25 พฤศจิกายน 2567, 22:06:36
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นกำลังใจให้น้องผึ้ง BeKamon ค่ะ  (อ่าน 24179 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หล้า
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,681

« ตอบ #25 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2550, 11:00:43 »

พักผ่อนเยอะๆนะคะพี่ผึ้ง จะได้กลับมาแข็งแรง สดใส เหมือนเดิม  :wink:
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2550, 12:00:00 »

จากที่ไปเยี่ยมเมื่อเย็นวันอาทิตย์เห็นบอกว่า  จะออกจากรพ.เมื่อวานนี้ค่ะ คุณหมอให้พัก ๑ เดือนไปเลย...ก็พยายามเดิน เพื่อไม่ให้เกิดพังผืด...

ผอมลงทันตาเห็น...แต่กำลังใจดีมาก มีคุณพ่อ-คุณแม่ คุณป้า และพี่คนข้างกายมาดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ


 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #27 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2550, 16:02:50 »

Cheesy เมื่อวานไปเยี่ยมผึ้งมากะเจ๊หนึ่ง ครุ จ้ะ....ผึ้งสดใสมากขึ้นเลย....มีอาการเจ็บแผลอยู่บ้าง...

วันนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะนะ....คงต้องพักฟื้นอีกประมาณ 1 เดือนทีเดียวเชียวล่ะ...

เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่ผึ้งประสบอยู่....มีข้อมูลที่นำเสนอที่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
คอลัมน์กายใจ หรือที่http://www.bangkokbiznews.com/bodyheart/
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิย. 50 เรื่อง  ซีสต์ ไม่ ซี้ดดดส์ ?

เข้าไปอ่านเป็นความรู้จะได้ดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดกันได้ค่ะ...

ว่าเกิดเป็นหญิงแท้จริงนั้นแสนลำบาก....จริ๊งจริง...


 Cool คืนนั้นตอนที่ไปเฝ้าไข้ผึ้ง...เลยได้สัจธรรมมาข้อนึงว่า...

เอ๊ะ...รึว่าคนเราจะใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวหรือตามลำพังคงไม่ได้...หรือได้...
(แต่ก็คงไม่ดีซะทีเดียวรึป่าวว)....

เราน่าจะมีใครสักคนที่พร้อมจะหัวเราะหรือร้องไห้ไปกับเรา....

อยู่เคียงข้างเราไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์....ช่วยกันดูแลคนที่คุณรักกันให้ดีดีนะค่ะ :wink:
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #28 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 14:53:38 »

กลับมาแล้วค่ะ  หลังจากที่นอนป่วยอยู่หลายวัน แล้วก็ต้องหยุดงานรักษาตัวสักพัก ทนอยู่เฉยๆ ไม่ไหว เลยต้องมาขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเว็บกันซะหน่อย

ก่อนอื่น ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกๆ คน ที่ส่งมาให้กันอย่างล้นเหลือ ขอบคุณมากๆ นะคะ
ขอบคุณพี่ปุ๊กกี้ และน้องพุดที่นำดอกไม้สวยๆ มาให้ในคืนที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดมาสดๆ ร้อนๆ
ขอบคุณเพื่อนๆ ร่วมรุ่น (ป้าหนึ่ง โจ้ เจี๊ยบ ลูกพิ้ง มะพร้าว) ที่แวะมาเม้าท์ สร้างเสียงหัวเราะที่รพ. รวมทั้งที่ส่งเสียงมาทางสัญญาณโทรศัพท์ด้วยจ้า

ที่สำคัญที่สุดคงเป็นคุณพ่อ คุณแม่ คุณป้า และที่เห็นจะขาดไม่ได้คงต้องขอบคุณพี่เล็ก ที่คอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนตลอด รวมทั้งลูกพิ้ง ที่คอยมาให้กำลังใจอยู่เสมอ และนำหนังสือ และดอกไม้ที่น่ารักมาฝาก  

ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจ บนเว็บบอร์ดด้วยนะคะ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #29 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 15:16:20 »

โพสต์ต่ออีกนิด

หลังจากที่ต้องป่วยกะทันหันแบบนี้ อืมมม ก็ทำให้ตัวเองได้คิดว่า คนเรานี่ ไม่แน่นอนเลย

ไม่รู้ว่า วันนี้จะป่วยเป็นอะไร พรุ่งนี้จะเป็นอะไร เลยได้คติเตือนใจมาว่า "สุขภาพสำคัญที่สุด"

แต่ถ้าเราไม่รู้ได้ว่า เราจะเป็นอะไรในวันพรุ่งนี้ เราก็คงต้องยอมรับกับความเจ็บป่วยนั้น และมีสติให้มากที่สุด และรีบรักษาตัวให้หายให้เร็วที่สุด

ทุกๆ วัน สำคัญสำหรับเรา ให้เวลากับตัวเองบ้าง ให้เวลากับสุขภาพบ้าง ที่ผ่านมาก็ยอมรับค่ะ ว่า เครียดกับงาน และโหมงานหนักมาก เลยไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ พอป่วยก็เลยหนักเลยทีนี้

ตอนก่อนจะผ่าตัด ก็กลัวค่ะ เพราะไม่เคยเข้ารพ. มาก่อน ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรบ้าง แต่พอรู้สาเหตุแล้วก็ตกลงต้องผ่าตัดแล้ว ก็ทำใจค่ะว่า เราคงต้องเชื่อหมอ แล้วมันก็คงจะดีขึ้น พยายามมีสติกับทุกวินาทีที่ผ่านไป ให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย คนอื่นเขาผ่ามากกว่านี้อีก

ตอนผ่าตัดก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ อืมมม ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร ให้นิยามว่า "ว่างเปล่า" ละกัน
ความรู้สึกก่อนผ่านั้น ก็เป็นความรู้สึกที่ว่างเปล่ามากค่ะ ตอนอยู่บนเตียงผ่าตัดไม่มีอะไรอยู่กับเราแล้ว มีแต่ตัวเรากับสติของตัวเองเท่านั้น แล้วก็มีความรู้สึก "กลัว" ด้วย แต่ความกลัวเห็นจะน้อยกว่าค่ะ เพราะว่า มีกำลังใจจากหลายๆ คน มาให้

ช่วงเวลาก่อนผ่า เงียบสงบมาก คิดเหมือนกัน อืมมม เราจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งมั้ย ตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่า ชีวิตเรามีค่ามาก คิดถึงทุกๆ คนเลยที่ให้กำลังใจเรา พยาบาลน่ารักมาก คุยกับเราตลอดเลย ตอนฉีดยาบล็อคหลัง กลัวเจ็บค่ะ เลย อ้อนพยาบาล ด้วยการขอมือพยาบาลมาจับ อิอิ อ้อนซะไม่มี

มันก็เป็นประสบการณ์สุขภาพ ที่เราไม่อยากจะพบพานกับมันอีกเลยค่ะ ไม่ว่ามันจะตื่นเต้นเท่าไหร่ ก็ไม่อยากเจออีกค่ะ เพราะฉะนั้น เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ วันละนิดก็ยังดี ดีกว่าจะมามีประสบการณ์แบบเดียวกันนี้ค่ะ ฝากไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันนะคะ Cheesy  Cheesy
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
banchac
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2550, 17:08:50 »

ดีใจด้วยครับที่การผ่าตัดผ่านไปอย่างเรียบร้อย ขอให้ฟื้นกลับมาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิมนะครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ
บันทึกการเข้า
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #31 เมื่อ: 12 กันยายน 2550, 00:35:36 »

ตอนนี้พี่ Bekamon เป็นอย่างไรบ้างครับ

... (เรื่องหัวใจนะ .. ไม่ใช่เรื่องท้อง )

 :lol:
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #32 เมื่อ: 16 กันยายน 2550, 15:10:18 »

ถึงน้องชาร์ป "อัศวินม้าขาว" ที่คอยช่วยฉุดกระทู้พี่อยู่เนืองๆ (ฉุดทุกกระทู้ก็ดีนะคะ ช่วยๆ กันหน่อย ช่วงนี้พี่หมดมุกไงไม่รู้)

ตอนนี้เรื่องผ่าตัด...แผลก็หายแล้วนะคะ วิ่งได้แล้ว ก็พยายามจะออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ พอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแล้ว มันปวดเมื่อยอะค่ะ ก็กำลังรีบฟื้นฟูตัวเองค่ะ

ส่วนเรื่องหัวใจ ก็เรื่อยๆ นะ บางครั้งพี่กลับต้องการระยะห่าง อืมมม แปลกนะ ไม่รู้ทำไม  เรื่อง "ระยะห่าง" ใครมีความเห็นว่าไงบ้างคะ อยากรู้ๆ (น้องชาร์ป ช่วยพี่ด้วยค่ะ อิอิ)

อ้างอิงถึงกระทู้แด่ความโสด -- พี่ก็ยังชอบความโสดอยู่นะ พี่ว่า มันดีออกนะ พี่ก็ตอบไม่ได้ว่า
แต่ละคนจะหายโสดเมื่อไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ว่าพี่คิดว่าดีอะ คือ เราได้มีเวลาเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ แล้วก็สามารถทำอะไรที่เราอยากทำได้ทุกอย่าง พี่มองว่า เรายังมีเวลา (ของเรา) อีกก็น่าจะใช้มันให้เต็มที่นะ ไปเที่ยวกับเพื่อน เรียนอะไรที่อยากเรียน ทำงานที่อยากทำ อืมมม เป็นการฝึกอัจฉริยะภาพหลายๆ ด้าน (อ่านมาจากหนังสือ "อัจฉริยะสร้างได้" ของ อ.วนิษา เรซ -- คนโสดอ่านแล้ว น่าจะรู้สึกดีกับความโสดของตัวเองนะ)
แต่ถ้าวันไหน เราเกิดเจอคนที่เราคิดว่าใช่ขึ้นมา มันก็ดีนะคะ ถ้ายิ่งคุยกันเข้าใจกันง่าย ไม่ต้องพูดมาก ก็ยิ่งดีใหญ่เลย ก็สนับสนุนให้สละซึ่งความโสดไปซะเลยนะคะ อิอิ :lol:
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #33 เมื่อ: 17 กันยายน 2550, 16:16:10 »

ยืนยันอีกคน..ว่าระยะห่างน่ะ..เรากำหนดได้จริงๆนะ..

คบกันด้วย..มีเวลาของตัวเองด้วย..เป็นตัวของตัวเองด้วย..

แต่ต้องได้คนที่มีมุมมองเดียวกันมาเจอกันนะ..
บันทึกการเข้า
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114

« ตอบ #34 เมื่อ: 17 กันยายน 2550, 17:26:29 »

เห็นด้วยพรสันต์

นี่แหละคือความยากของชีวิตคู่

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอ คนที่มีมุมเดียวกับเรา

แต่อย่างที่รู้ทุกอย่างในโลก มันไม่แน่นอน

การที่เราเจอคนที่อยู่คนละมุมกับเรา

บางทีก็อาจเป็นส่วนเติมเต็มในส่วนที่ขาดของเราก็ได้

ไม่มีอะไรตายตัว ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรถาวร ในเรื่องความรัก

แม้แต่ตัวเราเอง
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #35 เมื่อ: 17 กันยายน 2550, 17:48:35 »

อ้างจาก: "ชาร์ป"
ตอนนี้พี่ Bekamon เป็นอย่างไรบ้างครับ ... (เรื่องหัวใจนะ .. ไม่ใช่เรื่องท้อง ) :lol:


Nong Bekamon ka,
1.เรื่องท้อง...sorry I am late!belated best wish for your health, your succeed  operation!
How is the wound today? hopefully it will heal soon..no any sore and infection.
When do you have to re-check??ask exactly the docter please ,how was it in the future in case  you marry and want to have a baby...pls.don't be shy to ask such thing!

2.เรื่องหัวใจ....I assume from the first 2 pages info.here that you are single but has someone....don't worry,dear...get know him...take a time...but open your eyes!it is not easy to adapt and compate two stranger people together while you both are still single...as the real life start after married...herr,herr...it is right to have someone...at the same time spare your own interest for your private..believe me...it is possible!can do.

nice relaxing time.
p.nungning27
บันทึกการเข้า


ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #36 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 00:58:39 »

อ้างจาก: "BeKamon"
ถึงน้องชาร์ป "อัศวินม้าขาว" ที่คอยช่วยฉุดกระทู้พี่อยู่เนืองๆ (ฉุดทุกกระทู้ก็ดีนะคะ ช่วยๆ กันหน่อย ช่วงนี้พี่หมดมุกไงไม่รู้)


ส่วนเรื่องหัวใจ ก็เรื่อยๆ นะ บางครั้งพี่กลับต้องการระยะห่าง อืมมม แปลกนะ ไม่รู้ทำไม  เรื่อง "ระยะห่าง" ใครมีความเห็นว่าไงบ้างคะ อยากรู้ๆ (น้องชาร์ป ช่วยพี่ด้วยค่ะ อิอิ)



... เพราะ เดิม เวลา 24 ชม. มีแค่เรา และ เรื่อง ของเรา

แต่ เมื่อ เวลาที่มีเขา เข้า มา 24 ชม. จะมี เรา เรื่องของเรา เขา และ เรื่องของเขา ...

... อารมณ์ คมมันแปรปรวน ... ตามสิ่งปรุงแต่งรอบตัว

บางครั้งอยากมีแค่เรื่องของเรา ..
บางครั้งอยากมีแต่เรื่องของเขา ...
บางครั้งอยากมีแค่เรา
บางครั้งอยากมีแค่เขา

... แต่เมื่อก้าวต่อไป ... จะเป็น เกือบทุกครั้ง จะมีแค่ เรา และ เขา ...

เนื่องจาก 1 วันเรามีรอบเวลา 24 ชม. (นอน ไปแล้ว 1 ใน 3 มั้ง)  ...

อีก 2 ใน 3  คือสิ่งที่ต้อง balance ... ยอมเสียความเป็นเรา เพื่อ ให้เวลากับ เราและเขา ..

ยิ่งห่าง ก็จะมีแต่ตัวเรา ยิ่งใกล้ก็จะมีแต่เขาและตัวเรา ...

อยู่ให้สมดุล ... ก็จะรักษาความเป็นตัวเรา ที่อยู่ กับ เขา ได้อย่าง มีความุข

(เหมือน พี่น้องชาวจันทร์ ... เปลี่ยนจากเสือ เป็นแมว ไปโม้ดดดด  :lol:  )

 Cool
จาก. นักวิชาการ ทฤษฏี แน่น เอี๊ยด ...
บันทึกการเข้า
Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114

« ตอบ #37 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 12:13:06 »

น้องชาร์ป

เสือยังไงก็ยังเป็นเสืออยู่วันยันค่ำ
 
ถึงบ้างครั้งอาจจะ ปลอมตัวเป็นแมวบ้างก็ตาม

สมาคมเสือเหมียวจันท์บุรี  :twisted:
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #38 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 14:25:40 »

โอ้...ทฤษฎี แน่น

เป๊ะๆๆ   Cheesy

ยืนยันตามหนังสือปรัชญาชีวิต

ที่พูดถึงความห่างของเสาวิหาร อีกครั้งครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #39 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 18:08:24 »

อ้างจาก: "ชาร์ป"
... เพราะ เดิม เวลา 24 ชม. มีแค่เรา และ เรื่อง ของเรา แต่ เมื่อ เวลาที่มีเขา เข้า มา 24 ชม. จะมี เรา เรื่องของเรา เขา และ เรื่องของเขา ..... แต่เมื่อก้าวต่อไป ... จะเป็น เกือบทุกครั้ง จะมีแค่ เรา และ เขา ...เนื่องจาก 1 วันเรามีรอบเวลา 24 ชม. (นอน ไปแล้ว 1 ใน 3 มั้ง)  ...อีก 2 ใน 3  คือสิ่งที่ต้อง balance ... ยอมเสียความเป็นเรา เพื่อ ให้เวลากับ เราและเขา ..ยิ่งห่าง ก็จะมีแต่ตัวเรา ยิ่งใกล้ก็จะมีแต่เขาและตัวเรา ... อยู่ให้สมดุล ... ก็จะรักษาความเป็นตัวเรา ที่อยู่ กับ เขา ได้อย่าง มีความุข
จาก. นักวิชาการ ทฤษฏี แน่น เอี๊ยด ...

Nong Sharp,
I like this part!It is the truth of life.
We all have the same account of time limit:24 hours...8 for sleeping ,8 for working and the last 8 for family,friends,hobby and freetime.
It is our responsible to manage these "limit" resource ourself....need to learn from our childhood,learn from our parent and may be learn process later of our life.
To be single you enjoy these resource alone...I ,me,mine and ...egoistic!
but to be a couple(marry or not it does not matter)...does not mean you still have 8 hours and  she has her 8 hours...it is 8+8=8!!!...words change to be ...we,us,and ours...further more it is the fact of sacrificing.
This is only the middle of the part...as later...there are a children,who catch and stole you both time gone...I say...all......
It is a question of...to be or not to be...kaaaa
p.nn
บันทึกการเข้า


BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #40 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 18:11:12 »

โอ้โห....พอมีประเด็น ก็ได้คำแนะนำอย่างล้นเหลือเลยขอบคุณทีละคนนะคะ

พรสันต์ ขอบคุณที่ confirm ค่ะ

ต้น-- ใช่มันไม่มีอะไรแน่นอน ว้า..เพราะมันคือสัจจะธรรม

p.nungning27 -- เรื่องผ่าตัด : so I have to re-check monthly ka P' nungning.
                        The wound is OK. I try to take care ka. About having
                        a baby, it's quite hard ka (the doctor said) but it's OK. ka.
                     -- เรื่องหัวใจ : (ขอตอบเป็นภาษาไทยนะคะ) ขอบคุณค่ะที่ให้แง่คิด
                                ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่

ชาร์ป (อัศวินม้าขาว) -- ช่ายๆๆ อืมม มันเป็นไปตามทฤษฎีของชาร์ปเลยล่ะ Thanks นะจ๊ะ

Max -- ตอนแรกๆ ที่นึกถึงคำว่า "ระยะห่าง" ก็นึกถึงหนังสือปรัชญาชีวิตของท่านคาริลนี่เช่นกัน
             มีอีกเล่มหนึ่ง อืมม ถ้าจำไม่ผิดชื่อมันคือ Men's from Mars, Women's from
          Venus ใช่รึเปล่า มันเป็นทฤษฎี "หนังยาง" อะ คือ ถ้าอีกฝ่ายยิ่งเข้าใกล้ ฝ่ายหนึ่ง
             ก็ยิ่งจะอยากห่างอืมมม หรือถ้าเราไกลกันบ้างเราก็จะคิดถึงกัน ประมาณเนี้ย (ถ้าผิดทฤษฎี
             ไปบ้างก็อภัยด้วยนะคะ)

ขอบคุณทุกคนเลยที่เขามาตอบนะ แบบ confirm confirm อะค่ะ แต่ก็ยังมีผู้ชำนาญการอีกหลายท่านยังไม่เข้ามาตอบเลย อืมมมม รอท่านอยู่นะคะ พี่ปุ๊กกี้ หนูพิ้ง Mr.Eggman ลุงแครม ฯ
มีความเห็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ  :wink:
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #41 เมื่อ: 18 กันยายน 2550, 18:27:03 »

อ้างจาก: "BeKamon"
p.nungning27 -- เรื่องผ่าตัด : so I have to re-check monthly ka P' nungning.
The wound is OK. I try to take care ka.
 About having a baby, it's quite hard ka (the doctor said) but it's OK. ka.
-- เรื่องหัวใจ : (ขอตอบเป็นภาษาไทยนะคะ) ขอบคุณค่ะที่ให้แง่คิด ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่


Nong Begamon,
what does this mean??? :shock:  :shock: it is only one part,right??
you still have another part :lol:
Take care yourself.
p.nn
บันทึกการเข้า


iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 19 กันยายน 2550, 13:27:07 »

อ้างจาก: "BeKamon"
โอ้โห....พอมีประเด็น ก็ได้คำแนะนำอย่างล้นเหลือเลยขอบคุณทีละคนนะคะ

พรสันต์ ขอบคุณที่ confirm ค่ะ

ต้น-- ใช่มันไม่มีอะไรแน่นอน ว้า..เพราะมันคือสัจจะธรรม

p.nungning27 -- เรื่องผ่าตัด : so I have to re-check monthly ka P' nungning.
                        The wound is OK. I try to take care ka. About having
                        a baby, it's quite hard ka (the doctor said) but it's OK. ka.
                     -- เรื่องหัวใจ : (ขอตอบเป็นภาษาไทยนะคะ) ขอบคุณค่ะที่ให้แง่คิด
                                ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่

ชาร์ป (อัศวินม้าขาว) -- ช่ายๆๆ อืมม มันเป็นไปตามทฤษฎีของชาร์ปเลยล่ะ Thanks นะจ๊ะ

Max -- ตอนแรกๆ ที่นึกถึงคำว่า "ระยะห่าง" ก็นึกถึงหนังสือปรัชญาชีวิตของท่านคาริลนี่เช่นกัน
             มีอีกเล่มหนึ่ง อืมม ถ้าจำไม่ผิดชื่อมันคือ Men's from Mars, Women's from
          Venus ใช่รึเปล่า มันเป็นทฤษฎี "หนังยาง" อะ คือ ถ้าอีกฝ่ายยิ่งเข้าใกล้ ฝ่ายหนึ่ง
             ก็ยิ่งจะอยากห่างอืมมม หรือถ้าเราไกลกันบ้างเราก็จะคิดถึงกัน ประมาณเนี้ย (ถ้าผิดทฤษฎี
             ไปบ้างก็อภัยด้วยนะคะ)

ขอบคุณทุกคนเลยที่เขามาตอบนะ แบบ confirm confirm อะค่ะ แต่ก็ยังมีผู้ชำนาญการอีกหลายท่านยังไม่เข้ามาตอบเลย อืมมมม รอท่านอยู่นะคะ พี่ปุ๊กกี้ หนูพิ้ง Mr.Eggman ลุงแครม ฯ
มีความเห็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ  :wink:


ขอเวลาสักนิดอแล้วพี่จะมาตอบ อิอิ ตอนนี้ Destiny เยอะกำลังเล่นงาน ฮ่าๆๆ (ว่าไปนั่น)

ใช่ค่ะ Men's From Mars, Women's From Venus...ว่าแล้วก้อขอเอาหนังสือเล่มนี้มาบอกที่มาของ LOGIN name พี่...Aj.O ได้ถามพี่ในวันที่พี่ได้รู้จักตัวจริง เสียงจริงของน้องว่า Iamfrommoon มีที่มายังไง...มาจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ หลายอย่างในหนังสือเล่มนี้บอกหลายอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงได้ชัดเจน และเห็นภาพมาก...มีหลายอย่างที่เป็นตัวเรา ฮ่าๆ...เลยเอามาตั้งซะเลย แต่ตัวพี่ชอบพระจันทร์ค่ะ...เลยเป็นที่มาของ iamfrommoon


 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #43 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 16:26:19 »

อ้างจาก: "BeKamon"

ขอบคุณทุกคนเลยที่เขามาตอบนะ แบบ confirm confirm อะค่ะ แต่ก็ยังมีผู้ชำนาญการอีกหลายท่านยังไม่เข้ามาตอบเลย อืมมมม รอท่านอยู่นะคะ พี่ปุ๊กกี้ หนูพิ้ง Mr.Eggman ลุงแครม ฯ
มีความเห็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ  :wink:


 Cool อืมมม........อย่างอิชั้นเนี๊ยะ...

จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชำนาญการด้วยเหรอเจ้าค่ะ....BeKamon จ๋า

555 แต่ยังไงก็น่าจะได้อยู่น๊า...อิ๊อิ...ทฤษฎีทางจิตวิทยามีเพรียบเล้ย....

อยากทดสอบมั่งแล้วล่ะ อิ๊อิ :lol:  :lol:  :lol: เด๋วไว้จะมาบอกเพิ่งอ่านเจอมาเหมือนกัน

เรื่องระยะห่างกับความรักนี่ล่ะ....โปรดอดใจรอ... :wink:
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #44 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 10:08:03 »

Cool มาแล้ว...มาแล้ว...ตามคำสัญญานะจ้ะ...เรื่องเว้นระยะห่างให้ความรัก

ในทางจิตวิทยาแล้ว  มนุษย์ทุกคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัว (personal space)

แต่ทางวิทยาศาสตร์มีคำอธิบายที่น่าสนใจว่า  การสร้างระยะห่างหรือการอยู่ห่างกัน

สักระยะของคู่รัก  จะทำให้สมองหลั่งสารเคมีกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอย่างโดพามีน

  ที่ทำให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม  อ่อนไหวอยู่ในภวังค์รัก และนอเรพิเนฟริน

ที่ทำให้เกิดความตื่นตัวในปริมาณมากขึ้น  ซึ่งช่วยเพิ่มสายใยและความคิดถึงระหว่างกัน  

เป็นการแต่งแต้มชีวิตรักของคุณให้มีสีสันยิ่งขึ้น


(เนื้อหาจากนิตยสาร HEALTH & CUSINE ฉบับเดือนสิงหาคม 2550  หน้า34)

 Cool ตอนนี้การวิจัยทางจิตวิทยา  เริ่มหันมาให้ความสนใจกับกระบวนการทำงาน

ของสมองมากขึ้น...สารสื่อประสาทที่สมองผลิตขึ้นมามีผลกับอารมณ์และ

พฤติกรรมของมนุษย์เราจ้ะ :wink:
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #45 เมื่อ: 21 กันยายน 2550, 14:56:25 »

Nong Lookpink ka,
p.ning can not practice much out of those theory...she is a spontanous type...any initiative methode...out of her belly ka:
are we talking about a spouse-relationship or a normal freindship??
as I think it is a two different parts of the subjects Cheesy
1.you will never know how it means to be alone when you always be together
2.how can you miss the time for two if you never have it
3.near and far is not the question of distance, it is the question of...bonding!
4.searching for a friend or searching for a couple?
5.friendship can easily develope to be more higher....to be a partner of life...and vice versa(not easy,believe me!!..like ...I want to kill you)
6.you will never envious passionately to your friends but for your couple...you have this feeling!
let me think...
p.nn
บันทึกการเข้า


BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #46 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 13:00:04 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"

Nong Begamon,
what does this mean??? :shock:  :shock: it is only one part,right??
you still have another part :lol:
Take care yourself.
p.nn


P' Nungning คะ, ที่ว่ายากนี้คือ โอกาสที่จะมีลูกนั้นค่อนข้างยากค่ะ เพราะว่าตอนนี้เหลือรังไข่เพียงข้างเดียวค่ะ อิอิ Cheesy
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><