เอาล่ะ (อะแฮ่ม)
ขอบคุณมากสำหรับการเริ่มต้นเปิดใจ ไอ้น้องกอล์ฟ พี่เข้าใจๆ และพี่ก็อยากได้อย่างที่น้องอยากได้เหมือนกัน
พี่เข้าใจว่างานคืนสู่เหย้าหอพัก เป็นงานหญ่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยมาก ที่ชาวหอของเราตั้งตารอคอยมาเป็นปีๆ และหวังว่าจะได้กลับมาพบบรรยากาศเก่าๆ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ได้สังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้กันสนุกสนาน
แต่ตอนนี้ที่หลายๆ อย่างยังไม่ถูกใจทุกคน และมีความเห็นไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเรากำลังให้ความสำคัญกันคนละประเด็นอยู่หรือเปล่า
สำหรับพี่ๆ ทีมงาน และพี่ๆ รุ่นเลขน้อย (แต่อายุเยอะ...คำนี้พี่ชาร์ปเป็นคนเริ่มนะคะ) อาจจะคิดถึงบรรยากาศการเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างที่พี่ปุกกี้บอกว่า
เห็นด้วยค่ะ การแสดงบนเวที ดนตรี หรือแสงสีเสียงอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญนักในวันนั้น เพราะทุกคนย่อมอยากเจอเพื่อน ถามไถ่ทุกข์สุขรุ่นพี่รุ่นน้อง คุยกันเม้าธ์กันให้หนำใจมากกว่า นั่นเป็นความสุขอย่างหนึ่งในงานคืนสู่เหย้า ถูกต้องทุกประการค่ะ
แต่พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ รุ่นเลขเยอะ (แต่อายุน้อย
) รวมทั้งเอ๋อด้วย อาจจมองเผื่อไปอีกประเด็นหนึ่ง (ซึ่งพี่ๆ ทีมงานเองก็อาจคำนึงถึง แต่ไม่ได้กล่าวออกมา...ด้วยความเคารพ)
สำหรับพวกเราแล้ว งานคืนสู่เหย้าฯ ไม่ใช่เพียงการพบปะสังสรรค์กันเท่านั้น แต่มันเป็นการแสดงให้
นิสิตปัจจุบัน ย้ำนะคะ ว่านิสิตปัจจุปัน! ได้เห็นถึงความผูกพันอย่างเหนียวแน่นของชาวหอ โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆ (อย่างพี่อู่ทอง เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ที่น้องๆ จะได้เห็นว่า พี่มีใจให้กับหอพักมากขนาดไหน สิ่งที่พี่เชียร์ย้ำนักหนาในห้องเชียร์ มันเป็นจริงมากเพียงใด) ได้เห็นความเอื้ออารีของพี่ๆ ที่มีให้แก่รุ่นน้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งนิสิตปัจจุบันอย่างพวกเขา ที่แม้จะห่างกันหลายรุ่น บางทีไม่ทันกัน ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำไป แต่ทันทีที่พี่ๆ รู้ว่า "เฮ้ย นี่น้องหอ" "เฮ้ย นี่น้องชมรม" ก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
สิ่งเหล่านี้ต่างหากล่ะคะ ที่พวกเราเห็นว่าสำคัญไม่แพ้กัน และเราต้องการให้น้องๆ ได้เห็น อย่างที่พวกเราได้เห็นในงานคืนสู่เหย้าฯ ในทุกครั้งที่พวกเรามีส่วนร่วมในฐานะนิสิตปัจจุบัน
ทุกวันนี้ หอพักก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับอพาร์ตเมนท์ธรรมดาๆ เพราะความแน่นแฟ้นเหนียวแน่นของนิสิตหอพักเสื่อมคลายไปทุกที งานคืนสู่เหย้าฯ น่าจะเป็นสิ่งหนึ่ง (หรืออาจจะเป็นสิ่งเดียว) ที่ยังคงทำให้น้องๆ ปัจจุบันได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของการอยู่หอ ทำให้เห็นว่าการเป็นเด็กหอโชคดีเพียงใด
สิ่งเหล่านี้ น้องๆ จะไม่มีโอกาสได้เห็นเลย หากงานคืนสู่เหย้าฯ ไปจัดที่ศาลาพระเกี้ยว (หรือแม้แต่น้องๆ ชมรมต่างๆ ก็ไม่มีโอกาสได้ร่วมแสดง) ที่จำกัดจำนวน staff ช่วยงาน (ปีก่อน มีน้องปัจจุบันมาร่วมน้อยมาก ยกเว้นน้องแสงเสียง ที่พี่ๆ มันคงสอนมาดี ว่างานนี้ได้ตังค์ชัวร์) แม้จะมีงานทำบุญที่หอพักช่วงเช้า ก็คงมีน้องๆ น้อยมาก ที่จะกล้าเดินเข้ามาร่วมงาน
ดังนั้น
การจัดงานคืนสู่เหย้าหอพัก ที่ หอพัก จึงสำคัญอย่างมาก
ไม่เพียงแต่รุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะได้หวนกลับบ้าน ได้พบกับบรรยากาศอบอุ่นเหมือนเดิม แต่น้องๆ ของเรายังได้เห็นความผูกพันของชาวหอที่พวกเราภาคภูมิใจ และ (หวังว่า) เขาเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของชาวหอ และกลับมาร่วมงานเมื่อเขาได้จบไปแล้ว เพื่อแสดงความรัก ความผูกพัน และความเอื้อเฟื้อ ให้กับรุ่นน้องต่อๆ ไป เหมือนกับที่เอ๋อตั้งใจเอาไว้ เมื่อตอนที่ยังใส่ชุดนิสิตคอยช่วยงานพี่ๆ อย่างเต็มใจ
แต่...ด้วยความเข้าใจอย่างเต็มเปี่ยม
งานคืนสู่เหย้าฯ ใกล้เข้ามาทุกที จะเปลี่ยนแปลงอะไรตอนนี้อาจจะไม่ทันการ เพราะการเตรียมงานก็น่าจะลุล่วงไปมากแล้ว
ดังนั้น สิ่งที่อยากให้พี่ๆ ทีมผู้จัดงาน ได้เข้าใจก็คือ ทั้งหมดที่เอ๋อได้กล่าวมาข้างต้น จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรหรือไม่ ย่อมเป็นสิทธิขาดของพี่ๆ (และขอเสนอนิดนึงว่า การจัดงานครั้งหน้า อาจจะต้องมีงานหยั่งเสียงในเวปล่วงหน้าน่ะค่ะ)สำหรับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ รุ่นหลังที่อาจยังไม่ถูกใจกับรูปแบบงานในปีนี้ ก็ขอให้จำไว้ด้วยว่า ในงานจัดงานครั้งหน้า ขอให้ไปร่วมประชุมและมีส่วนร่วมกับการวางแผนงานแต่แรกเริ่ม จะได้ร่วมกันวางแผนรูปแบบงานให้เหมาะสม เพราะการมาเสนออะไรในตอนที่ผู้จัดงานเขาทำไปล่วงหน้าแล้ว ก็ออกจะเสียมารยาทไปซักหน่อย (รวมทั้งตัวอิฉันเองด้วย เฮ่อๆ)
ด้วยความเคารพในระบบ SOTUS อย่างเต็มเปี่ยม