่อย่างใดหรอก
พี่ป๋องไม่รู้จะโพสท์สาระอะไรก็ชักเรือให้ใบเสียไปอย่างนั้นแหละ
บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #141 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 20:08:57 »

P.Pong ka,
I found it...no problem!
I do enjoy so much... your methode..just give me thai word for copy and paste...wow!
Voila!
nn.

ps.why does he has to commit suicide??is he a looser,give up??If I were him,I will kill someone else first!!
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #142 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 20:19:31 »

อ้างจาก: "suriya2513"
หนุงหนิง รู้จัก "โจ้ วง pause" ด้วยเหรอ
โจ้ เป็นคนอุทัยธานี บ้านเดียวกับพี่ป๋อง โจ้ ร้องเพลงเพราะมาก ขนาด วิยะดา โกมารกุล ณ. นคร ยอมรับ และจ้างไปร้องประจำที่ห้องอาหารของเธอ โจ้ มีความเป็นศิลปินเต็มตัวเกินไป จึงทนสู้กับชีวิตที่ผิดหวังไม่ได้ จึงฆ่าตัวตายไปแล้ว เพลงของ "โจ้ วง pause" มีไพเราะหลายเพลง แต่ที่พี่ป๋องร้องได้คือเพลง "ความลับ" มีโอกาสจะร้องให้ฟังโจ้ไม่ได้เป็นชาวจุฬาแต่อย่างใดหรอก พี่ป๋องไม่รู้จะโพสท์สาระอะไรก็ชักเรือให้ใบเสียไปอย่างนั้นแหละ

P.Pong ka,
I don't know him!I seldom hear thai song last 13-14 years."pause" mean for me" make a break"to work out post of P.Sing I need to think..it is a pleasure I got your post..so that I can be deviated...not to concentrate those topic all the time...and can think of this young man.
Jo must be a really sensitive(that why he likes to be an artist)one.sensitive person is sometimes dangerous cause it can hurt that person easily.whatever happen around him...if he is not ability to work out,it will feed him!
What a pity!
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #143 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 20:25:25 »

P.Pong ka,
 
อ้างถึง   
ขนาด วิยะดา โกมารกุล ณ. นคร ยอมรับ และจ้างไปร้องประจำที่ห้องอาหารของเธอ

who is she??is she a wellknown singer from the past...if yes,I remember her surname with"Naa Ayuthaya"!!!
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #144 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 22:40:39 »

อ้างจาก: "suriya2513"

สามารถ copy ออกมาพิมพ์ ไปส่งอาจารย์เป็นภาคนินพธ์ได้เลยนะเนี่ย...ได้ A sure...

kaaaa P.Pong ka..if only น้ำท้วม=น้ำท่วม...otherwise a lot of minus points of "precision"!!
Excuse me P.Manop...she concentrates and very very alerts to your text ka.
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #145 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 22:53:45 »

P.Manop ka,
I again have a question for part 4!
1.How does the  กรมชล work their dam schedule??
when to open and let it flow down/out?when not?
I know it is a silly question but I just link it together to what you mentioned...ภายหลังที่พายุก่อตัวเราสามารถที่จะเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนได้ทันเพราะมีเวลามากกว่า 7 วัน ครับ น้ำใช้เวลาเดินทางจากเขื่อนชัยนาทลงทะเลประมาณสามวันครับ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำอย่างเดียวครับ แต่กรมชลไม่ทำ หรือ ทำแต่ไม่ให้ความสำคัญครับ
2.Should กรมชล coordinate closely to Meteorology authority??
3.Is this flooding cause of their wrong calculation??
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #146 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 23:08:39 »

 
อ้างถึง   
แก้มลิงตามที่กรมชลประทานเสนอ ต้องเวรคืนที่ดินภาคกลางตอนล่างมากกว่าแสนไร่ ต้องเสีนเนื้อที่เพราะปลูกทั้งหมด และตามความคิดผมได้ผลไม่ถึง 50% เพราะปัจจุบันแก้มลิงที่กรมชลประทานทำไว้ฝั่งธนบุรีสองแห่งก็ไม่ค่อยได้ผล เป็นที่พักผ่อน ตกปลา แข่งเรือ มากกว่าครับ

Is that a wall near the shore?
Is that  an area both sides of the river?
Is that a support cement along sides the river?
or is it an empty area for flooding in monsoon season??

repeat my question of part 2...what is"แก้มลิง"??
nn.(แก้มลิง)
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #147 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 23:40:41 »

P.Manop ka,
part 5 the whole text...should not be stored under the drawer for the next century but has to be set down into a reality...your commentation/suggestion is worth as side line advision for the person,who has authorized.
Is there any possibility to let it out to:
1.the palace,if the palace has other problem then
2.กรมชล!!if กรมชล ignores,cause it is a politic play any role behind then
3.Bangkok Metropolist department..if they said,it is not their responsible
4.politician...any party,most of all,the one who ambition enough to fight!for his election or for his successful..does not matter...he should have big mouth enough to ...shout!
5.I need time to think.
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #148 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 23:51:35 »

P.Manop ka,
if you are a german,who works in a company...you will get any award for "commentation wanted" competition!!
They announce any collecting idea..a good idea from their employee every level from down to up and may be up to bottom!
The idea,which has been chosen and set  it worked...they will give money ..I think money!! for that person,who his idea make their job easier.
Self my husband used to get money..it is not an award but it is his job to find out something in laboratory,he applied it to the committee of the company to"patent" it(register)...one day there are a call from any other company would like to use his ..his...finding...things(I don't know how it call!!)the company get may be 10,000 Euro as a right reserved...he get from the company 5,000 Euro for example...
nn.
บันทึกการเข้า


suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #149 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2550, 23:57:02 »

You can copy and paste วิยะดา โกมารกุล onto the search engine panel and then some URL similar to the one shown below can be found as you have found "ความลับ" song with this method.


http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2+%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5&rls=com.microsoft:en-us&ie=UTF-8&oe=UTF-8&startIndex=&startPage=1
บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 9  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><