26 พฤศจิกายน 2567, 03:49:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 13  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: * I N V E S T M E N T *  (อ่าน 167781 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายป้อ
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,124

« ตอบ #125 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2551, 22:23:11 »

 emo43เข้ามาดู
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #126 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2551, 18:49:17 »

ซื้อ LTF หรือยังครับ
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #127 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 07:00:58 »

 so sad

SET ขาลงแบบนี้ เพื่อนแม็ก มีการลงทุนอะไรแนะนำไหมครับ

คิดยังไงกะการเล่น อนุพันธ์ Future/option

บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #128 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 07:19:03 »

ขาลงอย่างงี๊
เค้าบอกว่า LTF น่าลุ้นกว่า RTF คับ
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #129 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2551, 13:21:06 »

ถูกต้องคร้าบบบ..สำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง..มองระยะยาวครับ..อย่าคิดมาก
บันทึกการเข้า
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #130 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2551, 11:53:48 »

ผมเอส ครุ รุ่นrcu 81 ครับ  เป็นนักวิเคราะห์ ที่ บล. เอเซียพลัสครับ  Koraphat@asiaplus.co.th ใครสนใจเรื่องการลงทุนสอบถามได้ครับ ผมจะส่งข้อมูลให้เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆชาวหอได้บริหารการลงทุน ฝึกเรื่องการลงทุน และแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ โทรมาคุยก็ได้ครับ 0811344889    bye bye
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #131 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2551, 21:33:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ EdDy_Smart81 เมื่อ 26 ธันวาคม 2551, 11:53:48
ผมเอส ครุ รุ่นrcu 81 ครับ  เป็นนักวิเคราะห์ ที่ บล. เอเซียพลัสครับ  Koraphat@asiaplus.co.th ใครสนใจเรื่องการลงทุนสอบถามได้ครับ ผมจะส่งข้อมูลให้เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆชาวหอได้บริหารการลงทุน ฝึกเรื่องการลงทุน และแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ โทรมาคุยก็ได้ครับ 0811344889    bye bye

น่าสนใจมาก เอส..เรื่องการลงทุน แต่อีท่าไหนถึงได้ไปเป็นนักวิเคราะห์ได้ว๊ะเนี่ยะ...
การลงทุนมีความเสียง การลงแรงมีความเหนื่อย..
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #132 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 23:13:56 »

มันเป็นเรื่องบังเอิญว่ะหลิม  เราก้งงว่าทำไปทำมามาอยู่ที่นี่ได้ไง 555 เหนื่อย
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #133 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 05:14:38 »

  บรึ๋ยยย

แล้วถ้าหักภาษีไม่ได้ล่ะ (ไม่ได้เสียภาษี)
ตัวไหนน่าสนใจที่สุด

บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #134 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 11:07:46 »

ถ้าไม่ได้เสียภาษีผมว่าอย่าซื้อกองทุนเลยครับ ซื้อหุ้นดีกว่านะครับ ผมแนะนำ ปูนใหญ่ SCC ราคาตำกว่าร้อยน่าทยอยเก็บนะครับ ธุรกิจปิโตรเคมีปีหน้าจะเลวร้ายสุดตาม Cycle ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงมามากตอบรับข่าวแล้ว ซื้อและถือยาวๆ หน่อย รับปันผล กับ Capital Gain ได้ รอตลาดฟื้นราคาก้ขึ้นตามตลาดได้มากโข แนะนำเก้บปูนใหญ่ครับ ฟันทิ้ง 5555
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #135 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 18:22:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ Mr.EggMan เมื่อ 24 ธันวาคม 2551, 07:00:58
so sad

SET ขาลงแบบนี้ เพื่อนแม็ก มีการลงทุนอะไรแนะนำไหมครับ

คิดยังไงกะการเล่น อนุพันธ์ Future/option



1. แนะนำ เพื่อนไข่  อ่านหนังสือที่ให้ไปจนหมดเล่ม ก่อนเลยอ่ะ ทำหายยังอ่ะ  เพราะจะได้รู้ว่าเราจะจัด พอร์ต ยังไง

2. ถ้าไม่ชอบความเสี่ยง ไปที่กองทุนตราสารหนี้ก่อนครับ เอาแบบที่มัน สามารถถอนตังค์มาใช้พรุ่งนี้หรืออีก 2 วันได้ เน้นสภาพคล่องก่อนครับ

3. เก็บหุ้นด้วยครับ ของดีราคาถูก เพราะยังไงถ้ามันขาขึ้นแล้ว เรามักจะชอบพูดว่า  " รู้งี้...."  กันครับ  ตอนนั่งเรียน ยังเคยนั่งนึกเลยว่า

    จะมีไหมหนอ ที่ PTT จะมาอยู่ที่ ร้อยกว่าบาท อ่ะ  แถมมีแช่ง อีกว่า อยากให้เศรษฐกิจมัน เจ๊ง แบบต้มยำกุ้งจัง จะได้เก็บๆ พวกนี้บ้างอ่ะ  ชั่วป่ะ....

4. ประมาณต้นปี มันจะมีพวกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ออกมาครับ ขายหลายกองทุนเราจะได้ปันผลประมาณ 7-9 % ครับ  เน้นที่มันลงสิทธิ์ขาดในที่ดินและอาคาร

     เพราะว่า พวกนี้ตอนมันขายทรัพย์สินออกไปเราจะได้กำไรจากตรงนี้ด้วยเพราะว่าราคาทรัพย์สินอย่างที่รู้ราคาจะปรับครับ แล้วก็  ระหว่างทางเราก็ได้ผลตอบแทน

     เปรีบบเสมือนดอกเบี้ย ที่ 8-10 %  น่าสนครับเพราะว่ายังไงมันก็มากกว่าตราสารหนี้และเงินฝาก  และ ดีน้อยกว่าหุ้น แต่ความเสี่ยงน้อยกว่า

     นอกจากกว่าตึกจะถล่ม แต่ ยังไงก็มีประกันภัยอยู่ดี  (ทำตรงส่วนนี้อยู่)


** Future Option ถ้าเล่นเป็นก็ดีครับเพื่อนไข่หัวไว   เราว่าเข้าใจได้ง่าย แต่ว่าความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน  ถ้าอยู่เมืองไทยก็ดี มันจะมีอบรมฟรีของตลาดหลักทรัพย์

     เกี่ยวกับพวกนี้อยู่น่ะ  จะมีวิทยากรมาพูดให้ฟังเพราะเค้าต้องการระดมทุนในตลาดทุน กันอ่ะ   แต่ถ้าเอาไว้ดูข้อมูลก็ได้ครับ เช่น ราคาน้ำมัน  ทองคำ  ฯลฯ

     เพราะราคาพวกนี้มันก็จะตามๆ ตลาด Future ไปอ่ะ    จะได้ดูแนวโน้ม สิ่งต่างๆ ที่มันเอามาทำ Future กันได้นะ   


     ที่จริงที่เกาหลี เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดนะ  มันเล่นกันทุกอณูอ่ะ ขนาดพวกแม่บ้านยังเล่นอ่ะ  อารมณ์หวยหุ้น  เก็งถูก็ได้กำไรไป ไม่ถูกก็เสียตังค์ 

     อืม...มันยาว ต้องหาหนังสืออ่าน    เหนื่อย
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #136 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551, 18:28:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ EdDy_Smart81 เมื่อ 26 ธันวาคม 2551, 11:53:48
ผมเอส ครุ รุ่นrcu 81 ครับ  เป็นนักวิเคราะห์ ที่ บล. เอเซียพลัสครับ  Koraphat@asiaplus.co.th ใครสนใจเรื่องการลงทุนสอบถามได้ครับ ผมจะส่งข้อมูลให้เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆชาวหอได้บริหารการลงทุน ฝึกเรื่องการลงทุน และแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ โทรมาคุยก็ได้ครับ 0811344889    bye bye

หวัดดีครับ

P'Max  RCU 79 เน้อ  ครุฯ  ธุรกิจ   พอนึกออกป่ะ

พี่พอจำเราได้น่ะ แต่จำไม่ได้ว่า เคยร่วมทำกิจกรรมอะไรกันอ่ะ  เหอๆๆ

พี่ทำอยู่  บลจ.วรรณ ครับ  ฝ่ายจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

เป็นนักวิเคราะห์ แสดงว่าได้ พวก CISA หรือ CFA แล้วซิ

ไม่มาลองทำพวก Fund บ้างอ่ะ เพื่อจะได้เป็น Fund Manager  บ่ฮู้บ่หัน
บันทึกการเข้า
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #137 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2551, 08:03:46 »

จำได้ครับพี่แม็ก  ผมไม่อยากเป็น Fund Manager แต่อยากเป็นผู้จัดการการฟัน อ่ะครับ 555 so sad
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #138 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2551, 10:15:03 »

เบื่อคนมีตังค์..
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #139 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2551, 12:00:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ EdDy_Smart81 เมื่อ 30 ธันวาคม 2551, 08:03:46
จำได้ครับพี่แม็ก  ผมไม่อยากเป็น Fund Manager แต่อยากเป็นผู้จัดการการฟัน อ่ะครับ 555 so sad

อ่ะนะ งั้นปรึกษา พี่ๆ ในบอร์ดรุ่นนี้ก็ได้

น่าจะถนัดด้านนี้หลายคน 
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #140 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2551, 12:00:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ ppornson เมื่อ 30 ธันวาคม 2551, 10:15:03
เบื่อคนมีตังค์..

ดูแลแต่เงินชาวบ้านอ่ะ

แต่เงินตัวเองไม่มี  เค้าไม่ยอม
บันทึกการเข้า
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #141 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2551, 12:57:24 »


อ่ะนะ งั้นปรึกษา พี่ๆ ในบอร์ดรุ่นนี้ก็ได้

น่าจะถนัดด้านนี้หลายคน 
[/quote]

ขอคำชี้แนะจากทุกท่านครับ ด้านนี้ผมยังไม่ประสานัก  sing
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #142 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2551, 04:31:26 »

เรื่องที่น้องต้องการ หลังไมค์ พี่ตาแคมได้เลย ของเค้าดีจิงๆ ไอ้ฟันๆอะไรนี่


ยาวหน่อยนะ

 
คุณ "สาธิต บวรสันติสุทธิ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดการลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า การบริหารภาษีจัดเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการบริหารพอร์ตลงทุนได้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถบริหารภาษีด้วยการใช้เทคนิค "ลดภาษี เพิ่มผลตอบแทน" ด้วยกลวิธี 8 แนวทาง


กลวิธีที่ห นึ่ง ใช้สิทธิ์ "หัก" ค่าใช้จ่ายและ "ค่าลดหย่อน" ให้ครบถ้วน

 


- ไล่กันตั้งแต่ ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต สิทธิ์ลดหย่อนภาษีกองทุน "อาร์เอ็มเอฟ" (RMF) และกองทุน "แอลทีเอฟ"(LTF) ดอกเบี้ยเงินกู้ ตลอดจนการลดหย่อน "เงินบริจาค"


- ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 รัฐบาลได้ออกมาตรการใหม่เพิ่มสิทธิ์ลดหย่อน "ค่าเบี้ยประกันชีวิต" หักได้ไม่เกิน 100,000 บาท จากเดิม 50,000 บาท


- ขณะเดียวกันได้เพิ่มสิทธิ์ภาษีเงินค่าซื้อ "กองทุนอาร์เอ็มเอฟ" หักได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกบข.ในปีภาษีนั้นแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท


- ส่วนเงินค่าซื้อกองทุนแอลทีเอฟ หักได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และไม่เกิน 500,000 บาท จากกฎหมายเดิมให้ไม่เกิน 300,000 บาท


- นอกจากนี้ ตามมาตรการใหม่ของรัฐบาล ยังกำหนดให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำสุดไม่เกิน 150,000 บาทต่อปีไม่ต้องเสียภาษี จากเดิมที่มีรายได้ต่ำสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี


- การบริจาคเงินการกุศล ก็เป็นอีกกลวิธีช่วยลดภาษีได้ดีอีกทางหนึ่ง


สำหรับเงินบริจาคได้ โดยแยกเงินบริจาคได้ 3 ประเภท กล่าวคือ

 



หนึ่ง.เงินบริจาคด้านการศึกษา ที่เรียกว่า "จ่าย 1 ได้ 2 " เพราะสามารถหักได้ 2 เท่าของที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลักหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน


สอง.. เงินบริจาคด้านกีฬา หักได้ 1.5 เท่าของที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน


สาม..เงินบริจาคทั่วไป หักได้เท่าที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนและเงินบริจาคการศึกษาและเงินบริจาคเกี่ยวกับกีฬา


 "ถ้ามีรายได้มากที่ฐานภาษี 37% แนะนำให้บริจาคเต็มเพดานที่กฎหมายกำหนดจะคุ้มค่าที่สุด เช่น บริจาคเงินที่ 100 บาท จะลดหย่อนได้ 200 บาท หักภาษี 37% จะได้คืนเงิน 74 บาท หรือเงินทุก 100 บาทที่บริจาคจะได้รับผลตอบแทนกลับคืน 11% มากกว่าการไม่บริจาค"


การบริจาคเงิน..นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้กำไรอีกต่อหนึ่งด้วย


 


กลวิธีสอง..ย้ายรายได้ไปยังบุคคลที่มีฐานรายได้ต่ำกว่า


เช่น จาก ก. ไป ข. ,ชิงโชคในชื่อลูก,ฝากเงินในชื่อลูก หรือขายประกันโดยใช้ชื่อลูก เป็นต้น


สาธิต บอกว่า กรณีที่เมื่อใดควรจะฝากเงินและใช้สิทธิ์ยื่นภาษีเงินได้ในชื่อลูกนั้น ภาษีที่ได้คืนจากการใช้สิทธิ์ลดหย่อนลูกต้องน้อยกว่า หรือเท่ากับภาษีที่ได้คืนจากการนำดอกเบี้ยเงินฝากลูกไปยื่นภาษี


วิธีการก็คือ หากดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท แนะนำให้นำมารวมเป็นฐานเงินได้ เพราะอัตราภาษีของเงินได้ที่ไม่เกิน 5 แสนบาท สูงสุดอยู่ที่อัตรา 10% ซึ่งต่ำกว่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายของ ดอกเบี้ยที่ 15%


แต่หากกรณีที่ดอกเบี้ยเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ให้ลองคำนวณภาษีดูก่อน


และดอกเบี้ยต่ำสุดที่ควรฝากในชื่อลูก ให้คิดจากภาษีที่ได้คืนจากการใช้สิทธิ์ลดหย่อนลูกที่ศึกษา หารด้วย 15%(ภาษีดอกเบี้ย) เปรียบเทียบ


ทั้งนี้ในการฝากเงินในชื่อลูกนั้น กฎหมายได้กำหนดไว้ว่า กรณีพ่อและแม่ฝากเงินร่วมกับลูกผู้เยาว์ ดอกเบี้ยให้ถือเป็นเงินได้ของพ่อหรือแม่


แต่หากพ่อหรือแม่ฝากเงินเพื่อบุตรผู้เยาว์ ดอกเบี้ยที่ได้รับให้ถือเป็นเงินได้ของลูก


และดอกเบี้ยเกิน 1.5 หมื่นบาท พ่อแม่จะไม่สามารถนำมาเป็นเงินได้ของพ่อแม่




แยกหน่วยภาษี.. เป็นกลวิธีที่สาม


สาธิต กล่าวว่า การแยกหน่วยภาษีและย้ายเงินได้เพื่อกระจายฐานภาษี เช่น การจัดตั้งคณะบุคคล จะทำให้ได้ประโยชน์จ่ายภาษีในอัตราต่ำ และได้ค่าลดหย่อนซ้ำโดยคณะบุคคลละ 6 หมื่นบาท


"เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นวิธีการก็คือ ควรจะแยกรายได้ไปให้ลูกเพื่อเริ่มฐานภาษีใหม่ เพื่อทำให้จ่ายภาษีในอัตราต่ำ หรือใช้วิธีการจัดตั้งคณะบุคคลประกอบกิจการอะไรก็ได้ร่วมกันตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป เช่น ตั้งคณะบุคคลฝากเงินธนาคารกินดอกเบี้ย ซึ่งการจัดตั้งสามารถจดทะเบียนซ้ำ และยื่นภาษีแยกกันได้"

 




ต่อมากลวิธีที่สี่..ยืดระยะเวลาในการเสียภาษี


วิธีการอย่างหนึ่งก็คือ การรับรู้รายได้คนละปีภาษี เช่น การคงเงินไว้ใน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรณีที่มีอายุงานต่ำกว่า 5 ปี ก็จะทำให้เสียภาษีในอัตราที่ "ต่ำกว่า" การถอนเงินออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงก่อนครบอายุสมาชิก 5 ปี


"การที่สมาชิกใช้วิธีพักเงินไว้กับกองทุนในกรณีลาออกจากงานแล้วยังไม่งานใหม่ จะทำให้เสียภาษีในฐานต่ำกว่า หรือหากได้งานใหม่ก็สามารถโยกเงินกองทุนไปบริษัทใหม่ จะทำให้นับอายุกองทุนต่อเนื่อง แต่ถ้าลาออกจากสมาชิกกองทุน แล้วนำเงินมารวมเป็นรายได้ปลายปี จะเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่า"




กลวิธีที่ห้า..เลือกออมเงินแบบ "ยกเว้นภาษี"


สำหรับผู้ที่มีเงินออมโดยที่ไม่ได้นำไปลงทุน จะด้วยกลัวความเสี่ยง หรือมีเหตุผลใด ๆ ก็ตาม และหลีกเลี่ยงไม่ต้องการจ่ายภาษีเงินฝากในอัตราที่สูง


สาธิตแนะนำว่า ผู้ออมเงินควรจะเลือกออมเงินในกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลาย เช่น การซื้อสลากออมสิน ฝากเงินออมสินเผื่อเรียกของรัฐบาล ฝากเงินออมทรัพย์ที่ได้รับดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท เงินฝากประจำแบบผูกพันหรือมีระยะเวลา เงินฝากประจำสำหรับผู้สูงอายุ


แม้แต่การลงทุนในหุ้นหรือกองทุน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการลงทุน เป็นต้น






กลวิธีที่หก.. เลือกเสียภาษีในรูปแบบที่ได้ประโยชน์ "สูงสุด"


ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่ลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งสามารถเลือกระหว่างการขายหุ้นเอากำไร หรือรับเงิน ปันผลแล้วใช้สิทธิประโยชน์ภาษี


ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดการลงทุน บอกว่า หากผู้ลงทุนเลือกที่จะรับเงินปันผล ก็จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากที่บริษัทหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% โดยสามารถเลือกนำมาคำนวณปลายปีหรือไม่ก็ได้ แต่กรณีที่เสียภาษีในอัตรา 30% เขาแนะนำให้ควรนำมารวมคำนวณภาษีปลายปีจะคุ้มค่ากว่า

 


" คนเล่นหุ้นสามารถเลือกที่จะเอากำไร ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี หรือจะรอรับปันผล ก็สามารถขอเครดิตภาษีคืนทีหลังได้ แต่ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องตรวจสอบก่อนว่าหุ้นหรือบริษัทที่จ่ายปันผลนั้นมีอัตราภาษีอยู่ที่เท่าไร


หากมีอัตราภาษี 30% การรวมภาษีปลายปีและขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนจะคุ้มค่ามากสุด แต่หากบริษัทได้รับยกเว้นภาษีบีโอไอ ก็ไม่ควรรวมรายได้ปลายปีเพื่อขอเครดิตภาษีคืน"




ส่วนกลวิธีที่เจ็ด..ทางเลือกลงทุนในหลักทรัพย์


เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี ได้แก่ การซื้อเบี้ยประกันชีวิต ซื้อกองทุน RMF หรือ LTF ตลอดจนลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกบข. จะทำให้ได้ประโยชน์ทางภาษีมากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ




สุดท้าย กลวิธีที่แปด..ใช้สิทธิ์เรียก "คืนภาษี" ให้เร็วที่สุด


สาธิตบอกว่า กรณีการลงทุนใน RMF หรือ LTF ระหว่างปี จะทำให้ได้ประโยชน์สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ภายในปี เท่ากับจะทำให้มีรายได้ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นยังสามารถนำมาซื้ออาร์เอ็มเอฟ หรือ แอลทีเอฟ ตลอดจนลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ให้เกิดผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้อีก


นอกจากนั้น ในกรณีที่เป็นการลงทุนในหุ้น หรืออาร์เอ็มเอฟและแอลทีเอฟ การซื้อระหว่างปียังช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีกว่าซื้อครั้งเดียวในช่วงปลายปี


"หลายคนมักจะมาซื้อ RMF และ LTF ในช่วงปลายปี นอกจากจะซื้อหุ้นที่ราคาแพงแล้ว (หุ้นมักขึ้นในช่วงปลายปี ) และหมดสิทธิ์ในการเลือกซื้อหุ้นที่ราคาต่ำ ๆ แล้ว ยังเสียประโยชน์การลดหย่อนภาษีอีกด้วย


การซื้อระหว่างปีผู้ลงทุนจะสามารถหักลดหย่อนได้ทันที (โดยไม่ต้องยื่นภาษีในช่วงเดือนมีนาคมของปีถัดไป) ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นนำกลับไปซื้อกองทุนได้อีกต่อหนึ่ง และโดยปกติผลตอบแทนของกองทุนอาร์เอ็มเอฟ และแอลทีเอฟ จะได้มากกว่าเงินฝากอยู่แล้ว" สาธิต กล่าว

บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #143 เมื่อ: 05 มกราคม 2552, 07:08:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Mr.EggMan เมื่อ 31 ธันวาคม 2551, 04:31:26
เรื่องที่น้องต้องการ หลังไมค์ พี่ตาแคมได้เลย ของเค้าดีจิงๆ ไอ้ฟันๆอะไรนี่

หรือ หน้าไมค์เลยดีไหม๊ ไม่ค่อยเกรงใจใครอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #144 เมื่อ: 05 มกราคม 2552, 16:57:57 »

 เหนื่อย
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #145 เมื่อ: 06 มกราคม 2552, 19:13:03 »

เก่งคร้าบบบบ...เก่งมากๆเลยคร้าบบบบบ..
บันทึกการเข้า
telek78
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2538
กระทู้: 1,924

เว็บไซต์
« ตอบ #146 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 12:20:50 »

อยากทราบว่า ธนาคารไหนมั่นคงที่สุดตอนนี้
และเค้าดูกันยังไงอ่ะ
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #147 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 12:53:49 »

น่าจะดูที่หนี้เสียมั้งครับพี่

ว่ามีปริมาณมาแค่ไหน

เพราะว่าถ้ามีเยอะแล้วทวงคืนไม่ได้นี่ก็แย่เลย

หรือ Finanace สมัยก่อนที่มันล้ม เพราะมันปล่อยหนี้โดยที่ไม่มีหลักประกันก็มีครับพี่

รอท่านอื่นว่าต่อครับ
บันทึกการเข้า
jviruch-78
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,601

« ตอบ #148 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 12:54:48 »

ไม่มีตังค์
บันทึกการเข้า
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #149 เมื่อ: 07 มกราคม 2552, 13:06:12 »

พี่โจ้ไม่มีตังแล้ว ใครจะมีหว่า เหนื่อย
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 13  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><