ppornson
|
|
« เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 19:07:45 » |
|
ขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่..จะได้ไม่ซ้ำซาก..
เพราะผมเห็นว่า..บางครั้ง..มีหลายคนอยากถามเรื่องโน้น..เรื่องนี้..แต่ไม่รู้จะไป post ไว้ที่ไหน..
เราชาวหอ..หลายอาชีพ..หลายความรู้..น่าจะช่วยๆกันหาคำตอบให้ได้..
ขออนุญาตแต่งตั้งตัวเองดูแลกระทู้นี้เรื่องการถามและตอบนะ..อย่าถามเรื่อยๆแล้วไม่มีใครตอบล่ะ..
อ้อ..ถามแบบข้อมูลจริงๆนะ..ถ้าจะถามกวนตรีน..ไปกระทู้ซ้อมมุกแล้วกันเด้อ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 19:09:35 » |
|
เอาข้อแรกครับ..สงสัยมานานจริงๆ..
ทำไมไฟถอยหลังรถ altis ถึงมีข้างซ้ายข้างเดียว..แล้วข้างขวาเป็นสีแดงๆแปะไว้อ่ะ..เวลาติด..มันก็ติดข้างเดียวด้วยอีก..อันนี้อยากรู้มานานแล้ว..ใครรู้วานบอก..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Joker_rcu79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กันยายน 2550, 11:34:12 » |
|
ผมไม่รู้.........อ้าว มีเรื่องแล้ว... ในความเห็น...ผมว่ามันเป็นดีไซด์มากกว่านะเพื่อนโต้ง :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 กันยายน 2550, 12:48:17 » |
|
เห็นใคร เค้าว่า เกี่ยวกับกฏหมายในยุโรป ที่เกี่ยวๆกับไฟตัดหมอกหลังเนี่ยแหละ พวก volk ก็เป็นนิ
ช่างหาคำตอบ แต่ไม่รู้จะถูกไหม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 กันยายน 2550, 18:33:17 » |
|
พี่ไข่ถูกต้องครับ... และเป็นเรื่อง design ด้วย สังเกตให้ดีจะสว่างเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยด้วยคับ
คนรู้เยอะ รู้จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 กันยายน 2550, 20:01:44 » |
|
เฮ้ย..มันไฟถอยหลังไม่ใช่เหรอ..ไม่ใช่ไฟตัดหมอก..แล้วมันก็ผลิตในประเทศด้วยนิ..
แล้วทำไมยี่ห้ออื่นเค้าถึงไม่ทำกันน่ะ..ถ้าเรื่องกฎหมาย..มันก็ต้องกฎหมายในประเทศไม่ใช่เหรอ..
ช่างสงสัย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 01:15:11 » |
|
มั่วเปล่า หลิม ไม่เห็น Ford Focus เป็นเลย :lol: ... แต่ถ้าไฟถอยหลัง สว่าง ๆ นี้ ยิ่งดีนะ ถอยหลังจะได้เห็นชัด ๆ หน่อย
ส่วนไฟตัดหมอกหลังน่าจะเป็น ไอ้ไฟ แดง ๆ แถว ๆ กันชนหลังน่ะ ขับตามทีไร แสบตาทุกที (ฝนก็ไม่ตก หมอกก้ไม่ลง ดันเปิดอยู่ได้ :evil: )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 10:23:28 » |
|
Yaris ก็เป็นด้วยเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 17:15:25 » |
|
มั่วเปล่า หลิม ไม่เห็น Ford Focus เป็นเลย :lol: ... แต่ถ้าไฟถอยหลัง สว่าง ๆ นี้ ยิ่งดีนะ ถอยหลังจะได้เห็นชัด ๆ หน่อย
ส่วนไฟตัดหมอกหลังน่าจะเป็น ไอ้ไฟ แดง ๆ แถว ๆ กันชนหลังน่ะ ขับตามทีไร แสบตาทุกที (ฝนก็ไม่ตก หมอกก้ไม่ลง ดันเปิดอยู่ได้ :evil: ) เนื่องจากคันที่ ชาร์ป ขับเป็นรถ แถบ อีสาน ตอนบน มิใช่ยุโรป เลยไม่มี อิอิอิ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 17:52:58 » |
|
มั่วเปล่า หลิม ไม่เห็น Ford Focus เป็นเลย :lol: ... แต่ถ้าไฟถอยหลัง สว่าง ๆ นี้ ยิ่งดีนะ ถอยหลังจะได้เห็นชัด ๆ หน่อย
ส่วนไฟตัดหมอกหลังน่าจะเป็น ไอ้ไฟ แดง ๆ แถว ๆ กันชนหลังน่ะ ขับตามทีไร แสบตาทุกที (ฝนก็ไม่ตก หมอกก้ไม่ลง ดันเปิดอยู่ได้ :evil: ) เนื่องจากคันที่ ชาร์ป ขับเป็นรถ แถบ อีสาน ตอนบน มิใช่ยุโรป เลยไม่มี อิอิอิ :lol: ถ้าหาว่ากรูมั่ว วันหลังอย่าทะลึงโทรถามร้านอาหารกรูละ...กรูไม่บอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 01:22:01 » |
|
โอ๋ ... อย่าน้อยใจ ... เป็นแมว เชื่อง ๆ ยังขี้น้อยใจอีก หุ หุ
... ว่าง ๆ ไปหาร้านอะไรอร่อย กินกันอีกนะ ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 10:31:07 » |
|
โต้งๆ พวกข้างบน มัน นอกประเด็นอ่ะ หุๆๆ เออ...แต่น้องซ๊าป พาสาวผู้ใด ไปทานข้าวด้วยล่ะครับหุๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 18:52:41 » |
|
โอ๋ ... อย่าน้อยใจ ... เป็นแมว เชื่อง ๆ ยังขี้น้อยใจอีก หุ หุ
... ว่าง ๆ ไปหาร้านอะไรอร่อย กินกันอีกนะ ... กรูไปด้วย :oops:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
por-sim
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 19:10:03 » |
|
ถาม: พี่ ๆ คะ แวะเข้าไปโพสต์ในห้อง 43 บ้างได้มั้ยคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 09:06:00 » |
|
ถาม: พี่ ๆ คะ แวะเข้าไปโพสต์ในห้อง 43 บ้างได้มั้ยคะ ไปห้อง 43 แล้ว ก็ขับเลยไปอีกนิด ห้อง 45 ด้วยนะค่ะ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 09:08:54 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 17:13:56 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว เรื่องสัญญาณไฟจราจรเนี่ยะรู้จริงครับ ประวัติคืองี้...มีกรรมการที่จะขับรถไปตัดสินฟุตบอลทึ่ประเทศอังกฤษ..แต่ว่ารถติดมากเค้าก็เลยคิดสัญญาณไฟจราจรขึ้นมาเป็นไฟเขียว แดง ครับ สรุปต้นกำเนิดไฟจราจรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 20:05:23 » |
|
โอ้..ในที่สุด..กระทู้นี้ก็ให้ประโยชน์กับสังคมซะที..
ตกลงไฟเกียร์ถอยหลังกรูไม่มีใครรู้ใช่ป่ะ..ไปสังเกตุ LIMO น่ะ..ไฟข้างขวามันเป็นสีเหลืองน่ะ..ไม่รู้ว่าเวลาถอยมันจะติดรึเปล่า..
เอาไปซักคำถาม..อันนี้ข้องใจมานาน..
ทำไมเรียก ไหปลาร้า..ครับ..ใครรู้บ้าง..ทำไมต้องไหปลาร้า..เอาตรรกะอะไรมาจับก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..(ไอ้ที่อยู่ข้างๆหัวไหล่น่ะ..)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 20:31:22 » |
|
โอ้..ในที่สุด..กระทู้นี้ก็ให้ประโยชน์กับสังคมซะที..
ตกลงไฟเกียร์ถอยหลังกรูไม่มีใครรู้ใช่ป่ะ..ไปสังเกตุ LIMO น่ะ..ไฟข้างขวามันเป็นสีเหลืองน่ะ..ไม่รู้ว่าเวลาถอยมันจะติดรึเปล่า..
เอาไปซักคำถาม..อันนี้ข้องใจมานาน..
ทำไมเรียก ไหปลาร้า..ครับ..ใครรู้บ้าง..ทำไมต้องไหปลาร้า..เอาตรรกะอะไรมาจับก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..(ไอ้ที่อยู่ข้างๆหัวไหล่น่ะ..) เอ่อ ... หวังว่าทุกคนคงไม่นึกถึงผมเป้นอันดับแรกนะ ... พอดีที่บ้านผมเรียก ปลาแดก น่ะ ... ก็เลยไม่รู้จะตอบอย่าง แต่ถ้าจะให้มั่ว ๆ ปลาแดก น่ะ พอไหว ปลาแดก น่าจะมาจาก ปลาเก็บเอาไว้ แดก (กิน) น่ะ ... เรียก สั้น ๆ ก็เลยเป็น ปลาแดก คับ ... หุ หุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 21:47:26 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว เรื่องสัญญาณไฟจราจรเนี่ยะรู้จริงครับ ประวัติคืองี้...มีกรรมการที่จะขับรถไปตัดสินฟุตบอลทึ่ประเทศอังกฤษ..แต่ว่ารถติดมากเค้าก็เลยคิดสัญญาณไฟจราจรขึ้นมาเป็นไฟเขียว แดง ครับ สรุปต้นกำเนิดไฟจราจรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลครับ เอ๋..... ถ้าไฟเหลืองไฟแดงนะพอว่า เพราะกรรมการตัดสินฟุตบอลเขาใช้ใบเหลืองใบแดง แต่ใบเขียวไม่เคยเห็นนิพี่หลิม...มั่วป่าวเนี้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 21:58:11 » |
|
โอ้..ในที่สุด..กระทู้นี้ก็ให้ประโยชน์กับสังคมซะที..
ตกลงไฟเกียร์ถอยหลังกรูไม่มีใครรู้ใช่ป่ะ..ไปสังเกตุ LIMO น่ะ..ไฟข้างขวามันเป็นสีเหลืองน่ะ..ไม่รู้ว่าเวลาถอยมันจะติดรึเปล่า..
เอาไปซักคำถาม..อันนี้ข้องใจมานาน..
ทำไมเรียก ไหปลาร้า..ครับ..ใครรู้บ้าง..ทำไมต้องไหปลาร้า..เอาตรรกะอะไรมาจับก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..(ไอ้ที่อยู่ข้างๆหัวไหล่น่ะ..) ให้คนใต้วิเคราะห์นะค่ะ... เนื่องจากว่าสมัยก่อนคนอีสานทำปลาร้ากันเยอะ เวลาขนย้ายก็ต้องใช้การแบกขึ้นบ่า/ไหล่ เวลาจะแบกก็จะบอกว่า "เอาไหปลาร้าขึ้นบ่า" "เอาไหปลาร้าขึ้นไหล่" พอแบกเยอะๆเลยขี้เกียจพูด กลายเป็น "เอาไหปลาร้า" พูดกันบ่อยๆจนเป็นความเคยชิน กลายเป็นว่าเรียกบ่าว่าไหปลาร้า.........เหอะๆๆๆๆ อันนี้วิเคราะห์จากประสบการณ์ของคนที่อยู่ห่างไกลไหปลาร้านะค่ะ :lol: :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 10:29:58 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว เรื่องสัญญาณไฟจราจรเนี่ยะรู้จริงครับ ประวัติคืองี้...มีกรรมการที่จะขับรถไปตัดสินฟุตบอลทึ่ประเทศอังกฤษ..แต่ว่ารถติดมากเค้าก็เลยคิดสัญญาณไฟจราจรขึ้นมาเป็นไฟเขียว แดง ครับ สรุปต้นกำเนิดไฟจราจรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลครับ เอ๋..... ถ้าไฟเหลืองไฟแดงนะพอว่า เพราะกรรมการตัดสินฟุตบอลเขาใช้ใบเหลืองใบแดง แต่ใบเขียวไม่เคยเห็นนิพี่หลิม...มั่วป่าวเนี้ยต่อละกัน ไม่มีมั่วเด็ดขาดครับ... เพราะว่าเหลืองกับแดงใกล้เคียงกัน เขียวนี่แหละ ปลอดภัยสบายตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 11:40:01 » |
|
งี๊แสดงว่า ถ้าไฟเหลืองสองทีแล้วค่อยแดงเนี่ย หมายความว่า ให้ไปได้ก่อนหนึ่งคัน แล้วค่อยหยุด แต่ถ้าแดงทันที ไม่มีเหลือง ต้องหยุดทันที
ตาแคม :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 13:42:48 » |
|
งี๊แสดงว่า ถ้าไฟเหลืองสองทีแล้วค่อยแดงเนี่ย หมายความว่า ให้ไปได้ก่อนหนึ่งคัน แล้วค่อยหยุด แต่ถ้าแดงทันที ไม่มีเหลือง ต้องหยุดทันที
ตาแคม :lol: แสดงว่า ตาแคมชอบ ผ่าไฟเหลือง :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 15:00:36 » |
|
กรุณาอย่าแตกประเด็น..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 19:38:29 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว เรื่องสัญญาณไฟจราจรเนี่ยะรู้จริงครับ ประวัติคืองี้...มีกรรมการที่จะขับรถไปตัดสินฟุตบอลทึ่ประเทศอังกฤษ..แต่ว่ารถติดมากเค้าก็เลยคิดสัญญาณไฟจราจรขึ้นมาเป็นไฟเขียว แดง ครับ สรุปต้นกำเนิดไฟจราจรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลครับ เอ๋..... ถ้าไฟเหลืองไฟแดงนะพอว่า เพราะกรรมการตัดสินฟุตบอลเขาใช้ใบเหลืองใบแดง แต่ใบเขียวไม่เคยเห็นนิพี่หลิม...มั่วป่าวเนี้ยต่อละกัน ไม่มีมั่วเด็ดขาดครับ... เพราะว่าเหลืองกับแดงใกล้เคียงกัน เขียวนี่แหละ ปลอดภัยสบายตัว แล้วสรุปว่ายังไงอะ งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :?: :?: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 19:53:36 » |
|
มันมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องแม่สีมั๊ย..
เพราะว่ามันกลายเป็นสัญลักษณ์ไปว่า..แดงคือห้าม เหลืองคือเตือน..มีอันตราย
แล้วก็เขียวมันก็ให้ความรู้สึกว่าปลอดภัยน่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 00:24:42 » |
|
ว่างๆเลยหามาฝาก เรื่อง ของ ไฟจราจร or traffic light มีครั้งแรกในปี 1868 ที่ลอนดอน,ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ก่อนสมัยที่จะมีรถยนต์ซะอีก เริ่มต้นมีแค่สองสีคือ แดง=หยุด , เขียว=ระวัง โดยใช้โคมไฟเป็นสัญลักษณ์ อ้างอิง www.ideafinder.com/history/inventions/trafficlightเท่าทีหาดู เรื่องสีของมัน คงเป็น เรื่องของการใช้สีเชิงสัญลักษณ์ ลองหาอ่านดูสนุกดี เลือกการเลือกใช้สัญลักษณ์น่ะ มันเป็นพื้นฐานของการทำสื่อโฆษณาด้วย ชอบๆ หามาเยอะเลย คำถาม จาก คนชอบตอบ (ถูกไม่ถูก ไม่รู้ แต่ขอตอบ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 17:58:33 » |
|
โอ้..ผ่านไปได้ 1 ข้อ..แต่รถอัลติสกับไหปลาร้ากรูเนี่ยะ..ท่าทางจะยาก..
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
อยากถามความเห็น..ว่าคิดยังไงที่เค้าถึงแต่งตัวแบบนี้ไปทำงานทุกวัน..ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายก็จะมอง..อยากเด่น..หรือว่า อยากโชว์ซะเฉยๆ..
ถามความเห็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายนี่ล่ะ..
อ้อ..ในบอร์ดนี้มีใครไม่ใส่กางเกงในไปทำงานมั๊ยครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 20:52:33 » |
|
พี่โต้ง แสดงว่าที่ผมตอบ ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการล่ะสิเนี่ย ... :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 22:02:14 » |
|
คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ความชอบก็แตกต่างกัน การแต่งตัวก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวเรา แต่ละคนชอบแบบไหนก็จะแสดงออกมาแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเขาก็คงชอบแบบนั้น เปิดนิดๆหน่อยๆ ให้คนอื่นได้มอง....หรือผู้ชายไม่ชอบมองละค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
audit
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 136
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 11:13:43 » |
|
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
มิน่าพักหลังๆนี้ พี่โต้งมองไม่ค่อยเห็นแอนน์ก่อน เพราะมัวไปมองแบบนี้นี่เอง หุหุ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 17:00:56 » |
|
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
มิน่าพักหลังๆนี้ พี่โต้งมองไม่ค่อยเห็นแอนน์ก่อน เพราะมัวไปมองแบบนี้นี่เอง หุหุ :wink: งั้นก็สรุปว่าน้องแอน...ไม่อยู่ในขอบเขตที่เราพูดถึงกันอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 23:37:27 » |
|
^ ^ ^
ไม่ Get ว่ะหลิม ... ขอให้ช่วยขยายความหน่อยสิ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 00:58:47 » |
|
yungying ตอบเมื่อ: Wed Sep 26, 2007 10:02 pm เรื่อง:
-------------------------------------------------------------------------------- คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ความชอบก็แตกต่างกัน การแต่งตัวก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวเรา แต่ละคนชอบแบบไหนก็จะแสดงออกมาแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเขาก็คงชอบแบบนั้น เปิดนิดๆหน่อยๆ ให้คนอื่นได้มอง....หรือผู้ชายไม่ชอบมองละค่ะ
:oops: ช๊อบชอบ.....เป็นที่สู๊ด......ซี๊ด...มองแล้วรู้สึกดีนะ....
....แต่ถ้าแฟนตัวเองนะ...ห้าม...หุๆๆ...ไม่ได้...เด็ดขาด....
...ส่วนคนอื่นไม่ว่าอะไรตามสบาย.....อิๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 11:09:23 » |
|
ถ้าแต่งตัวดูดี ก็ชอบมองนะครับ มองว่าแต่งตัวดีจัง พอดีชอบผู้หญิงแต่งตัวเนี๊ยบๆ ครับ แต่ถ้าแต่งแบบ x ขาดใจ แบบชวนให้มองอันนี้กลัวอ่ะครับ ไม่กล้ามองอ่ะ บางทีไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นผู้หญิง หรือว่า ชายอ่ะ เหอๆๆ กล้าเกิน ** โต้งเจอคนนี้บ่อยเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 12:49:50 » |
|
ถึงน้องชาร์ป..แบบว่าคำตอบข้อไหนอ่ะ..เพราะรู้สึกคำตอบทั้งไฟรถกับไหปลาร้า..มันยังดูขัดๆ..
ส่วนเรื่องแต่งตัวน่ะ..คือผมชอบคิดเป็นประเด็นต่อนิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง..
แบบว่า..เออ..เค้าทำงานอะไร..มีแฟนรึยัง..อะไรทำนองเนี่ยะ..
เพราะว่า..เค้าก็รู้อยู่แล้วใช่ป่ะ..ว่าแต่งแบบนี้ผู้ชายจะมอง..แบบว่าถ้ามีชุดแบบนี้บ้าง..ก็คงจะไม่แปลกใจ..แต่มันเป็นทุกชุดนี่สิ..มันก็เลยอดคิดไม่ได้นิดหน่อย..ว่าเค้าก็ต้องรู้ไง..ถึงแต่งตัวแบบนี้..
ก็เลยคิดต่อ..ว่ารู้..แล้วยังไง..แต่งทุกชุด..ดันเยอะๆเพราะอะไร..แค่นั้นล่ะ..ถามความเห็นเฉยๆ..
ส่วนน้องออดิท..ไม่อยู่ในประเด็นนี้อยู่แล้ว..เพราะคุณสมบัติไม่ผ่าน...หุ หุ หุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 13:24:42 » |
|
:oops: ข้าเจ้าแนะนำทุกท่าน.....ไปที่....รพ.ยันฮี..แล้วจะรู้ว่าสั้นๆ...สวยๆ..ขาวๆ....เอ็กซ์ๆ
...เป็นฉันใด......ไปมาแล้ว......หุๆๆๆ.....ดีมากๆๆๆ..........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 13:52:21 » |
|
อารายสั้นๆ อ่ะ น้องป้อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 14:13:57 » |
|
:oops: ข้าเจ้าแนะนำทุกท่าน.....ไปที่....รพ.ยันฮี..แล้วจะรู้ว่าสั้นๆ...สวยๆ..ขาวๆ....เอ็กซ์ๆ
...เป็นฉันใด......ไปมาแล้ว......หุๆๆๆ.....ดีมากๆๆๆ.......... :shock: แล้วน้องป้อ....ไปทำอาราย....ที่รพ.นั่นละค๊า...คุณพี่สงสัย...อิ๊อิ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 14:25:26 » |
|
ที่ ppornson ตั้งประเด็นเกี่ยวกับการแต่งตัวของสาวคนนั้น....ดูเข้าที..ดีทีเทียว..เอ๊ะยังไง
ขนาดเราเป็นผู้หญิง...เวลาขึ้นรถไฟฟ้าหรือไปเดินสวนกับผู้หญิงคนอื่น...ที่แต่งตัวดูดี...มีสไตล์
นี่เราก็มองเหมือนกัน...บางทีก็คิดต่อเหมือนกันว่าแต่งตัวแบบนี้.ทำงานแบบไหนหว่า...ดูดีจัง
มีฟงมีแฟนนี่ยังไม่ค่อยจะคิดต่อนะ...555 เรื่องการแต่งตัวของผู้หญิงนี่...มันเป็นรสนิยมส่วนตัวล่ะ...
แล้วแต่อารมณ์ด้วยว่าจะแต่งแบบไหน...แฟชั่นหรือกระแส...สำหรับบางคนก็มีส่วน....แต่ที่สำคัญคือ...กาละเทศะและการให้เกียรติต่อสถานที่และบุคคล
ที่จะไปพบปะด้วย...นี่คือสิ่งที่น่าจะยึดถือและนำปฏิบัติ....ในการแต่งกายเรื่องสาวคนนั้น...จะบอกว่าไงดี...เธออาจจะต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน..ของเธอ.. ก็ได้...ใครจะไปรู้...นอกจากตัวเธอเอง :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 18:07:53 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 20:03:37 » |
|
พี่แนะนำให้ ไปตามค่ายมวย น่าจะเจอ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 13:23:27 » |
|
แล้วน้องป้อ....ไปทำอาราย....ที่รพ.นั่นละค๊า...คุณพี่สงสัย...อิ๊อิ
.. :oops: พี่แอน....เป็นความลับเค้าไม่บอกกัน...แต่แนะนำได้......หุๆๆ...
....ได้แต่ผู้ชายนะ...อิๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 18:29:33 » |
|
คิดยังไงกับน้องๆไม่ใส่กกน..
..ปัญหาหนักของสังคม..
..เรื่องของเค้า..ใส่หรือไม่ใส่เราก็ไม่รู้ เกี่ยวอะไรด้วย..
..เดี๋ยวมันก็หายไปเอง..เป็นแฟชั่น..
..กรูชอบว่ะ..หุ หุ :lol:
เอายังไงดี..สำหรับผม..ผมว่าเดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง..ไม่ถึงกับปัญหาหนักสังคม..แต่ก็บอกถึงสติปัญญาของเด็กไทยที่น่าจะมีวุฒิภาวะแย่ลงทุกที..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 22:17:37 » |
|
พี่โต้งนี้ช่างขี้สงสัยจริง ๆ เลย ... หุ หุ
แถมสงสัย แต่เรื่องของผู้หญิง ซะด้วย (ดีแล้วล่ะครับ ที่ไม่สงสัยเรื่องผู้ชาย )
...
สองเรื่องที่พี่โต้งสงสัยจนกลายเป็นประเด็นทางสังคมนั้น อาจจะบอกได้ว่า ... จริง ๆ แล้ว บางครั้ง ผู้หญิง ก็กล้ามากกว่าผู้ชาย .. เพราะ โดยสัญชาตญาณ แล้ว เขาต้องเด่น ดูดี (กว่า คนอื่น ๆ ) ถึงจะรู้สึกดี
การกระทำบางอย่าง มันก็ดูรุนแรง เกิน กว่าระดับสังคมในขณะนั้นยอมรับได้ แต่ ผู้หญิงคนั้น ๆ เขาคงให้น้ำหนัก เรื่อง ความเด่นของตัวเอง ความน่าสนใจของตัวเอง มากกว่า สังคมเท่านั้นเอง ...
(ไม่แน่ อีก 20 ปี อาจจะ ฮิต จนเป็น แฟชั่น ที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำก็ได้ ใครเล่าจะรู้ )
หุ หุ ไปเรื่องอื่นดีกว่าครับ เดี๋ยวตาแคมมาตอบ จะแตกประเด็นไปใหญ่ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 01:41:18 » |
|
พี่แนะนำให้ ไปตามค่ายมวย น่าจะเจอ :lol: อืม..น่าสนใจค่ะ แต่เปลี่ยนจากค่ายมวยเป็นค่ายทหารน่าจะดีกว่าไมพี่...หุหุหุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 11:58:48 » |
|
:oops: กับไอ้เรื่องใส่ไม่ใส่ กกน....นี้ไม่มีความคิดเห็นครับ....แต่...
....ลองอ่านนี่ดูนะครับ.....
self-esteem
คำนี้ยังไม่มีคำแปลสำหรับภาษาไทย หรืออาจจะมีแต่ผู้เขียนไม่ทราบ นักการศึกษา ผู้ปกครอง นักธุรกิจ ตลอดจนรัฐบาลกำลังมุ่งสร้างประชาชนให้มี self-esteemสูง ซึ่งหมายถึง บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มีความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในผลสำเร็จของงาน บุคคลซึ่งมีความคิดริเริ่มและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาและรับผิดชอบปัญหาที่จะเกิดตามมา เป็นคนที่คนอื่นรักและรักคนอื่น เป็นบุคคลที่สามารถควบคุมตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงานโดยสรุปแล้วคนที่มี self-esteem สูงจะหมายถึงคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบสูงและซื่อสัตย์
ตรงกันข้ามกับคนที่มี self-esteem ต่ำหรือพฤติกรรมป้องกัน (defensive)คนกลุ่มนี้มักจะต้องการพิสูจญ์ตัวเองหรือวิจารณ์คนอื่น ใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง บางคนอาจจะหยิ่งหรือดูถูกผู้อื่น มักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีคุณค่าหรือความสามารถหรือการยอมรับ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะทำอะไรเนื่องจากกลัวความล้มเหลว คนกลุ่มนี้มักจะวิจารณ์คนอื่นมมากกว่าที่จะกระทำด้วยตัวเอง และยังพบอีกว่าคนกลุ่มนี้มักจะชอบความรุนแรง ติดสุรา ยาเสพติด มีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัย
คนที่มี self-esteem จะต้องมีความสมดุลของความต้องการผลสำเร็จหรืออำนาจ และความรู้จักคุณค่า ความมีเกียรติและความซื่อสัตย์ ซึ่งอาจจะหมายถึงจิตใต้สำนึกและพฤติกรรมนั่นเอง จิตใต้สำนึกของคนที่มี self-esteem จะต้องรู้จักบาป บุญคุณโทษ รู้สิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ความสื่อสัตย์ ความมีเกียรติ ส่วนพฤติกรรมของ self-esteem มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา เชื่อมั่นในความคิดและความสามารถของตัวเอง สามารถเลือกวิธีการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากสูญเสียความสมดุลก็จะทำให้เกิดปัญหา เช่นหากจิตใต้สำนึกไม่แข็งแรงหรือสมบูรณ์พอก็จะทำให้คนเกิดพฤติกรรมเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป หยิ่งยโส ดูถูกคนอื่น หากแต่มีแต่จิตใต้สำนึกที่ดีแต่ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะประสบผลสำเร็จชีวิตก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้นบุคคลที่ชอบพูดถึงแต่ตัวเอง อวดดี ดูถูกคนอื่น คนพาล ชอบเอาเปรียบคนอื่นคนที่กล่าวโทษคนอื่นไม่ถือว่ามี self-esteem
คนที่มี self-esteem มักจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
มองโลกในแง่ดีเสมอ มองวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมีมืดต้องมีสว่าง มีร้ายต้องมีดี ขาวคู่กับดำ ประเมินตัวเราให้มีคุณค่าอยู่เสมอ เชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง มองว่าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเราสามารถเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าตัวเองไม่มีความมั่นใจจะไม่มีความหวัง ไม่มีพลังในการต่อสู้ในที่สุดจะเป็นคนที่ซึมเศร้า
การสร้างความมั่นใจในตัวเอง self-esteem
ความเชื่อมั่นตนเองและรู้คุณค่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต ลำพังความคิดอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ ความมั่นใจจะเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเราตาย ความมั่นใจจะกระทบต่อการตัดสินใจดังนั้นทุกคนความสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างของความมั่นใจเช่นหากคนจะเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องมั่นใจในตัวเองหรือมีคนอื่นเห็นถึงความสามารถของเขาที่จะทำให้ให้สำเร็จ เมื่อมีความผิดหวังหรือความเครียดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดี
ครอบครัวซึ่งมีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองสูงความมั่นใจของลูกก็จะสูง การพัฒนาความมั่นใจของเด็กจะเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กได้เล่นกับเพื่อน ผู้ที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ดื่มสุราหรือติดยาเสพติด เด็กหญิงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ประพฤติผิดประเพณี ความมั่นใจเป็นลักษณะของแต่ละคนไม่สามารถที่จะให้กันได้แต่สามารถฝึกฝนได้ ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่มีความมั่นใจและมีความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดริเริ่มใหม่ๆการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นเพื่อให้เข้าใจเหมือนกัน คนเช่นนี้จึงจะอยู่รอดในสังคม
เรามาเสริมสร้าง self-esteem เพื่อที่จะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูง Peak Performance
หาเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเพื่อพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นการนั่งสมาธิ หรือการพิจารณาตัวเอง หรือ่านหนังสือที่สร้างความเชื่อมั่น หรือฟังเทปคำสอนต่างๆ การเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นในและประสบผลสำเร็จ
มองปัญหาและมองโลกในแง่ดี เลิกบ่นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ลองหากระดาษสักแผ่นจดความคิดที่ดีๆเกี่ยวกับตัวเองไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ไม่ดีแล้วมาวิเคราะห์ ว่ามีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ดีมากว่ากัน หานามบัตรจดสิ่งที่ดีหรือคำขวัญที่ดีไว้กระตุ้นเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทำบ้านให้ปราศจากความวุ่นวาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อนที่สนิท
หาวันละ 10 นาทีเพื่อพิจารณาจุดยืนของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของชีวิตคืออะไร เราบรรลุหรือยัง เราเดินผิดแนวทางหรือไม่
คนกับคนที่มองโลกในแง่ดีหรือคนที่มี self-esteem เพราะเพื่อนจะกระตุ้นให้เรามีความมั่นใจและความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากคบคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ความมั่นใจก็จะสูญเสียไปด้วยดังนั้นเลิกคบกับคนที่มองโลกแง่ร้าย
ให้เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะเราต้องยอมรับว่าคนเราไม่สมบูรณ์ 100%ทุกคน หากเราเปรียบเทียบกับคนอื่นจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมากมาย
ให้หาคนที่จะเป็นต้นแบบเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต
ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และมุ่งสู่ความสำเร็จนั้น
หาผู้ที่คอยช่วยเหลือด้านทักษะและทัศนะคติในการดำรงชีวิตหรือการงาน
หากมีคนชมหรือกล่าวโทษให้กล่าวคำว่าขอบคุณ
อย่าดูถูกตัวเองหรืออย่ามองว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หากเราคอยตอกย้ำถึงจุดด้อยของเรา เราจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ
ให้เพิ่มทักษะหรือคุณภาพชีวิตจากการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือจากสื่ออื่นๆ
ให้จดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ เช่นความซื่อสัตย์ ความคิดริเริ่ม ความมุ่งมั่น ความเอื้ออาธร เป็นต้น ให้อ่านสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
จดผลงานที่คุณชื่นชมหรือประสบผลสำเร็จสัก 10 อย่าง เช่นการศึกษา ผลการศึกษา การได้รับรางวัล การช่วยเหลือผู้อื่น
ในสังคมไทยจะมีซักเท่าไหร่ที่เข้าใจเรื่องนี้ได้ถูกต้อง.....เฮ้อๆๆๆๆ........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 22:10:10 » |
|
โอ้..ในที่สุด..กระทู้นี้ก็ให้ประโยชน์กับสังคมซะที..
ตกลงไฟเกียร์ถอยหลังกรูไม่มีใครรู้ใช่ป่ะ..ไปสังเกตุ LIMO น่ะ..ไฟข้างขวามันเป็นสีเหลืองน่ะ..ไม่รู้ว่าเวลาถอยมันจะติดรึเปล่า..
เอาไปซักคำถาม..อันนี้ข้องใจมานาน..
ทำไมเรียก ไหปลาร้า..ครับ..ใครรู้บ้าง..ทำไมต้องไหปลาร้า..เอาตรรกะอะไรมาจับก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..(ไอ้ที่อยู่ข้างๆหัวไหล่น่ะ..)
ไหปลาร้า-เป็นคำเรียกส่วนที่บุ๋มลงไปตรงคอด้านหน้า เป็นกระดูกอยู่ระหว่างโคนของคอกับกระดูก ซึ่งสังเกตเห็นได้ในคนที่ผอม กระดูกไหปลาร้า คือ กระดูกส่วนที่เชื่อมต่อส่วนกระดูกอกส่วนบนไปยังหัวไหล่อยู่ระหว่าง คนโบราณคงเทียบส่วนบุ๋มของร่างกายดังกล่าวว่าคล้ายกับแอ่งที่อยู่ระหว่าง ปากไหปลาร้ากับฝาปิดปากไหปลาร้า แอ่งนี้จะหล่อน้ำไว้กันแมลงวัน
ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๙กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.
http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1404
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2550, 08:16:27 » |
|
พูดถึงเรื่อง กกน. ก้อถามกันเลยดีกว่า ทำไมต้องใส่ กกน. กันด้วย มันมีประโยชน์อะไรเหรอ เมื่อก่อน แยกประเด็นมาที่ชายหนุ่มก่อน ต้องใส่เพราะกลัวเป็นใส้เลื่อน ปัจจุบัน สาเหตุการเกิดใส้เลื่อนไม่เกี่ยวกับการใส่เกงใน และคนก้อนุ่งบ๊อกเซอร์กันเยอะแยะ
ผู้หญิง โอเค ในวันนั้นๆ ของเดือนต้องใส่ เพราะเด๋วไม่มีอะไรให้ยึด แต่ถ้าไม่ใช่วันนั้น จะใส่ทำไม กลัวใส้เลื่อนเหรอ หรือกลัวโป๊ แต่ถ้าใส่กางเกง ก้อไม่มีทางเห็นหรอก
ตกลง ทำไมต้องใส่เกงใน
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2550, 11:29:25 » |
|
ใส่เพราะกลัวซิป มันกินน้องชายอ่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2550, 09:21:48 » |
|
:oops: กับไอ้เรื่องใส่ไม่ใส่ กกน....นี้ไม่มีความคิดเห็นครับ....แต่...
....ลองอ่านนี่ดูนะครับ.....
self-esteem
คำนี้ยังไม่มีคำแปลสำหรับภาษาไทย หรืออาจจะมีแต่ผู้เขียนไม่ทราบ นักการศึกษา ผู้ปกครอง นักธุรกิจ ตลอดจนรัฐบาลกำลังมุ่งสร้างประชาชนให้มี self-esteemสูง ซึ่งหมายถึง บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มีความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในผลสำเร็จของงาน บุคคลซึ่งมีความคิดริเริ่มและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาและรับผิดชอบปัญหาที่จะเกิดตามมา เป็นคนที่คนอื่นรักและรักคนอื่น เป็นบุคคลที่สามารถควบคุมตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงานโดยสรุปแล้วคนที่มี self-esteem สูงจะหมายถึงคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบสูงและซื่อสัตย์
ตรงกันข้ามกับคนที่มี self-esteem ต่ำหรือพฤติกรรมป้องกัน (defensive)คนกลุ่มนี้มักจะต้องการพิสูจญ์ตัวเองหรือวิจารณ์คนอื่น ใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง บางคนอาจจะหยิ่งหรือดูถูกผู้อื่น มักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีคุณค่าหรือความสามารถหรือการยอมรับ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะทำอะไรเนื่องจากกลัวความล้มเหลว คนกลุ่มนี้มักจะวิจารณ์คนอื่นมมากกว่าที่จะกระทำด้วยตัวเอง และยังพบอีกว่าคนกลุ่มนี้มักจะชอบความรุนแรง ติดสุรา ยาเสพติด มีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัย
คนที่มี self-esteem จะต้องมีความสมดุลของความต้องการผลสำเร็จหรืออำนาจ และความรู้จักคุณค่า ความมีเกียรติและความซื่อสัตย์ ซึ่งอาจจะหมายถึงจิตใต้สำนึกและพฤติกรรมนั่นเอง จิตใต้สำนึกของคนที่มี self-esteem จะต้องรู้จักบาป บุญคุณโทษ รู้สิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ความสื่อสัตย์ ความมีเกียรติ ส่วนพฤติกรรมของ self-esteem มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา เชื่อมั่นในความคิดและความสามารถของตัวเอง สามารถเลือกวิธีการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากสูญเสียความสมดุลก็จะทำให้เกิดปัญหา เช่นหากจิตใต้สำนึกไม่แข็งแรงหรือสมบูรณ์พอก็จะทำให้คนเกิดพฤติกรรมเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป หยิ่งยโส ดูถูกคนอื่น หากแต่มีแต่จิตใต้สำนึกที่ดีแต่ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะประสบผลสำเร็จชีวิตก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้นบุคคลที่ชอบพูดถึงแต่ตัวเอง อวดดี ดูถูกคนอื่น คนพาล ชอบเอาเปรียบคนอื่นคนที่กล่าวโทษคนอื่นไม่ถือว่ามี self-esteem
คนที่มี self-esteem มักจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
มองโลกในแง่ดีเสมอ มองวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมีมืดต้องมีสว่าง มีร้ายต้องมีดี ขาวคู่กับดำ ประเมินตัวเราให้มีคุณค่าอยู่เสมอ เชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง มองว่าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเราสามารถเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าตัวเองไม่มีความมั่นใจจะไม่มีความหวัง ไม่มีพลังในการต่อสู้ในที่สุดจะเป็นคนที่ซึมเศร้า
การสร้างความมั่นใจในตัวเอง self-esteem
ความเชื่อมั่นตนเองและรู้คุณค่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต ลำพังความคิดอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ ความมั่นใจจะเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเราตาย ความมั่นใจจะกระทบต่อการตัดสินใจดังนั้นทุกคนความสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างของความมั่นใจเช่นหากคนจะเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องมั่นใจในตัวเองหรือมีคนอื่นเห็นถึงความสามารถของเขาที่จะทำให้ให้สำเร็จ เมื่อมีความผิดหวังหรือความเครียดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดี
ครอบครัวซึ่งมีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองสูงความมั่นใจของลูกก็จะสูง การพัฒนาความมั่นใจของเด็กจะเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กได้เล่นกับเพื่อน ผู้ที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ดื่มสุราหรือติดยาเสพติด เด็กหญิงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ประพฤติผิดประเพณี ความมั่นใจเป็นลักษณะของแต่ละคนไม่สามารถที่จะให้กันได้แต่สามารถฝึกฝนได้ ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่มีความมั่นใจและมีความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดริเริ่มใหม่ๆการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นเพื่อให้เข้าใจเหมือนกัน คนเช่นนี้จึงจะอยู่รอดในสังคม
เรามาเสริมสร้าง self-esteem เพื่อที่จะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูง Peak Performance
หาเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเพื่อพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นการนั่งสมาธิ หรือการพิจารณาตัวเอง หรือ่านหนังสือที่สร้างความเชื่อมั่น หรือฟังเทปคำสอนต่างๆ การเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นในและประสบผลสำเร็จ
มองปัญหาและมองโลกในแง่ดี เลิกบ่นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ลองหากระดาษสักแผ่นจดความคิดที่ดีๆเกี่ยวกับตัวเองไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ไม่ดีแล้วมาวิเคราะห์ ว่ามีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ดีมากว่ากัน หานามบัตรจดสิ่งที่ดีหรือคำขวัญที่ดีไว้กระตุ้นเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทำบ้านให้ปราศจากความวุ่นวาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อนที่สนิท
หาวันละ 10 นาทีเพื่อพิจารณาจุดยืนของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของชีวิตคืออะไร เราบรรลุหรือยัง เราเดินผิดแนวทางหรือไม่
คนกับคนที่มองโลกในแง่ดีหรือคนที่มี self-esteem เพราะเพื่อนจะกระตุ้นให้เรามีความมั่นใจและความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากคบคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ความมั่นใจก็จะสูญเสียไปด้วยดังนั้นเลิกคบกับคนที่มองโลกแง่ร้าย
ให้เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะเราต้องยอมรับว่าคนเราไม่สมบูรณ์ 100%ทุกคน หากเราเปรียบเทียบกับคนอื่นจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมากมาย
ให้หาคนที่จะเป็นต้นแบบเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต
ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และมุ่งสู่ความสำเร็จนั้น
หาผู้ที่คอยช่วยเหลือด้านทักษะและทัศนะคติในการดำรงชีวิตหรือการงาน
หากมีคนชมหรือกล่าวโทษให้กล่าวคำว่าขอบคุณ
อย่าดูถูกตัวเองหรืออย่ามองว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หากเราคอยตอกย้ำถึงจุดด้อยของเรา เราจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ
ให้เพิ่มทักษะหรือคุณภาพชีวิตจากการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือจากสื่ออื่นๆ
ให้จดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ เช่นความซื่อสัตย์ ความคิดริเริ่ม ความมุ่งมั่น ความเอื้ออาธร เป็นต้น ให้อ่านสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
จดผลงานที่คุณชื่นชมหรือประสบผลสำเร็จสัก 10 อย่าง เช่นการศึกษา ผลการศึกษา การได้รับรางวัล การช่วยเหลือผู้อื่น
ในสังคมไทยจะมีซักเท่าไหร่ที่เข้าใจเรื่องนี้ได้ถูกต้อง.....เฮ้อๆๆๆๆ........ น้องป้อค่ะ.....
อืมม...เรื่อง Self-esteem ที่น้องป้อมาบอกกล่าวไว้....นี่ล่ะค่ะ...ใช่เลย...
ว่าแต่ว่า....บทความที่เขียนนี่(ที่พิมพ์ตัวเขียว)...มาจากไหน...ใครเป็นผู้เขียนค่ะ....
พี่ขอทราบแหล่งอ้างอิงหน่อยนะค่ะ :wink: ปล.ขอโทษ....ข้อความด้านบนด้วยนะจ้ะ...ที่ขัดจังหวะเรื่อง(ใต้)...ในกระโปรง/กางเกง.. ชั่วคราว :roll: :roll: :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
audit
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 136
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2550, 16:39:52 » |
|
ตกลง ทำไมต้องใส่เกงใน
ตาแคม
วันก่อนนู้นฟังข่าว เค้าว่าควรใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายอ่ะ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2550, 22:34:14 » |
|
:oops: เป็นชีสที่เรียนอาจารย์แจกมาครับพี่แอน.....ไม่รู้ว่ามาจากไหนเหมือนกัน...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 01:54:55 » |
|
ถ้าถามว่าทำไมต้องใส่กกน.
บอกได้เลยว่าเพราะการโดนปลูกฝังให้ใส่มาตั้งแต่เด็ก
เป็นความเคยชินที่ทำเป็นปกติ ไม่เคยรู้คำตอบเหมือนกันว่าทำไมต้องใส่
เออ...แล้วพี่ๆจะสงสัยกันทำไมว่า....ทำไมต้องใส่ :wink: :)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 08:04:23 » |
|
อ้าว ก็ต้องสงสัยสิ เสื้อผ้าที่ใส่ก้อมีเหตุผลเรื่องให้ความอบอุ่น ป้องกันแสงแดด อะไรทำนองเนี๊ยะ
เปลี่ยนเรื่องก้อได้ ทำไมต้นกล้วย ถึงมีใบเป็นใบตอง แล้วออกดอกเป็นหัวปลี
ทำไมไม่เป็นใบกล้วยกับดอกกล้วยอ่ะ
ตาแคม :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
party
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 10:13:56 » |
|
By the way,
พี่ไข่ไป Turkey ยังอะคะ
สงสัย :? :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 12:02:36 » |
|
โอ้..ขอบคุณพี่ too มากครับ..คำตอบแบบนี้แหละครับที่ต้องการ..มันดูแล้วมีเหตุมีผลหน่อย..เป็นความรู้ดีครับ..ข้องใจมานานแล้ว..
ส่วนเรื่อง กกน. ก็ไม่รู้จริงๆเหมือนกัน..ว่าทำไมต้องใส่..รู้แต่ว่า..ตอนนอนน่ะ..เค้าให้ถอดนะจ๊ะ..สาวๆด้วย..เค้าว่าทั้งข้างบนข้างล่างเลย..ไม่ต้องใส่ตอนนอน..(เคยอ่านเจอจริงๆนะ..ไม่ได้ทะลึ่ง)
ส่วนใบตองไอ้แครมมม..เอาให้งงอีกแล้ว..กรูก็ไม่เคยคิดเลยแฮะ..คงต้องค้นก่อน..ว่าในอดีตคำว่า ตอง หมายถึงอะไร..(อย่ามามุกสเตรท เด้ง..อะไรนะวุ้ย..)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 13:01:28 » |
|
ส่วนเรื่อง กกน. ก็ไม่รู้จริงๆเหมือนกัน..ว่าทำไมต้องใส่..รู้แต่ว่า..ตอนนอนน่ะ..เค้าให้ถอดนะจ๊ะ..สาวๆด้วย..เค้าว่าทั้งข้างบนข้างล่างเลย..ไม่ต้องใส่ตอนนอน..(เคยอ่านเจอจริงๆนะ..ไม่ได้ทะลึ่ง)
อันนี้เคยอ่านบทความมา แต่เค้าบอกไม่เหมือนกันนะ สำหรับส่วนบนของสาวๆ เค้าบอกว่า ถ้าเป็นผู้หญิงที่อกเล็ก ควรจะไม่ใส่เสื้อในนอน เพราะมันจะไปดึงรั้ง ให้แบนเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอกใหญ่ ควรใส่เสื้อในนอน เพราะจะทำให้รักษารูป ให้สวยงามขึ้น ส่วนท่อนล่างไม่รู้ บทความไม่ได้บอก ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป๋าบอล
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 196
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 13:37:43 » |
|
ส่วนเรื่อง กกน. ก็ไม่รู้จริงๆเหมือนกัน..ว่าทำไมต้องใส่..รู้แต่ว่า..ตอนนอนน่ะ..เค้าให้ถอดนะจ๊ะ..สาวๆด้วย..เค้าว่าทั้งข้างบนข้างล่างเลย..ไม่ต้องใส่ตอนนอน..(เคยอ่านเจอจริงๆนะ..ไม่ได้ทะลึ่ง)
อันนี้เคยอ่านบทความมา แต่เค้าบอกไม่เหมือนกันนะ สำหรับส่วนบนของสาวๆ เค้าบอกว่า ถ้าเป็นผู้หญิงที่อกเล็ก ควรจะไม่ใส่เสื้อในนอน เพราะมันจะไปดึงรั้ง ให้แบนเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอกใหญ่ ควรใส่เสื้อในนอน เพราะจะทำให้รักษารูป ให้สวยงามขึ้น ส่วนท่อนล่างไม่รู้ บทความไม่ได้บอก ตาแคม อย่างนี้เพื่อนแครม ต้องใส่กางเกงในนอนซะแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2550, 14:06:28 » |
|
ส่วนเรื่อง กกน. ก็ไม่รู้จริงๆเหมือนกัน..ว่าทำไมต้องใส่..รู้แต่ว่า..ตอนนอนน่ะ..เค้าให้ถอดนะจ๊ะ..สาวๆด้วย..เค้าว่าทั้งข้างบนข้างล่างเลย..ไม่ต้องใส่ตอนนอน..(เคยอ่านเจอจริงๆนะ..ไม่ได้ทะลึ่ง)
อันนี้เคยอ่านบทความมา แต่เค้าบอกไม่เหมือนกันนะ สำหรับส่วนบนของสาวๆ เค้าบอกว่า ถ้าเป็นผู้หญิงที่อกเล็ก ควรจะไม่ใส่เสื้อในนอน เพราะมันจะไปดึงรั้ง ให้แบนเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอกใหญ่ ควรใส่เสื้อในนอน เพราะจะทำให้รักษารูป ให้สวยงามขึ้น ส่วนท่อนล่างไม่รู้ บทความไม่ได้บอก ตาแคม อย่างนี้เพื่อนแครม ต้องใส่กางเกงในนอนซะแล้ว 5555.... :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 08:51:46 » |
|
อย่างนี้เพื่อนแครม ต้องใส่กางเกงในนอนซะแล้ว อ้าว ตรูจะบอกว่า ไม่ได้ใส่ตอนนอนก้อไม่กล้าบอกเลย เด๋วเสียเชิง จาก น้องชายอะนาคอนด้า :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 10:43:35 » |
|
แล้วตกลงเรื่องของต้นกล้วย ได้คำตอบรึยังค่ะ หญิงก้อยากรู้คำตอบเหมือนกันนะเนี้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 12:54:59 » |
|
ข้อนี้ท่าจะยาก..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 16:00:48 » |
|
งั้นเอาคำถามนี้นะค่ะ เป็นคำถามระดับภูมิภาค...หุหุ
หญิงคิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "อ้อร้อ" ซึ่งมันเป็นภาษาใต้นะ (หญิงคิดว่า)
เลยอยากรู้ว่า 1.) แต่ละคนเข้าใจความหมายของคำนี้ว่ายังไง
2.) ภาคอื่นใช้คำนี้ด้วยรึป่าว ถ้าใช้ความหมายจะเป็นประมาณไหนค่ะ
3.) ถ้าไม่มีคำนี้จะมีคำไหนที่ใกล้เคียงกับคำนี้มะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 16:18:24 » |
|
สงสัย อีก อย่างครับ ว่าทำไม เมืองจันทบุรี นี้ ถึงเรียก น้ำปลาพริก กัน ที่อื่น ๆ เขาเรียก พริกน้ำปลา กันหมด
ใครมีหลักการเรียกที่ถูกต้องบ้าง :evil:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2550, 18:00:56 » |
|
เหรอ....เพิ่งรู้นะเนี่ย แต่ที่จันทบุรี มีน้ำจิ้มปาท่องโก๋ ไม่เหมือนใครน่ะ ตอนเด็กๆ อยู่สัตหีบ พอย้ายมาจัน กินครั้งแรกที่บ้านลุง แปลกดี ลุงบอกว่านี่ล่ะไม่เหมือนใคร แล้วก็เจอคนพูดลงท้ายแต่คำว่า "ฮิ..." หมาข้างถนน ก็มีขนแปลกๆ ที่มันเป็นลายกลางหลัง ต่อมาจึงรู้ว่ามันคือหลังอาน ไม่มีที่จังหวัดแถบอื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2550, 16:34:08 » |
|
เอ้า..คนใต้มาช่วยคลายสงสัย..
ในความรู้สึกผมนะ..อ้อล้อ..น่ะ คงเป็นภาษาใต้อย่างเดียว ความหมายมันขึ้นอยู่กับอารมณ์และผู้ที่เราพูดด้วยน่ะ เช่น..
1. ไอ้เซฟกับ บ. โบ มันเป็นเต้นวินาศสันตะโรอยู่ในงาน..เราก็อาจพูดได้ว่า 2 คนโน้นเต้นอ้อล้อจริงๆ... อันนี้ความหมายก็จะเชิงน่ารักๆ หยิกแกมหยอก
2. เราเล่นกับเด็กหญิง 4 ขวบ แล้วมันซนๆ แก่นๆ เราก็พูดได้ว่า..เด็กนี่อ้อล้อจริงๆ...อันนี้ก็แบบชมแบบเอ็นดูมากกว่า..
3. ถ้า นส. หลิม มีแฟนหลายคนในเวลาเดียวกัน คนอื่นรู้กันหมด..แล้วทำตัว แต่งตัวแย่ๆ..พูดจาแย่ๆ..อันนี้เราจะนินทาได้ว่า นส..หลิม..แมร่มมม..อ้อล้อจริงๆ....อันนี้ก็ความหมายประมาณ แ...ด มากๆน่ะ..อันนี้ก็จะแรงมากๆ..
ก็ขึ้นอยู่กับการพูด ท่าทาง น้ำเสียง ผู้ที่เราพูดด้วยน่ะ..
คนใต้ใครมีความเห็นต่างวานบอก..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2550, 17:37:14 » |
|
สำหรับ พี่คำว่า อ้อร้อเนี่ย หมายถึง แบบว่า อ้อนๆน่ะ
ข้อสุดท้าย เรื่องกางเกงใน ข้อนี้คิดว่าหลายคนไม่เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมต้องใสกางเกงใน เหตุผลอาจมีหลายประการ เช่น ช่วยซับเหงื่อ ช่วยปกป้องอวัยวะเพศ ช่วยซับปัสสาวะ อุจจาระ ที่อาจเล็ดออกมาไม่ให้เปื้อนกางเกง ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยควบคุมอวัยวะเพศ เวลาเกิดการแข็งตัวในบางครั้ง กางเกงในฟิตหรือยานดีกว่ากัน ข้อนี้ไม่มีคำตอบตายตัวขึ้นอยู่กับความชอบ คุณใส่อย่างไรก็ได้ มีรายงานการศึกษาในต่างประเทศบางชิ้น สนับสนุนให้ใส่กางเกงในแบบหย่อน เพราะเชื่อว่า กางเกงในแบบฟิตจะอบมากไป ทำให้อัณฑะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อาจเกิดภาวะเป็นหมันได้ ในบางสถานการณ์ กางเกงในแบบฟิตดีกว่าแบบหย่อน เช่น เวลาเล่นกีฬา หรือใส่กางเกงขาสั้น
คิดๆกันไป :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2550, 15:14:05 » |
|
เรื่องกางเกง...ใน...จะกลายเป็นวาระ..เอ๊ย...กระทู้...เอ๊ย...ประเด็นต่อไปหรือไม่.. ต้องติดตามตอนต่อไป....ว่าจะมาแนะนำให้ไปอ่านข้อเขียนของคุณวิรัตน์ โตนิมิตร หรือ ปลาอ้วน...ในเนชั่น..สุดสัปดาห์..ฉบับสุดสัปดาห์นี้...เค้าเขียนเกี่ยวกับ ปรากฏการณ์...ใส่..หรือ..ไม่ใส่...กางเกงใน...ไว้...น่าสนใจดี.... :shock: ส่วนเรื่อง....ภาษาใต้...วันละคำนี่...คำว่า..อ้อร้อ...นั่น ppornson คนใต้..มาตอบแล้ว...ก็เห็นด้วยค่ะ.. การสื่อสารนี่...ต้องดูน้ำเสียง...การแสดงสีหน้าประกอบด้วย...ถึงจะตีความได้ชัดขึ้น... :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2550, 01:29:49 » |
|
มัน "อ้อร้อ" หรือ "อ้อล้อ" กันแน่ค่ะ คนใต้เองยังงง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2550, 12:15:24 » |
|
สงสัย อีก อย่างครับ ว่าทำไม เมืองจันทบุรี นี้ ถึงเรียก น้ำปลาพริก กัน ที่อื่น ๆ เขาเรียก พริกน้ำปลา กันหมด
ใครมีหลักการเรียกที่ถูกต้องบ้าง :evil: ถ้าตามหลักแล้ว "น้ำปลาพริก" ถูกต้องคับ เพราะมีน้ำปลาเป็นตัวทำละลาย พริกลอยอยู่ (จำนวนน้อยกว่า) ถึงเรียกว่าน้ำปลาำพริกครับ ปล. ปาทองโก๋ เมืองจันท์ มีน้ำจิ้มอร่อยมากนะครับ ไม่เชื่อไปลองกันซะ แล้วก็มีหมูย่างด้วย ไม่ใช่หมูปิ้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2550, 12:33:17 » |
|
บ้านกรูเรียกพริกน้ำปลา..เพราะแปลมาจากภาษาอังกฤษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป๋าบอล
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 196
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2550, 01:31:09 » |
|
บ้านกรูเรียกพริกน้ำปลา..เพราะแปลมาจากภาษาอังกฤษ ถ้ามาจากภาษาอังกิดจิงๆ พี่จะแดรกไม่ลงนะครับ เพราะพริกเนี่ย มันอยู่ในกางในผู้ชาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2550, 17:24:59 » |
|
ขยายๆหน่อยโว้ย..ไม่เข้าจาย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 09:06:25 » |
|
สงสัยอีกเรื่อง..ว่า GPRS น่ะ..มันทำงานยังไง..กับพวก wireless ต่างๆน่ะ..ข้อมูลมันมาจากแหล่งส่งมาในอากาศ แล้วแปลงเป็นข้อมูลเยอะแยะในคอมฯ หรือมือถือได้ยังไงน่ะ..ใครรู้เอาสั้นๆก็พอนะ..เอาแค่หลักการ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 12:55:52 » |
|
ขอบคุณ โต้ง ที่คอยตั้งคำถามดีๆ ให้เราได้ขบคิดและค้นหา มันทำให้รู้สึกสนุกกับการเรียนรู้มากๆเลย
หน้าที่ 1 - What is Wi-Fi?
การรับส่งข้อมูลไร้สายนั้นมีอยู่หลายแบบ แบบที่เราเริ่มได้ยินชื่อกันมากในระยะหลัง คือ บลูทูธ (Bluetooth) ที่หลายคนใช้กับเครื่องโทรศัพท์มือถือหรือพีดีเอ แต่ Wireless LAN ที่จะกล่าวถึงในที่นี้ เป็นอีกเทคโนโลยีที่ใช้เป็นมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ โดยได้พัฒนากันมาพอสมควร แต่ในระยะแรกยังมีราคาค่อนข้างแพง จนเริ่มถูกลงและแพร่หลายมากขึ้นในระยะหลัง เรียกว่า มาตรฐานเครือข่ายไร้สาย IEEE 802.11 หรือชื่อที่เรียกกันง่ายๆ เรียกว่า Wi-Fi เป็นการพัฒนาจากสถาบันวิศวกรไฟฟ้า และ อิเลคโทรนิค หรือ Institute of Electrical and Electronics Engineering (IEEE)
WHAT IS Wi-Fi? Wi-Fi ย่อมาจากคำว่า Wireless Fidelity เป็นเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายซึ่งขณะนี้ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาวิทยาลัย อพาร์ตเมนท์ คอนโดมิเนียม สนามบิน โรงแรม โรงพยาบาล หรือแม้แต่ร้านกาแฟ ร้านอาหารบางแห่งก็นิยมที่จะติดตั้งคอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อม Wireless Access Point หรือที่เรียกว่า hot spot ไว้ให้บริการแก่ลูกค้า โดยเครื่องลูกก็คือเครื่องของลูกค้านั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้ประหยัดกว่าอินเตอร์เน็ทคาเฟ่ที่ใช้ Lan แบบเดิม เพราะไม่ต้องลงทุนในการซื้อและบำรุงรักษาหรืออัพเกรดเครื่องลูกเป็นจำนวนมาก
Wi-Fi ทำงานในรูปแบบเดียวกับบรอดแบนด์ คือเปิดเครื่องปุ๊บ จะลิงค์เข้าอินเตอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ แต่ทำงานได้เร็วกว่า และไม่ต้องมีสายโยงเข้าโมเด็ม ใช้คลื่นเชื่อมแทน
สร้างเครือข่ายส่วนตัว (Wi-Fi ในบ้าน) สมัยนี้เรื่องการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์กำลังเป็นที่นิยม การติดตั้งคอมพิวเตอร์ในบ้านเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งบางบ้านอาจจะมีคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง ดังนั้นการนำคอมพิวเตอร์ในบ้านทั้งหมด มาต่อเชื่อมกันเพื่อแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น Internet หรือ Printer จะได้ช่วยให้เกิดการประหยัด แต่ถ้าหากจะสร้างเครือข่ายในบ้านแบบมีสาย ก็ดูจะไม่ค่อยจะสะดวกนัก ดังนั้นหากใช้ Wi-Fi ก็จะทำให้การสร้างเครือข่ายนั้นง่ายขึ้น คล่องตัวขึ้น เราอาจจะเอา Notebook ไปนั่งเล่น อินเตอร์เน็ต กลางสวนหลังบ้านก็ยังได้ สำหรับงบประมาณการสร้างเครือข่ายไร้สายแบบ Wi-Fi นี้ก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 6,500-9,000 บาท อุปกรณ์ที่จำเป็นก็มี Access Point 1 ตัว + USB wireless lan card อีก 2 ตัว
Hot spot คืออะไร? (Wi-Fi นอกบ้าน) ในระยะนี้เรามักจะได้ยินคำว่า Hot spot มากขึ้น ในยุคสมัยนี้การที่เราจะเล่นอินเตอร์เน็ตขณะอยู่นอกบ้านนั้นเราสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบอาทิเช่น
1. Internet Cafe เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด ค่าใช้จ่ายตกประมาณชั่วโมงละ 30-50 บาทโดยเฉลี่ย แต่มีข้อดีที่ว่าสะดวกง่ายดาย อยากใช้เมื่อไรวิ่งหาร้านจ่ายเงินใช้งานได้เลย แต่ข้อเสียก็มี คือเราไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนตัวที่เราทำงานบนเครื่อง PC ที่บ้านได้ ส่วนมากจะใช้หาข้อมูลจาก www , เช็ค email หรือ chat เสียมากกว่า และเรื่องของความปลอดภัยในข้อมูลที่เรากรอกไว้ที่เครื่อง PC ในร้านก็ค่อนข้างเสี่ยง และความเร็วของ อินเตอร์เน็ตในแต่ละร้านก็ค่อนข้างจะไม่แน่นอน
2. ใช้ GPRS โดยนำ Notebook หรือ PDA ต่อ อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ GPRS โดยสามารถใช้งานได้ทุกที่ที่มีคลื่นโทรศัพท์ เรื่องของค่าใช้จ่ายจะคิดตามปริมาณข้อมูลรับส่ง และแบบไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน แต่เรื่องความเร็วยังมี speed ที่ประมาณ 40 Kbps
3. Hotspot เป็นบริการ อินเตอร์เน็ตสาธารณะไร้สายความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยีของ Wireless Lan หรือที่เรียกกันติดปากว่า Wi-Fi ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้บริการกันมากขึ้นเรื่อยตามแหล่งชุมชน ต่างๆ การใช้บริการ Hotspot นี้ อาจจะต้องลงทุนสูงสักนิด เพราะสองสิ่งหลักที่เราต้องมีก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook หรือ PDA และ Wireless Lan card ( ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท ) แต่หาก Notebook หรือ PDA บางรุ่นมี Wi-Fi ในตัวก็ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์เพิ่ม ข้อดีของการใช้ Wi-Fi ก็คือ สถานที่ที่บริการ อินเตอร์เน็ตสาธารณะที่เรียกกันว่า Hot Spot มักจะบริการด้วย อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ค่อนข้างทันใจ และเราสามารถนั่งทำงานตามร้านกาแฟได้สบายๆ เพราะ ข้อมูลต่างๆ ก็เก็บไว้ใน Notebook ของเราอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 13:25:40 » |
|
มีใครรู้ว่า Gen Y คือ อะไร ? :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 13:31:50 » |
|
มีใครรู้ว่า Gen Y คือ อะไร ? :? ทันสมัยนะเนี่ย...งั้นเอาคำตอบไปเลยค่ะ...ให้อ่านเองเลย จะได้ไม่ต้องอธิบายมากไป...อิอิhttp://www.knowledgestorm.co.th/Gen-Y1-_Nation.jpgเป็นศัพท์ที่ใช้ในการ management พนักงานในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย...
ปล.คุณเสาวคนธ์เขียนการบริหารการจัดการได้ดีค่ะ ติดตามผลงานได้ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ, BIZWEEK หรือที่นี่เลย
http://www.knowledgestorm.co.th/ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 13:45:09 » |
|
หน้าที่ 3 - What is GPRS? ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ว่าอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราเปิดโลกทัศน์ได้อย่างกว้างไกลไร้ขีดจำกัด แต่ด้วยความจริงที่ว่ามนุษย์ไม่เคยหยุดนิ่งทำให้เกิดความคิดที่ว่า ทำอย่างไรจะให้สามารถเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตได้ในทุกที่ สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงก็คือเราจะใช้อุปกรณ์ใดมาเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้ โดยไม่ต้องยกเครื่องคอมพิวเตอร์ตามเราไปทุกที่ และอุปกรณ์ที่ถูกเลือกมาใช้ก็คือโทรศัพท์เคลื่อนที่ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมากมาย จึงได้มีการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีคุณสมบัติในการเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดในเทคโนโลยีในการส่งข้อมูลทำให้เกิดปัญหาความล้าช้าไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการเวบไซต์ การตรวจเช็คอีเมล์ ผู้ให้บริการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้สร้างบริการต่างๆเพื่อรองรับความสามารถที่โทรศัพท์ในยุคใหม่ที่มีอยู่ จึงเกิดเทคโนโลยี GPRS ขึ้น WHAT IS GPRS? GPRS ย่อมาจากคำว่า General Packet Radio Service เป็นวิวัฒนาการของการสื่อสารข้อมูลไร้สายแบบ Packet Switching คือ การแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า Packet ซึ่งมีความสามารถในการส่งผ่านข้อมูลโครงข่ายได้ดีกว่าแบบเดิม ทำให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดในการส่ง และยังช่วยเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลสูงขึ้นอีกด้วย เทคโนโลยี GPRS นี้ สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ง่ายและสะดวกขึ้น จุดเด่นของระบบนี้คือ มีการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (Always On) โดยไม่เสียค่าบริการและยังสามารถโทรออกและรับสายเข้าได้ในขณะที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ การเสียค่าบริการจะคิดต่อเมื่อมีการรับหรือส่งข้อมูล (Download หรือ Upload) เท่านั้น โดยคิดตามขนาดข้อมูลไม่ได้คิดตามเวลาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (Airtime) เหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้ประหยัดค่าบริการได้มาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือที่มีระบบ GPRS เชื่อมต่อกับกับ PDA หรือ Computer Notebook ก็จะสามารถเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถรับข้อมูลข่าวสารในรูปแบบของ Video ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าว ละคร กีฬา ข้อมูลการจราจร ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบันอยู่เสมอ กล่าวโดยสรุปแบบง่ายๆ GPRS เป็นระบบที่ช่วยให้เราใช้อินเตอร์เน็ตแบบออนไลน์บนมือถือได้ตลอดเวลา GPSR คืออะไร? - เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นบนเครือข่ายเดิมเพื่อให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น - เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบรวดเร็ว ซึ่งใช้ได้กับเครือข่ายระบบ GSM ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับการติดตั้ง และทำให้ระยะเวลาในการส่งข้อมูลรววดเร็วยิ่งขึ้น - เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเพื่อการใช้ Mobile Internet ด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้อย่างสะดวกและง่ายดายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ - นวัตกรรมใหม่ที่ทำให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพด้วยความเร็วจากเดิมเพียงแค่ 9.6 Kbps เป็น 40 Kbps ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตได้ภายในเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ - การส่งข้อมูลแบบใหม่ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งจะประกอบไปด้วยรูปภาพที่เป็นกราฟฟิค เสียงและวีดีโอ เช่น การใช้ Video Conference อย่างไรก็ดี GPRS ไม่ได้เป็นลักษณะที่จะสามารถให้บริการได้ด้วยตัวของระบบเอง แต่ตัวมันเองเป็นเพียงแค่ Bearer ให้กับ Application ต่างๆ ที่ต้องการใช้ความเร็วที่เพิ่มมากกว่าปกติในระบบ GSM ที่เคยรองรับอยู่เดิมมาก่อน และระบบ GPRS จะต้องต่อไปยัง Packet Data Network ที่เป็น IP Network อีกต่อหนึ่งดั้งนั้นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่จะเปิดให้ใช้ในระบบ GPRS ได้นั้นจะต้องทำการติดตั้งระบบเครือข่าย ที่ประกอบด้วยหน่วยหลักๆ 2 หน่วยด้วยกันคือ 1. SGSN (Serving GPRS Supports Node) 2. GGSN (Gateway GPRS Support Node) โดยทั้งสองหน่วยหลักขององค์ประกอบนี้จะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยมีอุปกรณ์อื่นๆ เป็นตัวช่วยเพื่อไปร่วมใช้ Radio Interface จาก Base Station โดยผ่านตัวควบคุมที่เรียกว่า PCU (Packet Control Unit ) ที่ติดตั้งไว้ที่ BSC (Base Station Controller) ทั้งนี้อาจมองได้ว่า GPRS Network เป็นอีก Network หนึ่งซึ่งเข้าถึง Mobile Phone ผ่านทาง Radio Interface ของระบบ GSM Network เดิม โดยเป็นบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการรับส่งข้อมูลเป็น Packet โดยตรง . . . . http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?Aid=32749&page=3หาอ่านได้ตามlink นี้ครับ . .......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 13:50:04 » |
|
ย่อๆง่าย
GPRS ทำงานบนช่องคลื่นสัญญาน ของโทรศัพท์มือถือ
Wi Fi ทำงานบนสัญญาน ที่ส่งออกมาเอง
เป็นเรื่องของช่วงคลื่นสัญญานน่ะ
:wink:
อยากตอบ แต่ไม่อยากถาม
กู รัก เพื่อน มึงว่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 13:58:03 » |
|
ยาวหน่อย แต่ละเอียดดี เข้าใจไม่ยาก...
ผลพวงของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในโลกปัจจุบันทำให้เกิดมิติใหม่ทางการตลาด ซึ่งเป็นข้อกังขาของนักการตลาด นิตยสาร BrandAge และบริษัทชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน จึงได้ทำโครงการวิจัยร่วมกันในปลายปี 2547 เพื่อศึกษาค้นคว้าผู้บริโภคที่มีบทบาทโลดแล่นอยู่ในตลาดทุกวันนี้
เป้าหมาย ก็คือ การศึกษาและทำความเข้าใจผู้บริโภคที่เป็นผู้ตัดสินใจซื้อสินค้า และมีบทบาทสำคัญในการซื้อสินค้าอายุตั้งแต่ 18-63 ปี เพื่อทำความเข้าใจและหาคำอธิบายถึงผู้บริโภคเหล่านั้นในเชิงจิตวิทยาให้ลึกซึ้งและชัดเจน ว่า ตัวตน (The Self) ของคนเหล่านั้นเป็นใคร ?!?
จากแนวคิดแบบสากลที่แบ่งกลุ่มผู้บริโภคออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1 กลุ่ม Gen-B หรือ Boomer Generation ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 40-63 ปี
2 กลุ่ม Gen-X ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 34-39 ปี
3 กลุ่ม Gen-Y ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 25-33 ปี
4 กลุ่ม Gen-M หรือ Millennial Generation ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 18-24 ปี
ซึ่งกำลังจะเติบโตเป็นผู้บริโภคคลื่นลูกใหม่ที่จะทำหน้าที่กำหนดเทรนด์การบริโภคสินค้าและบริการต่างๆ ให้แก่สังคม
งานวิจัยชิ้นนี้จึงได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อทำการศึกษาตัวตนของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ว่าลึก ๆ แล้ว เขาคิดอย่างไร นักการตลาดควรจะวางแผนกลยุทธ์อย่างไร จึงสามารถตอบสนองความต้องการของเขาเหล่านั้น
Definition of The Gens
Gen-B หมายถึงกลุ่ม Generation Boomer หรือ Baby Boomer Generation ซึ่งมีอายุปัจจุบันในช่วง 40-63 ปี เป็นผู้บริโภคที่เกิดภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หรือมีชีวิตในวัยเด็กเล็กขณะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ประเมินกันว่าในอเมริกามีจำนวนเด็กที่เกิดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวสูงถึง 78 ล้านคน
ผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ชื่อว่าเป็น Boomer เพราะถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กันในปริมาณมากภายหลังสงครามสงบแล้ว ปัจจุบัน นักการตลาดในหลายๆ ประเทศพุ่งเป้าเน้นทำการตลาดกับกลุ่ม Gen-B เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่, มีกำลังซื้อ มีศักยภาพในการบริโภคสินค้า
อีกทั้งเป็นผู้บริโภคที่มีทัศนคติที่ดีต่อการซื้อจับจ่ายใช้สอยสินค้าเพื่อตัวเอง และบุคคลใกล้ชิด ผู้บริโภคกลุ่มนี้หากกำลังทำงานอยู่ก็กำลังสะสมเงินเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามใจปรารถนา หากเลิกทำงานแล้ว ก็เป็นผู้บริโภคที่พร้อมจะซื้อสินค้าตามความต้องการของตน
อย่างไรก็ตาม คนรุ่นนี้จึงเป็นคนที่รู้คุณค่าของเงิน บ้างาน มุมานะเพื่อสร้างฐานะให้กับครอบครัว แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยมีลูกเร็ว มักนิยมรับราชการ เพราะเชื่อว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี
แบรนด์ที่คนกลุ่มนี้คุ้นเคย ก็จะเป็นแบรนด์ดั้งเดิมอย่างธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, ตู้เย็นยีอี, จักรซิงเกอร์, รถโฟล์กเต่า, นมตราหมี, เบียร์สิงห์ หรือผงซักฟอกแฟ๊บ เป็นต้น
Gen-X หมายถึง Generation X หรือ X Generation ซึ่งมีอายุปัจจุบันในช่วง 34-39 ปี บางตำราอาจจะกำหนดช่วงอายุของ Gen-X ไว้ต่ำถึงผู้ที่มีอายุ 26 ปี ในประเทศไทยเองก็เคยแบ่งกลุ่ม Generation X ออกมาเป็นกลุ่มย่อย แล้วเรียกว่า Yuppies
Yuppies เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวสมัยนั้นที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ เป็นห่วงเป็นใยในเรื่องของภาพลักษณ์ กล้าที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หลายคนนิยมใช้บัตรเครดิต ใช้นาฬิกาโรเล็กซ์ แว่นเรย์แบน รถบีเอ็มดับบิว เครื่องใช้ไฟฟ้าโซนี่ หรือกระทั่งดื่ม Johnnie Walker Black Label
อย่างไรก็ดี Gen-X เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่อาจจะเป็นลูกหรือหลานของ Gen-B เป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมๆ กับความสับสนในชีวิต หลายๆ คนที่เป็น Gen-X เคยผ่านชีวิตวัยบุปผาชน เคยมีอิสระในการดำรงชีวิต แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็เริ่มทำงานอย่างจริงจัง แต่มีอิสระ เนื่องจากสภาพโดยรวมของเศรษฐกิจดีกว่าสมัยที่ Gen-B อยู่ในวัยทำงาน จึงทำให้ Gen-X สามารถเลือกงานได้มากกว่า สามารถตั้งเงื่อนไขให้แก่ที่ทำงานได้ว่าตนเองต้องการทำงานแบบไหน เมื่อไร และอย่างไร
สภาพความเป็นอยู่ของ Gen-X เมื่อเปรียบกับ Gen-B ในขณะที่มีอายุเท่ากันจึงต่างกันมาก Gen-B ทำงานในลักษณะดิ้นรน ใช้แรงงาน รายได้น้อย และมักจะทำงานคนเดียว ในขณะที่ Gen-X ทำงานในลักษณะใช้ความคิด สมาชิกหลักในครอบครัวทำงานทั้งสองคน รายได้ดีทั้งคู่ ใช้ชีวิตแบบคนทันสมัย และหลายๆ คนเป็นหัวหน้างานของ Gen-B ที่อายุมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า แต่การศึกษาต่ำกว่า
Gen-Y หมายถึง Y-Generation หรือ Why Generation เป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความสงสัยในความต่างทางความคิดของ Gen-B ที่อาจจะเป็นญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว และ Gen-X ซึ่งอาจจะเป็นผู้ให้กำเนิด ในขณะที่สมาชิก Gen-B ในบ้านอาจจะเรียกร้องให้ Gen-Y ทำตัวอยู่ในกรอบ แต่สมาชิกที่เป็น Gen-X กลับกระตุ้นให้ Gen-Y เป็นตัวของตัวเอง และท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่เดิม Gen-Y จึงมักจะสับสน แต่ก็มีความต้องการที่จะสำเร็จในทุกอย่างที่สนใจอย่างรวดเร็วกว่า Gen-B และ Gen-X
โดยทั่วไปแล้ว Gen-Y เป็นผู้บริโภคที่ใจร้อน ต้องการเห็นผลสำเร็จทุกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื่อในศักยภาพของตนเอง และเชื่อว่ามีความพร้อมด้านฐานะทางการเงินที่มักจะได้รับการสนับสนุนจาก Gen-X ซึ่งมีรายได้ดี
คน Gen-Y เชื่อว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นต้องทำงานหนัก ทำให้มีการแต่งงานช้าลง ไม่ถึง 30 ไม่แต่ง ถ้ามีแฟนแล้วแฟนมีอุปสรรคกับงาน ก็เลิกกับแฟน เลือกงาน คนกลุ่มนี้มักเปลี่ยนงานบ่อย มีการบริหารเงินจากเครื่องมือต่าง ๆ คนกลุ่มนี้จึงมีเครดิตการ์ดมากกว่า 1 ใบ มีการใช้บริการประเภท Personal Credit มากขึ้น
Gen-M หรือ Millennial Generation หมายถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นเยาว์ ซึ่งมีอายุปัจจุบันในช่วง 18-24 ปี บางตำราอาจจะครอบคลุมอายุต่ำกว่า 18 ปี บ้างก็เรียกคนกลุ่มนี้ว่า”เด็กแนว”
ผู้บริโภคกลุ่มนี้ เป็นผู้บริโภคที่เกิดมาและได้รับการดูแลเสมือนเป็น ไข่ในหิน (The Precious) ผู้ปกครองทุกคนในครอบครัวซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มอื่นๆ ได้แต่พร่ำสอนและดูแลเพื่อไม่ให้สมาชิกในกลุ่มนี้ต้องตกอยู่อำนาจของสิ่งยั่วยุ และยั่วยวนซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในอดีต อาทิ ยาเสพติด รายการทีวีมอมเมา บุหรี่ สุรา รายการบันเทิงยั่วยุอารมณ์ พฤติกรรมก้าวร้าว การติดเชื้อเอดส์ การตั้งครรภํในวัยไม่สมควร เป็นต้น
Gen-M จัดได้ว่าเป็นผู้บริโภคแห่งความหวัง (Generation of Hope) ที่ผู้ใหญ่ในหวังว่าจะมีชีวิตอยู่และแก้ไขความผิดพลาดที่ตนเคยทำในอดีต คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ไม่ชอบเป็นลูกจ้าง มีความต้องการเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก มีความอิสระในตัวเองค่อนข้างสูง มีแนวทางเป็นของตัวเองชัดเจน ไม่เหมือนใคร และไม่อยากให้ใครเหมือน ชอบดู Channel V, MTV
ความไม่รู้ ทำให้ คนฉลาดขึ้น ถ้าอยากที่จะรู้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 14:15:10 » |
|
หุ หุ
งั้น คิดว่า เราอยู่ในกลุ่ม Gen อะไร ? :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 16:11:19 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 18:29:44 » |
|
ใครรู้ บอกที
ผมต้องการทราบ DNS(Domain Name Server) address ของเครื่องตัวเอง จะไปหาได้ตรงไหนครับ เค้าบอกว่ามันอยู่ที่ TCP/IP property
ก็ลองดูแล้วหาไม่เจอ มันคืออะไร สำคัญอย่างไร ใครรู้บอกที
ถามบ้าง :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 114
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 18:50:04 » |
|
ไอ้ไข่
ตั้งแต่ย้ายงานใหม่ดูว่างจังเลยนะ
ตอบยาวๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #88 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 20:13:08 » |
|
:oops: จากแนวคิดแบบสากลที่แบ่งกลุ่มผู้บริโภคออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1 กลุ่ม Gen-B หรือ Boomer Generation ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 40-63 ปี
2 กลุ่ม Gen-X ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 34-39 ปี
3 กลุ่ม Gen-Y ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 25-33 ปี
4 กลุ่ม Gen-M หรือ Millennial Generation ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 18-24 ปี
..........ขอเสริมนะครับ........
...ข้อมูลนี้เป็นของต่างประเทศ(ทางโซนอเมริกา)ซึ่งลักษณะของการจำแนกตาม generation
นั้นไม่แน่ว่าจะนำมาใช้ได้ในทุกประเทศนะครับ ซึ่งมันติดตรงที่ประเพณีและวัฒนธรรมของ
ประเทศนั้นๆ และเกี่ยวโยงกับองค์การการทำงานของแต่ละองค์การจะมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง
ซึ่งลักษณะการทำงาน นิสัยการทำงาน รวมถึงการบริโภคของคน ในแต่ล่ะ generation ของแต่
ละประเทศย่อมมีความแตกต่างกัน แต่ ณ ที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสิ่งเหมือนกันนะครับ
บางอย่างก็มีความเหมือนกัน คนไทยเราไปเอาของฝรั่งมาใช้โดยไม่ได้วิจัยก่อนว่าใช้ในไทยได้จริง
หรือเปล่านะครับ
....เผอิญกำลังทำ Thesis เรื่องนี้อยู่พอดีอะครับ.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป๋าบอล
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 196
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2550, 20:18:28 » |
|
ขยายๆหน่อยโว้ย..ไม่เข้าจาย... prick อ่านว่า พริค แปลว่า กระเจี๊ยว ตรงๆเลยครับพี่โต้ง ใครรู้ บอกที
ผมต้องการทราบ DNS(Domain Name Server) address ของเครื่องตัวเอง จะไปหาได้ตรงไหนครับ เค้าบอกว่ามันอยู่ที่ TCP/IP property
ก็ลองดูแล้วหาไม่เจอ มันคืออะไร สำคัญอย่างไร ใครรู้บอกที
ถามบ้าง :? อยุ่ใน properties ของ Internet Protocol (TCP/IP) ไปที่ใน My Network Places คลิ๊กขวาที่ Local Area Connection เลือก Properties เลือกที่ Internet Protocol (TCP/IP) ใน list แล้วกดปุ่ม Properties ก็จะเห็นช่องสำหรับ set DNS ข้างล่าง DNS เป็นเครื่องที่ใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับ domain name ง่ะ สมมติจะทำ intranet บนเครื่อง ip = 123.456.789.001 แล้วกลัวคนอื่นในบริษัทจำไม่ได้ เราก็ไปตั้งชื่อ Domain ไว้ที่ DNS ของของบริษัท ว่า 123.456.789.001 = www.test.comคราวนี้พอคนเข้าเน็ตบอกว่าจะไปที่ www.test.com มันก็จะไปดูที่ DNS แล้วก็เจอว่า www.test.com ก็คือ 123.456.789.001 แล้วมันก็แปลงเป็นค่า ip ให้เราอัตโนมัติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #90 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2550, 08:05:50 » |
|
แล้วทำไมเครื่องคุณไข่ ต้องทำเป็น DNS Server ด้วยฟะ มะเข้าใจ คุณจะเปิด server เองเหรอ :lol:
ท่าทางเรื่องใบตองของผมจะยากเกิน งั้นถามเรื่อง(ท่าทาง)ไม่ยากข้ออื่นกันบ้าง
ทำไมคนคิดจักรยาน ต้องทำให้จักรยานมี 2 ล้อ เนื่องจากด้วยความคิดของตัวผมเอง ถ้าครั้งแรกเนี่ย ประดิษฐ์ออกมา 4 ล้อ หรือ 3 ล้อ มันไม่ขี่ง่ายกว่าเหรอ ดันทำมา 2 ล้อ ไม่กลัวคนที่เพิ่งเคยเห็นจักรยานครั้งแรก ก้อไม่กล้าขี่ เพราะต้องหัดก่อนหรือเปล่า สู้ทำ 3 หรือ 4 ล้อ ให้คนขึ้นปุ๊บ ก้อสามารถขี่ได้เลยทันทีไม่ดีกว่าเหรอ??
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #91 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2550, 08:26:40 » |
|
ซาบซึ้ง โอ เค เลย เพื่อนบอล
ไม่เสียแรงที่จบ คอมพ์ ไม่เหมือน บางคน ที่ ไปขายแก๊ส
555
เพื่อนต้น ตอนนี้ว่างครับ อยู่ในสถานะว่างงาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #92 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2550, 13:05:36 » |
|
กรูว่าจักรยานแรกๆก็คงมี 4 ล้อ หรือ 3 ล้อนะ..เห็นจักรยานโบราณๆก็เคยเห็น 3 ล้อ แต่มันคงเกะกะ และอีกอย่าง ค่าแรงเสียดทานระหว่างยางกับถนนคงจะเยอะ..(เพราะซัดตั้ง 4 ล้อ) การเหลือ 2 ล้อจะทำให้ผ่อนแรงได้มากกว่ามั้ง..
ส่วนเรื่อง GPRS ยาวมั่ก.ไว้ค่อยอ่าน..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #93 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2550, 17:02:59 » |
|
ป๋าบอลชั่งปราดเปรื่อง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #94 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2550, 13:36:47 » |
|
สงสัยอีกเรื่องครับ..
ทำไมในละคร..หัวกระแทกอะไรที่ไร..ความจำเสื่อมทุกที..แต่ไหงมันยังพูดภาษานั้นๆได้..
สมองมันน่าจะเหมือนคอมพ์นะ..เวลาความจำเสื่อม..มันน่าจะเสื่อมหมดเลย..แบบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้..ทำไมมันลืมเฉพาะชื่อคนกับเหตุการณ์เฉยๆน่ะ..
อีกอย่าง..ทำไมหัวกระแทกอีกทีทีไร...แมร่งงงงง..หายทุกทีเลย..จำได้เฉยเลย..
ถ้ามันมีความเป็นไปได้ทางการแพทย์..จะได้ระวังไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #96 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2550, 00:14:30 » |
|
Amnesia?? p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #97 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2550, 12:35:01 » |
|
มีคำถามมาถามครับ
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าในโรงงานของเรา มีprocessและmachine อะไรบ้าง แต่เราต้องการรู้ว่าจำเป็นจะต้องใช้ facility เท่าไหร่(specification) เช่น hot oil, cooling water และ air pump แบบนี้เราควรจะอ่านหนังสือเล่มไหนครับ
unit operation? แนะนำหน่อย intania ทั้งหลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #98 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2550, 16:56:10 » |
|
อันนี้เราถามเพื่อนเรามาให้อ่ะ
แต่เราว่าน่าจะเป็นพวก IE น่ะไข่ ที่พอจะช่วยได้อ่ะ
"โอ้ ไม่แน่ใจนะว่าหนังสืออะไร ตอนเรียนเคยเรียนเรื่อง Air นะ แต่ตัวอื่นไม่เคย โดยเราดูที่เครื่องจักรเราที่ต้องการใช้ Facility เท่าไหร เสร็จแล้วต้องหัก loss ที่เกิดจากพวกท่อ หรือข้อต่อ
ส่วนใหญ่ในโรงงานมันจะเอาให้ Over จากที่ใช้งาน เวลาเพิ่มอุปกรณ์ หรือ เกิดการใช้ Facility พร้อมกันจะได้ไม่มีปัญหา แล้วก็ไม่ค่อยคำนวณกันหรอก มักให้ Supplier แนะนำว่าต้องเท่าไหร"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #99 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2550, 18:40:52 » |
|
Thank Max
But the big problem ıs the machıne that bought from Chına. They saıd ıf we need more ınformatıon must be addıtıonal paıd.
OK I'll try
:lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #100 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2550, 13:53:00 » |
|
กรูรู้แล้วเรื่องไฟถอยหลังรถอัลติส..แฮ่ๆ..อุตส่าห์ถามวิศวกรของโตโยต้าเลยนะโว้ย..
จริงๆมันเป็นไฟตัดหมอกน่ะ..ข้างนึงเป็นถอยหลัง..ข้างนึงเป็นตัดหมอก..ส่วน LIMO เป็นไฟใส่หลอกเฉยๆ..
ได้ข้อมูลเพิ่มด้วยว่าต้นปีหน้าจะมีเปลี่ยนโฉมอัลติสนะครับ..ใครทำท่าจะซื้อให้รอก่อน..เพราะราคาจะไม่แพงกว่าเดิม..เนื่องจากได้ลดหย่อนอะไรซักอย่างนี้ล่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #101 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2550, 11:13:22 » |
|
ลดหย่อน พวกระบบเบรคเปล่าอ่ะ แบบ ฟอร์จูนเนอร์เปล่าอ่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #102 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2550, 22:42:54 » |
|
ม่ายช่าย..รู้สึกว่าจะเกี่ยวกับเรื่องภาษี..
สงสัยอีกเรื่องครับ..อย่าหาว่าทะลึ่งนะ..
วันก่อนนั่งดูกบนอกกะลา มีเรื่องตัว sperm ด้วย เลยนึกได้ว่า..เอ..sperm คงไม่จัดว่าเป็นสัตว์
แต่มันว่ายน้ำได้..มันตายได้..มันรู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอะไร เมื่อไหร่ ตอนที่มันอยู่ในต้นกำเนิดมันไม่เห็นจะเจาะโน่นเจาะนี่เลย..แต่พอมันได้เวลา มันก็รู้หน้าที่ของมันทันที..
ถ้าไม่จัดว่า sperm เป็นสัตว์ แล้วเค้าได้จัดว่ามันเป็นอะไร มันสั่งการยังไงเพราะมันคงไม่มีสมอง..มันรู้ได้ยังไงว่าไอ้นี่คือสิ่งที่มันต้องเจาะ..มันไม่มีตา ไม่มีสมอง..
ไอ้ที่คุยๆกันในบอร์ดตอนนี้ เมื่อก่อนก็เป็นไอ้ตัวนี้กันมาก่อนนะ..อย่าหาว่าผมทะลึ่งล่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #103 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2550, 12:07:16 » |
|
ตัวของมันเอง ให้กำเนิดไอ้ตัวแบบเดียวกันยังไม่ได้ไง ถึงยังไม่จัดเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะมันยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอให้มันรวมกับอีกภาคหนึงก่อนถึงจะสมบูรณ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #104 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2550, 19:56:50 » |
|
ขอความรู้อีกแล้วครับ
ระหว่าง Electrical heating boiler กับ Natural Gas heating boiler
แบบไหนดีกว่ากัน มีข้อดีข้อเสีย อย่างไร?
ใครรู้ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ว่าจะไปหาอ่านได้ที่ไหน
แต่ก็มาตอบคุณเซียนโต้งด้วย
นิยามของสิ่งมีชีวิตอย่างที่เรารู้จักบนโลก
สิ่งมีชีวิตคืออะไร สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตมีความแตกต่างกันอย่างไร สิ่งมีชีวิตบนโลกมีหลายรูปแบบ (life form) นับตั้งแต่ แบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวมีโครงสร้างอย่างง่ายๆ จนกระทั่งสิ่งมีชีวิตชั้นสูง เช่น มนุษย์ เป็นสัตว์หลายเซลล์มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อน อย่างไรก็ดีสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกย่อมมีคุณสมบัติที่แตกต่างไปจากสิ่งไม่มีชีวิต ดังนี้ 1.ข้อจำกัดทางอายุขัย สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่เป็นวัฏจักร มีวัย อายุขัย และวงรอบชีวิตที่แน่นอน เช่น ยุงมีอายุขัย 7 วัน มนุษย์มีอายุขัยประมาณ 80 ปี ส่วนสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ก้อนหินจะสิ้นอายุขัยตราบเมื่อผุพังหรือสึกกร่อน เปลวไฟมีอายุตราบเท่าที่มีเชื้อเพลิงหล่อเลี้ยง สิ่งไม่มีชีวิตไม่มีกำหนดอายุขัยเป็นคาบเวลาที่แน่นอน 2.การสืบพันธุ์ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีอายุขัยจำกัดเป็นคาบเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสืบพันธุ์เพื่อจะดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเองไว้ การสืบพันธุ์จำเป็นต้องมีความสามารถในการคัดลอกคุณสมบัติของตัวเอง เช่น ลูกคนก็ต้องเป็นคน ลูกสุนัขก็ต้องเป็นสุนัข 3.วิวัฒนาการ สิ่งมีชีวิตมีความประสงค์ที่จะคงเผ่าพันธุ์ของตัวเองไว้ ดังนั้นจึงต้องมีความสามารถในการปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยที่การคัดลอกตัวเองในการสืบพันธุ์นั้น จะมีการกลายพันธุ์ทีละเล็กน้อยอย่างช้าๆ ในระยะเวลาที่ยาวนาน เช่น นกวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์ 4.โครงสร้างร่างกาย ในการดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ สิ่งมีชีวิตจำเป็นจะต้องมี ร่างกาย พลังงาน และชุดคำสั่งทางพันธุกรรม เพื่อสั่งให้เซลล์แต่ละเซลล์ทำงาน นั่นหมายความว่า ชีวิตเป็นทั้งสสาร พลังงาน และข่าวสาร 5.กระบวนการเผาผลาญอาหาร สิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยปราศจากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ร่างกายต้องการวัตถุดิบเพื่อสร้างโครงสร้างและพลังงาน โดยอาศัยกระบวนการเผาผลาญอาหาร (Metabolic process) ซึ่งปลดปล่อยผลผลิตและสิ่งเหลือใช้ กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม
ผิดถูกยังไง comment มานะ
:roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #105 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2550, 13:47:20 » |
|
นั่นล่ะ..ทีนี้เราคงพอจำแนกได้ว่า..มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต..คราวนี้มันรู้หน้าที่ตัวเองได้ยังไง..และมันต้องกินอาหารด้วยใช่มั๊ย..ที่เป็นน้ำตาลฟรุกโตสอะไรนั่นน่ะ..แสดงว่ามันต้องมีระบบขับถ่ายระบายของเสียรึเปล่า..
ถามลึกไปมั๊ยเนี่ยะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #106 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2550, 17:19:55 » |
|
จริง มันไม่รู้หน้าที่หรอก แต่ที่มันคลื่อนที่ของมันตลอดเวลา เพราะส่วนหางมันจะขยับไปมาเองเหมือนใบพัดน่ะ มันไม่เลือกหรอกว่าจะวิ่งไปไหน บางทีวิ่งไปเจอขี้ ยังไม่รู้เร่ืองเลย(สำหรับบางกลุ่ม) มันก็วิ่งไปเลย หลังจาก กรรมการยิงปืนปล่อยตัวนักกีฬาแล้ว ก็วิ่งไป ด้วยความเร็วของตัวเองบวกความเร็วในการปลดปล่อย (อิอิ) พอไปเจอกับไข่ ที่ผนังชั้นแรก (cumulus cell)พอทะลุเข้าไปเจอชั้นที่สอง (zona pellucida) มันจะจับกันได้เพราะมีคู่โปรตีนเหมือนกัน(อันนี้ธรรมชาติออกแบบมา ป้องกันการผสมข้ามพันธุ์) พอจับกันได้ก็ปล่อยเอนไซม์ เพื่อเข้าไป ผสมพันธุ์
มันใช้น้ำตาลฟรุคโตส เป็นแหล่งพลังงานแหละเราว่า ส่วนของเสีย ไม่ได้อยู่ในรูปกาก น่าจะขับถ่ายผ่านผนังเซลล์ได้ เลยไม่ต้องมีรูตูด
ปล. อ่านๆของเค้ามาเหมือนกัน แต่ลองทบทวนแล้วน่าจะใช่ แก้ไขตรงไหนบอกด้วย ปล. ถ้ามันคิดได้จริง ไม่คงไม่วิ่งทางรูทวารหนักให้เหนื่อยเล่นหรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #107 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2550, 17:31:01 » |
|
เอ่อ ...
สมมติ มันอาศัย การจับคู่โปรตีนที่เหมือนกัน ถึงจะผสมกันได้
สมมติมีคน สามารถ หลอก ตัววิ่ง ของเรา ว่า ไข่ที่มันกำลังผสมพันธ์ กันนั้น เป็นไข่ของสิ่งมีชีวิต สายพันธ์เดียวกัน โดยการตัดแต่งโปรตีน (เหมือนกับการตัดต่อ DNA พวกนั้น)
...
มันจะเกิดการผสมข้าม Species หรือเปล่าครับ .. :shock:
...
ยิ่ง สมัยนี้ทำ โคลนนิ่งได้ด้วย ...
:?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #108 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2550, 17:04:20 » |
|
:oops: คำถามสุดยอดเลย...ชาร์ป.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #109 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2550, 17:10:20 » |
|
ไม่เข้าใจครับ
เด็กไร้เดียงสา....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #110 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2550, 18:36:46 » |
|
โดยหลักการ อ่ะ มันใช่ แต่นี่ เค้าบอกว่า มันเหมือนกุญแจของพระเจ้าน่ะ ที่มอบให้แก่สิ่งมีชีวิต แต่ละชนิด เพื่อใช้แยกสายพันธุ์ ออกจากกัน แต่ถ้า มีใครสามรถออกคำสั่ง ให้ cell ทำงานให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการได้ มันก็จะกลายเป็นพระเจ้า ยังไง รอจารย์โอ มาช่วยชี้แนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #111 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2550, 22:07:11 » |
|
ตัวของมันเอง ให้กำเนิดไอ้ตัวแบบเดียวกันยังไม่ได้ไง ถึงยังไม่จัดเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะมันยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอให้มันรวมกับอีกภาคหนึงก่อนถึงจะสมบูรณ์ ถ้างั้นไวรัสก็ไม่สมควรเป็นสิ่งมีชีวิตด้วย(จริงๆนักชีววิทยาบางท่านก็กล่าวเช่นนี้จริงๆ ว่าไวรัสไม่สมควรจัดเป็นสิ่งมีชีวิต) เพราะออร์แกนเนลล์ก็ไม่มี เคลื่อนไหวเองก็ไม่ได้ ให้กำเนิดพวกเดียวกันโดยตรงก็ไม่ได้ด้วย(ต้องอาศัยกลไกของเซลล์Host ในการสร้างตัวมันขึ้นมา) เอ่อ ... สมมติ มันอาศัย การจับคู่โปรตีนที่เหมือนกัน ถึงจะผสมกันได้ สมมติมีคน สามารถ หลอก ตัววิ่ง ของเรา ว่า ไข่ที่มันกำลังผสมพันธ์ กันนั้น เป็นไข่ของสิ่งมีชีวิต สายพันธ์เดียวกัน โดยการตัดแต่งโปรตีน (เหมือนกับการตัดต่อ DNA พวกนั้น) ... มันจะเกิดการผสมข้าม Species หรือเปล่าครับ .. ... ยิ่ง สมัยนี้ทำ โคลนนิ่งได้ด้วย ... หลอกได้หรือเปล่าไม่รู้?(ถ้ามันห่างกันมากน่ะนะ) แต่ถ้าโครงสร้างโปรตีนที่ว่านั่นมันใกล้เคียงกัน มันก็เจาะข้ามสายพันธุ์กันได้ เอาง่ายๆ สเปิร์มลา ยังเจาะไข่แดงม้าได้เลย และทุกวันนี้ผมก็ยังสงสัยว่า คนกับชิมแปนซีหรือกอริลล่า สามารถผสมข้ามพันธุ์กันได้ไหม? :shock: ผมเชื่อว่าต้องเคยมีคนทดลอง(ในหลอดทดลอง)แล้วแน่ๆ(เพราะจะว่าไปแล้ว องค์ประกอบในดีเอ็นเอของคนกับชิมแปนซีคล้ายกันมากๆ) ไม่ว่าจะเป็นเอาตัวอสุจิลิงผสมไข่คน หรือสลับเอาอสุจิคนผสมไข่ลิง แต่ผลการทดลองที่ได้ คงไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพราะผิดจริยธรรมอย่างรุนเเรงที่สุด :shock: (แต่ผมเชื่อว่า ผสมได้!)ลองอ่านจากสองกระทู้นี้ดู http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5944474/X5944474.htmlhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5977410/X5977410.htmlหมายเหตุ > กระทู้อันแรกคนอื่นตั้งไว้ก่อน แต่อันที่สองผมเป็นคนตั้งเอง(ในพันทิปอ่ะนะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #112 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2550, 13:56:59 » |
|
แล้วตกลงไอ้ sperm มันเป็นตัวอะไร..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #113 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2550, 14:41:09 » |
|
แล้วตกลงไอ้ sperm มันเป็นตัวอะไร.. ผมว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตครับ แต่มันยังไม่สมบูรณ์ก็เท่านั้น มันไม่อาจจัดเป็นสัตว์ เพราะสัตว์ต้องมีหลายเซลล์ มีอวัยวะฯลฯ แต่น่าจะจัดเป็น"เซลล์ของสัตว์"ได้ ในสถานะเดียวกับพวกแบคทีเรีย หรืออมีบา อะไรประมาณนั้น :? อ้อ ผมว่าเซลล์ไข่ ก็น่าจัดเป็นสิ่งมีชีวิตได้เช่นกันครับ(ระดับเดียวกับอมีบา) แต่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับสัตว์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #114 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2550, 16:25:19 » |
|
:oops: ข้าเจ้าคิดว่า....สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง....มีวัฒนาการของความอยู่รอด..อนาคตข้างหน้า..
อาจมีการวิวัฒนาการ ....การกำเนิดข้ามสายพันธุ์ก็เป็นไปได้....แต่จะนานแค่ไหนเท่านั้นเอง....
สังเกตได้จาก..บรรพบุรษของมนุษย์...(โครมันยอง..หรือ..โฮโมเซเปี้ยน)..ก็คล้ายๆลิงมาก่อน...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #115 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2550, 13:04:26 » |
|
ต้องรอผู้รู้จริงมาเฉลย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #116 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2550, 16:17:48 » |
|
I also don't know...just follow your text...keep going on...Nong Aj.O..what is spermian exactly?? p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #117 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2550, 20:06:02 » |
|
จริงๆไอ้แครมมมันน่าจะตอบได้นะ..เห็นมันเชี่ยวชาญเรื่องทำนองนี้..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #118 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2550, 23:21:47 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #119 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2550, 13:19:48 » |
|
เรื่องจริงหรือเนี้ย :shock: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #120 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2550, 22:15:00 » |
|
คำว่า ภาพยนตร์แนวY นี่คืออะไรครับ? ใช่ภาพยนตร์แนวพวกนิยมถั่วดำหรือเปล่า? แล้วทำไมเค้าเรียกว่า Y ล่ะครับ? มีที่มายังไง? :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #121 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2550, 23:44:16 » |
|
มาจากคำภาษาญี่ปุ่นอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ yori หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่หมายถึง รสนิยมประเภท ชอบเพศเดียวกัน ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง ประมาณนั้น
นอกจากนี้ ยังมีตัวย่อต่างๆมากมาย ซึ่งนิยมใช้กำหนดแนวของการ์ตูนหรือหนัง H = Hentai = ลามก L = Lolicon = นิยมเด็กวัยก่อนเจริญพันธุ์ K = Kenshiro = การ์ตูนกล้าม เดียวนี้ก็มีเรื่องบากิเป็นหัวหอก
มีอีกแยะ ไปหาเอาในพันทิพย์ก็ได้เน้อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #122 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2550, 19:37:42 » |
|
มาจากคำภาษาญี่ปุ่นอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ yori หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่หมายถึง รสนิยมประเภท ชอบเพศเดียวกัน ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง ประมาณนั้น
นอกจากนี้ ยังมีตัวย่อต่างๆมากมาย ซึ่งนิยมใช้กำหนดแนวของการ์ตูนหรือหนัง H = Hentai = ลามก L = Lolicon = นิยมเด็กวัยก่อนเจริญพันธุ์ K = Kenshiro = การ์ตูนกล้าม เดียวนี้ก็มีเรื่องบากิเป็นหัวหอก
มีอีกแยะ ไปหาเอาในพันทิพย์ก็ได้เน้อ K มาจากคำว่า Kiniku(แปลว่ากล้ามเนื้อ)ไม่ใช่เหรอ? :shock: ตัวอย่าง Hentai http://r-comic.com/akpro/www/doujin/SLAVE_HUNTER/index.html :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #123 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2550, 02:00:52 » |
|
คำว่า ภาพยนตร์แนวY นี่คืออะไรครับ? ใช่ภาพยนตร์แนวพวกนิยมถั่วดำหรือเปล่า? แล้วทำไมเค้าเรียกว่า Y ล่ะครับ? มีที่มายังไง? :?
ลองอ่านนี่ดูครับพี่โอ http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3506166/A3506166.html
จริงๆ คำว่า Y มาจาก Yaoi (ช+ช) และ Yuri (ญ+ญ) แต่ส่วนใหญ่จะหมายถึงกลุ่มแรกมากกว่า (คาดว่าเป็นเพราะมีกระแสนิยมมากกว่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #124 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 00:58:42 » |
|
อยากทราบว่า สมมติถ้าเราโพสข้อความ หรือวิจารณ์รูปภาพดารา ว่าเค้าน่า XXX มาก หรือว่าเห็นแล้วหงี่ อะไรทำนองนี้... จะเข้าข่ายหมิ่นประมาทตามกฏหมายหรือเปล่า? ...เพราะกรณีแบบนี้ไม่ใช่เป็นการวิจารณ์หรือด่าทอบุคคลผู้นั้น แต่เป็นการบอกความรู้สึกที่เรามีต่อบุคคลผู้นั้น ต่ะหาก? เราไม่ได้บอกว่าเค้าเลวทรามอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไปทำอะไรไม่ดี แต่เราบอกว่าเห็นแล้วหงี่ อยากXXX :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #125 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 01:22:40 » |
|
you have right to"feel"...no one can sue you for that private feeling... p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #126 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 10:58:56 » |
|
อยากทราบว่า สมมติถ้าเราโพสข้อความ หรือวิจารณ์รูปภาพดารา ว่าเค้าน่า XXX มาก หรือว่าเห็นแล้วหงี่ อะไรทำนองนี้... จะเข้าข่ายหมิ่นประมาทตามกฏหมายหรือเปล่า? ...เพราะกรณีแบบนี้ไม่ใช่เป็นการวิจารณ์หรือด่าทอบุคคลผู้นั้น แต่เป็นการบอกความรู้สึกที่เรามีต่อบุคคลผู้นั้น ต่ะหาก? เราไม่ได้บอกว่าเค้าเลวทรามอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไปทำอะไรไม่ดี แต่เราบอกว่าเห็นแล้วหงี่ อยากXXX :shock: ต้องให้น้าแครมมาตอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #127 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 08:19:38 » |
|
ต้องให้น้าแครมมาตอบ แล้วทำไมต้องตูด้วยวะ เคยมีเรื่องดีๆ แล้วโยนให้ตูบ้างไหม๊ ตามความคิดส่วนตัวนะ ถ้าไปพูดต่อหน้าเค้า หรือป่าวประกาศ ก้อน่าจะหมิ่นนะ เพราะ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับความอับอาย ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #128 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 09:58:03 » |
|
น่าจะเป็นการประจาร ในที่สารธารณะอ่ะ
ต้องดูพวกประมวลกฎหมายอาญาอ่ะ
คือมันจะนับว่ามีคนรับรู้กี่คนถึงจะเป็นสารธารณะ
แต่ถ้าเป็นพวกบัตรสนเทศ (ถูกเปล่าหว่า) มันก็จะมองอีกแบบอ่ะ
แต่ถ้าพูดต่อหน้าเค้าตรงๆ ก็จะเป็นหมิ่นประมาทซึ่งหน้าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #129 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 11:37:42 » |
|
น่าจะเป็นการประจาร ในที่สารธารณะอ่ะ
ต้องดูพวกประมวลกฎหมายอาญาอ่ะ
คือมันจะนับว่ามีคนรับรู้กี่คนถึงจะเป็นสารธารณะ
แต่ถ้าเป็นพวกบัตรสนเทศ (ถูกเปล่าหว่า) มันก็จะมองอีกแบบอ่ะ
แต่ถ้าพูดต่อหน้าเค้าตรงๆ ก็จะเป็นหมิ่นประมาทซึ่งหน้าครับ
น่าจะเป็น "บัตรสนเท่ห์" นะครับ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #130 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 12:00:56 » |
|
ว่าแต่ ทำไมต้อง สนเท่ห์ ด้วย? มันเท่ห์ยังไง? มันมาจากไหนคำนี้?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #131 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 12:39:23 » |
|
ประมาณว่าส่งจดหมายไปด่า
แบบไม่ลงชื่อผู้ส่งน่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #132 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 13:11:20 » |
|
ว่าแต่ ทำไมต้อง สนเท่ห์ ด้วย? มันเท่ห์ยังไง? มันมาจากไหนคำนี้? ถ้าจำไม่ผิด คำว่า "เท่" ที่แปลว่า หล่อดูดีอะไรทำนองเนี๊ยะ มันไม่มี "ห์" นะ เพียงแค่มีนักร้องคนนึง เขียนให้มี "ห์" เลยกลายเป็นให้คิดว่า ต้องสะกดว่า "เท่ห์" กันไป ใครรู้ยืนยันด้วย ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #133 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 13:56:56 » |
|
อันนั้นกรูพอเข้าใจ แต่ไอ้บัตรสนเท่ห์เนี่ย ทำไมต้องสน? ทำไมต้องเท่ห์? ถ้าใครโดนทิ้งบัตรสนเท่ห์แล้วมันเทห์ตรงไหนวะ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #134 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 14:45:44 » |
|
ป้อม กรูว่ามันมาจาก ฉงนสนเท่ ว่ะ
ประมาณว่า คงงง ว่าใครส่งมาด่ากรูว่ะ ประมาณนี้เปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #135 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 14:52:45 » |
|
แสดงว่า เดิม มาจากคำว่า "บัตรฉงนสนเท่"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #136 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2550, 09:02:33 » |
|
ป้อม กรูว่ามันมาจาก ฉงนสนเท่ ว่ะ
ประมาณว่า คงงง ว่าใครส่งมาด่ากรูว่ะ ประมาณนี้เปล่า อันนี้ดูใกล้เคียงและมีความรู้มากที่สุดครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #137 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2550, 14:06:07 » |
|
เป็นประเด็นซะงั้น..ไอ้สนเท่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #138 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2550, 21:21:10 » |
|
ก๊อปมาแปะไว้เล่นๆเป็นเกร็ดความรู้ จะมีใครรู้บ้างว่า พริก พริกไทย มะเขือเทศ มะขาม กระถิน จามจุรี(สัญลักษณ์ของมหาลัยฯ) บัวตอง(ดอกไม้ขึ้นชื่อทางภาคเหนือ) แท้จริงแล้วไม่ใช่พืชดั้งเดิมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บางชนิดมีที่มาจากแดนใกล้ๆ คืออินเดีย แต่บางชนิดก็มาจากแดนไกลโพ้น คืออเมริกากลางและอเมริกาใต้(เพราะมีสภาพอากาศร้อนชื้นคล้ายกัน พืชที่มาจากอเมริกาใต้จึงเจริญได้ดีในเมืองไทย) http://eduarea.bkk2ict.net/bio_variety/7result/result06.htmlประเทศไทยนำเข้าชนิดพันธุ์ต่างถิ่นใดบ้างโดยจงใจ? ประเทศไทยได้มีการนำเข้าชนิดพันธุ์ต่างถิ่นทั้งพืชและสัตว์มาเป็นเวลานานจนลืมไปแล้วว่าเป็นชนิดพันธุ์นำเข้า ชนิดพันธุ์และพันธุกรรมต่างถิ่นที่นำเข้ามาเพื่อการเกษตรและการประมง นับได้ว่าเป็นหัวใจในการผลิตและพัฒนาอาหารให้กับโลกโดยรวม อาจกล่าวได้ว่าการนำเข้าขนิดพันธุ์ต่างถิ่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ แต่เดิมได้ถือว่าชนิดพันธุ์และพันธุกรรมเป็นสมบัติของโลกที่ประเทศต่างๆ สามารถนำไปพัฒนาได้โดยเสรี พันธุ์ข้าวป่าของหลายประเทศรวมทั้งของประเทศไทยได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) และประเทศต่างๆ สามารถขอไปปรับปรุงพันธุ์ข้าวในประเทศของตนได้ การผลิตยางพารา 90 เปอร์เซ็นต์ของโลกเป็นการผลิตในประเทศไทย มาเลเซียและ อินโดนีเซีย ซึ่งได้มาจากเมล็ดของยางป่าจากประเทศบราซิล การผลิตยาควินิน 95 เปอร์เซ็นต์จากต้นควินิน (Cinchona calisaya) ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองในประเทศเอกวาดอร์ เปรู และโบลิเวีย เป็นการผลิตในเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซีย หรือฝ้ายอียิปต์ (Egyptian cotton) ซึ่งเป็นฝ้ายคุณภาพที่มีเส้นใยยาวเป็นฝ้ายพันธุ์ที่ได้มาจากทวีปอเมริกากลาง ประเทศไทยส่งมันสำปะหลังออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก และสับปะรดเป็นอันดับสองของโลก แต่ทั้งมันสำปะหลังและสับปะรดมิใช่พืชชนิดพันธุ์ท้องถิ่นของประเทศไทย แต่มีกำเนิดในประเทศบราซิล ประเทศไทยได้นำเข้าสัตว์เลี้ยงพื้นบ้านจากต่างประเทศ เช่น สุนัข หมู เป็ดเทศ ไก่อู วัว แพะ และแกะ สัตว์เหล่านี้เป็นแหล่งอาหารและสินค้าที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันมีการปรับปรุงพันธุ์และได้นำพันธุกรรมใหม่ๆ เข้ามาอีกมาก ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของการผสมพันธุ์ ทำให้มีการสั่งน้ำเชื้อและไข่เข้ามาแทนการนำตัวสัตว์เข้าประเทศ และทำการผสมให้กับพันธุ์พื้นเมืองเพื่อการเพิ่มผลผลิต มีการนำปลาต่างถิ่นเข้ามามากมาย ทั้งเพื่อการเลี้ยงเพื่อเป็นอาหารและปลาสวยงาม กรมประมงได้ทำการเพาะพันธุ์ปลาต่างถิ่นปล่อยลงสู่แหล่งน้ำปีละมากๆ โดยเฉพาะปลานิล ปลายี่สก ปลาดุกยักษ์ ปลาเหล่านี้ถูกปล่อยลงแม่น้ำด้วยความจงใจเพื่อเพิ่มอาหารและรายได้แก่ชาวประมง บางชนิดมีการเลี้ยงเป็นกิจการขนาดใหญ่และในบางกรณีมีการเล็ดลอดออกสู่ธรรมชาติ มีการนำเข้าไม้ดอกไม้ประดับค่อนข้างมาก บางชนิดสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละมากๆ เช่น กุหลาบ เฟื่องฟ้า หน้าวัว และไม้ตัดดอกอื่นๆ พืชบางชนิดนำเข้ามาแล้วแพร่กระจายสู่ป่า โดยตรง เช่น บัวตอง และหญ้าขจรจบ เป็นต้น มีการนำเข้าพืชต่างถิ่นมาเป็นสมุนไพรเข้ามามากมาย บางชนิดกระจายเป็นไม้ป่าผสมกับไม้พื้นเมืองจนยากที่จะแยกออก ทั้งนี้เนื่องจากสมัยโบราณเมื่อมีการเดินทางไปที่ใดและพบเห็นมีการใช้พืชสมุนไพรใด หมอยาก็มักจะนำต้นหรือเมล็ดเข้ามาปลูกเพื่อใช้รักษาคนป่วย สมุนไพรพวกนี้สืบพันธุ์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ชุมเห็ดเทศ ขี้เหล็กบ้าน เป็นต้น ในสวนสัตว์ และสวนพฤกษศาสตร์ ได้เก็บรวบรวมชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจากต่างประเทศ ไว้มากมาย เมื่อแหล่งดั้งเดิมสูญหายไปหรือมีปัญหา ก็มีการนำคืนสู่ถิ่นเดิมได้ ดังเช่นประเทศไทยได้เป็ดก่า และนกกระเรียนมาจากต่างประเทศเพื่อฟื้นฟูประชากรใหม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #139 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2550, 21:58:28 » |
|
http://61.19.145.8/student/web42106/501/501-0410/chili.html พริกกับอาหารไทย พริกจะเข้ามาถึงเมืองไทยเมื่อไรโดยใครนั้น ยากที่จะบอกให้แน่ชัดลงไปบางแห่งบอกว่า เข่ามาพร้อมกับนักเดินเรือและพ่อค้าชาวโปรตุเกส ในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวปี ค.ศ. 1511 ประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 21 ช่วงรัชสมัยสมเด็จพระชัยราชาและต่อถึงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ก่อนเสียกรุงครั้งแรกแก่พม่าในปี พ.ศ. 2112 หากพริกไม่ได้เข้ามาในช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงพระเจ้าทรงธรรมต่อถึงสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศสูงมาก ทั้งจีน อินเดีย แขก มลายู และฝรั่ง ในพุทธศตวรรษต่อมา เมื่อแรกที่พริกเข้าเป็นประเด็นหนึ่ง แต่อีกนานเท่าไรกว่าวัฒนธรรมการทำอาหารของไทยจะรับและดัดแปลงพริกเข้าเป็นส่วนสำคัญ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ไม่อาจรู้ได้แน่ชัด เช่น เราไม่ทราบว่าแกงเผ็ดของไทยซึ่งมีรสชาติเฉพาะตัว และเผ็ดด้วยพริกชี้ฟ้าแห้งในเครื่องแกง พัฒนาจนสมบูรณ์แต่เมื่อไร ข้อเขียนของฝรั่งเกี่ยวกับเมืองไทยที่เอ่ยถึง “แกงใส่พริกและเครื่องเทศ” ว่าเป็นอาหารของคนไทย ที่เก่าสุดเป็นของนายแฟรงค์ วินเซนต์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ( ช่วง พ.ศ.2414 – 2415 ) แต่หากกล่าวถึง “น้ำพริกกะปิ” กลับมีฝรั่งเอ่ยเล่าไว้ตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ ( พ.ศ.2228 ) พอมาถึงสมัยกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงก็มีฝรั่งเล่าถึงน้ำพริกกะปิเป็นการสอดคล้องอีก ทั้งหมดนี้อาจสรุปเป็นคร่าว ๆ ได้ว่า คงใช้เวลานานหลายร้อยปีกว่าพริกจะซึมไปทั่วอาหารไทยอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทุกวันนี้พริกปรากฏเป็นเครื่องประกอบอาหารไทยอทบทุกรูปแบบทั้งแกง ต้ม หมก ยำ ผัด ก็ล้วนแต่ต้องใส่พริก น้ำพริกที่มีมากมายหลายชิดก็อร่อยและเผ็ดร้อน มีชื่อเสียง นอกจากนั้นอาหารไทยยังขึ้นชื่อว่ามีน้ำจิ้มปรุงด้วยพริกตามประเภทอาหาร หลากหลายชนิดอย่างน่าอัศจรรย์ตั้งแต่ง่าย ๆ แบบน้ำปลาใส่พริก จนถึงที่ซับซ้อนแบบมีสมุนไพรและเครื่องเทศอื่น ๆ ผสม เช่น ที่ใช้จิ้มอาหารทะเล เป็นต้น เหตุเพราะอาหารไทยมีชื่อเสียงในด้านเผ็ด พริกของไทยจึงโด่งดังเป็นที่รู้จักของชาวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง พริกที่ปลูกในไทยมีอาทิ พริกชี้ฟ้า พริกชี้หนู พริกหยวก พริกเหลือง พริกเดือยไก่ พริกตุ้ม แต่ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าในเมืองเทยเริ่มเพาะปลูกพริกพันธุ์เหล่านี้กันตั้งแต่เมื่อไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #140 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2550, 19:53:23 » |
|
เมื่อพูดถึงอาหารที่คิดว่าเป็นของไทย แต่จริงๆ แล้วมาจากต่างชาติ อดคิดถึงอาหารที่ชื่อ ปลานิล ไม่ได้ทุกที เพราะตอนเด็กกินบ่อยมาก พอๆกับปลาทู เลยนึกว่าคนไทยกินมันมานานแล้ว
แต่...
"ปลานิลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทรงจัดส่งเข้ามาทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน 50 ตัว ครั้งนั้นได้ทรงโปรดเกล้า ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งโครงการในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา"
:shock: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #141 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2550, 19:57:08 » |
|
Oh,I like Plaa nil tord-grorb!! p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #142 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2550, 20:02:35 » |
|
ว่าแต่ ทำไมต้อง สนเท่ห์ ด้วย? มันเท่ห์ยังไง? มันมาจากไหนคำนี้? ถ้าจำไม่ผิด คำว่า "เท่" ที่แปลว่า หล่อดูดีอะไรทำนองเนี๊ยะ มันไม่มี "ห์" นะ เพียงแค่มีนักร้องคนนึง เขียนให้มี "ห์" เลยกลายเป็นให้คิดว่า ต้องสะกดว่า "เท่ห์" กันไป ใครรู้ยืนยันด้วย ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตาแคม
ที่สะกดถูกต้องคือแบบนี้ครับ
เท่ ถูก เท่ห์ ผิด สนเท่ห์ ถูก สนเท่ ผิด
อ้างอิงจาก http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #143 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2550, 10:10:55 » |
|
วันก่อนดูรายการของเกษตรโครงการหลวง
ที่เลี้ยงปลาเทราซ์ น่ะ
เลยคิดแว๊บๆ มาว่าที่ อ.สอยดาวที่จันทบุรี
จะเลี้ยงปลาพันธุ์นี้ได้บ้างเปล่าอ่ะเพราะอากาศเย็น
แล้วก็ต้นนางพญาเสือโคร่งอีกอ่ะ ถ้าปลูกได้ จะเจ๋งเลยอ่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #144 เมื่อ: 22 มกราคม 2551, 12:53:37 » |
|
ไม่รู้จะเอาไปไว้กระทู้ไหนดี มาไว้กระทู้นี้ล่ะกัน ---------------------------------- คือของเราเป็นอ่ะ ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า ในกระทู้เรื่อง "กระทู้เพลงหายไป" อ่ะ เวลาจะ post หรือ เข้าไปดูในบางหน้า IE จะเกิดอาการค้าง และ แฮ็งค์ไปเลย สาเหตุหนึ่ง คาดว่า น่าจะมีการวาง object พวก เครื่องเล่นเพลง หรือ หน้าจอวิดีโอลงไป ที่คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะ เรา post ลงไป แล้ว เหมือนมันเอ๋อๆ ไปเลย จะเข้าก้อเข้าไม่ได้ จะลบก้อได้ จะ edit ก้อ edit ไม่ได้ ถ้ามันมาสาเหตุจากอันนี้จริง (อันนี้ต้องให้หลายๆ คนมายืนยัน) รบกวนช่วยไป edit เหล่า object นั้น ให้กลายเป็น link URL แทนได้ป๊ะ ถ้าเข้าไม่ได้เพราะว่ามันเอ๋อตลอด ให้ log in เป็นชื่อเราก่อน แล้วพิมพ์ http://www.cmadong.com/community/board/posting.php?mode=editpost&p=แล้วตามด้วยเลขที่ของข้อความของเราที่ต้องการ edit ลงไปในกล่อง address ของ IE อ่ะ ซึ่งเราจะรู้ได้จากการใช้การ search หาข้อความนั้นๆ จะได้เลขออกมา เช่นได้เลยว่า 79530 กอ้พิมพ์ว่า http://www.cmadong.com/community/board/posting.php?mode=editpost&p=79530เท่านี้เราก้อจะเข้าไป edit ข้อความของตัวเราเองได้แล้ว แต่ถ้าใคร edit ไม่ได้ก้อบอกมานะว่าจะให้ edit ข้อความไหนให้ (เฉพาะห้อง 39 นะ เพราะเค้ามีสิทธิ์ edit ได้ เฉพาะห้องนี้ จาก moderator จำเป็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #145 เมื่อ: 22 มกราคม 2551, 18:11:06 » |
|
ทำไมสมัครจะได้เป็นนายกฯครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #146 เมื่อ: 29 มกราคม 2551, 20:35:59 » |
|
ทำไมสมัครจะได้เป็นนายกฯครับ.. ทำไงสมัครจะได้ไม่เป็นนายกค่ะ :roll: :roll: :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #147 เมื่อ: 29 มกราคม 2551, 22:24:46 » |
|
ตอนนี้ แต่งตั้งไปแล้วครับ สำหรับนายกฯ สมัคร หรือเรียกแบบน่ารักว่า น้าหมี (หน้าหัก)
ไม่ทันแล้ว ถ้าจะไม่ได้เป็นนายก เหลือแค่สองทาง คือ ตาย กับ ติดคุกครับ ทันทีที่ศาลตัดสิน ว่านายสมัครมีความผิด เรื่องรถดับเพลิง ก็คงจะต้องลาออก แต่ทำใจ ง่ายกว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #148 เมื่อ: 30 มกราคม 2551, 11:41:27 » |
|
ตอนนี้ แต่งตั้งไปแล้วครับ สำหรับนายกฯ สมัคร หรือเรียกแบบน่ารักว่า น้าหมี (หน้าหัก)
ไม่ทันแล้ว ถ้าจะไม่ได้เป็นนายก เหลือแค่สองทาง คือ ตาย กับ ติดคุกครับ ทันทีที่ศาลตัดสิน ว่านายสมัครมีความผิด เรื่องรถดับเพลิง ก็คงจะต้องลาออก แต่ทำใจ ง่ายกว่าครับ งั้นเลือกทางแรกดีกว่า (ตาย...โหดไปป่าว) ไม่อยากทำใจเลย ประเทศชาติจะเป็นยังไงหน่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #149 เมื่อ: 30 มกราคม 2551, 15:15:05 » |
|
ขอถามบ้างนะค่ะ...มีใครรู้เรื่องปีชง.....บ้างค่ะ... เห็นว่าปีนี้...ปีชวด...ชงกับ...ปีมะเมีย (หลายคนในรุ่นเราน่าจะเกิดปีนี้ใช่มั้ยค่ะ) แล้วมีวิธีการแก้เคล็ดได้อย่างไรบ้างค่ะ...เช่น..ไปไหว้พระ..ทำบุญได้ที่ไหนบ้าง.... มีใครพอมีความรู้เรื่องนี้ไหมค่ะ ใครแนะนำด้วยค่ะ:wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #150 เมื่อ: 30 มกราคม 2551, 16:10:34 » |
|
ขอถามบ้างนะค่ะ...มีใครรู้เรื่องปีชง.....บ้างค่ะ... เห็นว่าปีนี้...ปีชวด...ชงกับ...ปีมะเมีย (หลายคนในรุ่นเราน่าจะเกิดปีนี้ใช่มั้ยค่ะ) แล้วมีวิธีการแก้เคล็ดได้อย่างไรบ้างค่ะ...เช่น..ไปไหว้พระ..ทำบุญได้ที่ไหนบ้าง.... มีใครพอมีความรู้เรื่องนี้ไหมค่ะ ใครแนะนำด้วยค่ะ:wink: เห็นเค้าเ่ล่าว่าวัดมังกร หรือ วัดนาจา ที่บางแสน ชลบุรีครับ ได้ทั้ง 2 ที่ แต่ไม่ทราบขั้นตอนว่าต้องทำไง...ฮิ ๆ ลูกหลานหมอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #151 เมื่อ: 30 มกราคม 2551, 22:05:53 » |
|
ใครเป็นปีชง ก็ไปทำบุญที่วัดมังกร หรือวัดเล็งเน้อยี่ (ไม่รู้พิมพ์ถูกรึป่าว) ที่เยาวราชสิค่ะ
เข้าไปในวัด เขาก็มีขั้นตอนการสะเดาะห์เคราะห์บอกไว้เรียบร้อยเลยค่ะ
ซื้อ(ใบอะไรสักอย่าง)เพื่อสะเดาะเคราะห์ 100 บาท เขียนชื่อ-สกุล วัน เดือน ปี และเวลาที่เกิด แค่นั้นเองค่ะ
แล้วก็ไปไหว้เทพเจ้า.....(จำชื่อไม่ได้) ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีค่ะ
อันนี้สามารถทำแทนคนอื่นได้ด้วยนะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #152 เมื่อ: 30 มกราคม 2551, 22:10:49 » |
|
:oops: เสียแน่ๆ.....เสียตังค์ให้เจ้าที่..... :oops:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #153 เมื่อ: 31 มกราคม 2551, 11:24:33 » |
|
ทำบุญเยอะๆ..ระวังอุบัติเหตุ..มันก็ควรเป็นเรื่องปกตืที่ต้องทำอยู่แล้วนะ..ชงไม่ชงดีทั้งนั้น..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #154 เมื่อ: 31 มกราคม 2551, 11:51:20 » |
|
เห็นด้วยกับโต้ง อย่าตื่นกับเรื่องพวกนี้เกิน เขาเตือนให้มีสติตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะปีชง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #155 เมื่อ: 31 มกราคม 2551, 15:33:57 » |
|
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบที่มาช่วยกันให้ข้อมูลเจ้าค่ะ....อันที่จริงไม่ได้ตื่นตะหนก...กับปีชง...อะไรมากมายนักหรอก... เพียงแค่อยากได้ข้อมูลไปประดับความรู้เอาไว้...เหตุมาจากเพราะเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา.. ไปร่วมนั่งโต๊ะจีน..กับหนุ่มสาวคู่หนึ่ง...เรารู้จักกับหญิงสาวคนนั้นมาบ้างพอสมควร... แต่ชายหนุ่ม..ที่เธอพามาเปิดตัว..คุยเยอะมาก...ท่าทางจะรอบรู้ซะหมด... ที่อยู่ตอนนึงของการสนทนา..คนในโต๊ะ..ถามคนคู่นี้ว่า..เมื่อไหร่จะมีข่าวดี(หมายถึงแต่งงาน) ชายหนุ่มผู้นั้นตอบว่า...ปีนี้ยังแต่งไม่ได้...ปีนี้เป็นปีชง...หญิงสาวข้างๆ ก็ขานรับพร้อมกัน ว่า...ปีนี้..ปีชวด..ชงกับ..คนเกิดปีมะเมีย..ไม่ค่อยดีหรอกค่ะ... อิชั้น..(ซึ่งนั่งสงบปากสงบคำ)..อยู่นาน..เลย...โพล่ง..ถามไปว่า..แล้วแก้...ปีชง...ยังไงล่ะค่ะ... ชายหนุ่ม..ผู้นั้น...(ซึ่งแสดงท่าทางว่ารอบรู้ไปหมด)..กลับตอบคำถามนี้ไม่ได้...แกล้งเส.. ชวนคนในโต๊ะ..คุยเรื่องอื่นไป...คำถามนี้...เลยคาใจ..อิชั้นมาหลายวันแล้วล่ะค่ะ...กลับมาเรื่องปีชงกันต่อ....ขอบคุณข้อมูลที่น้องหลิม&น้องหญิงให้มาด้วยค่ะ... วัดมังกร..นี่น่าจะเป็น...วัดมังกรกมลาวาส..หรือ...วัดเล่งเน่ยยี่..ที่อยู่แถวเยาวราช..ใช่มั้ยค่ะ... เคยไปไหว้..ขอพร..ที่วัดนี้อยู่ค่ะ...อันที่จริง...ปีใหม่ทุกปี...ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ไทยหรือปีใหม่จีน.. จะมีประเพณีสำหรับตัวเอง...คือ..การไปไหว้พระทำบุญ...ตามวัดที่อยู่ในเกาะรัตนโกสินทร์.. ถ้าเป็นปีใหม่จีน..จะไปไหว้พระที่วัดไตรมิตร...และที่สำคัญอีก 1 วัน คือ วันจักรี (6 เมษา) ทุกปีจะไปสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8 ที่ปราสาทพระเทพบิดร ภายในวัดพระแก้ว ที่จะเปิดให้เข้าในวันนี้....
หาโอกาส..ไปเข้าวัด...ทำบุญกันดู...และก้อมีสติอยู่กับตัวทุกลมหายใจด้วยค่ะ : :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #156 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2551, 14:14:41 » |
|
วัดเล้งฮกยี่ หรือ วัดจีนสโมสรครับ เป็นวัดฝาแฝดกับวัด เล้งเน่ยยี่ ครับ อยู่ที่ฉะเชิงเทรา สองเด้งเลย ไปวัดหลวงพ่อโสธร ต่อด้วยวัดเล้งฮกยี่ พี่ที่ office ไปมาแล้วครับ แค่เข้าโบถส์เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลพรากเลย ควันธูป เข้าตาคับ :lol: :lol: ขอให้ทุกท่านที่ทำบุญ จงมีความสุข จากคนไกลวัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #157 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2551, 15:07:08 » |
|
ไปมาเหมือนกันครับ วัดนี้เมื่อปีที่แล้ว โอ้...น่ารักเพียบ อะม่ายช่าย ...ควันธูปเพียบเลยอ่ะ ระวังโดนธูป จิ้มเอาด้วยนะครับ แต่ละคนถือกำเบ่อเร่อ แล้วก็มีให้เสียตังค์ นั่นๆ นี่ๆ เยอะมากอ่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #159 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2551, 12:42:16 » |
|
หมามันขึ้นไปนอน เพราะสงบ สะพานลอยสงบ เพราะคนไม่ค่อยใช้ คนไม่ข้ามสะพานลอย รถชนตาย สูญพันธุ์ เหลือแต่พวกที่ข้ามสะพานลอย
ประมาณนี้ดีมะ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #160 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2551, 18:58:56 » |
|
และถ้างั้น..ทำไมงูถึงต้องข้ามถนนร้อนๆอยู่เรื่อย..แล้วมันก็โดนรถทับตายทุกที..
ทำไมมันต้องสงสัยด้วย..ว่าฝั่งโน้นมีอะไรเหรอ..เหมือนหมาเลย..ทำไมมันต้องสงสัยด้วย..ว่าฝั่งโน้นมีอะไร..ขอไปดูหน่อย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #161 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 20:14:33 » |
|
มีคนจีนอยู่แถวนี้รึป่าวค่ะ
คือว่า ตรุตจีนที่ผ่านมาทำให้หญิงสงสัยว่า "อั่งเปา" กับ "แต๊ะเอีย" มันเหมือนกันหรือต่างกันยังไงค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #162 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 07:54:07 » |
|
ตอบเรื่องสะพานลอยครับ คนมันขี้เกียจออกแรงต้านแรงโน้มถ่วงโลกครับ ขึ้นบันได มันสูง มันเหนื่อย แต่ไปเสียตังค์เดือนละเป็นหมื่นเข้าฟิตเนตครับ
ขอบ่นต่อเนื่องถึงการใช้ลิฟท์ด้วย แค่ชั้นสองชั้น ก้อไม่เดินขึ้นกัน ต้องกดลิฟท์ เฮ้ออ
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #163 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 14:21:54 » |
|
แต๊ะเอีย..เป็นช่อง 2 ของแต๊ะอั๋ง..
ส่วนเรื่องลิฟต์ เจอประจำครับ..5 6 7 8 แมร่ง..กดเรียงกันเลย..มันส์ดี.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #164 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 21:20:08 » |
|
ผมสงสัยมานานว่า คนเราแรกเริ่มในสมัยโบราณ สูบยาเส้นเพื่ออะไร? มันน่าจะมีสาเหตุ คงไม่ได้เอาความเท่ห์หรือเป็นแฟชั่นอะไรแน่ๆ? จะว่าเพื่อเอาอรรถรสก็ไม่น่าใช่ เพราะมันไม่เคลิ้มเมาเหมือนเหล้าหรือกัญชา?
เคยได้ยินข้อมูลจากหนังสือเล่มนึง กล่าวว่าสรรพคุณของยาสูบเมื่อรมควัน สามารถไล่แมลงบางชนิดได้? เลยสงสัยต่อไปว่า เป็นไปได้ไหมที่จะสูบเพื่อไล่ยุงหรือแมงวัน :shock: :shock: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #167 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 10:13:53 » |
|
ไม่มีเรื่องให้สงสัยครับ....
ทั้งเรื่องของหมาและของงู...มันคงอยากรู้อยากเห็นครับ เพราะว่ามันไม่เคยเห็น...แต่ไอ้ที่กดลิฟท์ทุกชั้นผมว่ารับได้...
แต่ลิฟท์ที่จอดชั้นคู่ คี่...ไม่เข้าใจครับ อย่างเช่นอาคารจอดรถสยาม...สุดท้ายมันก็ช้าเหมือนกันอยู่ดี
ปล. เวลาีมีตำรวจจราจร รถมักติดเสมอ...เห็นด้วยมั้ยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #168 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 10:40:13 » |
|
เห็นไอ้หลิมแล้วนึกได้เลย ...
สงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ ... เมื่อไหร่ไอ้หลิม มันจะทำป้ายโลโก้ สโมสรฟุตบอล ซีมะโด่งเสร็จ ครับ พี่น้อง ....
:twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #169 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 11:53:21 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #170 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 15:39:57 » |
|
เห็นไอ้หลิมแล้วนึกได้เลย ...
สงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ ... เมื่อไหร่ไอ้หลิม มันจะทำป้ายโลโก้ สโมสรฟุตบอล ซีมะโด่งเสร็จ ครับ พี่น้อง ....
:twisted: สาด...แทงข้างหน้าทะลุถึงข้างหลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #171 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 17:46:14 » |
|
มารอฟัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #172 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 18:00:51 » |
|
เลวสิ้นดี..มีเรื่องบัดซบเช่นนี้ด้วยหรือ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #173 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2551, 19:25:45 » |
|
ผมสงสัยมานานว่า คนเราแรกเริ่มในสมัยโบราณ สูบยาเส้นเพื่ออะไร? มันน่าจะมีสาเหตุ คงไม่ได้เอาความเท่ห์หรือเป็นแฟชั่นอะไรแน่ๆ? จะว่าเพื่อเอาอรรถรสก็ไม่น่าใช่ เพราะมันไม่เคลิ้มเมาเหมือนเหล้าหรือกัญชา?
เคยได้ยินข้อมูลจากหนังสือเล่มนึง กล่าวว่าสรรพคุณของยาสูบเมื่อรมควัน สามารถไล่แมลงบางชนิดได้? เลยสงสัยต่อไปว่า เป็นไปได้ไหมที่จะสูบเพื่อไล่ยุงหรือแมงวัน :shock: :shock: :shock: เคยยยย ได้ยินว่า อากาศหนาว เลยสูบยาเส้น เพราะจะทำให้โพรงจมูกอุ่นครับ แต่จำไม่ได้ว่าได้ยินมาจากไหนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #174 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 14:20:07 » |
|
สูบเพื่อให้เป็นมะเร็ง จะได้ตายอย่างทรมานครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #176 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 09:42:51 » |
|
ส่วนเรื่องลิฟต์ เจอประจำครับ..5 6 7 8 แมร่ง..กดเรียงกันเลย..มันส์ดี. กดเรียง ให้อภัยได้คับ ไหนๆ เข้ามาแล้ว ก้อกดๆ ไปเถอะ แต่ไอ้ที่อยากจะบ่นคือ ไอ้พวกจะขึ้นแค่ ชั้น สองชั้นอ่ะครับ มันเหนื่อยขนาดนั้นเชียวเหรอ :? :x สำหรับเรื่องยาสูบ ผมว่า มันไม่น่าสงสัยแค่ยาสูบหรอก มันมีอะไร อะไร หลายๆ อย่าง ที่มนุษย์สรรค์หาจะบริโภคเข้าไป ทั้งๆ ที่บางอย่าง เริ่มต้นไม่น่าจะเอาเข้าปากได้เลย (อาทิ เช่น ของหมัก ของดอง มันรู้ได้ไงกัน ว่าหมักดอง ให้ดูออกเน่าๆ แล้วจะกินได้) มันคงเป็นความอยากรู้อยากลองล่ะมั้ง พอลองแล้วก้อมึนๆ ดี ก้อเลยติดใจ ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #177 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 12:02:50 » |
|
อยากถามว่า iphone นี่มันดียังไงอ่ะครับ คือผมชอบหน้าจอที่มันเวลาเปลี่ยนหน้าแล้วมัน วืดๆ อ่ะสวยดี แต่ไม่รู้อย่างอื่นน่ะมีใครใช้บ้างเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #178 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 18:53:08 » |
|
มันอันเดียวกันกับ i-pod อ่ะป่ะ..
เด็กหลังเขา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #179 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 23:59:56 » |
|
:oops: รู้แค่ว่า ไอโฟน..โทรได้...ไอพอด...โทรไม่ได้.....ง่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #180 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2551, 09:55:55 » |
|
graphic มันสวยมาก ตามสโตล์ แอปเปิ้ลครับ...ผมว่ามันเหมาะกับคนที่ชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ต และเรื่องฟังชัน อื่น ๆ ก็ไม่เลว เกมส์ก็สนุกครับ...
ผมฝากเจ๊จิ๊บซื้อ แล้วครับได้เครื่องเดือนมีนา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #181 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2551, 10:12:43 » |
|
มันเป็นมือถือของค่ายแอปเปิ้ล อ่ะโต้ง หลิมสั่งมาเท่าไหร่อ่ะ แล้วต้องแก้อีมี่ อีกใช่เปล่า ตอนไปประชุมเห็นคนอื่นใช้แล้ว เออ..สวยดีว่ะ กิเลส หนอ กิเลส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #183 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2551, 07:52:43 » |
|
มีตังค์เหลือพอซื้อ มันก้อดีทุกอย่างแหละครับ แต่ก้อต้องทำใจกับการลงทุนเรื่องเทคโนโลยีอย่างนึงว่า มูลค่ามันลดลงอย่างรวดเร็ว จนน่าตกใจ
ตาแคม :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #184 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2551, 15:59:33 » |
|
หลิม ติดต่อจิ๊บไงดีล่ะ จะฝากซื้อมั้ง เอาแบบ16Gที่เพิ่งออกง่ะ เอาเมลล์หล่อนมาก็ได้ ด่วน กำลังหิวไอโฟน มือถือที่ใช้ก็ใกล้พังละ
อีกเรื่องนึง เรียนถามพี่น้องหน่อยครับ ใครติดต่อน้องอิ๊กได้มั่ง? เปลี่ยนเบอร์โทรซะละ ว่าจะไปตรวจสุภาพฟันหน่อย ไม่รู้ว่าย้ายไปไหนหรือยัง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #185 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2551, 16:41:32 » |
|
น้องเค้ากลับมาจากอังกฤษ แล้วเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #186 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 10:42:35 » |
|
อ่าว อิ๊กไปอังกฤษหรอกเรอะ มิน่า ติดต่อไม่ได้
หลิม ว่าไง เร็ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #187 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 11:52:18 » |
|
มีคำถามอีกละ อาจานโอ หรือใครที่รู้ช่วยตอบหน่อย
อยากรู้ว่า เวลาช้างเอเชียมันสู้กันเนี่ย มันชนกันตรงๆด้านหน้าหรือเปล่า ? คือ ไปอ่านกระทู้ในพันธุ์ทิพย์มา มีคนบอกว่า ตามธรรมชาติ ช้างไม่ชนกันตรงๆ ดังนั้นการชนช้างในยุทธหัตถีจึงไม่น่าเป็นไปได้? พี่น้องสัตวะ ใครเรียนเรื่องสัตว์ใหญ่บ้างเนี่ย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #188 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 16:57:43 » |
|
หลิม ติดต่อจิ๊บไงดีล่ะ จะฝากซื้อมั้ง เอาแบบ16Gที่เพิ่งออกง่ะ เอาเมลล์หล่อนมาก็ได้ ด่วน กำลังหิวไอโฟน มือถือที่ใช้ก็ใกล้พังละ
อีกเรื่องนึง เรียนถามพี่น้องหน่อยครับ ใครติดต่อน้องอิ๊กได้มั่ง? เปลี่ยนเบอร์โทรซะละ ว่าจะไปตรวจสุภาพฟันหน่อย ไม่รู้ว่าย้ายไปไหนหรือยัง... เรียนท่านจารย์ป้อม เรื่อง iPhone นี่ติดต่อคุณเจ๊เค้าได้เลยครับ..แต่ผมไม่แน่ใจว่า 16 GB นั้นสามารถแก้ไขได้หรือไม่ คาดว่าน่าจะได้เพราะ firmware นั้นน่าจะเหมือนกัน....ล่าสุดที่ว่า Lock นัก Lock หนา ไม่สามารถแก้ได้มาบุญครองแก้ได้ทุกเวอร์ชั้นแล้ว แค่ 300 บาทเท่านั้นพี่น้อง pnamprcahan @ med.wayne.edu Namprach @ gmail.com ส่วนเบอร์อิ๊กมี ไม่รู้่ว่าใช่หรือเปล่าเพราะ่ว่าโทรไปไม่รับ แนะำนำพี่เจี๊ยบแทนครับ เค้าเข้ากรุงมาแล้วและอยู่คลินิกแถวเมเจอร์รัชโยธินด้วยคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #189 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 17:04:06 » |
|
หลืม... ได้มาเท่าไหร่ บอกราคาได้เปล่า อยากรู้ๆๆๆ จอมันวืดๆ เท่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #190 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 17:13:21 » |
|
หลืม... ได้มาเท่าไหร่ บอกราคาได้เปล่า อยากรู้ๆๆๆ จอมันวืดๆ เท่ดี [/quote ได้มาราคาทุนเลยครับเพราะว่าเจ๊เค้าไม่กล้าบวกผมหรอก ผมขู่เอาไว้ แต่เจ๊เค้าบอกว่าไม่สามารถหิ้วมาเยอะ ๆ้ ได้เพราะว่ามันไม่ผ่านศุลกากร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #191 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 20:12:43 » |
|
เออ..น่าสนใจ..กรูยังไม่เคยเห็นช้างทะเลาะกันเลยว่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #192 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 10:28:49 » |
|
แต๊งกิ้ว หลิม พี่ก็เกรงใจอยู่ เพราะอยากได้2เครื่อง แบ่งคนละเครื่องกับภรรยา เดี๋ยวพี่ลองเมลล์ไปละกัน เป็นภาษาไทยนะ มันคงอ่านได้
ช่วยกันนึกหน่อยเร็วว่าพี่น้องเราใครเรียนเรื่องสัตว์ใหญ่ อยากรู้เรื่องช้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #193 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 10:35:43 » |
|
เรื่องช้างตูไม่รู้ว่ะ แต่เท่าที่สังเกต ตั้งแต่ดูสารคดีของช้างตั้งแต่เด็กจนโต ตูยังไม่เคยเห็นช้างมันทะเลาะกันเลยว่ะ
ไม่ว่าจะเป็นการตบตีกันธรรมดา หรือการแย่งชิงการเป็นจ่าฝูง (มีเป่าหว่า)
หรือว่ามันเป็นสัตว์รักสงบ (แต่ถึงรบไม่ขลาดวะ) แต่สำหรับการทำยุทธหัตถี ที่มันชนกันซึ่งๆ หน้า ก้อคงเป็นไปได้แหละ เพราะมันไม่ได้ชนกันเพราะอยากชน มันชนกันเพราะมีควาญบังคับอ่ะ
ตาแคม :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #194 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 10:47:06 » |
|
เบอร์อิ๊กพี่ก็มี แต่มันกลายเป็นคนอื่นไปละว่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #195 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 11:38:11 » |
|
มันมีสู้กันแน่ๆประสาสัตว์ป่าล่ะ แต่ไม่รู้อีท่าไหนไง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #196 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 12:13:03 » |
|
ไม่รู้นะว่าสู้กันซึ่งหน้าเปล่า
แต่วันก่อนนั้นดู TPBS
สิงโตสู้กับช้างอ่ะ ตัวใหญ่ๆ สิงโตสู้ไม่ได้อ่ะ
แต่ลูกช้างนี่อาหารเลย รุมกันทีเป็นสิบถึงเอาลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #197 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 23:44:08 » |
|
แล้วช้างแมมมอธอีกล่ะ..งายาวๆ ขนยาวๆ สู้กันไงหว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #198 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2551, 10:42:44 » |
|
อีกเรื่องนึง เรียนถามพี่น้องหน่อยครับ ใครติดต่อน้องอิ๊กได้มั่ง? เปลี่ยนเบอร์โทรซะละ ว่าจะไปตรวจสุภาพฟันหน่อย ไม่รู้ว่าย้ายไปไหนหรือยัง... ท่านป้อมเจ้าค่ะ... ตกลงว่าติดต่อน้องอิ๊กได้ยังค่ะ...หนูก็มีเบอร์ของน้องแต่คิดว่าเป็นเบอร์เดียวกัน ที่ติดต่อไม่ได้นี่แหละค่ะ :x ที่คณะทันตะ จุฬาฯ เค้ามีบริการทันตกรรมพิเศษ (นอกเวลาราชการ) ทำหลัง 6 โมง-เย็นและวันเสาร์-อาทิตย์ เช่นเดียวกันค่ะ...ถ้าสนใจลองโทรไปที่เบอร์นี้ดู 0-2218-8902-4 ปล.ไม่แน่ใจนะค่ะ..ว่าถ้าเป็นราชการก็(อาจ)เบิกค่ารักษาทำฟันได้บางส่วนค่ะ.. :roll: แล้วมิทราบว่าสุขภาพฟันของท่านป้อมนี่...ถึงขั้นเจ็บขั้นปวดรึยังค่ะ... รออีกสักเดือนสองเดือนไหวมั้ยค่ะ...กะว่าจะแนะนำให้ท่านป้อม B1 บินตรงไปเป็น.. คนไข้..แรกเริ่ม...ปฐมฤกษ์..ประเดิมร้าน... ให้กับคุณยายหมอป้อม B2 ที่เกาะภูเก็ต..ซะหน่อย..คริคริ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #199 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2551, 17:30:22 » |
|
แค่ตรวจสุภาพฟันเฉยๆจ้ะ คงไม่ต้องบินไปตรวจที่ภูเก็ตม้างงงงงงงงง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #200 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2551, 22:25:40 » |
|
นี่ไงครับ พี่เจี๊ยบ ...
ตอนนี้ เห็นมารับ job อยู่ คลีนิค แถว เมจอร์รัชโยธิน น่ะครับ
...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #201 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2551, 17:33:36 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #202 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2551, 21:28:17 » |
|
ถึงคุณป้อม... ไม่เคยเห็นช้างชนกันเลยครับ? แม้แต่ในสารคดี เลยไม่รู้อ่ะ? สงสัยเหมือนกัน http://www.siamensis.org/board/9329.htmlปรัชญาสุดยอด(สำหรับผมมากเลยอ่ะ?)ดูจากรูป คนเขียนคือ คิลลี่แมน ที่คุณ Max เคยรู้จัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #203 เมื่อ: 03 มีนาคม 2551, 12:48:51 » |
|
อาจานโอช่วยค้นคว้าหน่อยเน้อ เรื่องช้างเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #204 เมื่อ: 03 มีนาคม 2551, 21:15:49 » |
|
http://www.nature-wildlife.com/eletxt.htmเค้าว่ามันเอางาปล้ำกันครับ พี่น้องป้อม แต่อันนี้ช้างAfrica นะ แต่ไม่รู้ช้างไทยจะคิดเหมือนกันไหม อันนี้ตอบยาก เพราะบางทีคนไทยยังเลือก สัตว์ประหลาดเป็นนายกได้เลย ช้างก็เช่นเดียวกัน อาจจะมีความคิดแปลกๆก็ได้ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #205 เมื่อ: 04 มีนาคม 2551, 08:05:53 » |
|
ช้างแอฟริกาใช้งาปล้ำกัน ส่วนช้างน้อยใช้งวงปล้ำกัน อู้ววววว
ตาแคม :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #206 เมื่อ: 04 มีนาคม 2551, 21:22:26 » |
|
ช้างตัวผู้กับช้างตัวผู้ใช่ป่ะ..ใช้งวงปล้ำกันน่ะ..
อึ๋ย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #207 เมื่อ: 05 มีนาคม 2551, 12:41:40 » |
|
ใครรู้เว็บที่เปิดใหม่ล่าสุดบ้าง aol หรือ aor เป็น .org อะไรซักอย่าง ที่รวบรวมข้อมูลสัตว์ในโลกมากที่สุด หลายล้านสปีชี่ เห็นบอกเปิดไม่กี่วัน server ล่ม เพราะคนเข้าไปใช้งานเยอะมาก ตอนนี้น่าจะใช้งานได้แล้น แต่ผมจำชื่อเว็บไม่ได้ ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #208 เมื่อ: 14 มีนาคม 2551, 15:07:35 » |
|
เรียน เซียนโต้ง หรือ ผู้รู้ที่เมตตา ผมกำลังจะสร้างห้องแลปเคมี แต่เจอปัญหาว่าระบบน้ำทิ้งเนี่ย ควรจะใช้ท่อเป็นวัสดุประเภทไหนดี เพราะคิดว่าจะสามารถใช้ท่อพลาสติคธรรมดาได้เนื่องจาก ของเสียที่จะทิ้งเป็นพวกตัวทำละลาย หรือ อาจจะมีพวกกรดหรือเบสแรงๆบ้างบางครั้ง เลยอยากทราบว่าปกติเค้ามีข้อกำหนดหรือไม่ ว่าควรเป็นวัสดุประเภทใด รบกวนด้วย เพื่อนไข่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #209 เมื่อ: 14 มีนาคม 2551, 18:07:04 » |
|
ตอบเพื่อนไข่..
มันจะเป็นท่อเหล็ก..แต่ด้านในบุด้วยอะไรซักอย่าง..ประมาณ PB หรือ PE อะไรประมาณนี้..ลองดูพวกยี่ห้อ ไซเลอร์ แต่เร็วๆนี้มีมาใหม่อีกยี่ห้อจำไม่ได้..พวกตามโรงพยาบาลใช้เยอะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #210 เมื่อ: 14 มีนาคม 2551, 20:39:15 » |
|
ขอบเตียง เอ๊ย ขอบจาย มากมาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 235
|
|
« ตอบ #211 เมื่อ: 19 มีนาคม 2551, 14:55:01 » |
|
ทุกท่านคะ มีเรื่องมาให้ช่วยตอบอีกแล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือค่ะ
ชื่อ "ความสุขของชีวิต" ไม่ทราบว่า มีใครเคยอ่านเหมือนกันมั้ยคะ
(เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ทั้งของตนและของผู้อื่น
โดยเขาเริ่มอาชีพด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่ส่งโทรเลข ซึ่งจากการที่ต้องเป็นคนส่งข้อความด่วนๆ
ทั้งข่าวดีและไม่ดีนี้ ทำให้เขาเห็นแง่มุมต่างๆ ของชีวิต น่าจะประมาณนี้นะคะ)
ถ้าใครเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ ฝากช่วยบอก ISBN หรือชื่อผู้แต่งหรือสำนักพิมพ์ให้หน่อยได้มั้ยคะ
คือต้องการซื้อเป็นของขวัญให้น้องที่ทำงานอะค่ะ แต่ว่าขณะนี้ยังหาซื้อไม่ได้เลย ขอบคุณมากค่ะ :)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #212 เมื่อ: 19 มีนาคม 2551, 17:05:09 » |
|
ขนาดผึ้งยังหาไม่ได้แล้วเราจะเหลือเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #213 เมื่อ: 19 มีนาคม 2551, 18:40:15 » |
|
ไม่คุ้นเลยท่าน..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 235
|
|
« ตอบ #214 เมื่อ: 20 มีนาคม 2551, 08:49:43 » |
|
^ ^ ว้า....ไม่คุ้นกันบ้างเลยเหรอ สงสัยคงต้องซื้อเล่มอื่นแล้วล่ะ หรือไม่ก็ไปเดินดูที่จตุจักร เหอๆ ขอบคุณท่านๆ ที่มาช่วยตอบนะคะ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #216 เมื่อ: 20 มีนาคม 2551, 13:27:27 » |
|
^ ^ ว้า....ไม่คุ้นกันบ้างเลยเหรอ สงสัยคงต้องซื้อเล่มอื่นแล้วล่ะ หรือไม่ก็ไปเดินดูที่จตุจักร เหอๆ ขอบคุณท่านๆ ที่มาช่วยตอบนะคะ :wink: ลอง search หาให้ คาดว่า ต้องใช่แน่ๆ ค่ะ...เขาเขียนไว้ในพันธุ์ทิพย์ ******************************************************
หวัดดีค่า พี่ๆทุกคน แหะๆ หายไปหลายวันกลับมาทีตามอ่านจนตาลาย
เริ่มเลยแล้วกันนะคะ ที่ต๊ะไว้ว่าจะมารีวิว
เรื่องแรกนะคะ - - ความสุขแห่งชีวิต - - โดย วิลเลียม ซาโรยัน ส่วนอันนี้เป็นชื่อภาษาอังกฤษค่ะ The Human Comedy แต่โก๊ะโกะอ่านเล่มแปลเอานะคะ เป็นของ สนพ.อัมรินทร์ ได้มาจาก งานหนังสือคราวล่านี้เอง จากช็อคโซน ลด 50% น่ะค่ะ ประหยัดงบ ไปได้โข
- - เป็นเรื่องราวของหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในอเมริกาในช่วงสงคราม พวกผู้ชายในบ้านจะถูกเกณฑ์ไปรบเพื่อชาติ เหลือแต่ผู้หญิงและเด็ก ตัวละครเอกที่ดำเนินเรื่อง จะเป็นครอบครัวๆหนึ่ง ที่ลูกชายคนโตถูก เกณฑ์ไปรบด้วยเหมือนกัน เหลือแต่แม่ น้องชายคนกลาง น้องสาว แล้วก็น้องชายคนเล็ก ส่วนพ่อก็จากพวกเขาไปแล้ว
น้องชายคนกลาง -โฮเมอร์- ยังเรียนหนังสืออยู่ แต่ต้องทำงาน พิเศษเพื่อช่วยเหลือครอบครัวด้วยการเป็นเด็กส่งโทรเลข ความเศร้า อยู่ตรงที่ว่า ทุกครั้งที่ขึ้นต้นประโยคด้วย - - กระทรวงกลาโหมมี ความเสียใจที่จะแจ้งให้ท่านทราบว่า - - ก็หมายถึงมีใครสักคนในครอบ ครัวนั้นเสียชีวิตจากสงคราม ซึ่งโฮเมอร์จะต้องเป็นคนไปส่งข้อความ เหล่านี้ให้กับครอบครัวต่างๆ
จะมีบทนึงที่ชอบมาก (จริงๆก็ชอบหลายบทเลยล่ะค่ะ) เป็นตอน ที่โฮเมอร์คุยกับแม่ว่าทำไมเค้าถึงร้องไห้ ขอยกมาให้อ่านกันสักพารา กราฟนะคะ เป็นพารากราฟที่ตัดมาแปะหลังปกด้วย
"ย่อมจะมีความเจ็บปวดอยู่ในสิ่งต่างๆเสมอ" มิสซิสแมคคอลี่พูด " แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเราจะต้องสิ้นหวังไปเสียหมด คนดีๆย่อม จะทำให้ความเจ็บปวดหายไปได้เสมอ คนโง่จะไม่สังเกตเห็นนอกจากใน ตัวเอง คนชั่วจะทำให้ความเจ็บปวดฝังลึก แล้วแพร่ไปยังทุกแห่งที่เขาไป แต่ไม่ใช่ความผิดของใครเลย คนชั่วก็ไม่ต่างอะไรจากคนโง่และคนดี เขาไม่ได้ขอมาที่นี่ และไม่ได้มาเพียงลำพังจากความไม่มีอะไรเลย แต่มา จากหลายๆโลก หลายๆอย่างประสมให้เกิดขึ้น คนชั่วไม่รู้หรอกว่าตัว เองชั่วร้าย เขายังเป็นคนบริสุทธิ์ ทุกๆวัน เราจะต้องยกโทษให้คนที่ ชั่วร้าย พวกเขาจะต้องมีคนรัก เพราะมีบางอย่างในตัวเราทุกคนอยู่ใน ตัวคนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก และบางอย่างในตัวคนที่ชั่วร้ายที่สุดก็มีอยู่ใน ตัวเราทุกคน เขาเป็นของเราและเราก็เป็นของเขา... เมื่อคืนนี้ลูกร้องไห้ ก็เพราะลูกเริ่มเรียนรู้ถึงสิ่งเหล่านี้"
อยู่ในบท ชื่อเดียวกับประโยคขึ้นต้นน่ะค่ะ เนื้อเรื่องก็ดำเนินไป เรื่อยๆจนถึงตอนสงครามเลิก ทหารทยอยกลับบ้านกัน...ให้ได้ลุ้นว่าพี่ชาย คนโตของบ้านนี้จะเป็นยังไง หยุดไว้แค่นี้ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะมีสปอยเลอร์
----------------------------
พล็อตเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก แต่จะได้อะไรระหว่างที่อ่านเก็บราย ละเอียดไปมากกว่า ได้มุมมองดีๆให้กับชีวิต อ่านตอนที่ตัวเองจิตตก แล้วรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ ให้ความรู้สึกประมาณเดียวกับหนังเรื่อง Life is beautiful เลยค่ะ ชอบมากๆเลย ทั้งหนังสือแล้วก็หนัง
http://www.nongpangbook.com/product.detail_272275_th_1377941#
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #217 เมื่อ: 20 มีนาคม 2551, 13:51:19 » |
|
^ ^ ขอบคุณพี่ปุ๊กกี้ ที่ไปหาข้อมูลหนังสือมาให้นะค่ะ.... :shock: พูดถึงคนเขียนหนังสือเล่มนี้....วิลเลียม ซาโรยัน ...แล้วคุ้นๆ..คล้ายๆว่าเคยอ่าน... บทกลอนหรือคำคมของเขา..แล้วเขียนโค้ดที่ประทับใจเก็บไว้เหมือนกันค่ะ... :oops: ผึ้งจ้ะ... งั้น...อาทิตย์หน้า..ช่วงวันที่ 26 มีนา-7 เมษา...ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์สิริกิติ์เล้ยยย....น่าจะหาหนังสือเล่มนี้ได้นะ...ไปดูบู๊ทของอัมรินทร์...ดูนะ หรือไม่ก็...ร้านหนังสือที่ออกร้านขายหนังสือฉบับที่พิมพ์เก่าๆ ดูนะ... ฉันอาจว่าแกอาจจะเจอน๊า.... :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 235
|
|
« ตอบ #218 เมื่อ: 20 มีนาคม 2551, 13:57:31 » |
|
แอน จำอะไรไม่ได้นอกจากชื่ออะ ถ้าหาซื้อไม่ได้ ก็คิดเหมือนกันว่าจะซื้อ a day ให้อะ (ฉ. เดือนกุมภาฯ) หรือไม่ก็ไปงานสัปดาห์หนังสือนะน่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง อิอิ ขอบใจมั่กมากที่แนะนำจ้า พี่ปุ๊ก ใช่เลยค่ะ เล่มนี้ล่ะ พี่ปุ๊กเยี่ยมมากๆ หาเก่งจริงๆ เดี๋ยวจะลองไปหาดูในเว็บอัมรินทร์ค่ะ แต่ไม่รู้จะมีขายอีกหรือเปล่า เพราะพิมพ์มาหลายปีแล้ว ขอบคุณมากค่ะพี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
|
|
|
|
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 114
|
|
« ตอบ #220 เมื่อ: 27 มีนาคม 2551, 18:42:21 » |
|
มีข้อสงสัยอยากถามเพื่อนๆหน่อย
ไอ้ซุปไก่สกัด มันดีต่อร่างกายยังไง ทำไม? มันมีสารอะไรเหรอที่ดีต่อร่างกาย
อยากรู้ พอดีมีเพื่อนบอกว่ากิน ซุปไก่สกัด ทุกวันทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #221 เมื่อ: 27 มีนาคม 2551, 19:43:48 » |
|
มีข้อสงสัยอยากถามเพื่อนๆหน่อย
ไอ้ซุปไก่สกัด มันดีต่อร่างกายยังไง ทำไม? มันมีสารอะไรเหรอที่ดีต่อร่างกาย
อยากรู้ พอดีมีเพื่อนบอกว่ากิน ซุปไก่สกัด ทุกวันทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น ก็ว่ากันไป ที่แน่ๆกินแล้วดีกว่ากินเหล้าครับ ถ้าอยากกินจริงๆ แนะนำให้งดเหล้า และเลิกดื่มน้ำอัดลม แล้วออกกำลังกายเยอะๆ อาจจะได้ประโยชน์กับร่างกายมากกว่า อิ อิ :lol: :lol: ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค http://www.consumerthai.org/behind_pro/notes/B2/b2-3.htmlซุปไก่สกัดที่เราเห็นขายกันอย่างมากมายนั้น แท้ที่จริงได้จากการนำไก่ไปนึ่งเป็น เวลานานๆ จนมีน้ำออกมาจากตัวไก่ แล้วนำน้ำที่ได้ไปเคี่ยวให้เข้มข้นแล้วเอาไขมันออก กลายมาเป็นซุปไก่สกัด ซุปไก่สกัดนี้ มีการโฆษณาว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงกำลังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีการกล่าวอ้างถึงสถาบันในต่างประเทศเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้ารวมไปถึง การใช้กลยุทธ์ทางการโฆษณาโดยใช้ดารานักแสดงเพื่อดึงดูดความสนใจและโน้มน้าวให้เกิดความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ในคุณประโยชน์ในโฆษณานั้น ๆ นอกจากนี้ยังได้มีความพยายามที่จะปรับปรุงสูตรโดยมีการเติมวิตามิน เกลือแร่และสมุนไพรลงไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อมูลทั้งราคาและคุณค่าทางโภชนาการของซุปไก่เมื่อเทียบกับไข่ไก่และนมสด ซึ่งเป็นอาหารที่เราบริโภคกันเป็นปกติประจำวันหาง่ายและราคาไม่แพง จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบราคา ถ้าเรามีเงิน 30 บาท ซื้อซุปไก่ ได้ 1 ขวด เราจะสามารถซื้อไข่ไก่ 15 ฟอง หรือ ซื้อนมสด (250มล.) 3 กล่อง และเมื่อเทียบคุณค่าทางโภชนาการแล้วโปรตีนในซุปไก่ 1 ขวด เท่ากับโปรตีนใน ไข่ไก่ 1/2 ฟอง และโปรตีนในนมสด 1/3 กล่อง ยิ่งไปกว่านี้เมื่อพิจารณาสารอาหาร อื่นๆ โดยรวมแล้วในซุปไก่จะมีน้อยกว่าไข่ไก่ 1/2 ฟอง และนมสด 1/3 กล่องมากทีเดียว ความเข้าใจผิด การที่เรามักจะหอบหิ้วผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งที่นิยมมากที่สุดก็คือซุปไก่ไปเพื่อเยี่ยมผู้ป่วยหรือผู้พักฟื้นหรือญาติผู้ใหญ่นั้น หากถามว่าหาประโยชน์ได้หรือไม่ คงมีบ้างแต่ต้องคำนึงถึงเงินในกระเป๋าและความคุ้มด้วย หากคิดว่าการซื้อให้กินเพื่อคนที่เรารักหรือญาติผู้ใหญ่กินอาหารได้ดีขึ้นก็ทำได้ แต่ถ้าเราทำซุปด้วยตัวเอง ใส่เครื่องเทศให้หอมกรุ่นไปพบคนที่เรารักหรือญาติผู้ใหญ่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเท่านี้ ท่านเหล่านั้นคงจะอิ่มอุ่นด้วยความรักแล้ว อาการไม่สบายก็อาจหายดีขึ้นทันตา นอกจากนี้แล้วในด้านนักวิชาการ ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ถึงพิษภัยที่แอบแฝง มากับสารในซุปไก่นี้ด้วย ไม่แน่ว่าการที่คุณจะหยิบยื่นความรักและความปรารถนาดีให้ คนที่คุณรักจะกลับกลายเป็นยาพิษก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อได้เปรียบเทียบกันให้เห็นและทราบเช่นนี้แล้ว ท่านยังคิดว่าการซื้อซุปไก่สกัดมารับประทานยังเป็นเรื่องที่คุ้มค่าและเหมาะสมแล้ว เราคงต้องบอกว่า....เราเตือน คุณแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #222 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 07:17:14 » |
|
^ ^ ไอ้ผมก้อไม่เคยค้นข้อมูลเหมือนกันนะ แต่ผมเห็นด้วยกับข้อมูลของตาไข่มั่ก
ผมแค่คิดธรรมดาๆ ว่า ครูสอนเราตั้งแต่เด็กแล้วว่า ให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สุขภาพก้อจะแข็งแรง ดังนั้น เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ไปซื้อข้าวกินดีกว่าครับ
ทั้งนี้ ผมหมายความรวมไปถึง เหล่าวิตามินเสริมทั้งหลายด้วย ถ้าทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก้อไม่ต้องไม่กินเสริมหรอกครับ มันได้ครบอยู่แล้วหนิ
ตาแคม :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #223 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 09:51:02 » |
|
ตอนเรียน Food For Health อาจารย์บอกว่า กินไก่ทั้งตัวได้ประโยชน์กว่า ที่ทำให้เรารู้สึกว่าดีขึ้น ณ ทันทีทันใดอาจจะเป็นว่าได้รับพวกน้ำตาล หรืออะไรที่ผสมอยู่ในนั้นทำให้สามารถซึมซับได้เร็วขึ้นน่ะ ตอนสอบจำได้ว่าอาหารเสริมที่ถูกและดีที่สุด น่าจะเป็นโยเกิตครับ เพราะทำให้ไม่เป็นมะเร็งลำไส้ ได้รับวิตามิน แต่สิ่งที่ตามมาคืออ้วนครับ เพราะน้ำตาลเยอะ ในโฆษณามันจะทำให้คิดว่ากินโยเกิตแล้วหุ่นดี นี่...มันหลอกลวงอ่ะ ผักใบเขียวที่ดีน่าจะเป็นคะน้านะครับวิตามินครบ อาหารที่ถูกและดีอีกอย่าง ถั่วเขียวต้มครับ แต่ที่ชอบคือวิชานี้สอนให้กินเบียร์แบบต้องมีฟองฟ๊อตๆ ครับ กินเบียร์แล้วไม่มีฟองนี่ไม่ถูกหลักการครับ เพราะว่าฟองมันจะรักษาคุณสมบัติของเบียร์ให้อยู่อย่างเดิม เหล้าก็เช่นกัน V O ย่อมาจาก Very Old VSOP ย่อมาจาก Very Special Old จำต้ว P ไม่ได้อ่ะ ชอบก็ไอ้ตรงเหล้านี่ล่ะ วิชานี้ผม A นะ 555 จำได้ว่าไปต่อแถวเพื่อลงวิชานี้หน้า สทป ตอนเที่ยงคืนมั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #224 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 13:04:55 » |
|
เขาว่าอย่างนั้นนะ..คือคุณค่าถ้าเทียบแบบนั้นมันจะน้อยกว่า..
แต่ได้ยินมาหลายคนแล้วเหมือนกันที่เข้าโรงพยาบาล..กินซุปไก่ กับนมตราหมี (ของ basic เวลาไปเยี่ยม) ดูเหมือนมันจะฟื้นเร็วขึ้นน่ะ..เหมือนมันเอามาใช้ได้เร็วขึ้นประมาณนั้น..แบบว่าเห็นผลเลย..(ฟังเค้ามาอีกที)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 114
|
|
« ตอบ #225 เมื่อ: 31 มีนาคม 2551, 09:34:29 » |
|
ขอบคุณครับเพื่อนๆ เรากลับไปกิน ข้าวกับน้ำพริกปลาทู ดีกว่าเนอ
แต่อย่างไร กินอาหารดีครบ 5 หมู่แล้วก็อย่าลืมออกกำลังกายนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #226 เมื่อ: 01 เมษายน 2551, 18:14:35 » |
|
รูปหมาใครวะไอ้ต้น..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #228 เมื่อ: 03 เมษายน 2551, 00:15:08 » |
|
ถามหน่อยค่ะ
พี่ๆคงเคยได้ยินเสียงตุ๊กแกร้อง แล้วเคยสังเกตไมว่าในยกหนึ่ง มันร้องตุ๊กแกกี่ครั้ง
มีคนบอกว่ามันจะร้องคี่(5-7)ครั้ง แต่เคยลองสังเกตดูมันจะลงคู่ครั้งทุกที
มีใครเคยได้ยินทฤษฎีตุ๊กแกร้องคี่ครั้งไมค่ะ เอาเท่าที่สังเกตนะครับ เท่าที่เคยฟังมากับตัวเอง 4-9 ครั้ง ครับ ไม่แน่ว่าคี่หรือคู่เสมอไป อาจะเป็น 4 หรือ 5 หรือ 7...เท่าที่เคยได้ยินนะ และข้อเทจจริงทางวิชาการอย่างนึงคือ ตุ๊กแกตัวผู้เท่านั้นครับ ที่ส่งเสียงร้อง :idea: มีฝรั่งบางคน นิยมหาซื้อตุ๊กแกไทย ไปเลี้ยงที่บ้านเมืองเค้า(ตุ๊กแกชนิดของเราบ้านเมืองเค้าไม่มี จะพบเฉพาะแถบเอเชียอาคเนย์เท่านั้น) เพื่อจะฟังเสียงมันร้องเล่นๆ ด้วยราคาหลักพันครับ (ข้อมูลจากพวกที่ขายสัตว์แปลกๆในสวนจตุจักร)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #229 เมื่อ: 03 เมษายน 2551, 07:56:43 » |
|
มันร้องได้ทั้งคู่และคี่แหละ เคยนอนฟังอยู่เหมือนกัน เพราะมีคนบอกว่า ถ้าได้ยินตุ๊กแกร้อง 7 ครั้ง จะโชคดี แต่ส่วนใหญ่มันร้องไม่ค่อยถึงแฮะ จะอยู่ที่ประมาณ 5-6 ครั้งอ่ะ
ตาแคม :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #230 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 17:15:48 » |
|
ไม่ได้ถามมานาน..สังเกตุเห็น
ไอ้ที่เป็นยางพริ้วๆ ขอบยางรถสิบล้อที่วิ่งไปวิ่งมา เอาไว้ทำอะไรครับ ดูเหมือนตัดยางเป็นเส้นๆ แล้วมัดไว้ข้างๆล้อ พอรถวิ่ง เส้นนี้ก็พริ้วๆไปเรื่อยๆ เห็นเกือบทุกคันเลย
เพราะมันสวยดี..เรื่องประจุไฟฟ้า..เรื่องให้ล้อสะอาด..หรือแค่เท่ๆ..
ใครรู้บ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #231 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2551, 13:24:59 » |
|
ถ้าโดนมอง + โดนสงสัยว่า เป็น เกย์ เพื่อนๆ จะรู้สึกไง กัน บ้างครับ :-)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #232 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2551, 15:52:52 » |
|
เดินไปบีบตูดได้พวกขึ้สงสัย คนละหนึ่งที เด๋วมันก็เลิกสงสัยกันไปเอง
ตอนเด็กๆ ผมเคยโดนล้อครับว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่า ตอนนั้นก็โกรธนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำอีท่าไหน ถึงมีคนคิดว่าผมเป็น (น่าจะเป็นเพราะความเรียบร้อยของผม หุหุ)
โตขึ้นมาอีกหน่อย สมัยมัธยม ก็ยังมีคนสงสัยอีก ตอนนั้นเริ่มชินแล้ว ก็เลยเฉยๆ แต่พอมันคบกับผมไปเรื่อยๆ ความสงสัยเรื่องนั้นก็หายไป หุหุ
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #233 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2551, 11:14:31 » |
|
ผี..ย่อมดูผีด้วยกันออก..
มิต้องเป็นกังวลไป..กรูชอบนะ..ให้คนอื่นคืดว่ากรูเป็นอีกอย่าง..สนุกดี..
ว่าแต่ไอ้แครม..มรึงคิดถูกแล้ว..ที่ไม่เป็นเกย์.อุบาทว์มาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #234 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2551, 21:03:20 » |
|
เขมร(ปัจจุบัน)กับขอม(เขมรโบราณ)เป็นเผ่าเดียวกันหรือเปล่า? โดยส่วนตัวเราไม่คิดว่าใช่ว่ะ น่าจะเป็นคนละเผ่ากัน ไม่ได้ดูถูกชาวเขมรในปัจจุบันหรอกนะ แต่คิดง่ายๆว่า วัฒนธรรมบูชาลัทธิพราหมณ์หรือศิวลึงค์เนี่ย มันไม่ใช่วัฒนธรรมของชาวบ้านแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันจะเป็นไปได้เหรอ? ที่อยู่ดีๆมีคนเขมรจำนวนนึง ล่องเรือไปเจอพวกแขกในอินเดีย แล้วรับเอาอารยธรรมมาง่ายๆอย่างนั้น? หรือมีแขกอินเดียล่องเรือมาไม่กี่คน แล้วเอาวัฒนธรรมมาเผยแผ่(แบบครูสอนศาสนา)แล้วทำให้เกิดสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ได้?
ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างที่ตาป้อม(ถาปัตย์)เล่าให้ฟัง คือ มีกองทัพแขกอารยันยกพลเข้ามายึดครองอาณาเขตนี้ แล้วสถาปนาอารยธรรมแบบของตัวเอง ขึ้นมากกว่า พอต่อมาแขกเหล่านั้นสูญพันธุ์ไป อารยธรรมเหล่านี้ก็เหลือตกทอดให้คนท้องถิ่น(คนไทย ลาว เขมร)เอาไปสานต่อ
เพราะปราสาทพวกนี้ ไม่ได้มีแต่ในเขมร แต่พบที่บางเกาะของอินโดนีเซียด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #235 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2551, 16:26:59 » |
|
ไม่ได้ถามมานาน..สังเกตุเห็น
ไอ้ที่เป็นยางพริ้วๆ ขอบยางรถสิบล้อที่วิ่งไปวิ่งมา เอาไว้ทำอะไรครับ ดูเหมือนตัดยางเป็นเส้นๆ แล้วมัดไว้ข้างๆล้อ พอรถวิ่ง เส้นนี้ก็พริ้วๆไปเรื่อยๆ เห็นเกือบทุกคันเลย
เพราะมันสวยดี..เรื่องประจุไฟฟ้า..เรื่องให้ล้อสะอาด..หรือแค่เท่ๆ..
ใครรู้บ้างครับ เห็นเค้า่ว่าเอาไว้ทำความสะอาดล้อคับ..เพราะรถใหญ่พอล้อมันเลอะดินแล้วมันกระเด็นสูง ก็จะเลอะรถเ็้ล็กของชาวบ้าน เพราะล้อมันโตนั่นเอง..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #236 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2551, 21:37:50 » |
|
สงสัยว่าผมถูกติดหัวใจฮีโรเมมเบอร์ตั้งกะเมื่อไหร่อ่ะ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #237 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2551, 21:41:42 » |
|
เมื่อประเดี๋ยวนี้คะ... ตอนเวบมีอาการประหลาด, เดี๋ยวversionไทย,เดี๋ยว versionอังกฤษนั้นแล! p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #238 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2551, 22:01:12 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #239 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2551, 14:52:15 » |
|
เหมาะดีแล้วจารย์โอ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #240 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2551, 22:21:31 » |
|
ตอบ จารย์โอ ขอม กับเขมร ปัจจุบันคนละสายพันธ์ พวกขอมน่าจะเป็นแขกอารยัน แบบที่นายเข้าใจ เพราะสังเกตุจากลักษณะของวัฒนธรรม ที่ได้รับอิทธิพลจาก พราหมณ์-ฮินดูค่อนข้างมาก เป็นพวกที่เจริญทางด้านอารยธรรมมากๆ แต่ว่าช่วงหลังเสียการปกครองให้พวก เจนนะ ซึ่งน่าจะเป็นพวกเขมรปัจจุบัน นี่แหละ ซึ่งได้แแผ่อารยธรรมไปตามแนวชายฝั่งด้วยยาวไปถึง อินโดนิเซีย ซึ่งบางส่วนของภาคใต้เราก็ยังมีร่องรอยของวัฒนธรรมขอม ออกแนว ทวารวดี ซึ่งอาจจะกลายๆมาบ้าง ปล. มีร่องรอยของขอม ขุดพบที่จันทร์ด้วยนะ ถ้าสนใจ มาเที่ยวได้ อิ อิ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=arawadee&month=09-05-2008&group=1&gblog=1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #241 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2551, 12:07:23 » |
|
โย่ว...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #242 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2551, 12:11:47 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #243 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2551, 19:35:20 » |
|
ไอ้โย่ว..กับไอ้ข้างบนนี่มันปั่นกระทู้นี่หว่า..ไอ้ป้อแมร่งงงเริ่มใช้มุกเดิมอีกแล้ว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #244 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2551, 16:05:37 » |
|
emo43ให้รู้ว่าเข้ามาอ่านแล้ว..พี่โต้ง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #245 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2551, 23:35:52 » |
|
เข้าใจป้อนะ
บางทีมาดูทุกวัน แต่ไม่รู้จะโพสอะไร เลยขีดเขียนซะหน่อย ว่า แอบมาดู เข้ามาดูเฉยๆ หรือเครื่องหมาย ยิ้มสักสองตัว
เปรียบเสมือน เด็กเทคนิคไปเที่ยวตามห้าง แล้วอึดอัดอยากบอก ชาวบ้านว่ากรูเคยมาแล้ว จะถ่ายรูปเก็บไว้ก็ไม่มีงบประมาณ จะให้เพื่อนที่เก่งศิลปมาวาดรูปเหมือนเก็บเอาไว้ก็ใช่ที่
เลยระบายและหาทางออก โดนการขึดเขียนตามประตูว่า กรูมาเยือน อะไรประมาณนั้น
อยากให้ทุกคน มองป้อ อย่างเข้าใจ และเห็นใจ
ถ้าไปปิดทางมันหมดมันอาจจะออกแนวอื่น เช่น เค้าคุยเรื่องรถหรือบ้านกันอย่างเมามัน มันอาจจะ โพสว่า พี่โต้งสบายดีมั้ย หรือ พี่ไข่ตุรกี หนาวมั้ย หรือ พิษณุโลกหนาวมาก
เราควรจะส่งเสริมจินตนาการของป้อโดยการถามมันต่อไป เช่น ถ้ามันโพสว่า แอบเข้ามาดู ตาแครมอาจจะโพสถามมันกลับไปว่า ป้อแอบดูบรรทัดไหนว่ะ หรือ อยากได้ขนมจีนซะละเปาเพิ่มมั้ย เท่านี้น้องมันก็คงอบอุ่น และมีกำลังใจทำงานต่อไป
ขอฝากไว้เท่านี้นะครับ
ปล น้องป้อครับ พี่ประชดนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #246 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 07:17:50 » |
|
ตี๋เล็ก ตี๋เล็ก ตี๋เล็ก ใครๆ ก็เรียกหาแต่ตี๋เล็ก (ไม่มีไรพี่ แค่มาซอย เอ้ย แซวเล่น อิอิ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #247 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 10:00:28 » |
|
ขอบแคม เอ๊ย ขอบคุณน้องแคมที่มาซอย เอ๊ย มาแซว
จากพี่ตี๋เล็ด เอ๊ย พี่ตี๋เล็ก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #248 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 11:53:18 » |
|
ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอก..แซวมันเฉยๆ..แต่ขำพี่ตี๋เล็กน่ะ..อุตส่าห์มี ปล. ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #249 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 17:19:27 » |
|
อยากมีส่วนร่วม แต่ไม่มีคำถาม ก็เลยหาคำตอบไม่ได้....ใครก็ได้่ช่วยสร้างปัญหาหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #250 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 21:44:13 » |
|
emo20:)):)ปัญหาที่บ้านยังเยอะไม่พอเหรอ.....สมเกียรติ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #251 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 22:32:56 » |
|
ไม่รู้หรือไงว่าปัญหามันมีหลายแบบ...หลายสถานการณ์....หมั่นแก้ไขจะได้เก่ง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #252 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2551, 11:06:53 » |
|
งั้นขอให้มรึงจงเก่งมากๆเลยแล้วกันเนอะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #253 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2551, 18:03:35 » |
|
คนดีชอบแก้ไข คนอะไร....ชอบแก้ตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #254 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 06:53:50 » |
|
เอ้าๆ มาช่วยถามครับ ทำไมหน่วยเวลา ถึงต้องเป็นฐานหกสิบครับ ทำไมไม่เป็นฐานสิบ ? สงสัยมานานแล้ว แล้วงงด้วยว่าทำไมถึงสามารถเอามาคำณวนกะหน่วยอื่น ที่เป็นเลขฐานสิบได้ โดยไม่เกิด error 1000 gram= 1 kilo gram 1000 second = 1 kilo second ?? ยากไปไหม จะมีใครตอบไหมนี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #255 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 07:42:59 » |
|
^ ^ เท่าที่พอหาอ่านได้คร่าวๆ พวกคนโบราณที่เป็นต้นตำรับ เรื่องเวลา ไม่ว่าจะเป็นปฏิทิน หรืออะไรทำนองเนี๊ยะ คือ พวกบาบิโลน
เลขที่เค้าใช้เนี่ย สูงสุด แค่เลข 60 อ่ะ เลยจาก 60 แล้ว หาสัญลักษณ์มาเขียนต่อไม่ได้ เลยใช้ 60 เป็นเลขหลักสูงสุด
ใครรู้เป็นอย่างอื่น วานบอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #256 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 11:24:15 » |
|
จะเขียนคำอวยพร Chrismas กับ วันไปใหม่ ส่งไปให้ supplier กับลูกค้าน่ะ เป็นภาษาอังกฤษ ... มีใครช่วยแนะนำ word หรือ ประโยค ดี ๆ ให้หน่อยครับ ... ขอบคุณหลาย ๆ ล่วงหน้าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #257 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 12:00:40 » |
|
For this new year..may the good times and treasures of the present become the golden memories of tomorrow. Wish you lots of joy , happiness , healthy and hope the coming year be your successful & profitable year. " Merry Christmas & Happy New Year 2009 "
ลอกเค้ามาอีกที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #258 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 12:23:29 » |
|
お正月おめでとうございます。 昨年は大変お世話になりました、今年もよろしくお願いいたします。
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #259 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 13:25:50 » |
|
OH MY GODDDD!!! เอาอีกแล้วครับท่านพี่..มาทีไรได้ฮาตลอด..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #260 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2551, 12:13:07 » |
|
อยากได้ขำอวยพรเป็นภาษาเขมร ใครมีมั่ง ขอหน่อย
ประมาณว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้มีความสุข เป็นภาษเขมรน่ะ
จะเอาไปคุยกับ คนทำความสะอาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #261 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2551, 08:36:43 » |
|
นี่เลยพี่..สุ่มบินตอยเร..หะเรหะสู..แปลว่า สวัสดีปีใหม่ครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #262 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 14:56:02 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #263 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 05:04:54 » |
|
"ซัวซะเดย ชะนำทะไม" Chaul Chnam Thmey แต่อันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่แบบเขมรนะครับ เป็นวันสงกรานต์เหมือนๆกะที่บ้านเรานี่แหละ (ช่วงเมษายน) อันนี้แถม เผื่ออยากคุยกันยาวๆ สวัสดี ซัวซไดย, จุมเรี้ยบซัว สบายดีหรือ ซกสะบายดี (ถาม) สบายดีค่ะ(ครับ) จ๊ะ (บาด) ซกสะบายดี ขอบคุณ ออกุน, ออกุนเจริญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #264 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 11:19:53 » |
|
กรูเชื่อแล้วล่ะ..ว่ามรึงมีเวลาจริงๆ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #265 เมื่อ: 05 มกราคม 2552, 07:28:14 » |
|
^ ^ ผมจำได้คำเดียว ลูกค้ามันชอบพูดบ่อยๆ "เสียด กระบาล" แปลว่า ปวดหัว โว๊ยยยยย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #266 เมื่อ: 05 มกราคม 2552, 11:59:54 » |
|
ยังงงไม่หาย แต่เป็นกรณีพม่านะ พี่ไปทำฟันในตัวเมืองอยุธยา เจอผู้ช่วยหมอฟันเป็นพม่า ตอนกรอฟันอยู่ ยายพม่าพูดเสียงเบาๆให้ฟังว่า อย่าเดะลิ เราก็ฟังตั้งนานแน่ะ จนหมอฟันต้องพูดซ้ำว่า อย่าเด่ลิ้น หมายถึง ให้เก็บลิ้นเข้าไปน่ะ ตลกก็ตลก แต่ก็กลัวน้ำกรอฟันก็จะเข้าคอ เลยต้องกลั้นไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #267 เมื่อ: 05 มกราคม 2552, 16:51:06 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #268 เมื่อ: 06 มกราคม 2552, 19:09:58 » |
|
ของพี่ตี๋เล็กนี่ขำไม่ค่อยออกครับ..อยู่ในสถานการณ์จริงนี่น่าเตะหมอซักทีครับ..กำลังได้เสียว..มาให้เสียวยกกำลังสอง..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #269 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 15:07:58 » |
|
กบสมโกศ กบเขมรประหลาด มีเลือดสีเขียว !?! http://www2.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000149825การสำรวจที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกว่า 40 สายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในดินแดนกัมพูชา องค์การ FFI กล่าวว่า “กบสมโกศ” มีความพิสดารกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่สีของเลือดกับกระดูกของมัน ซึ่งเชื่อว่า เกิดจากสารไบลิเวอร์ดิน (biliverdin) อันเป็นของเสียจากการสันดาปในร่างกายที่โดยปกติผลิตจากตับ “ในสายพันธุ์นี้สารไบลิเวอร์ดินจะย้อนกลับเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มันเป็นสีเขียว.. ปรากฏการณ์คล้ายๆ กับที่เคยพบในกิ้งก่าบางชนิด” องค์การ FFI อธิบายในคำแถลงเกี่ยวกับการค้นพบ นักวิทยาศาสตร์ของ FFI กล่าวอีกว่า สารสีเขียวนี้สามารถมองเห็นผ่านผิวโปร่งใส ทำให้สมโกศพรางตัวได้ดีกว่า หรืออาจจะทำให้พวกนักล่าถึงกับไม่อยากจะลิ้มลองอาหารที่ไม่กินนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #270 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 20:04:19 » |
|
แนะนนำใน google อะ เพียบเลยอะ
ผมแอบหาคำบอกรักออกบ่อยๆ ฮ่าๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #271 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 21:48:11 » |
|
นำเสนอภาษาเหนือวันละคำ....วันนี้เสนอคำว่า..."กำกึ๊ด"....แปลว่าไรถาม.."หลิม"..เฉลยได้.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #272 เมื่อ: 08 มกราคม 2552, 18:14:42 » |
|
เอาอีกแล้ว..ส่งรหัสลับกันอีกแล้ว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #273 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 07:26:37 » |
|
อยากรู้ว่า ระบบการมอง พวกนักล่านี่ มันเห็นภาพสีเหรอครับ เหมือนเคยรู้ว่า มันมีระบบการมองพวกนักล่า ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพมากสำหรับการล่า แต่ไม่รู้ว่าดีกว่า หรือ แย่กว่ามนุษย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #274 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 12:17:58 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #275 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 16:32:34 » |
|
ข้อมูลเรื่องป้องกันพวกผู้ล่านี่อาจจะมั่วก็ได้ เคยจับผิดข่าวจากเวบนี้(ผู้จัดการ)ได้พอสมควร แต่เรื่องกบนี้มีเลือดสีเขียวนี่น่าจะจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #276 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 07:18:30 » |
|
^ ^ แต่นึกไปนึกมา เท่าที่เคยได้ยิน ถ้าเป้นสัตว์ที่มีพิษ สัตว์พวกนี้มันจะมีสีสันจัดจ้านอ่ะ มันก็เลยจะมีอีกจำพวกนึงที่ไม่ได้มีพิษ แต่แอบทำสี เพื่อจะได้หลอกอีกต่อนึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #277 เมื่อ: 13 มกราคม 2552, 14:20:59 » |
|
เหมือนไอ้แครมม..ไอ้หลิม..ชอบทำตัวจัดจ้าน..เพื่อหลอกเพื่อนๆอีกต่อนึง..ว่ากรูแน่..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #278 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 12:14:47 » |
|
ปุจฉา
โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลาเท่าไหร่
(มีลูกน้องมาถาม ตอบเค้าไม่ได้ เลยมาถามต่อ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
EdDy_Smart81
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 654
|
|
« ตอบ #279 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 12:45:36 » |
|
1 วัน นะ ถ้าไม่เป็นปัญหาเชาว์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #280 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 15:08:28 » |
|
ลายเหลือง แดง ดำ สามารถสื่อได้ง่าย แม้จะเป็นผู้ล่าที่ตาบอดสี เพราะความสว่างและความเข้มอ่อนของเฉดสีทั้งสามไม่เท่ากัน แต่ถ้าเป็นแดงกับเขียว หรือแดงกับน้ำเงิน จะสื่อกับพวกตาบอดสี(เช่นสุนัข)ยากกว่า นอกจากพวกนกเหยี่ยว เพราะมองเห็นสีได้เหมือนคน(ดีกว่าด้วยซ้ำ) พอเขียนถึงตรงนี้ นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างนึงว่า จริงๆแล้ว มีเฉดสีที่คนมองไม่เห็นอยู่หรือไม่? เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเราเห็นได้ทุกสี ตัวตุ่นไม่รู้อะไรเลยนอกจากมืดกับสว่าง หมากับแมวรู้จักสีเหลือง สีน้ำเงิน แต่ไม่ค่อยรู้สีแดง คนแยกได้ถึง 7 เฉดสี...แต่เราแน่ใจรึเปล่าว่ามันมีแค่นั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
EdDy_Smart81
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 654
|
|
« ตอบ #281 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 16:43:09 » |
|
นักล่า นี่สำหรับผมต้องสีขาว บึ้ม เท่านั้น เนื่องจาก นักล่า = น่ารัก ต้องผิวขาว และบึ้ม จะน่าสนใจ อึ้ย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #282 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 16:59:30 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #283 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 07:32:18 » |
|
เป็นคำถามที่โดนใจจริงๆ แต่คงไม่มีใครตอบได้หรอกอ่ะ เอามาจากข่าวสดรายวัน วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552 วิทยาการของโลกก้าวหน้าไปมาก เมื่อ 50 ปีที่แล้ว คงไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดคิดว่า เราจะโคลนนิ่งแกะดอลลี่ได้ ซึ่งถ้าเทคนิคนี้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ เราอาจจะโคลนนิ่งสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ให้กลับมาอยู่บนโลกอีกครั้ง นิตยสารนิวไซเอินทิสต์ ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์ว่า สัตว์ใดที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการโคลนนิ่งให้มามีชีวิตเหมือนอย่างในอดีต แต่การสำรวจนี้ไม่รวม "ไดโนเสาร์" เพราะสัตว์ที่จะโคลนนิ่งได้ต้องมีสัตว์สายพันธุ์ใกล้เคียงมาอุ้มบุญ และให้ไข่ สำหรับสัตว์โบราณนี้คือ 1."ช้างแมมมอธ (Mammuthus armeniacus)" อาศัยอยู่บนโลกมาตั้งแต่ 4.8 ล้านปีก่อน และสูญพันธุ์ไปเมื่อ 13,000-60,000 ปี เคยอาศัยอยู่แถบอเมริกาเหนือและยูเรเซีย น้ำหนักราว 6-8 ตัน แต่ถ้าเป็นตัวผู้ตัวใหญ่ๆ อาจหนักถึง 12 ตัน ปีที่ แล้วนักวิทยาศาสตร์ทำการถอดรหัสพันธุกรรมแมมมอธได้ และสัตว์ปัจจุบันที่อาจอุ้มบุญลูกแมมมอธแทนคือช้าง 2."เซเบอร์ทูธไทเกอร์ (Smilodon fatalis)" หรือ "เสือเขี้ยวดาบ" สูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อ 10,000 ปีก่อน สัตว์ที่อุ้มบุญและให้ไข่ได้น่าจะเป็น "แอฟริกันไลอ้อน" ดีเอ็นเอที่รักษาไว้อยู่ที่ระดับ 3/5 ความเหมาะสมในการอุ้มบุญ 3/5 หรือเหมาะสมพอประมาณ 3."มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล (Homo neanderthalensis)" สูญพันธุ์ไปเมื่อ 25,000 ปีก่อน มนุษย์ปัจจุบันอุ้มบุญและให้ไข่ได้ ดีเอ็นเอที่รักษาไว้ได้อยู่ที่ระดับ 1/5 ความเหมาะสมในการอุ้มบุญ 5/5 อย่างไรก็ตาม การโคลนนิ่งเป็นไปไม่ได้ทางจริยธรรม แม้ว่าก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์โซเวียตอาจจะเคยทดลองผสมมนุษย์ไฮบริดที่เป็นลูกครึ่งระหว่าง มนุษย์และลิงไม่มีหางมาแล้ว 4."ชอร์ตเฟซแบร์ (Arctodus simus)" หรือ "หมีหน้าสั้น" สูญพันธุ์เมื่อประมาณ 11,000 ปี มันสูงกว่าหมีขั้วโลกเมื่อยืนเทียบกันถึง 1 ใน 3 น้ำหนักราว 1,000 กิโลกรัม ดีเอ็นเอรักษาไว้ได้อยู่ที่ 3/5 ถ้าให้หมีอเมริกันมาอุ้มบุญ ความเหมาะสมอยู่ที่ 2/5 เพราะหมีอเมริกันตัวเล็กกว่ามาก การอุ้มบุญจึงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ สัตว์ 2 สายพันธุ์นี้ แยกออกจากกันเมื่อประมาณ 5 ล้านปีที่แล้ว 5."เสือทัสมาเนีย (Thylacinus cynocephalus)" สูญพันธุ์ไปเมื่อค.ศ. 1936 หรือประมาณ 70 ปีก่อน ตัวสุดท้ายของโลกที่ตายชื่อ "เบนจามิน" อยู่ที่สวนสัตว์เมืองโฮบาร์ต บนเกาะทัสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ดีเอ็นเอสามารถรักษาไว้ได้ถึง 4/5 สัตว์ที่อุ้มบุญได้น่าจะเป็นทัสมาเนียเดวิล ความเหมาะสมอยู่แค่ 1/5 เนื่องจากสายพันธุ์ยังห่างกันไกล 6."กลิปโทดอน (Doedicurus clavicaudatus)" เป็นตัวอมาดิลโลที่มีขนาดพอๆ กับรถโฟล์กเต่า สูญพันธุ์ไปจากโลกราว 11,000 ปี ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่แถบอเมริกาใต้ ระดับดีเอ็นเอที่รักษาไว้ได้คือ 2/5 สัตว์ที่อุ้มบุญน่าจะเป็นอมาดิลโล แต่ความเหมาะสมมีเพียง 1/5 เพราะอมาดิลโลยักษ์ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาอมา ดิลโลชนิดเดียวกัน ยังมีน้ำหนักแค่ 30 กิโล กรัม เมื่อเปรียบเทียบกับไซซ์รถเต่าแล้ว ถือว่ายังห่างกันไกล 7."วูลลี่ ไรโนเซอรัส (Coelodonta antiquitatis)" หรือ "แรดขน" สูญพันธุ์ไปราว 10,000 ปี ลำตัวยาวประมาณ 3.7 เมตร นอยาว 1 เมตร เคยอยู่แถวยุโรปเหนือและไซบีเรีย ดีเอ็นเอรักษาไว้ได้อยู่ที่ระดับ 4/5 สัตว์ที่อุ้มบุญได้คือแรดปัจจุบัน ความเหมาะสมอยู่ที่ 5/5 8."โดโด้ (Raphus cucullatus)" เป็นญาติของนกพิราบและนกนางนวล สูญพันธุ์ไปเมื่อ ค.ศ. 1690 สูงประมาณ 1 เมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัม เคยอยู่แถบมอริเชียสหรือมหาสมุทรอินเดีย ระดับที่รักษาดีเอ็นเอไว้ได้คือ 1/5 เมื่อ 6 ปีที่แล้ว นักพันธุกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ได้รับอนุญาตจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติของอังกฤษ ให้ทำการผ่าตัดและศึกษากระดูกท่อนขาของโดโด้ สำหรับสัตว์อุ้มบุญนั้นน่าจะเป็นนกพิราบ ระดับความเหมาะสมอยู่ที่ 3/5 9."ไจแอนต์กราวด์สล็อธ (Megatherium americanum)" หรือ "หมีสล็อธดินยักษ์" สูญพันธุ์ไปราว 8,000 ปี ระดับดีเอ็นเอที่รักษาไว้ได้คือ 2/5 "หมีสล็อธดินยักษ์" เมื่อยืนแล้วจะสูงประมาณ 6 เมตร น้ำหนัก 4 ตัน ดีเอ็นเอที่พบส่วนมากมาจากขน เคยอาศัยอยู่แถบอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ สัตว์ที่น่าจะอุ้มบุญได้คือ "หมีสล็อธต้นไม้ 3 เท้า" แต่เนื่องจากขนาดไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ระดับความเหมาะสมในการอุ้มบุญจึงต่ำไปด้วย คืออยู่ที่ 1/5 10."โมอา (Dinornis robustus)" เป็นนกมีลักษณะคล้ายกับนกกระจอกเทศ พบดีเอ็นเอมากในนิวซีแลนด์ ถ้ายืนมันจะสูงประมาณ 3.6 เมตร สูญพันธุ์ไปเมื่อราว ค.ศ. 1500 คาดว่าถูกล่าโดยชาวเมารี ความเหมาะสมที่นกกระจอกเทศจะอุ้มบุญคือ 2/5 11." ไอริชเอลก์ (Megaloceros giganteus)" มีลักษณะคล้ายกวาง สูญพันธุ์ไปเมื่อ 7,700 ปี ระดับดีเอ็นเอที่รักษาไว้ได้อยู่ที่ 3/5 เคยอาศัยอยู่ที่ยุโรปสัตว์ที่น่าอุ้มบุญได้คือกวาง แต่ความเหมาะสมอยู่แค่ 2/5 เพราะขนาดต่างกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #284 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 13:36:09 » |
|
ไม่รู้ว่าคำถามพี่ตี๋เป็นปัญหาแบบไหนน่ะ..เดาทางไม่ออกเลย..แต่อยากรู้เฉลยน่ะ..ยอมแล้วกัน..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #285 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 07:24:50 » |
|
คิดไม่ออก ตอบ 24 ชั่วโมง มันคงไม่ถูกล่ะมั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #286 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 08:24:13 » |
|
เว็บอับดุล นึกอะไรอะไร มันก็รู้หมด http://en.akinator.com/ให้ลองนึก ตัวละคร หรือ คนที่เราชอบไว้นะครับ (ได้หมดทั้งคนจริงหรือการ์ตูน) แล้วเว็บมันก็จะตั้งบคำถาม ให้เราตอบไปเรื่อยๆ แล้วลองดูว่า มันจะตอบชื่อคนคนนั้น ที่เรานึกไว้ถูกหรือเปล่า ผมทดลองไปสองตัวครับ 1) เปกาซัส เซย่า - มันใช้คำถามไปทั้งหมด 17 ข้อ - ตอบทีเดียวถูก 2) บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - มันใช้คำถามไปทั้งหมด 20 ข้อ - แล้วมันก็ตอบทีเดียวถูก เป็นเว็บที่มีฐานข้อมูลเยอะ แล้วก็ใช้คำถามเพื่อตัดตัวเลือกออก สนุกดี ว่างๆ ก็ลองเล่นดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #287 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2552, 15:47:51 » |
|
เคยลองแล้วเหมือนกัน 1) Akuma(Gouki) มันใช้ไป 20 คำถาม(ครบโควต้าแล้ว) แต่ตอบผิด 2) คุปะ(Boss จาก มาริโอ้) มันใช้ไป 17 คำถาม แล้วก็ตอบถูก 3) ภราดร ศรีชาพันธ์ ใช้ไป 20 คำถาม แล้วก็ตอบถูก
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #288 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2552, 16:00:08 » |
|
เคยไปตั้งกระทู้ในบอร์ดพันทิป โต๊ะหว้ากอ เกี่ยวกับ ปลาโลมา บ้าง ปลาหมึกบ้าง ฯลฯ(ถามเกี่ยวกับธรรมชาติบางอย่างของมัน) สังเกตมั้ยว่า มันจะชอบมีไอ้พวกสู่รู้เข้ามาเสือก นอกประเด็น ทำนองว่า ห้ามเรียกปลาหมึก เพราะมันไม่ใช่ปลา(เป็นตระกูลหอย) ห้ามเรียกปลาโลมา(ให้เรียกโลมาเฉยๆ) เพราะมันเป็นพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ฯลฯผมว่ามันงี่เง่าฉิบหายเลย ....เพราะอะไรงั้นหรือ?เพราะชื่อคอมมอนเนม(ชื่อสามัญ) เราจะเรียกอะไรก็ได้ ไม่ได้จำเพาะ ทำไมฝรั่งยังเรียกมังคุดว่า Mangosteen ทั้งที่มันไม่ใช่ตระกูลเดียวกับมะม่วง(Mango) เรียกแมงกะพรุน(ซึ่งไม่ใช่แมง) ว่า Jelly fish(ซึ่งมันก็ไม่ใช่พวกเดียวกับ Fish แท้ๆด้วย) ถ้าเราเรียก หมึก เฉยๆ คนอ่านจะรู้มั้ยว่า มันคือ Squid(ปลาหมึก) ไม่ใช่ Ink(น้ำหมึก) คำว่าโลมา ก็เหมือนกัน ถ้าเราเรียก ปลาโลมา มันสื่อชัดๆว่า หมายถึง Dolphin แต่ถ้าเรียก"โลมา"เฉยๆ มันอาจแปลว่า ขน(Hair) ก็ได้ หรือบางอย่าง เช่น ข้าวโพด มันไม่ใช่ข้าว ถ้าจะยึดหลักวิชาการ(และวิชากรวย) ต่อไปนี้ต้องเรียกว่า โพด เฉยๆ รึเปล่า(วะ?)
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #289 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2552, 17:23:52 » |
|
ประเด็นนี้เห็นด้วยกับจารย์โอ ภาษาพ่อภาษาแม่เรียกมาว่าไง สิ่งนั้นก็คือ คอมมอนเนม เรียกมันไปเถอะ
เสริมอีกอย่าง ประเภทสับสนระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เช่น เมืองปารีส เราคุยกับคนไทยภาษาไทย เมืองแพร๊รีสส (Paris) เนื่ย ภาษาไทยเรียกว่า ปารีส ก็ ปารีสสิ ไปคุยกับฝรั่งค่อยออกเอ็กเซ่น แพร๊รีสสส ให้เต็มปาก ดูฝรั่งมันยังเรียก กรุงเทพ ว่า Bangkok อยู่เลย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #290 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2552, 18:01:10 » |
|
ขำจารย์โอครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #291 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 12:42:01 » |
|
วันนั้นนั่งฟัง คนใน office เค้าคุยกัน
A: เฮ้ย คุณเป็นคนที่ไหนอ่ะ B: หาดใหญ่ครับ A: แล้วจังหวัดสงขลา กับ หาดใหญ่มัน ห่างกันมากป้ะ B: ก็ประมาณ ... ชั่วโมง (จำไม่ได้แล้น)
สรุป สงขลากับหาดใหญ่มันคนละที่กันเหรอ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #292 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 15:02:14 » |
|
ป่าวครับ..เนื่องจากเมืองหาดใหญ่ มีความเจริญของตัวเมืองมากกว่าสงขลาเป็นอย่างมาก อย่างสนามบินเค้าก็ไม่เรียกสนามบินสงขลาครับ เค้าเรียกสนามบินหาดใหญ่ น่าจะเป็นที่เดียวในประเทศรึเปล่าที่อำเภอ(ซึ่งไม่ใช่อำเภอเมืองด้วยนะ) มีอิทธิพลต่อจังหวัดได้มากมายขนาดนี้
จารย์โอ..มีอะไรที่ไล่แมวได้ชะงักดีแท้มั่ง มันปีนไปอยู่ในฝ้าบ้านเจ้านาย ไล่ก็แล้ว เอาสเปรย์ฉีดหมาก็แล้ว อุดรูก็แล้ว ไม่รู้มันมาทางไหน ไปนอนเดินไปเดินมาได้ทั้งวัน..ทำไงดีฟระ..
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #293 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 15:04:09 » |
|
อย่าไปไล่มันครับ..แมวมันน่ารัก
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #294 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 21:35:37 » |
|
เรื่องไล่แมวไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะ? ตอนที่ไล่มันหนีมั้ยล่ะ? มันไม่ยอมหนี หรือว่าหนีแล้วกลับมาอยู่อีก? (ถ้าเป็นกรณีหลัง แสดงว่ามันต้องมีแหล่งอาหาร หรือติดใจเสน่ห์อะไรบางอย่างบริเวณนั้น?) ใช้หมาไล่ก็ไม่ได้อีก เพราะมันอยู่ข้างบนที่สูง ไม่ใช่ข้างล่าง หรือว่าต้องยิง? (แต่เราทำไม่ลงอ่ะ เพราะโดยส่วนตัวก็ชอบให้มีแมวมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆบ้านเหมือนกัน พวกหนูหรือตุ๊กแกจะได้ไม่มายุ่มย่าม) พูดถึงเรื่องหาดใหญ่ กับสงขลา อืมม์...หัวหน้างานคนปัจจุบันของห้องยาเรา แกก็บอกแต่ว่าแกเป็นคนหาดใหญ่ ไม่เคยบอกว่าเป็นคนสงขลาเลย เหมียนกัน?
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #295 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 07:24:00 » |
|
แมวนี่ไล่ยากสุดๆ ครับ อย่างที่บ้านเมื่อก่อนไม่เคยมีแมว พอมีอยู่ตัวนึงแอบมาอยู่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป ก็เลยเลี้ยงมัน เลยตามเลยไป แผล๊บเดียว เพิ่มปริมาณกลายเป็นเกือบสิบตัว ต้องรอให้มันตาย สูญพันธุ์ไปเองมั้ง (ฮ่าๆๆๆๆๆ)
อืม ส่วนเรื่องเป็นคนหาดใหญ่ไม่ได้เป็นสงขลานี่ มันจะเหมือนกับว่า คนเราก็ต้องบอกอะไรที่เราภูมิใจมากกว่าป้ะ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #296 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 08:14:38 » |
|
ทำไมเรื่องแมวๆ กับเรื่องคนหาดใหญ่มันมาตอบรวมๆกันอยู่พร้อมๆกันวะเนี่ยะ..
แมวมันมาคลอดลูก แต่ลูกก็เริ่มโตแล้ว ท่าทางมันจะติดใจว่าเย็นดี ก็เลยชอบไปนอนตรงนั้น เอาโน่นเอานี่อุดรู มันก็ไม่รู้ขึ้นไปทางไหนได้อีก นึกดูก็น่ารำคาญนะ มีแมว 4 ตัว เดินไปเดินมาอยู่บนหัว บางทีก็เล่นกันอีก เปิดฝ้าก็ไม่ได้เพราะติดฉนวน เปิดหลังคาลงมาไล่ก็แล้ว ฉีดสเปรย์ก็แล้ว มันก็กลับมาอีก มีกลิ่นอะไรที่แมวมันเกลี่ยดสุดๆมั๊ย จะเอาไปหย่อนซะ..
ส่วนเรื่องหาดใหญ่ สงขลา จริงๆก็คงไม่เกี่ยวเรื่องภูมิใจอะไรหรอก เค้าเรียกกันมา ก็เรียกตามๆเค้าแบบไม่รู้ตัว..แต่หาดใหญ่เจริญกว่าสงขลาเยอะมากจริงๆ..
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #297 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 15:58:45 » |
|
แมวมาเยี่ยมอีกกระทู้แล้วเว้ย...
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #298 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 17:12:25 » |
|
ผมเคยยิงแมวตาย !!!! ด้วย
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #299 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 07:39:34 » |
|
มิน่า..ทุกวันนี้มันถึงต้องใช้ชีวิตเหมือนแมว..เพื่อชดเชยความผิดในอดีต..
หลิม..กรูเพิ่งเข้าใจมรึงวันนี้เอง..
|
|
|
|
Net 80
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 187
|
|
« ตอบ #300 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 09:26:38 » |
|
งั้นแมวตัวนั้นก็ มาเป็น...... ใช่ป่ะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #301 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 12:57:05 » |
|
ก็มันมากัดแมวที่บ้านผม...ผมก็ต้องจัดการมัน
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #302 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 16:30:35 » |
|
ไม่เป็นไรหรอกหลิม..พี่เข้าใจ..
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #303 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 20:01:21 » |
|
กฏแห่งกรรม
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #304 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2552, 12:03:46 » |
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #305 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2552, 13:58:26 » |
|
กรดแห่งกัม.....
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #306 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2552, 14:13:28 » |
|
กลดแห่งกอลัม..
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #307 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2552, 14:16:08 » |
|
นอกประเด็นนิด..
ทำไมดินสอกดร็อตติ้งเดี๋ยวนี้มันไม่แถมที่แทงไส้ดินสอแล้วเหรอวะ..รุ่นเก่าๆยังมี แถมเมื่อเอาที่แทงไส้ดินสอจากของเก่า มาแทงย้อนลงไป มันก็มียางเล็กๆหลุดออกมาด้วย..ไม่รู้จะใส่กลับยังไง..จากนั้น ไส้ดินสอก็หักตลอดเวลาเลย..ใบ้รับประทานสิครับ..
ผมโง่รึเปล่าครับเนี่ยะ..ชั้นทำอะไรผิดไป..
|
|
|
|
Mouy (Again)
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 150
|
|
« ตอบ #308 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2552, 22:43:01 » |
|
ก็เอาที่แทงไส้ดินสอ คล้องเจ้ายางเล็กๆ ที่หลุดออกมาแหย่กลับเข้าไป หรือ ใช้ไส้ดินสอกดแทนแท่งเหล็กก็ได้ครับ แล้วให้สอดผ่านออกมาอีกด้านหนึ่ง ยางก็จะเข้าที่.... ไม่รู้จะเข้าใจไหมหนอ...ลองดูแล้วกันครับ... อ้อ พี่ทวงหน่อยเด๊ะ...การ์ดแต่ง กะ CD ได้แล้วช่ายเปล่า..อย่าลืมส่งพี่นะน้อง...แหะๆๆ...บอกแล้วพี่ไม่ลืมมม...
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #309 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2552, 06:45:43 » |
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #310 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2552, 07:38:41 » |
|
ไม่ลืมครับ แต่รอวีดีโอที่ให้น้องชายตัดต่อให้อยู่ เดี๋ยวเห็นแน่ครับ
ว่าแต่..ไอ้ยางที่ว่า ด้วยที่ว่ามันเล็กจัด..มันหายไปแล้ว..ตกลงว่า เดี๋ยวนี้เค้าไม่ให้ไอ้เหล็กที่แทงไส้แล้วใช่ป่าว..
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #311 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2552, 11:40:03 » |
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #312 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2552, 07:21:04 » |
|
จะตัดหรือต่อ เอาให้แน่ แต่ผมว่าน่าจะต่อนะ หุหุ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #313 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2552, 08:08:44 » |
|
ต่อกว่านี้อีกนิดเดียวก็คงไม่ได้แล้วล่ะ..ขับรถไม่ได้..
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #314 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2552, 12:18:18 » |
|
มิน่าละ พี่ว่าจะทักตั้งแต่ตอนงานแต่งงานแล้ว เห็นตุงๆนึกว่า เตรียมไมโครโฟนมาเอง ตอนนั้นก็งง
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #315 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 07:32:45 » |
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #316 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 10:05:21 » |
|
กรูว่าจะไม่เล่นมุขนี้แล้วเชียว..เข้าตัวจนได้..
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #317 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 09:37:16 » |
|
คำถาม 2 ข้อ อยู่ๆก็นึกขึ้นมาเฉยๆ
1. ทำไมเวลากรูจะดึงเปิด หรือ ปิดผ้าม่าน มันจะต้องดึงผิดเส้นทุกทีเลยวะ ประมาณ 8 ใน 10 ที่จะผิด จะเปิด ก็ดึงเส้นปิด จะปิด ก็ดึงเส้นเปิด..เฮ้อ..
2. สติกเกอร์ท้ายรถที่ได้รับความนิยมที่สุดคืออะไร จากการสำรวจของเสี่ยโต้งโพลล์ พบว่า มี 2 สติกเกอร์ คือ สติกเกอร์ที่เป็นรูปหน่วนกู้ภัย อุ้มผู้หญิงที่หมดสติ กำลังเดินออกไป..อย่างเท่ห์โครดๆ..กับรูป ผู้หญิงหันหลัง กำลังจะใส่หรือถอด กกน.
คำถามคือ ผู้หญิงคนนั้น เค้ากำลังจะใส่ หรือ ถอด กกน. ครับ และคิดว่าเพราะอะไร มีเหตุผลใดสนับสนุน
ทำไมสติกเกอร์ 2 อันนี้ถึงได้รับความนิยมมากๆ มันบ่งบอกถึงว่า ในสังคมเรายังกดขี่ทางเพศกันอยู่อีกรึเปล่า แบบว่าเป็นวัฒนธรมมฝังลึกโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่มันบอกด้วยการติดสติกเกอร์นั้นๆลงไปมั๊ย คิดมากไปป่าวเรา..
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #318 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 11:20:11 » |
|
เข้ามาตอบอย่างผู้รู้จริง
ข้อ 1. ปัญหาจากการวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วไม่ยากครับแสดงว่าเซียนโต้งทำการเปิดและปิดด้วยตัวเองไม่บ่อยแน่ ๆ จึงขาดความชำนาญเพราะผมทำได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องจากชำนาญมากกว่า อีกทฤษฎีหนึ่งคือมีสมองที่พัฒนาการด้านความเป็นเพศชายสูงกว่านั่นเอง (อันนี้สาระน๊ะครับ) ของผมสมองพัฒนาการด้านผู้หญิงเยอะกว่า สังเกตจากการขาดความสามารถในการตัดสินใจทุกอย่าง (อันนี้ไม่สาระครับ) วิธีแก้ไขไม่ยากครับทำบ่อย ๆ เดี๋ยวดีเอง
ข้อ 2. เรื่องสติกเกอร์ผมมีอีก 1 อันมาแนะนำครับ "รถคันนี้ สี......." ไม่น้อยไปกว่ากันเลย คาดว่าเป็นพวกไม่เข้าใจชีวิตหรือตาบอดสีเป็นต้น ส่วนเรื่องมูลนิธิต่าง ๆ ไม่ขอวิจารณ์ครับ ขอวิจารณ์เฉพาะผู้หญิงถอด กกน. วิเคราะห์ให้ดีอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ได้น๊ะครับ...เดี๋ยวนี้มันปลอมเหมือนมาก อาจจะเป็นกระเทยก็ได้ อย่าด่วนสรุปว่าเป็นผู้หญิง
ส่วนเรื่องสุดท้ายสังคมเรากดขี่ทางเพศหรือไม่นั้น..ถ้าคิดกันให้ขาดเลย...ก็...ผู้หญิงกดผู้ชายแล้วน๊ะครับตอนนี้ อย่าไปคิดว่าผู้ชายจะเอาเปรียบผู้หญิงเรื่องทางเพศ มันโบราณไปแล้วครับ...มันเริ่มซึมซับแบบไม่ไหลย้อนกลับเข้ามาในสังคมเราโดยที่เราไม่รู้ตัว (ประสบการณ์ตรง จาก ล. หลิม คอลัมนิส์ชื่อดัง)
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #319 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 11:32:10 » |
|
วิเคราะห์ได้....อืม...มั่วมาก
ข้อที่หนึ่ง อันนี้ไม่ทราบเพราะม่านที่บ้านไม่ใช้เชือกใช่มือรูดเอาเฉยๆ ข้อที่สอง รถคันนี้สี... อันนี้เยอะมากจริงๆ แต่ เป็นเรื่องความเชื่อ ส่วน รูปหน่วยกู้ภัย เห็นมากเหมือนกัน เขาเป็นหน่วยกู้ภัยจริงๆไม่ใช่หรือ ส่วนรูปผู้หญิงใส่กกน (คิดว่าใส่ครับ) ไม่ค่อยเห็นน่ะ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #320 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 11:39:14 » |
|
สาระ... มาก
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #321 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 12:08:19 » |
|
อ้าว..บอลก็ไม่มีเตะ การเมืองก็เรื่อยๆ งานแต่งก็ยังไม่มี กรูก็หาอะไรคุยไปเรื่อยๆไง..
สติกเกอร์หน่วยกู้ภัยไม่ได้ติดเฉพาะหน่วยกู้ภัยครับพี่ แท๊กซี่ สองแถว ติดกันมากมาย
ลองวิเคราะห์เล่นๆ หนุกๆ เช่น เอ..ปกติผู้หญิงเค้าใส่ข้างบน หรือ ข้างล่างก่อน หรือถ้าเป็นถอดล่ะ และเค้าจะยืนถอดอย่างในรูปรึเปล่า..หาเรื่องคุยไปเรื่อย ปั่นกระทู้รุ่นไง..
แต่เรื่องผ้าม่านนี่จริงๆนะ รวมถึงที่สำนักงานด้วย ทำไมต้องดึงผิดเส้นทุกที...ไม่เข้าใจ
|
|
|
|
Mouy (Again)
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 150
|
|
« ตอบ #322 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 19:59:53 » |
|
น้องหลิม... พี่สงกะสัยที่บอกว่า "ของผมสมองพัฒนาการด้านผู้หญิงเยอะกว่า"...เอ่อ หมายถึงหลิมแอบความเป็นหญิงอยู่ข้างในง้านเหรอ!!!...เอ่อ จริงด้วย "...เดี๋ยวนี้มันปลอมเหมือนมาก อาจจะเป็นกระเทยก็ได้ อย่าด่วนสรุปว่าเป็นผู้ชาย" แหะๆๆ ประโยคตัดต่อ... แต่พี่เห็นด้วย หลังๆ ประโยคที่ว่า "รถคันนี้สี...." เยอะมาก จนงงๆ ว่าใครมันช่างคิดนะ...แล้วคนซื้อมาแปะเค้าคิดอะไรกันหว่า... น้องโต้ง.. สติ๊กเกอร์รูปผู้หญิงหันหลัง กำลังจะใส่หรือถอด กกน.อันนี้พี่ก็ไม่ค่อยเห็นเหมือนกันนะ...งงๆๆ...เลยนึกไม่ออกว่าเค้ากำลังทำอะไรน่ะสิ... ส่วนที่โต้งจะ"ลองวิเคราะห์เล่นๆ หนุกๆ เช่น เอ..ปกติผู้หญิงเค้าใส่ข้างบน หรือ ข้างล่างก่อน หรือถ้าเป็นถอดล่ะ และเค้าจะยืนถอดอย่างในรูปรึเปล่า"... ไหนๆ โต้งก็แต่งงานแล้ว ไม่ลองถามคนนอนข้างๆ ดูล่ะ...เอ่อ มาให้ตอบกลางสาธารณะชนนี่... น่ากลัวนะ...
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #323 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 20:59:51 » |
|
ู^ ^ ^ อิ อิ พี่หมวยแซวกลับแล้ว ...
ไม่รู้สิ ว่าใส่บนหรือล่างก่อน ... แต่ถ้าถอดนะ ผมว่าบนก่อน ... (อย่างน้อย ผมก็ถอดเสื้อก่อนกางเกงล่ะนะ อิ อิ) แต่ถ้าจะให้ดีไม่ต้องถอดหมด ... จริงมั้ยน้าแครม
ส่วนเรื่องผ้าม่าน ... no comment เพราะที่บ้านผมใช้แบบดึงด้านไหนก็เปิดได้เหมือนกัน ...
ส่วนของเพื่อนหลิมนั้น ... ผมว่ามันพยายามโน้มน้าวให้คนอื่นเป็นเหมือนตัวมันเอง จะได้มีพวกเยอะ ๆ โดยเฉพาะเรื่องการถูกกดขี่ทางเพศ ... (แต่ลึก ๆ ผมว่ามันชอบนะ)
ส่วนเรื่องสติ๊กเกอร์ ... คนถือผู้หญิง นั้น... ผมว่าคงคิดว่าเท่ห์ล่ะมั้งครับ ... ...
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #324 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2552, 22:01:57 » |
|
1.เรื่องผ้าม่าน ผมก็เป็นหาคำตอบไมได้เหมือนกันครับ แต่ผมเป็นคนเสี่ยงโชคไม่ได้เรื่อง อาจจะเกี่ยวกัน ฮ่าๆ 2.สติ๊กเกอร์ คอนเฟิร์มว่าผู้หญิง ถอด/ใส่ กกน. ฮิตจริงๆ ครับ ให้วิเคราห์ผมว่า น่าจะเป็นถอดนะ เพราะเวลารถติดมันจินตนาการต่อไปได้อะ 555 แต่ถ้ากำลังใส่กลับเข้าไป มันจบเลยอะ ฮ่าๆ เหตุผลแบบฝักใฝ่ไปหน่อย ฮ่าๆๆ พูดถึงเรื่องสติ๊กเก้อร์ ผมจะเอาสติ๊กเก้อร์นี้มาติดรถอะ ตอนแรกกะฮิตเอาสติ๊กเกอร์ ผู้หญิงถอด/ใส่ กกน. มาติดเหมือนกัน แบบว่ารสนิยิมสิบล้อค้าบบบ ฮ่าๆ แต่เหลือบไปเห็นอันนี้พอดี ซื้อมาแล้วแต่ยังรวบรวมความมั่นใจไมได้ ฮ่าๆๆ แฮ่ๆ อันนี้เจ้าตัวเล็กผม
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #325 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2552, 15:03:49 » |
|
เห็นด้วยกับพี่ก้อง...ต้องถอดครับ ถ้าใส่...จบเลย แต่ว่าถอดแล้วทำอะไร...ฉี่ หรือ อึ ต้องวิเคราะห์้กันต่อไป
ส่วนถอดบนหรือล่างก่อนไม่ขอออกความเห็นต้องถามคนแต่งงานแล้ว น่าจะดีที่สุด ปล. ไม่ได้ถูกกดขี่ทางเพศครับ แต่ผมถูกกดขี่ทางบ้าน
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #326 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2552, 09:51:58 » |
|
เอาคำขวัญท้ายรถสิบล้อมาฝาก
"สิบล้อรอรัก" "อกหักเพราะรักติ๋ม" "เป็นอะไรตาย แซงซ้ายซิครับ!!!" "ความดีไม่มีขาย อยากได้ทำเอาเอง" "โง่จัง คันหลังไม่เกา" "แซงขวาชาติควายแซงซ้ายชาติหมา" "เลิกตอแหลแล้วจะให้แม่ไปขอ" "ขับเร็วเพราะเมาม้า ขับช้าเพราะมองเธอ" "ขาดเธอพี่ไม่ว่า ขาด(ยา)ม้าพี่ตายแน่" "ยามกินพี่จะป้อน ยามนอนพี่จะปล้ำ" "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง กระเทยงามเพราะแปลง!!" "มีลูกกวนตัว มีผัวกวน TEEN" "รถนะน้องไม่ใช่เจี้ยว ชนแล้วเสียวได้" "เรียนๆลุยๆไปคุยโรงพัก เรียนๆรักๆ ไปพักโรงแรม" "เหงื่อทุกหยาดหยด เพื่ออนาคตน้องเมีย" "ขับเร็วหาว่าแดกม้า ขับช้าหาว่าหมาไม่แดก" "ทำงานลูกเดียว เที่ยวสองลูก" "รักเมียหลวง หวงน้องเมีย" "เมียหลวงให้ 500 เมียน้อยให้ 5000" "รถติดเป็นมรดกไทย อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน" "รุ้ตัวว่าสวย ช่วยมานั่งข้างหน้า" "เรียนๆเล่นๆเดี๋ยวก็เป็นด๊อกเตอร์" "เรียนไปปวดหัว มีผัวดีกว่า" "รับแก้ทอมทั่วราชอาณาจักร" "ดีกว่าเดิน" "ขอเถอะจ่า ค่านมลูก" "ku ก็รีบ......" "วัตถุเมาไว" "สุขใจเมื่อไกลเมีย" "ตีนผีก็มีหัวใจ" "ผัวเผลอแล้วเจอกัน" "เมียเงินสด รถเงินผ่อน" "รถก็เก่า เมียก็แก่ กูละเบื่อ" "รักจริง ทิ้งจริง" "มือเก่า แต่เมาค้าง" "ตัวมัธยม นมมหาลัย" "ขออภัยในบางลีลา" "ใช้ในราษฎรเท่านั้น" "ลืมหัวใจไว้บนรถทัวร์" "ขอโทษทีไม่มีแบงค์ย่อย" "โซ่เถอะน้อง ทองมันแพง" "มันส์สิน้อง ถึงได้ท้องบ่อยๆ" "ขับช้าๆ โดนพร้าเล่มงาม" "ยาม้ามันขม ดูดนมดีกว่า" "รักคนมอง จองคนอ่าน" "ติดทุกเส้นทาง" "ถ้ากูบินได้ กูบินไปแล้ว" "เรารู้ใจตำรวจไทย" "ทีทับไม่ร้อง ทีท้องจะให้รับ" "รถยังมีอะไหล่ แต่หัวใจไม่มีสำรอง" "พลาดจากน้อง พี่ก็จ้องกระเทย" "ไฟแดงข้างหน้า ข้าขอสู้ตาย" "คิดดีแล้วหรือ ที่จะหือกับพี่" "ถูกจับไม่ว่า ขอซ่าไว้ก่อน" "มีเงินนับเป็นน้อง มีท้องนับเป็นเมีย" "วิ่งซ้ายเมียด่า วิ่งขวาจ่าจับ" "ขับรถซะเร็วจี๋ หนีเมียหรืองัยครับ" "แซงซ้ายไม่ว่า ปาดหน้าโดนเหยียบ" "สตางค์ยังรู้หมด ตดยังรู้เหม็น" "ถึงรถจะเก่า แต่กระเป๋าอวบอั๋น" "ตอนนี้หลงทาง จะขับตามทำไม" "พอเหล้าเข้าปาก ก็อยากเสียตัว" "รักแท้คือแม่ข้า รองมาคือแม่โขง" "อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าให้เธอนั่งข้าง" "คนลงที่ป้าย ควายลงที่ไฟแดง" "ขับรถอย่าเซ่อ ตำรวจเผลอแล้วซิ่ง" "น้องขึ้นพี่ดีใจ น้องลงไปพี่คิดถึง" "บ้านพี่อยู่ทุ่ง น้องกรุงอยู่แฟลต" "ตากแดดตากลมเพราะนมสองเต้า" "เมียอยู่ในรถ แม่มดอยู่ในบ้าน" "เมาเหล้าเสียหลัก เมารักเสียท่า" "ท้องฟ้ามีดาว ท้องสาวมีเด็ก" "มันส์สิน้อง ถึงได้ท้องบ่อยๆ" "จำกัดความเมาไม่เกิน 80 กม./แบน" "อย่าดื่มสุราขณะขับรถ เพราะจะทำให้เหล้าหก (เสียดดาย)" "เมาไม่ขับ รถขยับเหล้าจะหก!!" "ได้เมียเพราะเมา" "เจอจ่าอีกแล้ว ไม่แคล้วโดนจับ" "อ้อนจ่ายิ่งกว่าอ้อนเมีย" "จับเถอะจ่าเบื่อหน้าอีแก่" "อย่าจับนะจ่า คราวหน้าแบงค์ปลอม" "สิบล้อนะน้อง ไม่ใช่เฟอรารี่" "ถ้าคิดจะแซงต้องแรงกว่านี้" "ชาติหน้ามีจริง จะซิ่งยันขาติหน้า" "ขับรถใส่เกียร์ห้า เจอจ่าใส่เกียร์หมา"
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #327 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2552, 09:55:17 » |
|
คำขวัญท้ายรถร่วมกตัญญู 1. ขออภัย ? มือใหม่หัดห่อ คำขวัญท้ายรถ 10 ล้อ 1. บินได้ ตูบินไปแล้ว 2. อย่าดื่มเหล้าขณะขับรถ เพราะจะทำให้เหล้าหกเสียของ 3. การขับรถทำให้ประสิทธิภาพในการดื่มสุราน้อยลง 4. คำเตือน "ห้ามดื่มสุรา ขณะมึนเมา" 5. เมาไม่ขับ จะกลับยังไง 6. เมาเหล้าเสียหลัก เมารักเสียใจ 7. เมาไม่ขับ เพราะกลับไม่ถูก 8. เมาไม่จับ 9.ชมรมไม่เมา ไม่ขับ 10. หลงทางยังหาเจอ หลงเธอสิเหลือทน 11. ถนนคือการศึกษา ใบสั่งคือปริญญา 12. รถติด คือมรดกไทย อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน 13. เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน 14. เศษแก้วมันบาดคน คำพูดของเศษคนมันบาดใจ 15. ถึงจะขับสิบล้อ แต่ก็ได้หมอเป็นเมีย 16. เหงื่อทุกหยาดหยด เพื่ออนาคตน้องเมีย 17. จำกัดความเร็วที่ 180 กม. / 3 ชั่วโมง 18. สุขใจเมื่อไกลเมีย 19. จ่ายเฉพาะ ด่านรู้ใจ 20. อยู่บ้านเมียด่า ออกมาจ่าจับ 21. ถ้ารีบ ทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวาน 22. เห็นตูเป็นลาว จับเช้า จับเย็น 23. ห้ามยกเล่น 24. กินลูกเดียว เที่ยวสองลูก 25. ขับเร็วว่าแดกม้า ขับช้าว่าหมาไม่แดก คำขวัญท้ายรถอะไรก็ไม่รู้ 1. ใช้หนีราชการเท่านั้น 2. ใช้ในราชการ (บ้างนะ) 3. ใช้ในราชการ (ก็) เท่านั้น 4. รถก็จะขับ โทรศัพท์ก็จะคุย...ถุย! คำขวัญท้ายรถซิ่ง 1. วัตถุไปไว 2. อดีตเคยแรง 3. ขับเร็วชิดซ้าย ขับไวชิดขวา 4. ทุกอย่างดังหมดยกเว้นเครื่องเสียง 5. อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าให้เธอนั่งข้าง 6. เหยียบเบรคคิดถึงเมีย เข้าเกียร์คิดถึงเธอ 7. รักจริงหวังแต่ง รักแท้หวังฟัน รักนิรันดร์ฟันแล้วทิ้ง คำขวัญบนรถเมล์ 1. ไม่มีท่านเราอด ไม่มีรถท่านเดิน คำขวัญท้ายรถ มินิ ญี่ปุ่น 1. แอบแซง เพราะแรงน้อย 2. โกรธอ๊ะเปล่า ถูกรถเก่าแซง 3. วันนี้ไม่แรง ให้แซงไปก่อน 4. มือใหม่หลบไป มือเก่าจะแซง 5. หมาเห่ายังบุบ คำขวัญท้ายรถเต่า (รุ่นเก่า) 1. ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก 2. ขับเร็วด้วยแรงม้า ขับช้าด้วยแรงเต่า 3. ไม่แรง อย่าแซงเต่า 4. ตอนนี้หมดแรง แซงได้เล้ย..... คำขวัญในห้องน้ำ 1. อย่าทิ้งบุหรี่ในโถปัสสาวะ เพราะทำให้เปียกและจุดติดยาก 2. ยืนให้ชิด อย่าคิดว่าแม่น
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #328 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2552, 10:10:28 » |
|
^ ^ ^ พี่ตี๋เล็กครับ ขอบคุณคร้าบผมชอบมากเลย เก๋าๆ เฉี่ยวๆ
ผมว่ามันแสดงถึงความกดขี่....
กดขี่ทางหลวง (โดยเฉพาะพี่หนวด) กดขี่ทางบ้าน (ภรรเมียหลวง พันละเมียน้อย)
เอิ๊ก..... ชอบคำขวัญในห้องน้ำอะ ฮ่าๆๆ สุดยอดเลย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #329 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2552, 07:52:06 » |
|
สติ๊กเกอร์ผู้หญิงจะถอดหรือจะใส่ไม่รู้ แต่ทำไมไม่หันมาข้างหน้าวะ ส่วนคำขวัญท้ายรถนี่ ผมขอเสนอเข้าสภา ให้เป็นมรดกของชาติไทย พร้อมๆ กับ เรื่องคำผวนครับ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #330 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2552, 08:22:21 » |
|
พี่ตี๋เล็กไปเอามาจากไหนครับเนี่ยะ..ประหนึ่งดัง save ไว้นานแล้ว พร้อมเอามาใช้เสมอ..อ่านแล้วขำโครดดๆ..
พี่หมวย แบบว่าไม่ได้ตั้งใจให้ประเจิดประเจ้อหรอกครับ พอดีผมเป็นคนพยายามหามุมคิดอีกมุมจากเรื่องที่เห็นเสมอ เลยตั้งเป็นประเด็น ส่วนเรื่องใส่บน ล่าง ผมแค่ยกตัวอย่างให้แตกประเด็นเฉยๆครับ มิได้เจตนา..55
แต่ถ้าเอาความคิดแรกของผมจะ ผมว่าใส่ว่ะ ไม่ได้ถอด ไม่รู้นะ ดูรวมๆแล้วเหมือนใส่มากกว่า ไม่มีเหตุผล..
ผ่านๆๆๆๆ..เปลี่ยนเรื่อง ว่าแต่รถไอ้ก้องสวยว่ะ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #331 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2552, 11:53:38 » |
|
ตอนนี้กำลังสะสมคำขวัญในห้องน้ำอยู่ ต้องตระเวณหาข้อมูลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #332 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 00:17:38 » |
|
พี่ตี๋เล็กคร้าบ เจ๋งครับ ในห้องน้ำนี่ ต้องไปห้องน้ำสาธารณะ เช่นว่า ห้องน้ำตลาดนัดสวนจตุจักร เวลาเข้าห้องน้ำอ่านเพลินดีกว่า ชอบอ่านที่มันเขียนด่าเป็นทอด ๆ เป็นอนุกรมกันเลย ฮ่าๆๆ ไว้ถ้าติดกล้องจะพยายามถ่ายมาคร้าบ ฮาดีๆ
แต่ช่วงหลังแนวเกย์มันชักเยอะ ฮาร์ดคอร์ไป ไม่ไหวๆ
----- พี่โต้ง ขอบคุณคร้าบ ตอนนี้เปลี่ยนบังโคลนหน้าเป็นสีส้ม แต่มันดูรกๆ ว่าจะเปลี่ยนกลับสีเขียวดีกว่า แต่ใส่เห่อๆ ซักเดือนนึงก่อน อ้อ...
รัชดา ซ. 3 ชอบไปกินเตี๋ยวเนื้อ กับข้าวแกงปักษ์ใต้ครับ อร่อยมาก ตอนนี้ประหยัด คั่วกลิ้ง 1 ถุงยิงยาว ได้ราวๆ 5 มื้อ ยิ่งงดมื้อเย็น สบายแฮ 555
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #333 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 07:14:59 » |
|
ในห้องน้ำต้องอันนี้ครับ "แน่จริง อย่าเบ่ง"
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #334 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 08:11:28 » |
|
ชิดเข้ามาอีกนิด อย่าคิดว่าแม่น..
ถูกต้อง..ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรางน้ำ กับ ข้างแกงใต้อร่อยมาก ต้องยอมเดินออกมากินเลย ส้มตำร้านถัดไปฝั่งเดียวกับก๋วยเตี๋ยวก็ใช้ได้เลย..
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #335 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 13:42:46 » |
|
ขอแจมด้วยคน.............. คำขวัญท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 1.จากหนึ่งสมอง......และสองเมีย 2.ท้ายรถกรูดัง 3.อะปัตติเถ....เถนา 4..อย่าจ่อ....เสียว 5.โทษทีคนล้างไปนอก..... 6.อุบัติเหตุป้องกันได้.......ถ้าหั๊ยเธอนั่งข้าง(หลัง) <-------------- สำหรับคนมีครอบครัวแล้ว
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #336 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 14:00:21 » |
|
คิดว่าน่าจะใส่ เพราะตอนถอดนั้นคงจะถอดตั้งแต่ก่อนอาบน้ำ ตอนขึ้นเตียงก็มาแค่ผ้าขนหนูกระโจมอก ส่วนที่หันหลังน่าจะเป็นมุมมองจากปลายเตียง ตอนนั้นคนขับสิบล้อคงจะเพลียเต็มที่แล้ว ส่วนผู้หญิงเค้าก็ได้ตังค์แล้วและกำลังรีบไปรับจ๊อปใหม่เลยไม่มีเวลาหันกลับมามอง... เป็นชีวิประจำวันแบบซ้ำซากจำเจ รู้กันในหมู่สิบล้อน่ะ.....ผมว่า -_-' อ่ะ!! ผมก็รู้ด้วยแฮะ
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #337 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 14:32:03 » |
|
ดี
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #338 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 14:53:43 » |
|
สวัสดีครับ พี่โจ้ที่นับถือ ไม่ได้เจอพี่นานแล้ว ยังดูดีเหมือนเดิมครับ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #339 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 15:09:49 » |
|
นี่ล่ะที่กรูต้องการ..วิเคราะห์ได้เด็ดขาด..
ผ่านๆๆ ไปเรื่องอื่นมั่ง เดี๋ยวเจ๊หมวยมาตบกบาลข้าพเจ้าอีก..
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #340 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 15:13:03 » |
|
ทำไมเวลามาเจอทางร่วม เช่น ทางร่วมบนทางด่วนที่มาจากทางซ้ายมือของทางหลัก ไอ้รถทางร่วมมันต้องรีบร่วมซะเหลือเกิน ต้องเปลี่ยนเลนมาขวางทางหลักทันที ทั้งๆที่แยกต่อไปนี่ไปอีกเป็นกิโล ที่รถติดบนทางด่วนเวลามาเจอทางร่วมเป็นแบบนี้ทั้งนั้น คือรถตัดกระแส พอพ้นตรงนั้นมาได้ โล่งทุกที
อยู่ในเลนไปก่อน แล้วค่อยมาเปลี่ยนเอาข้างหน้าไม่ได้หรือไง ไปอีกเป็นกิโลๆ เปลี่ยนไม่ทันเลยเหรอ
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #341 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 15:39:04 » |
|
สวัสดีเช่นกันครับ ขอบคุณที่ยังจำกันได้ ส่วนรูป ก็หลายปีแล้วอ่ะครับ ตัวจริงตอนนี้แก่ไปเยอะเลย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #342 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2552, 15:46:46 » |
|
จากประสบการณ์มันกลัวว่าจะิชิดเข้าทางไม่ทันและจะเลยไป เสียหายทั้งเงินทอง และเวลา ดีไม่ดีทะเลาะกับคนนั่งข้าง ๆ อีก อันนี้ประสบการณ์ตรงครับ เลยอาศัยว่าชัวร์ ๆ ดีกว่าแต่ปัญหาคือมันไม่ยอมลดความเร็วเลย
แล้วเรื่องของป้ายบอกทางด้วยเช่นกัน บางครั้งมันบอกเผื่อนานมาก บางครั้งมันบอกแล้วต้องเลี้ยวทันทีเลย
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #343 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 00:04:12 » |
|
emo29:P:โห....แต่ละคำถาม ไม่ถนัดเรื่องบนถนนครับ ขอเดาว่า 1.อยากโชว์ป้ายทะเบียนรถที่เพิ่งประมูลมาได้ 2.เข้าโค้งมาด้วยความเร็ว 130 กว่า แต่ดอกยางไม่เหลือแล้ว รถมันเลยสไลด์ไปตามแรงเหวี่ยง 3.ปาดมาจากทางซ้าย 130 กม/ชม(คิดว่าโคตรเร็วแล้ว) บังเอิญเหลือบมองกระจกมองหลังเห็น Dmax จ่อตูดห่างแค่คืบเลยต้องรีบเปลี่ยนเลน ไปเอาคำถามนี้มาจากไหเนี่ยยยยยยยยย......... ทางไม่ด่วนก็มีประเภทขับรถไม่มีมันยาด เคยปาดหน้ามอไซด์ที่ขี่กร่างคร่อมเลนบีบแตรแล้วยังเฉย เลยแซงเบาๆเอาห่างแฮนด์แค่เซนต์กว่าๆ พอมันเหลือบมาเห็น รถมันเป๋ออกข้างทางไปเลย สักพักมันขับปาดขวาขึ้นมามองหน้า ..........เจือกเป็นทอมเฉยเลย ต้องปล่อยคมแฝกมากุมเป้าแทน
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #344 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 00:34:26 » |
|
สำหรับเซียนโต้ง มือใหม่หัดขับครับ คู่มือการใช้ "เมีย" อย่างมีประสิทธิภาพ ฮา.. (ขออภัยสำหรับบางท่านที่เคยอ่านเจอแล้ว) คิดว่าหลายท่าคงพบปัญหาเดียวกัน ในการใช้ "เมียออโตเมติก" เพื่อทะนุถนอมอายุการใช้งาน เมียของท่านให้ยืนยาว และเป็นการรักษาอายุของท่านเองด้วย เราขอแนะนำข้อปฏิบัติ หลักสิบประการ เพื่อใช้และบำรุงรักษาเมียออโตเมติก ดังต่อไปนี้ 1. เมื่อเริ่มจะใช้งานเมียนั้น ควรอุ่นเครื่องก่อนทุกครั้ง เพราะการใช้งานทันทีทันใด ในขณะที่น้ำมันเครื่องยังไม่ได้หล่อลื่น ไปทั่วห้องเครื่องนั้น อาจทำให้ลูกสูบติด หัก หรืองอได้ 2. ในตอนออกสตาร์ทใหม่ ๆ อย่าเร่งเครื่องทันที เพราะการเร่งเครื่องทันทีนั้น อาจทำให้ ผู้ขับเกิดอาการอ่อนเพลีย ขับได้ไม่นาน อาการตอบสนองของเครื่องจะไม่ดี เครื่องกระตุก นอกจากนั้น เครื่องอาจหงุดหงิด เกิดอาการสำลักน้ำมันได้ง่าย และการเดินทางจะไม่ถึงที่หมาย 3. ในขณะติดไฟแดงนั้น ไม่ควรใช้งาน แม้ในทางทฤษฎีแล้ว เครื่องบางเครื่อง อาจเป็นช่วงเหมาะสม ที่จะนำไปใช้งาน แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่ควรใช้งาน เนื่องจากเครื่องอาจเกิดปัญหา ผุกร่อน คราบเขม่า น้ำมันจารบี อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ขับขี่ และเครื่องเช่นกัน ในจังหวะไฟเขียวก็ควรจะดูรอบเครื่องและอุณหภูมิด้วย อย่าสุ่มสี่สุ่มห้า ใช้ไม่บันยะบันยัง อาจเกิดปัญหาอื่นตามมาได้ โดยเฉพาะ ในกรณีท่านที่ขับรถสปอร์ต ยืมเขามาขับ หรือลักลอบขับยิ่งอันตรายมาก สำหรับผู้ขับที่ยังไม่ได้มีรถส่วนตัวอย่างแท้จริง ส่วนท่านที่ใช้รถครอบครัว กรณีนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ตกลงกันได้เสมอ 4. สำหรับรถและเครื่องที่มีอายุการใช้งานมานาน การขับขี่อาจนุ่มนวล แต่รู้สึกว่าการตอบสนองไม่เร้าใจ เนื่องจากเกิดความเคยชิน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ท่านอาจเปลี่ยนแปลงวิธีขับ เช่น รู้จักเข้าโค้งอย่างนุ่มนวล หรือในทางตรงกันข้าม เข้าโค้งรุนแรง ขับถอยหลัง ขับออกด้านข้าง ขับขึ้นเขา ขับลงเขา ขับ ๆ หยุด ๆ ซึ่งจะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ขับเกิดความตื่นเต้น และเครื่องยนต์ก็ตอบสนองดีขึ้น หากท่านใช้วิธีขับแบบเดิม ทื่อ ๆ ไป ไม่มีความเราใจ เครื่องและรถก็อาจอยากได้คนขับใหม่ด้วยเช่นกัน อย่าได้คิดว่าเปลี่ยนรถจะง่ายกว่าฝ่ายเดียวนะ 5. สำหรับมือใหม่หัดขับนั้น หากได้รถยังไม่พ้น รัน-อิน ยิ่งควรทะนุถนอม เพราะการขับอย่างรุนแรงตะกรุมตะกรามนั้น อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความเข็ด และไม่ให้ความร่วมมือในการเดินทางครั้งต่อไป เนื่องจากอาจเกิดภาวะความเสียหายของห้องเครื่องได้ง่าย ควรค่อยเป็นค่อยไป เมื่อใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง จึงควรเปลี่ยนแปลงวิธีขับ เป็นขับโลดโผน เสี่ยงตาย ขับควงสว่าน ขับลงน้ำ ขับกลางสายฝน ขับหงายท้อง ก็แล้วแต่จะดัดแปลง 6. สำหรับผู้ใช้รถเก่า เมื่ออายุการใช้งานนานพอสมควร หรืออายุเครื่องถึงสามสิบปี ควรนำเข้าศูนย์เช็คช่วงล่าง และกันชนหน้าเสมอ เพราะอาจเกิดสภาวะการผุกร่อน หรือการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ขอให้นำเข้าตรวจสภาพเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งาน รักรถ ต้องหมั่นตรวจ โปรดจำไว้ ส่วนการจะทำไปโอเว่อร์ฮอล หรือไม่นั้น แล้วแต่จะตกลงกัน ในความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญที่ใจ และฝีมือคนขับด้วย ไม่ใช่โทษแต่เครื่องยนต์อย่างเดียว 7. ระหว่างการขับขี่ ไม่ว่ารถมีอายุการใช้งานอยางใด ข้อควรระวังก็คือ ห้ามบ่นอย่างเด็ดขาด ว่าเครื่องไม่ฟิตเหมือนเดิม หรือว่ากำลังแรงม้าลดลง ขับไม่ตื่นเต้น หรือชมว่า คันนู้น คั้นนี้ น่านั่งน่าขับ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ หรืออย่างเบาะ ๆ อาจเสียทรัพย์สิน อุบัติเหตุในเรื่องดังกล่าว มีอัตราชายไทยเสียชีวิตสูงมาก สังเกตุได้จากหน้าหนึ่งหนังสือพิพม์รายวัน 8. เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการขับขี่ การใช้งานอย่างราบรื่นนั้น อาจต้องหมั่นเปลี่ยนบรรยากาศการขับ เปลี่ยนสถานที่ขับขี่ (อย่าเปลี่ยนคัน อันตรายมาก เตือนแล้ว!) สำหรับท่านที่ใช้รถครอบครัวให้ดูแลลูกเต้าให้หลับเป็นที่เป็นทางให้เรียบร้อย เพราะการขับขี่อาจหยุดชะงักลงได้ เนื่องจากเจอปัญหาเด็กข้ามตัดหน้า เด็กเปิดประตูระหว่างขับ ไม่ข้ามทางม้าลาย จนต้องอุทาน "ลูกใครหว่า ?" เขิน เป็นที่สุด..อ้อ..ไม่ควรสูบบุหรี่ก่อน หรือระหว่างขับ เนื่องจากกลิ่นบุหรี่จะทำให้รถเกิดความสกปรก เครื่องยนต์ตอบสนองไม่ดี แปรงฟันเสียด้วย หากกินข้าวกินปลาเสร็จใหม่ ๆ พักสักแป๊บก็ดี เดี๋ยวจุกแย่ ผู้ขับมือใหม่ หากตื่นเต้น ระหว่างขับ ให้ชะลอความเร็ว ลดรอบเครื่อง คิดเรื่องอื่น ๆ สูดหายใจยาว ๆ จะทำให้เกิดการผ่อนคลาย และเดินทางได้นานขึ้น 9. ความรู้ทางด้านช่างเบื้องต้น ระวังรักษา ท่อไอดี และไอเสีย และท่อเติมน้ำมัน ให้ทำงานดีเสมอ การใช้งานอย่างสับสน ผิดท่อผิดทางนั้น อาจเกิดความตื่นเต้นในการขับขี่เป็นครั้งคราว แต่ทั้งนี้ อาจเกิดผลเสียแก่เครื่องยนต์ในระยะ รักษาความสะอาด ทั้งหัวจ่ายน้ำมัน และท่อต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หมั่นตรวจเครื่องยนต์และอื่น ๆ ชมได้ ห้ามติ โดยเฉพาะ กันชนเล็กไป นุ่มไป เหลวไป หย่อยไป เครื่องหลวม เครื่องสั่น ไม่ฟิต เร่งไม่แรง แซงไม่พ้น โปรดพึงสังวรว่าเกิดจากการใช้งานไม่ถูกวิธีของท่าน หาใช่เกิดจากผู้ผลิต 10. ความปลอดภัย และวินัยจราจร เมาไม่ขับ เนื่องจาก หากเมามากเกินไป แม้มีความเชื่อว่า จะทำให้ขับได้นาน ทรหดก็ตาม แต่ก็จะสูญเสียทัศนวิสัย และความสามารถในการตอบสนองอื่น ๆ อาจเกิดการผิดที่ผิดทาง ลืมคาดเข็มขัดนิรภัย ขับผิดคัน ล้วนแต่เป็นเหตุแห่งความเสี่ยง ต่อชีวิตทั้งสิ้น หมายเหตุ สำหรับท่านที่ได้จ่ายเงินดาวน์มาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ได้จัดพิธีฉลองต่าง ๆ ในการได้รถมาใช้หลายปี และได้จ่ายเงินสดแก่ผู้ผลิตแล้วก็ตาม หากยังมีข้อสงสัยว่า ทำไมเงินผ่อนต่องวดของท่าน ยังคงไม่หมด และดูเหมือนจะสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ นั้น อย่าได้สงสัยเลย ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเถิด อย่าคิดมาก.. มันเป็นกรรมของสัตว์โลก.. ให้คิดเสียว่า ได้รถคู่ใจ ขับขี่รู้ใจ คล่องแคล่ว เบื่อบ้าง เซ็งบ้าง ก็ให้คิดความดีหนหลัง ตอนที่เห็นรถในโชว์รูมใหม่ ๆ จำความตื่นเต้น ในครั้งนั้นไว้ คิดถึงตอนได้มาเป็นเจ้าของ และโปรดจำไว้ ในสมัยปัจจุบัน มีโปรโมชั่น ทดลองขับ ในรถรุ่นใหม ๆ ก็ตาม อย่าได้เผลอตัวไป..อันตราย..คันเก่าเอาตาย..เราเตือนท่านแล้ว หวังว่าท่านจะได้ใช้ความรู้เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทางอย่างตลอดรอดฝั่ง ..ด้วยความปรารถนาดี จากนิตยสาร AutoMia นอนแระ!!!
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #345 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 13:25:02 » |
|
55555555
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #346 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 13:56:27 » |
|
666
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #347 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 16:03:52 » |
|
777
ทำไมผมหาไอ้รูป ตัวแสดงอารมณ์ไม่เจออ่ะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #348 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 16:17:14 » |
|
กดตรง "ตอบกระทู้" ครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #349 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 16:25:26 » |
|
แหะๆ เจอแล้ว
|
|
|
|
Net 80
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 187
|
|
« ตอบ #350 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 17:21:31 » |
|
ผมอยากได้ stand ที่วางหนังสือเพลง โน๊ตเพลง ที่ใช้บนเวทีน่ะครับ หาซื้อได้ที่ไหน ราคาประมาณเท่าไร
ผู้รู้วานบอก
|
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #351 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2552, 23:09:11 » |
|
ไอ้โจ้มิน่าตี๋เล็กเลยไม่บอกเหตุผลมึง อิอิ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #352 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2552, 08:48:17 » |
|
จารย์ก๋งมาแรงเว้ย..
ไอ้ stand เนี่ยะ ไม่น่าจะหายากนะ อย่างน้อยที่เวิ้งนคร น่าจะมีชัวร์ๆ
|
|
|
|
Net 80
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 187
|
|
« ตอบ #353 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2552, 09:55:55 » |
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #354 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2552, 10:10:11 » |
|
สนับสนุน เวิ้ง เ่ช่นกัน
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #355 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2552, 10:31:53 » |
|
ใครจะฉลาดเหมือนคุณ... กินบากาดี้ ขวดล่ะ ๓๐๐ เออ อีกคำถาม สมมุติว่า ผมจะอ้างอิง จาก สองกระทู้ แล้วก็ต่าง หัวข้อกันทำได้ใหมครับ เคยเห็นใครทำน้า...
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #356 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2552, 11:57:09 » |
|
นั่นล่ะพี่..ผมถึงว่ารวยอย่างเดียวไม่ได้ไง..ต้องฉลาดด้วย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #357 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2552, 14:35:43 » |
|
ฟ้องครับพี่ตี๋ แนะำนำให้ฟ้อง....คนทางบ้านเลย
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #358 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2552, 19:35:31 » |
|
คุณโจ้ผมรู้ว่าคุณก็เคยเป็นแบบผม น้องหลิมพี่ไม่ฟ้องหรอก เพราะมันเป็นเรื่องจริง อย่าบอกนะว่าไม่เคยทำ
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #359 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2552, 08:04:54 » |
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #360 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2552, 09:47:35 » |
|
ไม่เงียบครับ...
ผมฟ้องจริง ๆ ครับ อย่างน้อยได้ความเห็นใจ และครั้งหน้า Visa จะของ่ายขึ้นครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #361 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 02:14:37 » |
|
พี่ตี๋ แบบนี้ จะพาผมไปไม้เอกได้ไหมนี่
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #362 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 11:00:01 » |
|
อยู่ๆก็นึกถามขึ้นมาอีก..
กลิ่น คืออะไรครับ
มันคือละอองเล็กๆ ของสารระเหย แล้วเราก็สูดมันเข้าไป พอละอองดังกล่าวไปสัมผัสเส้นประสาท ก็แปลความหมายว่าเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ
ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมได้กลิ่นไข่เจียว นั่นหมายถึง มีละอองเล็กมากๆ จากไข่เจียว ฟุ้งไปในอากาศ แล้วเราก็ได้กลิ่นมัน
หรือ ถ้าเราได้กลิ่นน้ำปลา เวลาเปิดฝา เป็นเพราะละอองเล็กๆที่ฟุ้งระเหยจากขวดน้ำปลานั่นสิ..
มันเลยทำให้ผมไม่อยากนึกถึงกลิ่นผายลม..นั่นหมายถึง..ละอองเล็กๆจาก...(เซ็นเซอร์)ไม่คิดต่อดีกว่า
ใครเป็นผู้รู้ วานบอกว่าเราเข้าใจถูกรึเปล่า
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #363 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 07:26:42 » |
|
คำถามชวนคิด 1.คุณคิดว่า คน กับ มนุษย์ ต่างกันยังไง <------------- ให้คิดเฉยๆไม่ต้องตอบ ข้ามไปตอบข้อ2 เลย 2.คุณคิดว่า คน กับ มนุษย์ ใครเก่งกว่ากัน <------------ อยากได้คำตอบเจ๋งๆครับ ขออภัยถ้าคำถามง่ายเกินไปสำหรับคนที่รู้คำตอบแล้ว รีบมาเฉลยด่วนเลยครับ (เมื่อวานโดนเด็กอนุบาลถอนหงอก -_-')
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #364 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 16:39:26 » |
|
ถามแบบนี้ไม่กล้าตอบเลยว่ะจารย์ก๋ง..ไม่รู้ว่าจะเอาเหลี่ยมไหนมุมไหนน่ะ..
ขอนอกเรื่องแป๊บ อยากแลกเปลี่ยนกันหน่อย พอดีจะปรับระเบียบเรื่องการมาทำงานสายของพนักงาน ไม่ทราบว่า ที่ทำงานของท่านๆ มีเกณฑ์การสายยังไง เช่น อนุโลมได้เท่าไหร่ หักเงินยังไง หรือมีให้อัตราเริ่มต้นที่ยอดสะสมกี่นาทีต่อเดือนน่ะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าโหดเกินไป อยากหาเกณฑ์เฉลี่ยหน่อยน่ะ..
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #365 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 17:03:23 » |
|
คิดบวกดีกว่าเพื่อนโต้ง
ใครไม่มาสายเลยตลอดทั้งเดือน ให้เบี้ยขยัน 500 บาท/เดือน เหมือนบริษัทจะต้องเสียตังค์เพิ่มนะ แต่ความเป็นจริงรู้เป่าแมร่งทำยากมาก เพราะสายไป 1 นาที ก็อดแล้ว แต่มันจะกระตุ้นให้คนรีบมาทำงาน เพราะหวังอยากจะได้เงินก้อนนี้
รับรองได้ พนักงานน้อยคนนักจะทำได้ตลอดรอดฝั่ง 22 วันทำงาน แต่จะได้พนักงานมาทำงานเร็วขึ้นอีกกระบุงโกย
|
|
|
|
Joker_rcu79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #366 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 17:09:01 » |
|
เห็นด้วยกะตาแคม...คร้าบ เมื่อก่อนมาตรการที่ รพ.ใช้อยู่คือ มาสายหักเงิน นาทีละ 1 บาท แต่ห้ามเกิน 30 นาที หากเกิน30 นาที 3 ครั้งถือว่าขาดงาน 1 วัน ปรากฏว่าคนที่สายมันก็สายเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ประมาณว่ายอมโดนหัก ต่อมาผมเสนอให้มีเบี้ยขยัน แค่เดือนละ 100 เอง พบว่าการสายดีขึ้นอย่างมีนัยยะเลยหล่ะ ลองดูนะคร้าบ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #367 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 17:11:11 » |
|
เบี้ยขยันก็มี..แต่มันไม่สน..(เยอะซะด้วย)
|
|
|
|
Kong_songpon
Full Member
กุมารดูดนม
ออฟไลน์
กระทู้: 251
|
|
« ตอบ #368 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 19:03:14 » |
|
ที่รพ.ผมให้สิทธิ์สายได้ 15 นาทีครับ เข้างาน 7.30น ตอกบัตรสายสุดก่อน 7.45น. ตอกบัตรเสร็จแล้ว ไปกินข้าวต่อเข้างาน 8.00น.พอดี(กิจวัตรประจำวัน) ทำใจเถอะครับเพื่อน ๕๕๕๕๕ (ถึงกระนั้นก็ตาม....ต้องขอชมเชยตัวเองว่าขากลับตอกตรงเวลาออกทุกครั้งไม่เคย late เลย ) ขออนุญาติเฉลยคำถามเลยก็แล้วกันก่อนที่จะถูกลืมเลือน.... เด็กมันบอกว่า.....ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ มนุษย์กินคน บ้างป่าววววว? ? แล้วเคยมีเรื่องคนกินมนุษย์บ้างมั๊ย? ? จากสมการนี้ มนุษย์จะเก่งกว่าคน แน่นอน -_-' เพราะไม่ปรากฏว่ามี คนกินมนุษย์เลย มีแต่มนุษย์กินคน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #369 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 19:47:34 » |
|
อ่านมา 7หน้า... ช่วยด้วย... สติแตก!
p.nn
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #370 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2552, 07:30:14 » |
|
ถึง ไอ้ก๋ง เห็นตั้งแต่ว่าเป็นเด็กอนุบาลมาถามแล้วล่ะ ท่าทางจะเป็นคำถามกวนประสาท ถึง ไอ้โต้ง งั้นเอาใหม่ มามันมาสายเกิน 3 ครั้ง อย่าไปตัดเงินมัน แต่ให้ไปตัดวันพักร้อนมัน 1 วันแทน ตัดเงินไม่รู้สึก แต่ถ้าวันลาน้อยลง น่าจะได้ผล อิอิ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #371 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2552, 08:23:36 » |
|
กลัวจะไปมีเรื่องกับกรมแรงงานอีกอ่ะดิ..เลยอยากให้อ้างอิงกับ กม.แรงงานด้วยว่าที่อื่นเค้าทำยังไงกัน
ว่าแต่ฮาได้ใจว่ะ..มนุษย์กินคนเนี่ยะ..ช่อบ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #372 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2552, 14:22:18 » |
|
มาช้า...เท่าไหร่ กลับบ้านช้าเท่านั้น...วิธีนี้ไม่แนะนำคับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #373 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2552, 15:13:15 » |
|
โต้ง ดีที่สุดคือทำใจ อิอิ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #374 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2552, 07:39:18 » |
|
อยากรู้ว่า ทำไมศีล 5 หรือศีล 8 ไม่มีข้อห้ามเรื่องการพนันอ่ะ (เท่าที่จำได้ รู้สึกจะไปอยู่ในในหมวดอะไรซักเรื่อง)
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #375 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2552, 17:20:45 » |
|
พูดเรื่องเบี้ยขยันอีกที มีที่หนึ่งพี่คิดว่าดีคือ เริ่มต้นที่เดื่อนละ 100 บาท เดือนต่อไป ถ้าไม่สายได้เพิ่มอีก เดือนล่ะ ร้อย จนถึงลิมิต อาจจะเป็น เจ็ดร้อย หรือ พัน แล้วก็คงที่เรื่อยๆ ในกรณีที่เกิดมาสาย ก็จะลดลงกลับมาเริ่มที่ ร้อยใหม่
ดีป่ะ ปัญหาอยู่ที่ส่วนมาก ถ้าเดื่อนใหนไม่ได้เบี้ยขยันแล้ว ก็มักจะมาสายทั้งเดือน อันนี้ไม่รู้แก้อย่างไร
|
|
|
|
Mouy (Again)
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 150
|
|
« ตอบ #376 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2552, 00:37:21 » |
|
เอ่อ...ไม่มีประสบการณ์อ่ะ แต่ได้ยินของที่อื่นมาประมาณว่ารวมเอาการ ขาด ลา มาสาย นี้ รวมอยู่ในการประเมินผลให้เป็นเงินรางวัล (Incentive / Bonus) หรือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเงินเดือนหรือให้รางวัลด้วย... แต่หากจะให้รางวัลปีละครั้ง ก็คงจะนานไป หรือ เดือนละครั้งก็จะเร็วไป...เอาแบบ CP ไหม เห็นว่าทำกันไตรมาสละครั้ง หรือ 4 เดือนครั้งนี่ล่ะ...เห็นว่าก็ work นะ พนักงานขยันสม่ำเสมอ ไม่มาปั่นตอนใกล้ๆ ปลายปี เหมือนบริษัทอื่นเค้า...ส่วนจะให้เท่าไหร่นั้น...บ่ฮู้เหมือนกัน...เพราะบ่มีประสบการณ์ แต่ส่วนหนึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับ budget & Performance ของบริษัทด้วยมั้ง... เพราะหากบริษัทมีผลประกอบการไม่ดี..ก็อาจจ่ายไม่ได้เท่ากับทั่วๆ ไป...แต่หากดี ก็คงไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะ..ติดแต่จะให้เท่าไหร่ดี...
แต่แบบที่พี่โจ้แนะนำก็น่าสนใจนะ...
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #377 เมื่อ: 11 สิงหาคม 2552, 21:06:02 » |
|
|
...
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #378 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2552, 10:03:45 » |
|
เออแฮะ..(นุ่นสวยจังเยย..)
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #379 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2552, 21:10:58 » |
|
มาเข้าเรื่องลาพักร้อนกันดีกว่า
บริษัทที่เค้าจ้างผมมีกฎออกมาให้ใช้วันพักร้อนให้ครบ ถ้าไ่ม่ครบให้หยุดสิ้นปีให้ครบ เจ้านายมีหน้าที่จัดการเรื่องวันหยุดของลูกน้อง...ดีเหมือนกัน วันพักร้อนเหลือเป็นเดือนเลย...เค้าว่าถ้าหยุดไม่ครบจะผิดกฎหมายแรงงาน....
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #380 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2552, 09:31:58 » |
|
จริงเหรอ..ดีจัง..กรูหยุดปีเว้นปี(กฎนี้ตั้งเอง) ที่เหลือก็ช่างมัน
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #381 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2552, 14:48:04 » |
|
อัพเดตเรื่องพักร้อน....เค้าส่งเมล์มาให้วางแผนการพักร้อนของตัวเองทั้งปี...อ้าว....ยังไม่มีแผนเลย ทำไง
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
EdDy_Smart81
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 654
|
|
« ตอบ #382 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2552, 16:19:45 » |
|
ทำไมวันหยุดมันเยอะมากขนาดนั้นเลยเหรอเพื่อหลิม ไอ้เราปีนึงมีแค่ 6 วันเอง เซ็งเป็ด
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #383 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2552, 17:20:29 » |
|
ของเอ็ดนี้ บริษัทเขี้ยวจริง ๆ ให้ 6 วันตามกฎหมายแรงงานเป๊ะ ๆ
บริษัทผม ก็แบบว่าให้กำหนดวันหยุดล่วงหน้า 1 ปี ว่าจะหยุดกันวันไหน แต่ก็เปิดช่องให้คุยกันได้ ว่าจะเปลี่ยนวันก็ได้ ก็คุยกันก่อน
แต่เอาไปเอา มา ก็เหมือนเดิม ไม่มีใครกำหนดวันหยุดก่อน ถ้าจะลาพักร้อน ก็บอกก่อนล่วงหน้า 3 วัน
วันหยุดมีได้ 10 วัน ทบยอดไม่ได้ และ ผู้บริหารเองก็สนับสนุนให้หยุดให้ครบ (ไม่ครบก็มีแซวว่า ให้แล้วใช้ไม่ครบ เดี๋ยวก็ลดวันหยุดหรอก )
ส่วนเรื่องสาย-ลา ก็เอาไปหักกับวันหยุดพักร้อน แต่ไม่ใช่หน่วยนาทีนะ เป็นหน่อยชั่วโมง สาย 1 นาที หัก วันลาพักร้อน ครึ่งชั่วโมง
และ ถ้าใครอยากจะหยุดเยอะกว่าวันลาพักร้อนก็ทำได้แต่โดนหักเงินเดือน แต่ถ้าลามาก ๆ คงไม่หักเงินเดือน แต่ให้ออกเลย 5 5 5
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #384 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 16:56:46 » |
|
เสาร์ อาทิตย์พวกท่านก็หยุดกันอยู่แล้ว จะหยุดอะไรกันนักหนาคร้าบบบบบ..
ข้าพเจ้าทำงานสายก่อสร้างมา ทำงานตลอด วันอาทิตย์ก็ทำอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่เห็นมันจะมีปัญหาอะไร มีเวลาออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง แต่อาจไปเที่ยวน้อยหน่อยเท่านั้นเอง ไม่เคยเปิดดูวันหยุดด้วยซ้ำว่าเดือนไหนมันมีวันหยุดอะไรบ้าง ทำไปเรื่อยๆก็ชิน ชีวิตก็สนุกดี แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #385 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 17:05:13 » |
|
ดีครับ เสาร์นี้ทำงานมั้ยครับ....มีงานให้ทำ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #386 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 10:56:11 » |
|
วันเสาร์กรูมีงานทำอยู่แล้วเฟร้ย..
รับจ๊อบทั่วราชอาณาจักร
|
|
|
|
Mouy (Again)
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 150
|
|
« ตอบ #387 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2552, 00:53:47 » |
|
เอ่อ...ได้รู้มาว่าหากลูกจ้างใช้วันหยุดไม่ครบ...นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างตามกฎหมายแรงงานครับ.... จริงๆ กฎหมายแรงงานก็ระบุเรื่องนี้มานานแล้ว แต่มาเริ่มรณรงค์ช่วงนี้ เพราะว่า Lay off กันเยอะ...(มั้งครับ)... ตอนนี้บริษัทมี่พี่ทำ Consult ด้วย เค้ากำลังคิดว่าจะบังคับให้หยุด โดยหากพนักงานจะลา ต้องใช้วันหยุดให้ติดต่อกันอย่างน้อย 2 วัน.... พี่กำลังคิดว่า การบังคับอย่างน้อย 2 วัน ติดต่อกันจะดีหรือ... ขอความเห็นหน่อยสิครับ...
|
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #388 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 20:28:24 » |
|
ไอ้โจ้เมื่อวานมันเบี้ยวผมอีกแล้ว โทรไปก็ไม่รับอย่างงี้มันผิดกฏหมายแรงงานรึเปล่า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #389 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 13:37:13 » |
|
กรณีนี้เป็นแรงงานเถื่อนครับ ไม่มีกฎหมายรองรับ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #390 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 15:26:33 » |
|
นั่นแหละครับ ที่ office ผมเค้าบังคับให้วางแผนหยุดประจำปีเลย...แต่ดีน๊ะ ผมชอบ เพราะปกติไม่ได้หยุด ก็ไม่ได้ตังค์เพิ่มอะไร
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #391 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2552, 20:00:34 » |
|
ผมแค่ส่งใบลา ก่อน 7 วันแล้วก็ยิงโลดเลย
แบบว่าวางแฟนยาวไมไ่ด้ เพราะว่างานบทระเร่งแล้วมันหยุดไมไ่ด้อะคร้าบ แฮ่ๆ วันหยุดเพิ่มตามจำนวนปีที่ทำงาน ตอนนี้ 10 วัน
แต่ตอนนี้ได้เพิ่มมาอีกเดือนละ 2 วัน แลกกับโดนเฉือนเงินเดือน 10%
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #392 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2552, 10:25:47 » |
|
เออ คุณตี๋ พอดีผมบอกเพื่อน อืดไปแล้ว ก็แล้วไม่ได้โทรบอกคุณ ก็เห็นว่าไปด้วยกัน ส่วนที่คุณโทรมา ผมคาดว่า โทรศัพท์ ผม เกิดปัญหา ไม่โชว์เบอร๋ ก็เลย ไม่ได้รับ พอดีวันเสาร์ อาทิตย์ ผมย้ายบ้านแล้วก็รับญาติผู้ใหญ่มาอยู่ด้วย ไปชื้อคงซื้อของทั้งวัน ต้องขอโทษ มาน่ะที่นี้ด้วย
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #393 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2552, 15:36:50 » |
|
เหตุผลเยอะ..เห็นมั๊ย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #394 เมื่อ: 01 กันยายน 2552, 13:34:00 » |
|
มีใครมีความรู้เรื่อง play station 2 บ้างอ่ะ search หาใน google มาหลายเดือนแล้ว ไม่ได้ความคืบหน้าเลย
เรื่องมีอยู่ว่า ผมต้องการเอา harddisk ไปต่อกับเครื่อง play 2 รุ่น 90006 มีใครทำเป็น หรือรู้ว่าร้านไหนรับทำบ้างอ่ะ เคยเห็นมีคนทำได้ แต่ตอนนั้นไม่อยู่ในสถานะที่จะถามได้ว่าเค้าทำอย่างไง
เท่าที่เห็นคร่าวๆ เหมือนเข้าเชื่อมต่อเข้าบอร์ดของ play 2 โดยตรง
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #395 เมื่อ: 01 กันยายน 2552, 16:03:51 » |
|
อืม..ก็คงเชื่อมต่อโดยตรงอย่างที่ว่า เอาตะกั่วมาบัดกรีนิดหน่อยก็คงใช้การได้
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #396 เมื่อ: 02 กันยายน 2552, 08:16:42 » |
|
อันนี้มัน play นะ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ที่จะมี Windows มาคอยบอกว่า เฮ้ย มีคนเอา Harddisk มาเสียบให้แล้ว ใช้งานได้เลย
play มันไม่ฉลาดขนาดนั้นอ่ะ ต่อเข้าไปมันก็ไม่รู้จัก ที่สำคัญ มันไม่มีรูให้เสียบ มันต้องหาสายสัญญาณที่จะต่อ Harddisk เข้าไปได้อ่ะ พอต่อได้ ก็ต้องมีตัวกลางที่ทำให้ play รู้จัก harddisk เช่น software หรือ ชิปอะไรซักตัวนึงอ่ะ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #397 เมื่อ: 03 กันยายน 2552, 11:20:14 » |
|
อ้าว..ชิปมรึงหายเหรอ..(นอกเรื่องไปเรื่อย)
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #398 เมื่อ: 03 กันยายน 2552, 13:57:55 » |
|
ผมไม่เล่นเกมส์...
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #399 เมื่อ: 03 กันยายน 2552, 17:33:10 » |
|
ผมชอบดูหนังแผ่น
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #400 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 11:19:20 » |
|
อยากได้ iPhone 3 Gs ใครหาได้ไม่แพง เป็นของจริง หรือมีคนหิ้วได้ บอกด้วย...
มีเงินต้องใช้....บำบัดความสุข
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #401 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 11:23:27 » |
|
ถ้าเชื่อม ต่อให้ไปร้านทำเหล็กดัดซิเขามีเครื่องเชื่อมอยู่
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #402 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 11:56:58 » |
|
อย่าใส่น้ำตาลมากล่ะ เบาหวานจะถามหา
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #403 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 12:43:00 » |
|
น้องหลิม, ได้บำบัดความสุขรึยัง? iPhone 3 Gsน่ะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #404 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:13:52 » |
|
ยังเลยครับพี่ nn 2 คนข้างบนเค้านอกเรื่องกันอยู๋
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #405 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:16:53 » |
|
นั่นดิพี่ก็งงๆ ว่า iPhoneเอาไปเชื่อมได้เหรอ เชื่อมแล้วเสี่ยงเบาหวานอีกต่างหาก ฮ้ายยยยย
รอแป๊บ,ขอพี่หาข้อมูล หน้าตา ราคานิด
|
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #407 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:44:01 » |
|
เอ่อ ... เครื่องหมาย "," นี้แทนเครื่องหมาย "." ดังนั้น 899,00 EUR นี้คือ 899.00 EUR นะ
เดี๋ยวเข้าใจผิดคิดว่า ราคา 89900 EUR ..อิ อิ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #408 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:46:56 » |
|
รู้แล้ว...รู้ให้หมด ฟังๆไปเถอะ..เค้าเปรียบรุ่นเก่ากะรุ่นไหม่ 3 Gsคะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #409 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:48:10 » |
|
โอ้ววว.....ทำไมมันแพงเยี่ยงนั้นครับพี่ nn คิดออกมาแล้ว 5 หมื่นกว่า... สงสัยต้องติดสัญญากับผู้ให้บริการเครือข่ายเป็นแน่แท้ครับ
เห็นแล้วเสียว
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #410 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:48:25 » |
|
ไช่ค่ะ ที่โน่นใช้ comma แทน dotคะ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #411 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 14:51:37 » |
|
พี่ฟังจากใน Bild-Computer (แฮพหนังมาแปะไม่ได้คะ) เค้าว่า contract กะ Deutsche Telekomตกเดือนละ 98 € ไม่รู้นานแค่ไหนคะ...พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #412 เมื่อ: 04 กันยายน 2552, 16:46:19 » |
|
ผมขอขอบคุณพี่โจ้ พี่ตี่เล็ก สำหรับข้อมูลแทนไอ้แครมครับ..
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #413 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 07:26:12 » |
|
สาระสุดๆ เลยล่ะ... ส่วน iPhone 3G ซื้อมาไม่รู้จะมี 3G ให้ใช้รึเปล่า ถ้าซื้อมาเพื่อความสบายใจ ก็ตามสบายอ่ะ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #414 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 08:06:02 » |
|
ตกลง 3G มันคืออะไรอ่ะ..จริงๆแล้วมันมากกว่าที่ว่าคุยกันแล้วเห็นหน้าได้ใช่ป่าว
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #415 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 09:21:27 » |
|
เบื่อพวกคนไม่เข้าใจเทคโนโลยี....
มันเป็นเครื่องมือสนองความต้องการทางอารมณ์ชั่วครู่
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #416 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 11:38:26 » |
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #417 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 12:03:36 » |
|
อยากติดจานดาวเทียม แบบดูฟรี ไม่เสียรายเดือน ใครมีความรู้บ้างแนะนำหน่อย เอาแบบดูบอลได้้ด้วยเน้อ...
เร็ว ๆ อยากดู liverpool
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #418 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 12:04:24 » |
|
ผมชอบ ไอโฟน มาก ที่ซื่อมาเป็น สองจี แต่ใช่ดีน่ะ เพืยงแต่ ไม่สามารถ บลูทูธ กะส่งรูปได้ ไอ้ สามจี เอส นี้ไม่แน่ใจต่างกันอย่างไร
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #419 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 12:42:25 » |
|
หลักสำคัญของ 3G เป็นการพัฒนาให้มีการรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อก่อน 2G มี GPRS ใช้ (อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก GPRS) ซึ่งจะเร็วระดับหนึ่ง พอมาเป็น 2.5G ก็มีการพัฒนา EDGE ขึ้นมา ให้เร็วกว่า GPRS เช่นเดียวกัน ใน 3G ก็พัฒนาต่อขึ้นมาจาก EDGE ให้เร็วขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
แต่ 3G จะมีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของ 3G ตลอดเวลาที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์ นั่นคือไม่จำเป็นต้องต่อโทรศัพท์เข้าเครือข่าย และ log-in ทุกครั้งเพื่อใช้บริการรับส่งข้อมูล ซึ่งการเสียค่าบริการแบบนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้น โดยจะต่างจากระบบทั่วไป ที่จะเสียค่าบริการตั้งแต่เราล็อกอินเข้าในระบบเครือข่าย อุปกรณ์สื่อสารไร้สายระบบ 3G สำหรับ 3G อุปกรณ์สื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังปรากฏในรูปแบบของอุปกรณ์ สื่อสารอื่น เช่น Palmtop, Personal Digital Assistant (PDA), Laptop และ PC
ล่าสุด Nokia ปล่อย Laptop รุ่น Booket 3G ออกมาแล้ว อยากเสียตังค์ก็แวะไปชมกันได้
ข้อควรระวัง เวลาจะซื้อ 3G ให้ดูที่การ support คลื่นความถี่ คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True คลื่นความถี่ ( band ) 2100 จะถูกพัฒนาโดย AIS คลื่นความถี่ ( band ) 1900 ยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกปล่อยออกโดยบริษัทไหน
ดังนั้น เวลาซื้อควรจะ support ทั้งหมดนะจ้ะ จะได้ไม่มีปัญหาเวลาย้ายค่าย
ปล. บลูทูธ อินฟาเรด ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 3G นะจ้ะ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #420 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 12:47:20 » |
|
มีซัก หมื่นห้า ไหม๊ล่ะ ได้ดูระดับแพททินัมเลย ส่วนถ้าจะเอาแบบเคเบิ้ล จะประมาณเจ็ดพัน สนใจหลังไมค์
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #421 เมื่อ: 07 กันยายน 2552, 12:54:34 » |
|
โห ทำไมมันแพงขนาดนั้น....
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #422 เมื่อ: 08 กันยายน 2552, 12:10:56 » |
|
ค่าคอมไอ้แครมมม 30%
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #423 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 00:33:34 » |
|
ตอนนี้พวกกล่องแปลกๆออกมาขายเยอะ ต่อแล้วดูได้เยอะ แต่เดี๋ยวอีกสักพัก เจ้าของลิขสิทธ์จะมาฟ้องร้องมั้ย
|
|
|
|
Joker_rcu79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #424 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 10:10:20 » |
|
เท่าที่รู้บริษัทพวกนี้มันจะปรับรหัส ไปเรื่อยๆ ป้องกันการ block สัญญาณครับ บางครั้งต้องรอมันแก้รหัส 1-2 วัน เวลามันถูกบล็อก จะติดอยู่เหมือนกัน แต่เด๊วไม่มีข้ออ้างออกนอกบ้าง...หุ หุ ปล.ฝากถึงน้องหลิมก่อนติดคิดดีดีๆ ละกัน อย่าปิดทางของตัวเองซะหมด.....แล้วจะหาว่าไม่เตือน
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #425 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 18:03:56 » |
|
ดูเพื่อนโจ๊กเป็นตัวอย่างสิหลิม ชอบขอภรรยาไปดูบอลนอกบ้าน สรุป ศรีภรรยาเลยโทรเรียกทรูมาติดบอลให้ดู แต่รายเดือนไอ้โจ๊กเป็นคนจ่ายนะ หุหุ ปล. ไม่ได้เผาเพื่อน แต่อยากเล่าให้เป็นอุทาหรณ์
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #426 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 18:16:02 » |
|
เรียนภาษาด้วย เดาๆเหอะ เข้าใจได้ง่ายๆคะด้วยภาพ ซื้อยัง?
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #427 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 20:20:20 » |
|
ดูผ่านเน็ทครับ ไม่ต้องไปติดดาวเทียมให้เสียเงิน โหลดโปรแกรมฟรี สักสองสามอัน ก็มีให้ดูเพียบครับ มากกว่าดู ทรูวิชั่นอีก ขนาดลีกไก่กาที่ไหน ก็ครับ ถ้าสนใจหลังไมค์มาครับ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #428 เมื่อ: 11 กันยายน 2552, 23:14:23 » |
|
ไข่ บอกเมลไปแล้วนะ ขอเว็บด้วย
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #429 เมื่อ: 12 กันยายน 2552, 09:31:46 » |
|
ผมใช้ 2G อะ iphone classisic ชอบมากตรง application หลากหลาย สนุกมากเลยคร้าบ บำบัดทุกขฺ บำเรอสุข อย่างหลิมว่าจริงๆ คร้าบ โดยเฉพาะ -แอบเล่นเกทส์ในขณะทำงาน -แอบทวิทฯสาว ในขณะทำงาน -เล่นเกมส์ในขณะเข้าไปเบ่ง -ลง VDO ได้ดู VDO ได้ทุกที่ (อย่าคิดไปไกลนะคร้าบ) -ถ่ายภาพ ก็สนุกมี application แต่งภาพเยอะเลย ฯลฯ ใช้แล้วติดมากเลยคร้าบ --- ส่วนเรื่องการต่อ internet ผมใช้ของ Dtac อืดมากคร้าบ ดีที่ office มี WIFI เลยไวหน่อย ฮ่าๆ ยุหลิมเต็มที่ หากจะประหยัดนะ ลองหา iphone 3G มือสองสภาพดีอะ เห็นๆ ราวๆ 15000 ก็มีแล้ว แต่ต้องมีคนขายที่เชื่อใจได้ ว่าไมไ่ด้ไปแกะเกอะ อะไรเข้าอะ แต่ 3Gs เร็วขึ้นนี่มันน่าสนจริงๆ (แต่แพงแสรดดดด) ** เพื่อนผม น้องผมใช้ กล่องแห่งความฝัน อิจฉามันจริงๆ แต่อย่างว่าหมดข้ออ้างออกนอกบ้านแน่นอนคร้าบ ดูบอลบ้างหละ ให้ดูหนังเป็นเพื่อนบ้างหละ เหอ เหอ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #430 เมื่อ: 12 กันยายน 2552, 19:07:08 » |
|
ผมเครียล์ได้ไม่ต้องกังวล..เพราะปกติก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว ก็ต้องติดเพื่อให้เพื่อนมาที่บ้าน..... ถ้าเราออกไม่ได้ก็ต้องเอาคนเข้ามาแทนครับ... ล่าสุดได้ข้อมูลกล่องแห่งความฝันเพิ่มเติม ได้เรื่องไงแล้วจะมา update ครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #431 เมื่อ: 14 กันยายน 2552, 11:25:15 » |
|
เพิ่งรู้นะเนี่ยะ ว่าถ้าคิดจะติดดาวเทียม..มันไม่ง่ายอย่างที่คิด..ต้องเผื่อองค์ประกอบอื่นตามมาด้วย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #432 เมื่อ: 14 กันยายน 2552, 13:53:25 » |
|
mail มาบอก linkหน่อยดิ...เด๋วที่บ้านมี hi-speed net แล้ว
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #433 เมื่อ: 14 กันยายน 2552, 20:00:30 » |
|
ของไอ้ไข่มันดีจริงๆ ขอยืนยัน ดูมันเลย
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #434 เมื่อ: 15 กันยายน 2552, 10:57:11 » |
|
แล้วทำไมไปดูกันสองคนละคร้าบบบบบ...ขอพ้มด้วยยยย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #435 เมื่อ: 16 กันยายน 2552, 12:35:50 » |
|
ช่วยส่งมาให้หลังไมค์ด้วยครับ อยากรู้เหมือนกัน
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #436 เมื่อ: 16 กันยายน 2552, 17:18:46 » |
|
อะไรคะ? hi-speed net?
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #437 เมื่อ: 18 กันยายน 2552, 11:38:02 » |
|
ย่อมาจาก Hi-Speed Internet หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ปัจจุบันจะเป็นพวก ADSL เป็นหลักครับ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #438 เมื่อ: 18 กันยายน 2552, 18:21:02 » |
|
WLAN รึปล่าวคะ?
(psst,บ้านพี่ยิงสัญญาณกันเองภายในบ้านสำหรับcom 4 เครื่อง ...เพื่อนบ้านเห็นของเราด้วย พี่ก็เห็นของเพื่อนบ้านด้วย 3-4 สัญญาณ แต่เข้าไปเอามาใช้ไม่ได้ ขาด key words คะ)
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #439 เมื่อ: 18 กันยายน 2552, 21:36:40 » |
|
ใครก็ได้ "ซอยข่อยแน....."
Set up wi-fi security ไม่เป็นครับ อยากทราบวิธีการป้องกันคนอื่นมาเล่น net ที่บ้าน ใครรู้บอกทีครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #440 เมื่อ: 19 กันยายน 2552, 14:33:32 » |
|
ก็ไม่ให้เค้าเข้าบ้านไง..ง่ายจะตาย
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #441 เมื่อ: 19 กันยายน 2552, 15:20:08 » |
|
หลิม พี่ก็มั่วๆ อะ
มันต้องมีรหัส 10 หลักอะไรทำนองนี้อะ ลองดูในคู่มือเร้าเต้อร์ แต่หาก อยากเร้าใจ คงต้องเชิญพี่แครมมาเซ็ท ที่ห้องกระมังครับ
คริ คริ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #442 เมื่อ: 19 กันยายน 2552, 16:07:20 » |
|
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #444 เมื่อ: 20 กันยายน 2552, 22:10:24 » |
|
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #445 เมื่อ: 21 กันยายน 2552, 06:54:32 » |
|
ก็ทำนองนั้นแหละครับพี่หนุงหนิง ขึ้นอยู่กับว่า จะ Hi Speed แบบมีสาย หรือแบบไม่มีสาย ถึง หลิม ก็ตั้ง user name, password ดิ เหมือนที่ที่หนิงทำอ่ะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #446 เมื่อ: 21 กันยายน 2552, 09:23:17 » |
|
ก็ทำไม่เป็น...พยายามอยู่...ว่างมั้ยล่ะ Set ให้หน่อยดิ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #447 เมื่อ: 21 กันยายน 2552, 12:09:06 » |
|
ถึงหลิม 1.ไปที่คำสั่ง Run ที่อยู่ที่start menu 2. พิมพ์address ของโมเด็มของเรา (ดูจากคู่มือที่แนบมากะโมเด็ม).......เช่น 192.168.1.254 3. Log in เข้าไปให้คอมพ์เราconnectกะโมเด็ม 4. มันก็จะมีเมนู เกี่ยวกะ security เราก็เข้าไปเลือกได้ว่า อยากให้มีการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยเป็นแบบไหน แนะนำแบบ WPA นะ รูปแบบของwireless security system 1 WEP WEP (Wired Equivalent Privacy) เป็นรูปแบบการเข้ารหัสแบบพื้นฐาน ซึ่งย่อมไม่มีความปลอดภัยเท่ากับ WPA (Wi-Fi Protected Access) แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม Wireless Access Point ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด เกือบทุกตัวจะมี WEP ยกเว้น Wireless Access Point รุ่นใหม่ๆ ที่จะมี WPA ติดมาด้วยครับ ถ้าคุณจะใช้ WEP ขั้นแรก คุณต้องเลือก Default Transmit Key ตัวใดตัวหนึ่ง จากนั้นก็เลือกระดับของการเข้ารหัสว่าจะเป็น 64 bits, 128 bits หรือ 256 bits สุดท้ายก็ป้อน WEP key ลงไป 2 WPA WPA (Wi-Fi Protected Access) จะรองรับการเข้ารหัสในรูปแบบ Temporary Key Integrity Protocol (TKIP) ซึ่งใช้อัลกอริมทึม RC4 โดยทำงานบนมาตรฐาน 802.1X ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาของ WEP ที่มีการกำหนด ค่า Network Key ที่มีรูปแบบการแชร์ แต่ในระบบ WPA นี้รองรับ Per-Packet key ที่จะมีการสร้าง และการ กระจายโดยเข้าโค้ดไว้ และมี IV ที่เข้มแข็งขึ้น โดยปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆรองรับ WPA เกือบทุก Wireless Equipment ค่าความยาวของ WPA key ที่กำหนดจะอยู่ระหว่าง 8 ถึง 63 อักขระ 3 MAC address filtering MAC address ทำหน้าที่เสมือนเลขประจำตัวของอุปกรณ์ network ต่างๆ ซึ่งจะไม่ซ้ำกันเลย ดังนั้นการที่ เราสามารถที่จะกำหนดให้แค่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเท่านั้น ที่สามารถเข้าสู่ network ของเราได้ ก็ย่อมจะทำ ให้ระบบ Wireless LAN ของเราปลอดภัยขึ้นอีกขั้นหนึ่ง อันนี้เป็นตัวอย่างขั้นตอนนะ ของโมเด็มยี่ห้อนึง หลักการคร่าวๆเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ address ของมัน ตรงนี้ถ้าไม่รู้จริงๆไปหาเอาจากเน็ทได้นะพวกmanualของโมเด็มแต่ละรุ่น http://specialtech.thaiddns.com/web/Tech_Reviews/Gadget/Router%20Linksys%20WAG200G%20Wireless%20Security%20Settings.pdfผู้ชายคนนี้หวังดีกับเธอเสมอ.......ฮิ้ว
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #448 เมื่อ: 21 กันยายน 2552, 21:30:22 » |
|
พี่ไข่น่ารักมากมาย.... ผมทำตามคู่มือ แต่ก็มีงงบ้างอะคร้าบ
เสียดาย น่ามาเจอพี่ไข่พิมพ์ก่อนเนอะ
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #449 เมื่อ: 22 กันยายน 2552, 15:52:38 » |
|
เป็นพี่จังหวัดที่พี่งพาได้จริงๆ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #450 เมื่อ: 22 กันยายน 2552, 15:57:55 » |
|
ภูเก็ต(เสียงสูงตอนท้าย)เรอะ?
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #451 เมื่อ: 22 กันยายน 2552, 16:33:12 » |
|
แต่กรูยังขำของอาจารย์โอไม่เลิกเลยว่ะ..ฮาโคตรๆ
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #452 เมื่อ: 29 กันยายน 2552, 17:23:27 » |
|
พี่ๆ ครับ ใครเคยเป็นไซนัส อักเสบบ้างอะคร้าบ
ต้องดูแลยังไงอะคร้าบ ตอนนี้ทรมานมาก เพราะมันปวดๆ หน้าอะ เซ็งสุดๆ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #453 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2552, 20:58:03 » |
|
อยากทราบว่า มีคำอะไร ที่ทั้งฝรั่งและคนไทย ใช้สัญลักษณ์ เช่น อักษร หรือ ตัวเลข แทนคำบ้าง? ลองช่วยกันค้นหาเล่นๆดู
ตัวอย่างเช่น ภาษาอังกฤษ > K9 = Canine = สุนัข หรือ Q8 = KuEight = คูเวต ภาษาไทย > 555 = ห้าห้าห้า = เสียงหัวเราะ
|
...
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #454 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2552, 13:12:52 » |
|
not Gr8 4 2day bcoz i 4get 2 C U
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #455 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2552, 14:28:46 » |
|
เออว่ะ แต่พอนึกตอนนี้ทำไมนึกไม่ออกหว่า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #456 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2552, 16:16:06 » |
|
ภาษาพวกนี้ น่าจะมาการการแชท กัน
คนที่รู้เยอะ ๆ เก่ง ก็คงเพราะ แชท กับ เด็ก ๆ สาว ๆ เยอะ อิ อิ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #457 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2552, 15:27:19 » |
|
คอ่านว่า.... ?? หมายเหตุ > ข้างหลัง เป็นรูป วายน์แดง ครับ อิอิ
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #458 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2552, 15:56:17 » |
|
ควายแดง เป็นคำตอบสุดท้าย!
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #459 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2552, 16:39:06 » |
|
อย่าเดี๋ยวถูกปิด
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #460 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2552, 20:21:36 » |
|
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #461 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2552, 09:28:32 » |
|
หมิ่นเหม่...อีกแล้ววว
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #462 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2552, 15:23:47 » |
|
ผิดๆๆ..
จริงๆแปลว่า ค ขวด ต่างหาก..คิดมาก
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #463 เมื่อ: 16 มกราคม 2553, 15:44:15 » |
|
พุทธภาษิตอันนึง ที่คุ้นเคย ลองมาแปลแบบสองแง่สองง่ามสองมุม นัตถิ ปัญญาสมา อาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี เมื่อตอนเด็กๆ ที่เคยได้ยินครั้งแรก เคยเข้าใจผิดว่าหมายถึง แสง(จะส่อง)สว่าง(อยู่)เสมอ ด้วย(ตัวคุณ)ไม่มีปัญญา Without wisdom, the light shines. (ลักษณะข้อความและความหมาย ฟังคล้ายๆกับประโยคว่า "เขามีชัยชนะเสมอ ด้วยฝีมือที่มี") ซึ่งต่อมาไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ทราบความหมายที่แท้จริงของพุทธภาษิตนี้คือ ไม่มีแสงสว่างใดๆ จะเสมอ(เทียบเท่า)กับปัญญา There is no light that can outshine wisdom
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #464 เมื่อ: 16 มกราคม 2553, 15:50:33 » |
|
เพลงประจำมหาลัยฯ ของจุฬา ก็เหมือนกันครับ น้ำใจน้องพี่สีชมพู ทุกคนไม่รู้ลืมบูชาทีแรก ฟังเผินๆ นึกว่าหมายถึง > ทุกคนไม่รู้...ลืมบูชา!?!คือ ไม่มีใครรู้ถึง"น้ำใจน้องพี่สีชมพู" เลย แถมยัง"ลืมบูชา"อีก จริงๆ ต้องหมายความว่า > ทุกคนไม่รู้ลืม...บูชาคือ ทุกคนบูชา"น้ำใจน้องพี่สีชมพู"...อย่างไม่รู้ลืม(ไม่มีวันลืมที่จะบูชา)
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #465 เมื่อ: 18 มกราคม 2553, 08:10:40 » |
|
เดี๋ยวก็วนเข้าคำถามที่ว่า นิสิตจุฬา อยากเป็นนักร้องคนไหนอีกหรอก คำตอบ นิสิตจุฬาอยากเป็นพี่เบิร์ด นิสิตประสงค์เป็นธงชัย ไม่รู้ใครเป็นคนต้นคิดแฮะ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #466 เมื่อ: 18 มกราคม 2553, 15:35:15 » |
|
เพิ่งเคยได้ยินอ่ะครับ เด็ดมาก เอาไปเลยห้าดาว
|
...
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #467 เมื่อ: 18 มกราคม 2553, 16:29:17 » |
|
ฮาได้อีกครับ ธงชัย ประสงค์สันติ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #468 เมื่อ: 18 มกราคม 2553, 19:34:50 » |
|
จารย์โอไม่เคยได้ยินมุขนี้เร๊อะ ผมเคยได้ยินจากเด็กธรรมศาสตร์
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #469 เมื่อ: 19 มกราคม 2553, 07:03:38 » |
|
สวยป้ะ แล้วตอนนี้ยังแอบเจอกันอยู่หรือเปล่า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #470 เมื่อ: 19 มกราคม 2553, 20:35:20 » |
|
อ๋อ คนที่เล่าให้ฟังเหรอ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #471 เมื่อ: 20 มกราคม 2553, 16:56:24 » |
|
ใช่แล้วพี่..โอ้..เรื่องผ่านมานานแล้วไม่น่าเชื่อว่าพี่ตี๋ยังจำได้..
น้องเค้าน่ารักดีนะ นึกว่าเลิกกับไอ้หลิมไปแล้วนะเนี่ยะ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #472 เมื่อ: 20 มกราคม 2553, 20:42:58 » |
|
ไอ้หลิม มันเลี้ยงเอาไว้
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #473 เมื่อ: 21 มกราคม 2553, 11:51:07 » |
|
หลิมหาย.....
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #474 เมื่อ: 21 มกราคม 2553, 11:54:27 » |
|
หลิมไม่หายครับ
แต่หลิม "....ิบหาย" แน่ ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้
ปล. คนเมืองจันท์รักเดียวใจเดียว
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #475 เมื่อ: 21 มกราคม 2553, 15:49:08 » |
|
เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน ให้อีกห้าดาว
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #476 เมื่อ: 21 มกราคม 2553, 23:49:45 » |
|
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #477 เมื่อ: 22 มกราคม 2553, 10:05:48 » |
|
ห้าดาวเนี่ยะ คะแนน หรือไก่ย่าง
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #478 เมื่อ: 26 มกราคม 2553, 12:05:04 » |
|
นั่นมันไก่ย่าง..อะจ๊าก..
(ผ่านมารับ..)
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #479 เมื่อ: 26 มกราคม 2553, 12:25:18 » |
|
แถวแยกคลองเตย มีร้าน ไก่หมุนห้าลาว ด้วย เป็นคู่แข้ง ไก่ย่างห้าดาว
|
|
|
|
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 114
|
|
« ตอบ #480 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2553, 21:41:26 » |
|
ใครพอมีความรู้เรื่องหมาๆบ้าง คืออยากได้หมาพันธุ์ บีเกิล มาเลี้ยงเป็นเพื่อน โกลเดน ซักตัว มีที่ซื้อที่ไหนแนะนำบ้าง เอาแบบว่าของดีราคาย่ิอมเยา แนะนำหน่อย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #481 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553, 07:27:07 » |
|
มีหมาเป็นเพื่อน ดีกว่ามีเพื่อนเหมือนหมา ไม่มีความรู้เรื่องหมา แต่อยากมาเล่นมุข
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #482 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553, 08:59:06 » |
|
น้าแครมเค้ามีแต่พันธุ์ "เนย" ครับ....หมาเนยอ่ะ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #483 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 08:30:50 » |
|
ถึงสมาชิกร่วมก๊วนวิสามัญคอนเสิร์ตระเบิดเวลา จังหวัด กำแพงเพชร ทุกท่าน ใครจำได้มั่ง ว่าพี่ที่ให้ที่ซุกหัวนอนเรา คือ พี่คนนี้หรือเปล่า เมื่อวานไปร้านหนังสือ แล้วเจอวางแผงอยู่ ไม่รู้ผมจำผิดหรือเปล่า ช่วยยืนยันด้วยครับ ที่มา: http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=69748เรืองโรจน์ พูนผล “กระทิง” เสิร์ช “กูเกิล” ล่าฝัน จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ Positioning Magazine พฤษภาคม 2551 Print Added on: 21/5/2008 หากคุณอยากมีแรงบันดาลใจที่แรงกล้า ไม่ใช่คนที่คอยแต่จะละทิ้งความฝัน แล้วฝันเรื่องใหม่เรื่อยๆ แต่คือการทุ่มสุดตัวเพื่อไปให้ถึงความฝัน แม้จะมีต้นทุนเดิมเกือบเท่ากับศูนย์ก็ตาม... ต้องอ่านเรื่องราวของคนไทยโกอินเตอร์คนนี้ “กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทกูเกิล องค์กรในความฝันของเด็กรุ่นใหม่จำนวนมากในโลก และถูกจัดให้เป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุดในโลกของนิตยสารฟอร์จูน “ผมเรียนที่โรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร ในต่างจังหวัดบรรยากาศของความเป็นไปไม่ได้ค่อนข้างเยอะ แต่มันไม่จำเป็นที่ว่า จังหวังหวัดเล็กๆ จะมาจำกัดความฝันของคนให้ฝันใหญ่ๆได้” ประโยคที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นจาก“กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล” นี้ ไม่ได้มาพร้อมกับถ้อยคำที่สวยงามเท่านั้น แต่น้ำเสียง และแววตา ส่งสัญญาณแรงจนสัมผัสได้ “กระทิง” นอกจากไม่ใช่ด็อกเตอร์เหมือนคนส่วนใหญ่ในองค์กร ยังเป็นคนไทยที่ดูเหมือนว่าถนนสายซิลิคอน วัลเล่ยเส้นนี้ไม่น่าจะเปิดรับได้ง่าย แต่เพราะความเป็น “กระทิง” ที่ฝ่า “ดงฉลาม”มาก่อนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แหล่งคนเก่งระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น วิลเลียม ฮิวเลตต์ (William Hewlett) และเดวิด แพคการ์ด(David Packard) สองผู้ก่อตั้ง “ฮิวเลตต์ แพคการ์ด” หรือจะเป็น สตีฟ จ๊อบส์ และ สตีฟ วอซนิแอค สองบิ๊ก แอปเปิล ในรุ่นเขายังมีประธานยาฮู จีนเป็นเพื่อนร่วมชั้นอยู่ด้วย เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว “กระทิง” คือคนนิ่งเงียบที่สุดในห้องเรียน ขณะที่เพื่อนรวมชั้น 41 คนต่างยกมือเพื่อแย่งกันตอบคำถามอาจารย์ ทุกคนฉลากกันมาก แม้ตัวเขาจะได้คะแนนจีแมท 750 แต่ก็เพิ่งรู้ว่าไม่ได้เก่งอย่างที่คิด “เพราะคำสอนคุณแม่ยังดังก้องอยู่ในความทรงจำของ “กระทิง” ตลอดเวลาว่า “ถ้าเขาเก่งกว่า ก็ต้องพยายามให้เหมือนเขา แม่ผมก็บอกให้ผมคิดเหมือนกระทิง เจอปัญหาวิ่งเข้าใส่” “ในช่วงแรกมีปัญหาในเรื่องวัฒนธรรมของประเทศอเมริกาที่ผมไม่เข้าใจ การเข้าสังคมมีปัญหามากๆ และในช่วง 3 เดือนแรก ผมก็พยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนอเมริกัน แต่สุดท้ายผมก็รู้ว่าถึงอย่างไร ผมก็เป็นคนไทย ผมไม่มีทางที่จะเป็นคนอเมริกันได้ ผมจึงย้อนกลับมาหาตัวตนที่แท้จริงของความเป็นไทย คนไทยมีอะไรที่ดีมากๆ คือคนไทยเป็นคนจริงใจ ในขณะที่คนอื่นๆ พยายามสร้างความสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์ แต่คุณเข้าไปคุณไม่ได้หวังอะไร คุณมีแต่ความจริงใจ” สุดท้าย “กระทิง” ก็สามารถปรับตัวได้ และได้รับเลือกจากอาจารย์ให้เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการและฝ่ายการต่างประเทศ นอกจากนั้นยังเป็นประธานชมรมการตลาดที่มีสมาชิกกว่าร้อยคน และพาทีมคว้าอันดับสองของการแข่งขันกรณีศึกษาการตลาดแห่งสหรัฐอเมริกา ที่จัดโดย บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด ที่ “สแตนฟอร์ด” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ “กระทิง” เขาบอกว่า “เป็นที่สอนให้มีกรอบวิธีคิดแบบผู้ประกอบการ คือ กล้าเสี่ยง กล้าได้ กล้าเสีย มุ่งมั่น ในบางครั้งที่คนอื่นบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เชื่อมั่นในความฝัน และสุดท้ายเราจะทำตามฝันของเรา” ความฝันผลักดันให้เกิดความพยายาม แม้ “กระทิง” จะเรียนหนัก และต้องทำงานด้วย เพราะค่าเรียนแพง แต่ไม่เคยท้อ เขานอนวันหนึ่งเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น ที่ทำได้เพราะคำนวณว่าถ้านอนวันละ 8 ชั่วโมง มีอายุถึง 100 ปีจะใช้เวลานอนถึง 33 ปี แต่ถ้านอนแค่ 4 ชั่วโมง จะมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก 16 ปี คนที่วิ่งเข้าใส่ความยากลำบาก ดูเหมือนจะไม่เคยพ่ายแพ้ เหมือนอย่างกูเกิล ที่แม้จะเกิดทีหลังในโลกไซเบอร์ ตามหลังเว็บพอร์ทัลยักษ์ใหญ่อย่างยาฮูที่มีเสิร์ชเอนจิ้นอยู่หลายปี แต่เพราะคุณสมบัติพิเศษ จากผู้ก่อตั้งที่มีเป้าหมายธุรกิจชัดเจน บริหารจัดการด้วยเรียบง่าย การเสิร์ชง่าย เข้าใจง่าย และรวดเร็ว ทำให้กูเกิลกลายเป็นเสิร์ชเอนจิ้นยอดฮิตสูงสุด “กระทิง” ซึ่งแต่งกายอย่างเรียบง่าย พูดจาด้วยถ้อยคำชัดเจน เต็มไปด้วยเนื้อหา มีเป้าหมายชัดเจนคือความฝันที่อยากทำงานที่กูเกิล องค์กรที่ “กระทิง” บอกว่า “มหัศจรรย์” เสริมด้วยความคิดที่ว่า “การที่อยู่ท่ามกลางพายุแห่งการปฏิวัติและการแข่งขันที่บ้าคลั่งจะทำให้เรา ได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝนได้พัฒนาตนเอง และเมื่อวันหนึ่งเราพร้อม เราค่อยกลับมาทำอะไรที่ประเทศไทยได้ดีกว่า” กูเกิล จึงเป็นที่สำหรับ “กระทิง” แม้ตอนเรียนจบใหม่ๆ มีข้อเสนอรับเขาเข้าทำงานถึง 5 บริษัทแต่นั่นไม่ใช่ความฝันของกระทิง เขาตอบคำถามด้วยเองได้ว่า “ผมไม่ได้ถูก Driveด้วยเงิน แต่ถูก Drive ด้วยความฝัน ผมคิดว่าถ้าผมต้องอยู่ด้วยเงินอย่างเดียว ผมคงเป็นคนที่น่าสงสาร คือคุณมีเงินแต่ไม่มีความฝัน ไม่มีความสุข แววตาไม่เป็นประกาย เวลาทำอะไรคุณไม่ภูมิใจ” คำตอบสุดท้ายในขณะนั้นมีเพียง 2 ตัวเลือกที่เขาเต็มใจและอยากจะร่วมงานด้วย คือ ‘แอปเปิล’ กับ ‘กูเกิล’และเขาคิดว่า ‘กูเกิล’ เป็นบริษัทที่กำลังร้อนแรง มีคนจากทั่วโลกสมัครทำงานด้วยจำนวนมาก ที่นี่เขาใช้เวลาลุ้นถึง 5 เดือนสัมภาษณ์ทั้งหมด 9 รอบ “กระทิง” บอกว่ากูเกิลจะเลือกคนที่เข้ากับองค์กรได้จริงๆ ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนถ้าคุณไม่เข้ากับองค์กร สุดท้ายก็จะทำให้องค์กรเสีย คนที่ถูกเลือกจะต้องมีความเป็น “กูเกิล” และมีความเท่ในตัว ซึ่งเขาบอกว่าความเท่ของเขาคือการที่เขาเป็นคนไทย ในที่สุดเขาก็ได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่สำนักงาน ใหญ่ที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ ดูแลในส่วนของทวีปเอเชียและลาตินอเมริกาพื้นที่ที่ “กูเกิล” ยังแพ้คู่แข่ง หลายๆ คนอาจจะคิดว่าผลตอบแทนจากกูเกิลสูงมาก แต่อาจไม่ใช่เสมอไปเขาบอกว่าคนที่ “กูเกิล” ไม่ได้เงินมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือการคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการ อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความหมายมากกับโลก องค์กรในความฝันของหลายคนที่นี่ “กระทิง” บอกว่า “คนที่นี่ต้องยืดหยุ่น ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นธุรกิจใหม่ ที่นี่มีความอลหม่าน เพราะมันไม่มีรูปแบบ ต้องสร้าง ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ผมเปลี่ยนตำแหน่ง 2 ครั้ง เปลี่ยนที่นั่ง 3 ครั้งในเวลาไม่ถึงปี” “กระทิง” ณ วันนี้เป็น Role Model ของเด็กไทยหลายคน เขาเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และยิ่งเพิ่มเรตติ้งมากขึ้น เมื่อเขาได้เขียนพ็อกเกตบุ๊ก “บทเรียนธุรกิจร้อนๆ จาก Silicon Valley” เป็น “คนหนึ่ง” ที่องค์กรอย่างดีแทค ให้มาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน เหมือนอย่างที่ “ธนา เธียรอัจฉริยะ” รองซีอีโอของดีแทค บอกว่าสิ่งที่ “กระทิง” เป็น สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนของดีแทคได้ ที่สำคัญโลกกว้างของ “กระทิง” เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ดีแทครู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และโลกนั้นกว้างเพียงใด จากแววตาที่มีความมุ่งมั่น มี Passion แต่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ผลตอบแทนวันนี้สำหรับ “กระทิง” ไม่เพียงแค่การได้ทำตามฝัน และการได้รับการยอมรับจากคนจำนวนมากเท่านั้น แต่พลังของของเขายังจุดประกายให้เกิดความฝัน และการพยายามตามมาอีกมากมาย ด้วยข้อสรุปของ “กระทิง” ที่ว่า “ไม่มีอะไรมาจำกัดศักยภาพของตัวเราได้นอกจากตัวเราเอง” Profile Name:เรืองโรจน์ พูนผล Age : 30 ปี Education: -มัธยมปลาย กำแพงเพชรพิทยาคม -ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย -ปริญญาโท ด้านการตลาดภาคภาษาอังกฤษ (MIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ -โรงเรียนบริหารธุรกิจสแตนฟอร์ด (Stanford Business School) Career Highlights: -ทำงานที่บริษัท P&G 6 ปี 6 แผนก -เป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์อย่างบริษัท McKinsey&Company -บริษัทการเงินและการลงทุนส่วนตัวกับบริษัท Navis Capital -ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Google (Quantitative/Product Marketing Manager Google Inc.) Read more: http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=69748#ixzz0hvDBtfT1Under Creative Commons License: Attribution Non-Commercial No Derivatives
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #484 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 08:53:54 » |
|
ใช่เลยล้านเปอร์เซนต์..เจ๋งมากๆ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #485 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 12:29:28 » |
|
มีใครสงสัยมั้ยครับว่า เวลาที่เข็มสั้นกับเข็มยาวทับกัน มีเวลาใดบ้าง? แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เวลาเที่ยงเท่านั้น มีอีกเยอะ...เพียงแต่มันไม่เป็นจำนวนเต็มที่ลงตัวเท่านั้น?
|
...
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #486 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 14:31:43 » |
|
สุดยอดครับ พี่กระทิง
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #487 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 15:48:08 » |
|
เหมือนเคยเป็นข้อสอบความถนัดวิศวะ ประมาณนั้น..ขี้เกียจนับอ่ะ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #488 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 11:46:01 » |
|
ไม่ใช่ปัญหาเชาว์เหรอ
เวลาที่เข็มสั้นกับเข็มยาวทับกัน
เข็มยาวก็เกย์ฝรั่ง
เข็มสั้นก็กระเทยญี่ปุ่น
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #489 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 15:13:05 » |
|
คลิปนี่สุดยอดมาก ไปเจอมาจากพันทิป ห้องหว้ากอ ควายป่ามันฉลาดสุดยอดเลยนะเนี่ย? รู้จักตามพรรคพวกมาด้วย ตอนแรก ควายป่า(เฉพาะที่โตแล้ว) 2 ตัว VS สิงโต 4 ตัว..เนี่ย...ดูยังไงก็สู้ไม่ได้ นึกไม่ถึงว่า เจ้า 2 ตัวที่วิ่งหนีไปก่อน จะไปตามพวกมาอีกเป็น 10 มาช่วยตัวลูก คราวนี้สิงโตก็สิงโตเหอะ เอาไม่อยู่
|
...
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #490 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 20:09:16 » |
|
สุดยอดเลย จารย์โอ
|
|
|
|
ก้อง : )
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 370
|
|
« ตอบ #491 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 20:12:40 » |
|
เจ๋งอะ ยังไงๆ สิงโตก็ไม่ใช่เจ้าป่า....เพราะสิงห์โตอาศัยในทุ่งหญ้า (ซาวันน่า)
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #492 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 20:43:59 » |
|
ถามหน่อยสิ ทำไมเครื่องบินต้องขึ้นทางด้านซ้าย ทำไมไม่มีเครื่องบินที่ขึ้นทางด้านขวา หรือขึ้นได้ทั้งสองด้าน (ถามจริงนะ ไม่ได้มุก)
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #493 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 11:08:33 » |
|
พี่กระทิง เหรอเนี้ย หน้าตาแกเปลี่ยนไปมากเลย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #494 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 11:56:36 » |
|
กรุงเทพร้อนมาก
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #495 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 12:40:56 » |
|
ออกหนังสือแล้วด้วยนะ ออกกับเนชั่น อธิบายอีกหน่อยพี่ ไม่เข้าใจว่าซ้ายยังไง
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #496 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 19:04:57 » |
|
มีใครเคยทราบ หรือตั้งข้อสังเกตมั้ยครับว่า??? หลัก Gramma ในภาษาอังกฤษ...เค้าใช้อะไรเป็นตัวแบ่ง คำนามนับได้(Countable) เช่น คน โต๊ะ ปากกา ไก่(ตัวเป็นๆ) กับ คำนามนับไม่ได้(Uncountable) เช่น เนย ขนมเค้ก เส้นผม เนื้อไก่
ผมเคยทราบมาบ้างแล้ว จากอาจารย์ผมคนหนึ่ง สมัยมัธยมต้น แต่อยากลองโยนหินถามคนอื่นๆในนี้ดูก่อนครับ...
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #497 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 21:33:42 » |
|
เอิ่ม... พี่ก็ไม่รู้คะ แถมไม่มัวตามด้วย... ไม่รู้จะตามที่ไหน... ซะตังก็นับไม่ได้ไช่ป่ะ?
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #498 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 21:35:23 » |
|
ถามพี่ๆสัตวแพทย์รุ่นอื่นสิคะ เผื่อจะได้ข้อมูล
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #499 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 23:01:09 » |
|
ประตูทำไมต้องอยู่ด้านซ้ายของเครื่องบิน
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #500 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 23:29:25 » |
|
ด้านขวาไว้โดดฉุกเฉินไม่ไช่เหรอ? emergency door?
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #501 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 23:26:25 » |
|
อืมม์ ในเมื่อไม่มีคนมาตอบ ก็จะเล่าให้ฟังครับ... อาจารย์ท่านนั้น เค้าตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่จัดเป็น"คำนามที่นับได้" เมื่อจับมันมาแบ่งครึ่ง หรือแบ่งเป็นส่วนๆ มันจะหมดสภาพของความเป็นสิ่งเดิมที่มันเคยเป็น ครับ เช่น ปากกา เอามาหักครึ่ง ก็กลายเป็นแค่เศษโลหะ, โต๊ะ เก้าอี้ เอามาทุบ ก็กลายเป็นเศษไม้, คนถูกเอามาหั่นก็กลายเป็นศพ ฯลฯ แต่สิ่งที่จัดเป็น"คำนามนับไม่ได้" เมื่อนำมันมาแบ่ง หรือหั่น หรือซอยให้สั้นลง มันก็ยังคงความเป็นสิ่งนั้นอยู่ เช่น เส้นผม จะตัดให้สั้นเกรียนอย่างไร มันก็ยังเป็นผม, ขนมเค้ก จะเอามาแบ่งเป็นกี่ส่วน มันก็ยังคงเป็น peice of cake เนื้อไก่ จะเอามาหั่นเป็นชิ้นๆ มันก็ยังเป็นเนื้อไก่ แค่ชิ้นเล็กกว่าเดิม ครับ
|
...
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #502 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 09:53:59 » |
|
เยี่ยม
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #503 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 11:45:57 » |
|
มีเหตุผล
ส่วนเรื่องประตูเครื่องบินพี่ตี๋ ผมว่า terminal สนามบินมักจะยาวๆออกไป เครื่องบินจอดเรียงๆกัน แล้วหันหัวออกไปตามความยาว terminal ซึ่งน่าจะเป็นการจอดที่สะดวกที่สุด เพื่อรับเจ้างวงช้างที่จะมาประกบที่ประตูได้ เพราะถ้าเข้าทางขวา หัวเครื่องบินต้องหันสวนกับทิศทางความยาว terminal นะ
อันนี้คิดเอาเองนะ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่หามา
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #504 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 15:56:08 » |
|
เรื่องของจารย์โอ ดีคับ เพิ่งจะรู้เหมือนกัน
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #505 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 17:06:15 » |
|
พี่ยังงงอยู่น้อง. ขอทำความเข้าใจนิด
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #506 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2553, 01:01:19 » |
|
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #507 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 07:53:00 » |
|
จารย์โอใช้สีอะไรระบายอ่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #508 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 10:23:07 » |
|
สงสัยครับ ถามเหล่า ๆ พ่อบ้านทั้งหลาย เสื้อที่มันเปื้อนยางกล้วย จะซักยังไงให้มันหายน่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #509 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 11:02:16 » |
|
ถามจากพี่ google ได้ตามนี้
เสื้อผ้าสีขาวที่เริ่มจะกลายเป็นสีเหลือง สามารถแก้ไขได้โดยใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแล็ต ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
เสื้อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)
เสื้อผ้าที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
เสื้อผ้าที่เปื้อนรอยสนิม ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบเบียร์ ขจัดคราบโดยซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็น แปรงตรงรอยเปื้อนทันที
เสื้อที่เลอะคราบน้ำมันรถ (น้ำมันเครื่อง) ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน จนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง
ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า
เสื้อผ้าที่เลอะไข่ ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก
เสื้อผ้าที่เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที
เสื้อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลอง หยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน)
เสื้อผ้าที่เลอะยาแดง ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ เสื้อผ้าที่เลอะมัสตาร์ด ขจัดคราบโดยใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบปัสสาวะ ให้ซับที่รอยเปื้อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรือเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วซักได้ตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี 1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว 2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ 3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละเท่ากัน เช็ดให้แห้งแล้วนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะหมึกจีน ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะสีน้ำมัน ขจัดคราบโดยใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะสีเคลือบเงา ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน หรือผสมแอมโมเนีย กับน้ำมันสนในอัตราส่วนที่เท่ากัน แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่
เสื้อผ้าที่เลอะสีปากกาเมจิก ให้ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้
เสื้อผ้าที่เลอะลิปสติก เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อนแล้วนำมาซักตามปกติ / นำมาแช้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย
เสื้อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้ ขจัดคราบโดยนำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #510 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 13:09:50 » |
|
เพิ่มเิติมด้วย....ถ้ารู้ว่าผ้าสีตก..แช่เกลือก่อน...ช่วยได้ครับ ลดอัตราการสีตกครับ
จากผู้มีประสบการณ์
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #511 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 15:49:40 » |
|
แ่ล้วเสื้อผ้าที่เลอะคราบ...ล่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #512 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 17:54:22 » |
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #513 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 19:21:55 » |
|
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #514 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 19:33:47 » |
|
มีประโยชน์มากค่ะน้อง เดี๋ยวจะลอง!
เท่าที่ผ่านมา...ถ้าไม่เอาไปแอบ ก็ทิ้ง! เจง เจ้งงง
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #515 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 00:28:08 » |
|
ใครเป็นเหมือนผมมั่งมั้ย อ่านเอกสารในคอมไม่ค่อยได้ ต้องพิมพ์ออกมาอ่าน น่าจะมีจอคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาการออกแบบ ให้หน้าจอมีผิวเหมือนกระดาษ จะได้อ่านได้เลย ไม่ต้องพิมพ์ออกมาอ่าน
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #516 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 08:40:14 » |
|
ยกมือ สนับสนุนพี่ตี๋เล็กหนึ่งเสียง อาจเป็นเพราะว่า จอคอมมันมีแสงแหยงตาอ่ะ พออ่านได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับอ่านบนกระดาษ
แถมการเสน่ห์การอ่านหนังสือ ก็คือ กลิ่นหมึกพิมพ์นี่แหละครับ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #517 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 09:53:44 » |
|
โห..นี่มรึงได้กลิ่นหมึกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ยะ
มันน่าจะเ็ป็นเรื่องของความรู้สึกน่ะ ได้เขียน ได้ขีดเส้นกับมือจริงๆ ได้เปิด ได้จับ(อูยยย) รู้สึกว่าเวลาอ่านกระดาษ มันจะเห็นภาพรวมมากกว่าการอ่านในคอมพ์
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #518 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2553, 00:57:05 » |
|
รอ ไอแพด
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #519 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2553, 15:50:32 » |
|
เอา ไอเป็ด ไปใช้ก่อนพี่
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #520 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2553, 17:19:37 » |
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #521 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 16:10:24 » |
|
ขนมฝอยทองต้นตำรับ จากโปรตุเกส ชื่อในภาษาของเค้าคือ Fios de ovos (Fios=เส้นด้าย, Ovos=ไข่) ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Angel hair ทราบมาว่า ต้นตำรับของเขาจะเน้นความมัน(ไม่ใช่ความสนุกนะ) แต่ไม่หวานมาก เหมือนฝอยทองของไทย
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #522 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 16:26:39 » |
|
มีใครสงสัยมั้ยว่า ทำไมคนไทยจึงเรียก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล(ที่ฝรั่งเรียกว่า Dolphin) ว่า ปลาโลมา มันมีรูปร่างคล้ายปลาก็จริง แต่มันก็ไม่ได้มีขน เหมือนอย่างชื่อ (คำว่าโลมา แปลว่าขน) คำตอบคือ จริงๆแล้ว มันเป็นคำแผลง มาจากภาษาชวา แต่โบราณครับ คนชวาเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า Ikan lumba-lumba (อิคันลุมบาลุมบา) คนไทยรับเอาคำมาจากชวาอีกที เลยเอามาแผลงให้เข้ากับลิ้นตัวเอง เรียกว่าปลาโลมา (อิคานแปลว่าปลา) แบบที่เคยเรียก ดอร์ยา มารี กรีมา (ภรรยาขุนนางชาวโปรตุเกส ที่มาอยู่ในราชสำนักไทยสมัยอยุธยา) ว่า ท้าวทองกีบม้า
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #523 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 17:57:30 » |
|
^ ^ คาราวะเลยครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #524 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2553, 08:07:00 » |
|
แล้วมีใครรู้บ้างว่า ทำไมฉายาของทีมบอลอุรุกกวัย ต้องเป็น "จอมโหด" ด้วยอ่ะ เมื่อก่อนมันไปเตะใครเค้าขาขาดเหรอ
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #526 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553, 08:29:53 » |
|
^ ^ จริงเหรอ เพราะปกติ เห็นคนไทยชอบตั้งฉายาตามใจฉันอ่ะ ไม่คิดว่าจะมีหลักการขนาดนี้
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #527 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553, 16:37:42 » |
|
หลิมรู้ทุกเรื่อง..ไม่รู้อยู่เรื่องเดียว...
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #528 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553, 22:00:02 » |
|
ชิลี > La Roja (The Red One) ตั้งฉายาตามสีเสื้อทีมซึ่งเป็นสีแดง... ผมว่า ทีมชิลี น่าจะลองตั้งชื่อแบบไทยๆ ว่า ทีมพริก น่าจะเข้าทีนะครับ...เพราะ 1) พริกส่วนมากมีสีแดง เผ็ดร้อนสมลีลา 2) คำว่า Chile สะกดคล้ายกับ Chilli ที่แปลว่า พริก
เหมือนอย่างกรณี ทีมตุรกี ที่คนไทยมักให้ฉายาว่า ไก่งวง เพราะคำว่า Turkey ที่แปลว่า ประเทศตุรกี มันไปพ้องกับคำว่า turkey ที่แปลว่าไก่งวง
|
...
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #530 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553, 15:48:29 » |
|
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9419096/K9419096.htmlทำไมเรียกไก่งวง ว่า ตรุกี เพราะ หมวก ของชาวตรุกี จะมี ปอยออกมา แล้ว เวลา เดิน ก็ มักจะย้อยลงมาข้างหน้า ชาวฝรั่งเสศ กลุ่มแรกที่ไปพบ ไก่งวง ในอเมริกาใต้ เห็น ไก่งวงเข้า ก็ หัวเราะร่า แล้ว บอกกล่าวกันว่า นั่นไง ชาวตรุกี แล้วก็เป็นชื่อเรยีกของ ไก่งวง มาตั้งแต่บัดนั้น ทั้ง ๆ ที่ ไก่งวง และ ตรุกี ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #531 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553, 21:15:56 » |
|
ขอพี่คิดก่อน! จริงรึไม่จริง. ไม่อำแน่นะ??
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #532 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 11:55:32 » |
|
ระดับจารย์โอไ่ม่ีมีอำครับ เนื้อๆ เน้นๆ
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #533 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 17:00:03 » |
|
ผมเชื่อจารย์โอ 99%
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #534 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 17:38:05 » |
|
อีก 1% เอาไปไว้ไหนพี่
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #535 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 21:36:44 » |
|
ไม่แน่ใจถึง 100% เหมือนกันครับ...ผมไปตั้งกระทู้ถามในพันทิป แล้วมีคนอื่นมาตอบกระทู้อีกที
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #536 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2553, 08:26:12 » |
|
ขนาด wikipedia ยังเชื่อไม่ได้ 100% เลยอ่ะ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #537 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2553, 12:08:39 » |
|
เพิ่งอ่านข่าวมาว่า โตโยต้า จะเรียกคืนรถนรถยนต์เพราะ เกิดปัญหาเครื่องยนต์ดับขณะแล่น ทั้งในรุ่นเล็กซัสและคราวน์ซีดานกว่า 270,000 คันทั่วโลก โดยเกิดจากความบกพร่องของวาล์วสปริงเครื่องยนต์ ซึ่งจะเป็นรถใน 90,000 คันในญี่ปุ่น และอีกต่างประเทศอีก 180,000 คัน เห็นมีข่าวทำนองนี้ของโตโยต้ามาหลายรอบแล้ว
แต่ผมสงสัยอย่างนึง ช่วงที่เค้ามีปัญหากัน ในประเทศไทย โตโยต้าเคยเรียกคืนรถมั่งป้ะ เหมือนไม่เคยได้ยิน ทำไมหว่า...
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #538 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 01:48:08 » |
|
iPad นี้น่าใช้หรือเปล่าครับ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #539 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 08:20:13 » |
|
เค้าก็มีการเรียกคืนนะในไทย รถแท๊กซี่ของพี่ (อัลติส) เคยได้รับจดหมายมาสองรอบ รอบแรกเกี่ยวกับเครื่อง รอบสองเกี่ยวกับถังน้ำมัน เค้าทำแบบแอบๆทำมั๊ง เลยไม่เป็นข่าว ยี่ห้ออื่นไม่รู้ ไม่เคยได้ยิน
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #540 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 08:21:03 » |
|
มีอีกแบบนึงนะ ลองผ่อนให้เค้าไม่ครบ เค้าก็เรียกรถคืนนะ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #541 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 08:55:03 » |
|
น่าใช้...รออีกนิด น่าจะดี เอาแบบมีประกันผ่านศูนย์จะดีกว่า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #542 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 12:35:41 » |
|
ipad เปิดตัวในไทยเืดือน พย.นี้..น่าใช้ จะรอจนเหลือซัก 8000 ค่อยซื้อ
เป็นแฟนคนจนต้องทนหน่อยน้อง...พี่นี้ไม่มีเงินทอง..
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #543 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 13:43:54 » |
|
ลูกทุ่งมาำก ๆ ครับ....เชยได้อีก... เหนื่อยมั้ย คนดี มีพี่เป็นแฟน.....
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #544 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 13:53:59 » |
|
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #545 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 15:32:31 » |
|
โลกกำลังจะเปลี่ยนไป ถ้าไอแพ็ดเวอร์คมากๆ ไมโครซอฟท์ไม่ส่งอะไรมาสู้บ้างเหรอ หมดมุกแล้วเหรอ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #546 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 15:57:33 » |
|
เด๋วถาม "บิล เกต" ให้ครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #547 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553, 22:16:14 » |
|
ต้องดูกันครับ ว่างานนี้จะเกิด หรือไม่เกิด สำหรับลูกครึ่ง มือถือ ครึ่งโน้ตบุ๊ค ใหญ่และดีกว่ามือถือ แต่ ทำงานสู้โน้ตบุ๊คไม่ได้ ม่ายรู้จะตอบโจทย์ การเอามาถือให้เกะกะมือ กว่าพวกมือถือแต่ทำงานได้ดีกว่า หรือ เอามาแทนโน้ตบุ๊ค ก็ยังไม่ได้เสียทีเดียว ก้ำกึ่ง ก้ำกึ่ง
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #548 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553, 00:54:28 » |
|
ผมว่า function มันครบน่ะครับ ในเครื่องเดียว คล้าย ๆ กับ net book + มือถือ ดูหนังความละเอียดแบบ HD ได้ ฟังเพลง ดู youtube อ่านหนังสือได้ เข้า net โทรศัพท์ เก็บรูปถาพ เล่นเกม เป็น navigator ได้ เขียนบันทึกได้ง่าย ๆ etc ที่สำคัญที่ชอบคือ Battery ที่ทำงานต่อเนื่องได้นานถึง 10 ชม.
เสียตรงที่ราคายังแพงอยู่มาก และ ไม่มีกล้อง ไม่งั้นอาจจะทำการคุยแบบ เห็นหน้ากันได้
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #549 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553, 08:55:15 » |
|
ไม่ใช่แค่อย่างนั้น..ที่เคยไปประชุมมา
คนใช้ ipad ต้องลงทะเบียนการใช้โดยจะต้องมีบัตรเครดิต ซึ่งจะเชื่อมโยงกับร้าน app store คนจะเขียนโปรแกรมอะไรๆที่ใช้ใน ipad ต้องให้ apple พิจารณาและแขวนให้ในร้าน app store คนจะใช้ต้อง download app มาก่อน ซึ่ง apple หักค่าดำเิินินการตรงนี้ทั้งการแขวน app และการซื้อขายต่างๆ 30%
การ download ต่างๆต่อไป จะมีการบันทึกไว้ทั้งหมด เพราะระบบบัตรเครดิตได้มีการบันทึกที่อยู่และตัวตนของผู้ใช้ไว้แ้ล้ว การ download อะไรที่จะมีผลต่อเรื่องลิขสิทธิ์ มันจะลบข้อมูลตัวเดิมออกทันที
เคยดูหนัง sci fi ที่มนุษย์โลกจะมี id ของตัวเองเป็นสากลเหมือนกันหมดมั๊ย จะทำอะไรจะมีการบันทึกไว้ทุกอย่างน่ะ
ipad ถ้าทำได้เต็มระบบ มันจะเป็นแบบนั้นเลย มันจะปฏิวัติโลกเลยนะ
ต้นปีนี้ ม.รังสิตกับที่ไหนอีกที่ มีแผนแจก ipad ให้นักศึกษาฟรี จำนวนเป็นหมื่นเครื่อง..
เรากำลังจะเข้าสู่ยุคการปฏิวัติระบบในยุคที่ 3 แล้วครับ
|
|
|
|
wat
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 47
|
|
« ตอบ #550 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553, 09:40:49 » |
|
คิดว่าเครื่องทำนอง Tablet บางๆพกพาสะดวกขนาดหน้าจอกำลังดีทำนอง iPad(รวมทั้งของค่ายอื่นๆด้วยไม่เฉพาะของค่าย apple) ในอนาคตจะเป็นการปฏิวัติวิถีชีวิตแบบพลิกแผ่นดินเลยทีเดียว โดยเฉพาะวงการศึกษา เด็กๆ-นักศึกษาไม่ต้องพกหนังสือกระเป๋าใหญ่ ตู้หนังสือที่บ้านก็น้อยลง การเรียน-ความบันเทิง ก็มีประสิทธิภาพล้ำไปอีกขั้น ทุกอย่างถูกแปลงเป็นดิจิตอล เป็นระบบมัลติมีเดียภาพเสียงที่่ออนไลน์ได้ทุกเวลา ติดต่ออาจารย์-ส่งการบ้าน-วิทยานิพนธืก็ส่งออนไลน์เลยไม่ต้องพิมพ์ให้เปลืองหมึก-กระดาษ ฯลฯ หอสมุดใหญ่ทำนอง หอสมุดกลาง เผลอๆต้องยุบทิ้ง ฮึ ๆ ๆ
แต่คิดว่าเมืองไทยคงต้องรอหน่อย หรือ คงอีกนาน กว่าสื่อแบบเดิมอย่างตำรา-หนังสือ ฯลฯ จะทยอยเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล (เราต้องทยอยอเปลี่ยนหนังสือในหอสมุดกลางให้เป็นหนังสือดิจิตอลให้หมด ฮา) ที่สำคัญระบบ 3G หรือ internet ความเร็วสูง กว่าจะถูกจัดระบบได้ลงตัวและราคาถูกลงจนกลายเป็นสื่อพื้นฐานที่ทุกบ้านมีใช้กันเหมือนที่ทุกบ้านมี TV คงอีกนาน ยิ่งผู้ใหญ่บ้านเราขัดแข้งขัดขา ฮึ่มๆ กันอย่างเห็นอยู่ทุกวันนี้
แต่ยังไงเราอยู่ในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงระบบโลกครั้งใหญ่ ยุคการปฏิวัติระบบในยุคที่ 3 เหมือนที่ เพื่อนโต้งว่า....:)
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #552 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553, 23:34:15 » |
|
ผมขอถามคำถามง่ายๆ สำหรับคนที่จะซื้อ iPad ทำไม ไม่ซื้อ Notebook? มีอะไรที่ iPad ทำได้ แต่ Notebook ทำไม่ได้ ลองตอบคำถามนี้ดูก่อนไหม๊
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #553 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 00:23:36 » |
|
ใช้งานหลาย ๆ อย่างสะดวกกว่า notebook (แต่คำนวณอาจจะไม่เก่งเท่า notebook) ที่สำคัญ batteryอยู่ได้นานถึง 10 ชม.
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #554 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 08:45:02 » |
|
เวลาดูหนังมันจะตั้งไงเหรอ หรือว่าต้องถือไว้ตลอด
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #555 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 10:01:06 » |
|
มันจะมีซองใส่ครับพี่ ซองนี่ก็ประมาณ 2500 นะ ซองมันจะพับได้หลายท่า เอียงๆเพื่อให้เราพิมพ์งานสะดวกก็ได้
อย่างที่บอก ipad มันจะทำหน้าที่เหมือน id card ของผู้ใช้ไปในตัว ซึ่งโน๊ตบุ๊คยังไม่มีตรงนี้
ผมว่า ipad ไม่กลัวโน๊ตบุ๊คหรอก เค้าน่าจะกลัวโทรศัพท์มือถือมากกว่า ถ้าโทรศัพท์จอใหญ่กว่านี้อีกนิด ฟังก์ชั่น smart phone ทั้งหลายรวมอยู่ มันก็ไม่จำเป็นจะต้องพกพาหลายๆอย่าง มือถือเครื่องเดียวใ้ช้ได้หมด
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #556 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 10:42:03 » |
|
ตัว iPad นี้ สามารถ apply กับ console รถได้ด้วย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #557 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 20:46:58 » |
|
บักซ๊าปมันตอบซะตรูงงเลย ไอ้อะไรหลายๆ อย่างเนี่ย
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #558 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2553, 01:52:03 » |
|
วันนี้ลองไปเล่น ipad มา เข้าใจผิดว่ามันเป็นโทรศัพท์ ได้ด้วย ... จริง ๆ แล้วไม่น่ะ
ถ้าอย่างนี้ ราคาเทียบกับ fuction ก็จะดูไม่ค่อยน่าสนใจนัก
ซื้อ net book อาจจะดีกว่า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #559 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2553, 17:56:40 » |
|
เอามาชนกับ amazon kindle ดีก่า อันนี้ก้อ 189$ นะ อิอิ - All-New, High-Contrast E-Ink Screen – 50% better contrast than any other e-reader - Read in Bright Sunlight – No glare - New and Improved Fonts – New crisper, darker fonts - New Sleek Design – 21% smaller body while keeping the same 6" size reading area - 15% Lighter – Only 8.7 ounces, weighs less than a paperback - Battery Life of One Month – A single charge lasts up to one month with wireless off - Double the Storage – Up to 3,500 Books - Books in 60 Seconds – Download books anytime, anywhere - Free 3G Wireless – No monthly payments, no annual contracts - Built-In Wi-Fi – In addition to the 3G wireless, you can connect to Wi-Fi hotspots - 20% Faster Page Turns – Seamless reading - Enhanced PDF Reader – With dictionary lookup, notes, and highlights - New WebKit-Based Browser – Free 3G web browsing (experimental) http://www.amazon.com/Wireless-Reading-Display-Graphite-Globally/dp/B002FQJT3Q
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #560 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2553, 20:28:38 » |
|
5 5 5 โปรเจคนี้ ชะลอไปก่อน ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Cannon 500D ไปเรียบร้อยแล้ว ...
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #561 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 10:02:07 » |
|
ชาร์ป กล้องชาร์ปมันของปลอม
เลียนแบบ Canon
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #562 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 11:43:55 » |
|
อยากได้กล้องเหมือนกัน ช่วยแนะนำหน่อยด้วย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #563 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 17:13:16 » |
|
เรื่องกล้องไม่ถนัด แต่ลำกล้องพอช่วยได้
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #564 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 17:13:20 » |
|
กล้องส่องพระ...รับรองชัดครับ... ของดีต้องแนะนำ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #565 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2553, 09:40:21 » |
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #566 เมื่อ: 05 สิงหาคม 2553, 21:31:11 » |
|
สงสัยมั้ยว่า ทำไมห้องน้ำในเมืองจีนถึงค่อนข้างสกปรก (ไม่เคยไปเห็นตรงๆ แต่ได้ยินหลายๆคน ทั้งญาติและเพื่อน ล่าสุดก็อาจารย์ป้อมถาปัตย์ เล่าสู่กันฟัง) จะว่าเป็นนิสัยของชนชาติก็ไม่น่าใช่...เพราะคนเชื้อสายจีนในเมืองไทยหลายๆคนก็รักสะอาดมีระเบียบดี
หรือว่าสิ่งแวดล้อมมันพาไป
|
...
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #567 เมื่อ: 05 สิงหาคม 2553, 22:30:23 » |
|
เวลาไปเข้าห้องน้ำ แล้วเจอสภาพแย่ๆเนี่ยะ รู้สึกอึ้งมาก แล้ววันนั้นทั้งวัน ภาพนั้นจะตามมาหลอน
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #568 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2553, 01:58:39 » |
|
มีกล้อง ก็ต้องใช้มันหน่อย ... รูปนี้ หมาที่บ้านครับ ...
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #569 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2553, 15:09:02 » |
|
ต๊ายยยยน่ารักจริง!
โจโจ้,อยากได้กล้องอะไรคะ? อย่างสะดวกหรืออย่างมืออาชีพ? มีหลายระดับขั้นคะต้องถามตัวเอง ว่าจะใช้งานยังไงก่อน..ราคาก็ต่างกัน จุ๊ๆ..พี่เพิ่งซื้อ Lumix DMC TZ7ไม่นานที มันตกรุ่นให้ TZ8,TZ 10ออกมา ไม่ทันขาดคำที ทั้ง TZ8+TZ10ลดราคาอีกแล้ว!! ตามยังไงก็ตามไม่ทันคะ เรื่องนี้เปลี่ยนรุ่น เร็ว ทุก 6 เดือน ใครจาตามซื้อทัน? ก็ต้องตั้งใจใช้ที่มีให้คุ้มเงินคะ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #570 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 08:32:30 » |
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #571 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 10:55:42 » |
|
รูปบักชาร์ป ตรงกลางยังเบลอนิดๆรึเปล่า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #572 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 11:02:58 » |
|
ใช่ครับ ... เรื่อง focus นี้ยังยากอยู่เลย
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #573 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 12:10:36 » |
|
ถ่ายรูปใด ไม่เคลิ้มใจเท่าถ่ายสาว ถ่ายวิวทิวทัศน์เลิศฟ้า มิเท่าถ่ายพริตตี๊
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #574 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 13:47:38 » |
|
คาราวะท่านจอมยุทธ์.. นอกจากมีดสั้นที่ว่าคมแล้วนั้น ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับคารมท่านเฉินหม่า...
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #575 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 14:48:45 » |
|
เกรงใจไปแล้วท่านพ่อบ้านจาง ท่านเองก็ใช่ย่อย สามชั่วยามก่อน ตอนท่านร่ำสุราเป็นเพื่อนข้า วาจาท่านคมยิ่งกว่าเหล็กน้ำพี๊ ที่ตีด้วยช่างตีดาบของสำนักง้อไบ๊อันลือเลื่อง
แต่ใครจะสู้ แครม ไข่ เลีย สามเจ้าฝีมือจากสำนักโคมเขียว
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #576 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 17:05:29 » |
|
ท่านจอมยุทธ์ทั้งสามนั่นข้าว่า มีพรสวรรค์ไร้เทียมทานหาใครเหมือนได้ในยุทธภพ
หนึ่งก็ท่าน "แคมลิ้มยี่" สามารถสยบเหล่าศัตรูได้ในพริบตา สองก็ท่าน "ไข่ง้อไบ๊" ลีลาฟาดฟันเหล่านารียอมสยบ สุดท้าย "ท่านเลีย แห่งเขาเหลียงซาน" เป็นพี่ใหญ่ในทั้งสาม ฝีมือข้ายังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง...ได้ยินแต่คำลำลือเท่านั้นว่า.... อดทนยิ่งนัก
ถ้าไม่ตายชาิตินี้ข้าขอได้ประลองวรยุทธ์กับท่านทั้งสามนับว่าไม่เสียชาติเกิด....
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #577 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 17:29:48 » |
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #578 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2553, 00:05:31 » |
|
จาเอาฮากันไปถึงไหน ท่านใต้สะดือ เอ้ย ไต้ซือ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #579 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2553, 08:22:07 » |
|
ฝึกเอาไว้ จะตั้งคณะใหม่แข่งกับ ดี๋ ดอกมะดัน จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก และก็ล้อต๊อก
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #580 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2553, 13:34:06 » |
|
ได้คณะชื่ื่อว่า " ตี๋ดันจิ๋มหลิมเล็ก" เชิญยิ้ม....ครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #581 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2553, 15:14:48 » |
|
ชื่อคณะน่าสนใจมาก
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #582 เมื่อ: 11 สิงหาคม 2553, 00:09:05 » |
|
จริงๆ มุกนี้ ต้องตบว่า "ไปแข่งกันในสวรรค์รึไง" หรือเปล่า
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #583 เมื่อ: 11 สิงหาคม 2553, 08:24:30 » |
|
รักน้าแครม
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #584 เมื่อ: 11 สิงหาคม 2553, 12:13:41 » |
|
รักคนอย่างน้าแครมต้องทำใจนะพี่..
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #585 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2553, 13:20:56 » |
|
ตามสบายเลยครับ กับการรักน้าแครม ริจะรักคิดให้ดี
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #586 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2553, 15:30:33 » |
|
ใครรู้มั่งว่าจะแก้หมาฉี่ในบ้านได้ยังไง..เมื่อก่อนก็ไม่เป็น พาไปฉี่ข้างนอกเป็นเวลา หรือมันจะทำท่าแปลกๆก็รู้แล้วว่าจะฉี่ เดี๋ยวนี้เห็นถังไม่ได้ฉี่เฉยเลย..เซ็ง
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #587 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2553, 17:28:51 » |
|
ต้องฝึกอ่ะ ทำโทษเมื่อทำผิด และให้รางวัลเมื่อทำถูก
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #588 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2553, 17:30:13 » |
|
เอาไปไว้ข้างนอก ไม่ให้เข้าบ้าน จะได้ไม่ฉี่ในบ้าน
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #589 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2553, 20:12:14 » |
|
เหมือนที่แครม ซื้อเนย เอาไปฝึกมันใช่มั้ย
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #590 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2553, 16:28:09 » |
|
ไอ้แครมเลี้ยงหมาด้วยเหรอ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #591 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2553, 21:25:53 » |
|
ขอโทษ จำผิดคน
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #592 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2553, 21:43:10 » |
|
ถ้าเป็นหมาเนย ต้องถามเจ๊อิ๋ม!
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #593 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2553, 22:22:21 » |
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #594 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2553, 09:05:25 » |
|
อะไรอีกละเนี่ยะ คุ้นๆนะแต่จำไม่ได้แล้ว..
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #595 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2553, 10:27:05 » |
|
หมาเนยเนี่ยะ เป็นชื่อสายพันธุ์จากต่างประเทศใช่มั้ย
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #596 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2553, 11:37:45 » |
|
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #598 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2553, 22:10:40 » |
|
ถ้าเทียบตามผังวิวัฒนาการ จระเข้ น่าจะเป็น พี่น้อง กับไดโนเสาร์ มากกว่า ส่วนลูกหลานจริงๆ ของไดโนเสาร์ คือนก...
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #599 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2553, 16:29:18 » |
|
เอาแล้วไง.....มาแนวโลกล้านปีแล้ว
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #600 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 08:16:11 » |
|
มิเตอร์ไฟหน้าบ้าน อยู่ดีๆ ก็สิ้นชีพหยุดหมุนไปซะเฉยๆ ผมควรทำไงดี ถ้าแจ้งการไฟฟ้าว่ามันพัง เวลาเค้ามาเปลี่ยนหรือซ่อม เค้าจะเก็บตังค์ผมหรือเปล่า แต่ผมไม่ได้ทำพังนะ
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #601 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 08:21:44 » |
|
นั่นสิ รอโต้งมาตอบดีกว่า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #602 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 08:23:28 » |
|
น่าจะซ่อมได้ โดยไม่เสียตังค์
ปล. ช่วงนี้พี่โต้งป่วยครับ เป็นไข้เลือดออก
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #603 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 08:27:23 » |
|
อ้าวเหรอ ป่วยเป็นไข้เลือดออกเหรอ มิน่าล่ะ ไม่ค่อยเข้ามา..
|
|
|
|
Joker_rcu79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #604 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 08:47:23 » |
|
หายไว...เน้อ เพื่อนโต้ง เอ่อ..แล้วเลือดออกเยอะไหมอ่ะ...
|
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #605 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 10:44:46 » |
|
เลือดออกตรงไหน เห็นตาแครมก็เลือด(กำเดา)ออกบ่อยๆ
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #606 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 17:09:39 » |
|
มาแล้ว นอนไป 2 วัน โดนไปหมื่นกว่าบาท สบายใจ..
สรุปว่าไม่ใช่ไข้เลือดออก แต่ไวรัสทำงานคล้ายกันมากๆ ทำใ้ห้ไข้ไม่ลด เวียนมาเวียนไปเป็นรอบๆไ่ม่หายซักที และเกร็ดเลือดต่ำ
ระวังตัวกันด้วย เพราะไม่รู้ว่ามาจากยุงรึเปล่า
ส่วนเรื่องมิเตอร์ แจ้งไปเลย เค้าไม่เก็บตังค์แน่ ถ้าเก็บบอกให้มาเก็บที่ไอ้หลิม..
|
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #607 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 18:18:57 » |
|
โต้งหายแล้วเหรอ ไข่เลือดออก รักษาสุขภาพเน้อ
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #608 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 19:22:41 » |
|
โถ่น้าแครม...แค่มิเตอร์ไม่หมุนทำมาเป็นเรื่องใหญ่....ถ้านกเขาไม่....... มิต้องประกาศตามหน้า นสพ. รึ...
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #609 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 22:02:42 » |
|
นกเขาอ่ะ ... ทุกวัน แต่มันไม่มีรังอยู่อ่ะจิ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #610 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553, 22:08:37 » |
|
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #611 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 08:16:28 » |
|
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #612 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 16:11:57 » |
|
ไอ้แครมมมันไป wax มาครับพี่..เลยไม่มีรังอยู่..
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #613 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:58:04 » |
|
เค้าพูดถึงรังนก ไม่ได้พูดถึงขนนก หรือไข่นก มันจะมีแว็กซ์ได้ไง
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #614 เมื่อ: 01 กันยายน 2553, 08:31:00 » |
|
อ๋อที่เค้าบอกกันว่า
กินรังนก เสริมสุขภาพ
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
|
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #615 เมื่อ: 01 กันยายน 2553, 10:42:57 » |
|
สงสัยมุขพี่คงฝืด
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #616 เมื่อ: 02 กันยายน 2553, 11:47:34 » |
|
ไม่ฝืดหรอกพี่ มันพิมพ์คล้ายกันมากแล้วพี่ไม่ได้เน้นตัวหนังสือ มันก็เลยผ่านไป...
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #617 เมื่อ: 06 กันยายน 2553, 08:14:35 » |
|
มิเตอร์ไฟหน้าบ้านหมุนแล้ว
โทรไปแจ้งการไฟฟ้ามา ไม่รู้เค้ามาซ่อม หรือว่าเปลี่ยนเมื่อไหร่
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #618 เมื่อ: 06 กันยายน 2553, 13:49:03 » |
|
มัวแต่เที่ยวอยู่นอกบ้านจะไปรู้เรื่องอะไร..
|
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #619 เมื่อ: 06 กันยายน 2553, 19:38:09 » |
|
อ้าวไม่หมุน ไม่ดีกว่าเหรอไม่ต้องจ่ายค่าไฟ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #620 เมื่อ: 07 กันยายน 2553, 08:15:50 » |
|
^ ^ แหมพี่ แรกๆ มันก็คงฟรีหรอก แต่กลัวโดนย้อนหลังอ่ะดิ
ปกติ ผมใช้ไฟไม่เกินขั้นต่ำที่รัฐบาลเค้ากำหนดไว้ ก็เลยไม่เสียตังค์อยู่แล้ว เลยแจ้งไปเลยดีกว่า ว่ามันเสีย
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #621 เมื่อ: 07 กันยายน 2553, 10:47:17 » |
|
ท่าทางบ้านจะเอาไว้นอนอย่างเดียว
แอร์ไม่มี ทีวีไม่เปิด ตู้เย็นถอดปลั๊ก หรือใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่นอกบ้าน
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #622 เมื่อ: 07 กันยายน 2553, 11:20:02 » |
|
เฮ้ย...ใช้ไฟฟ้าไม่เกินขั้นต่ำ.... ที่บ้านมีอะไรบ้างป่าวเนี่ยะ....หรือว่า...ไปอาบน้ำอุ่นนอกบ้าน
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Tarnthongl
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 482
|
|
« ตอบ #623 เมื่อ: 07 กันยายน 2553, 18:46:01 » |
|
สงสัยจะเป็นอย่างที่ว่าแหละ ทำงาน กิน ข้าว อาบน้ำ(มีคนอาบให้) ข้างนอก กลับบ้านนอนสบาย
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #624 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 12:57:52 » |
|
ก็บ้านมีแค่ ทีวี ตู้เย็น คอม ปั๊มน้ำ กาน้ำ มีอยู่แค่เนี๊ยะ มันก็ควรใช้ไม่เยอะไม่ใช่เหรอ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #625 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 13:25:17 » |
|
คอม กับ ทตู้เย็นนี้ล่ะตัวกินไฟ สงสัยไม่ค่อยอยู่บ้าน เลยไม่ค่อยได้เปิดคอม
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #626 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 17:37:47 » |
|
มีใครรู้บ้างว่า โรคบางชนิดที่เราคุ้นชื่อในภาษาอังกฤษ จริงๆแล้วมีชื่อไทยด้วย
เช่น โรค S.L.E (ของพุ่มพวง) มีชื่อในตำราไทยว่า โรคพรายเลือดพรายลม
โรคหัดเยอรมัน มีชื่อในตำราไทยว่า โรคเหือด
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #627 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 20:48:10 » |
|
ของ Zeissนะ ของอื่น ไม่ชัดจริง
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #628 เมื่อ: 09 กันยายน 2553, 08:56:01 » |
|
ขอบคุณจารย์โอครับ..เพิ่งรู้นะเนี่ยะ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #629 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2554, 01:31:03 » |
|
อยากทราบว่า ถ้ามีกรณีดังนี้เกิดขึ้น ฝ่าย ช.เสี่ยงต่อการแพ้คดีจากการโดนฟ้อง มากน้อยแค่ไหนครับ
นายA กับ นส.B เคยคบหากัน แล้วนัดกันไป"เข้าห้อง"กันบ่อยๆ วันหนึ่งขัดใจกัน แล้ว นส.B คิดจะเรียกร้องค่าเสียหาย เลยไปฟ้องตำรวจว่าถูกกระทำชำเรา พร้อมกับทำร้ายตัวเองให้ดูเสมือนว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ นายA จะเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีมากน้อยแค่ไหนครับ? ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กันจริงๆ แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นการข่มขืน ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย เหมือนคดีอื่นๆทั่วไปหรือเปล่าครับ?
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #630 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2554, 09:38:22 » |
|
เดาๆ เอานะ เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายเหมือนกัน ฝ่ายชายน่าจะหาพยานแวดล้อมเป็นตัวช่วยอ่ะ เพราะเวลาเดินเข้าห้อง ในสถานที่ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ มันก็ต้องมีคนเห็นเป็นประจำ เช่น ยาม แม่บ้าน เพื่อนข้างห้อง เพื่อนข้างบ้าน ซึ่งเขาเห็นอยู่แล้วว่า เดินเข้าห้องกันแบบยินยอมพร้อมใจทั้งคู่ ไม่ได้มีการฉุดกระชากเข้าห้อง มาอยู่เป็นประจำ แถมตอนออกจากห้อง ก็ออกมาพร้อมๆ กัน ไม่ได้มีท่าทีทะเลาะกัน อะไรทำนองนี้อ่ะ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #631 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2554, 10:29:52 » |
|
มีบันทึกแพทย์หลังเกิดเรื่องเป็นหลักฐานมั้ยคะ? รูปถ่าย ตรวจร่องรอย... แจ้งความทันทีหลังเกิดเหตุ?
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #632 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2554, 14:53:43 » |
|
ตอบไม่ได้ ไม่มีประสบการณ์..
แต่หลักๆก็ต้องนิติวิทยาศาสตร์+พยานวัตถุ+พยานบุคคลครับ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #633 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2554, 16:27:11 » |
|
ขอบคุณที่ช่วยมาตอบครับ แต่ที่แน่ๆถ้าต่ำกว่า 18 โดนชัวร์ๆ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
|
...
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #634 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2554, 09:48:35 » |
|
อีกอย่างครับ หลักการจากในหนังสือนิยายที่ผมอ่านนะ (ลินคอร์น ไลห์ม น่ะ)
ไม่ว่าจะมีเหตุอะไร ต้องมีการแลกเปลี่ยนสารกันระหว่างผู้ต้องหากับผู้เคราะห์ร้ายเสมอ ซึ่งนิติวิทยาศาสตร์จะสามารถพิสูจน์ทราบได้ เช่น หากผู้หญิงถูกข่มขืน ก็ต้องทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ที่ตัวคนร้ายกับต้ัวเองบ้างล่ะ เช่น เศษผิวหนังในซอกเล็บ รอยช้ำที่แขนผู้หญิงเพราะต้องถูกจับไว้และมีการขัดขืน
และคำให้การของคนที่แต่งเรื่อง มักจะวกไปวนมา ไม่เนียน บวกกับพยานบุคคล พยานวัตถุ ภาพกล้องวงจรปิดต่างๆ(ต้องมีเดินผ่านกันมั่งล่ะ) ถ้าไม่ได้ไปข่มขืนเค้าจริงๆคิดว่าคงรอดได้ครับ
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #635 เมื่อ: 01 มีนาคม 2554, 20:30:59 » |
|
อันนี้เป็นภาพถ่ายจากบึงฉวากครับ เป็นเหมือนเรื่องโจ๊ค...แต่น่าคิด ถ้าจระเข้ส่วนใหญ่ มันเข้าไปวางไข่ในสถานที่ๆเขาจัดไว้จริงๆ แปลว่าจระเข้เข้าใจภาษาคน ใช่หรือไม่?
เปล่าเลยครับ...มันก็เป็นปาหี่ประเภทหนึ่ง ประเภทว่าแสดงให้เห็นความจริงแค่ครึ่งเดียว เค้ารู้ดีอยู่แล้วว่า จระเข้ชอบวางไข่ตามโพรงดินที่มิดชิด และดูปลอดภัยสำหรับมัน เค้าก็สร้างถ้ำเล็กๆขึ้นมา หาวัสดุที่จระเข้ชอบใช้ทำรังไปไว้ในนั้น จากนั้นจระเข้จะเข้าไปวางไข่เองโดยธรรมชาติ ป้ายที่ติดไว้ ก็แค่ส่วนประกอบเอาไว้โชว์ตลกๆเฉยๆ จะมีหรือไม่มี จระเข้ก็เข้าไปทำรังวางไข่ในนั้นอยู่ดีครับ(เพราะเค้าจัดสถานที่ไว้เหมาะสมแล้ว) *อีกกรณีศึกษา คือ มายากลเลือกไพ่ออก ที่เคยเจอใน Fw.mail มันเอาไพ่ 5 ใบ มาโชว์ แล้วบอกให้เราเลือกไว้ในใจ 3 ใบ แล้วมันจะเอาไพ่ 3 ใบ(ที่เราเลือกไว้)ออก จากนั้นให้เรากดคลิก เพื่อดูผลการทำนาย ปรากฏว่า ใครๆเห็นทีแรกก็ต้องตะลึง เพราะไพ่ที่เขาเลือกไว้...ในใจทั้ง 3 ใบ ทำไมไม่มีเหลือเลย!?! มันทายถูกได้อย่างไร? แต่ถ้าใครสังเกตอย่างละเอียดพอ จะรู้ว่าโดนหลอกเข้าแล้ว *เพราะความจริง มันเปลี่ยนไพ่ทั้ง 5 ใบครับ อาศัยจิตวิทยาของคน(ส่วนมาก)ที่มักจะสังเกตเฉพาะไพ่ที่ตัวเองเลือกไว้ในใจเท่านั้น โดยไม่ได้สังเกตตัวแปรอื่นๆที่อยู่รอบข้างโดยปกติ เหตุการณ์ที่เกิดตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ มักจะไม่มีตัวแปรควบคุมที่ชัดเจน ดังนั้นคำอธิบายที่มีต่อเหตุการณืพวกนี้ จึงมักบิดเบือนจากเหตุผลที่แท้จริงได้ง่าย
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #636 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 23:44:14 » |
|
อาจารย์ครับ อยากทราบว่าตุ๊กแกมีพิษหรือเปล่าครับ แล้วธรรมชาติมันดุหรือเปล่าครับ เพราะบ้านที่ ตจว มีอยู่สองสามตัวครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #637 เมื่อ: 26 เมษายน 2554, 12:46:01 » |
|
เกลียดมันมากๆ..ไอ้ตุ๊กแกเนี่ยะ
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #638 เมื่อ: 26 เมษายน 2554, 14:04:06 » |
|
ตุ๊กแกมีพลังสะกดจิตคับ แค่มันมอง ตัวก็แข็งแล้ว
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #639 เมื่อ: 29 เมษายน 2554, 12:43:29 » |
|
ไอ้แครมมแมร่งโรคจิต..แข็งกับตุ๊กแก
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #640 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2554, 09:01:51 » |
|
เอาน่า ดีกว่าแข็งกับตุ๊กกี้
|
|
|
|
|